ในโลกของสังคมไร้เงินสดในปัจจุบันนี้ เราสามารถใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นด้วยแอปพลิเคชั่นและบัตรใบเดียว สำหรับการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะประเภทต่าง ๆ และรถไฟฟ้าก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน เพียงแค่มีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ที่เป็นบัตร EMV Contactless ก็สามารถแตะจ่ายค่าโดยสารได้ในทันที ดังเช่น ที่รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ที่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารด้วยช่องทางการชำระค่าโดยสารด้วยบัตรเครดิต Visa / Mastercard ของทุกธนาคารและบัตรเดบิตของธนาคารกรุงไทยและยูโอบี และเพื่อให้ทุกท่านได้แตะจ่ายและเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
BEM ได้รวบรวม 5 ข้อต้องรู้สำหรับการเดินทางด้วยบัตร EMV มาให้แล้ว
· บัตรเครดิต/เดบิตที่จะใช้เดินทางต้องมีสัญลักษณ์ Contactless หรือสัญลักษณ์ WIFI แนวนอน
· ผู้โดยสารควรยืนหลังเส้นสีเหลืองบริเวณประตูจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติเมื่อแตะบัตร
· บริเวณจุดแตะบัตรจะอยู่ด้านบนของประตูจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ ซึ่งมีสัญลักษณ์ Contactless ที่คล้ายสัญญาณ WIFI ในแนวนอน
· ใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต 1 คน 1 ใบ ตลอดการเดินทาง และแตะเข้า-ออกระบบที่ประตูจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติด้วยบัตรใบเดียวกัน
· หากผู้โดยสารอยู่ในสถานีนานเกินกว่าเวลาที่กำหนด หรือไม่มีการแตะบัตรออกจากสถานี ระบบจะคำนวณค่าโดยสารตามอัตราสูงสุดในขณะนั้น
สำหรับบัตรเครดิต / บัตรเดบิต EMV Contactless ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด ป้องกันการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิต โดยชิปที่ใช้ในบัตรจะเป็นการสร้างรหัสการทำธุรกรรมในการชำระเงินที่ไม่ซ้ำกัน ช่วยลดโอกาสในการปลอมแปลงบัตรและการขโมยเลขบัตรไปใช้ และนอกจากบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตแล้ว ผู้โดยสารยังสามารถใช้บัตรพรีเพด (Prepaid Card) หรือบัตรทราเวลการ์ด (Travel Card) ที่มีสัญลักษณ์ Contactless เพื่อเข้า-ออกระบบรถไฟฟ้า MRT ได้เช่นเดียวกัน ความสะดวกสบายของระบบการชำระเงินเหล่านี้ จะช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้โดยสารในเมืองง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยที่เชื่อถือได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วงได้ที่ศูนย์บริการข้อมูล โทร. 0 2624 5200 หรือติดตามทางช่องทาง Facebook (เฟซบุ๊ก) และ X (เอ็กซ์) : BEM Bangkok Expressway and Metro / Instagram (อินสตาแกรม) : mrt_bangkok และ Mobile Application (โมบายแอปพลิเคชัน) : Bangkok MRT
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, วันที่ 2 พฤษภาคม 2566: วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท ทีทูพี จำกัด (T2P) บริษัทฟินเทคชั้นนำของประเทศไทย เปิดให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศแบบดิจิทัลสำหรับลูกค้าทั่วไปเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยโซลูชัน วีซ่าไดเร็ค (Visa Direct) ลูกค้าสามารถโอนเงินข้ามประเทศเข้าบัตรเดบิตวีซ่าภายในเวลาอันรวดเร็วเกือบจะเรียลไทม์1
ผู้ส่งเงินในประเทศไทย สามารถโอนเงินไปยังผู้รับในต่างประเทศได้อย่างง่ายดาย เพียงกรอกเลขบัตรเดบิต 16 หลักของผู้รับเงินในแอปพลิเคชัน DeepPocket ของทีทูพี เงินจะถูกโอนไปยังบัตรของผู้รับโดยตรงภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที2 และสามารถนำเงินที่โอนผ่านระบบนี้ไปใช้ได้ในร้านค้าเครือข่ายของวีซ่าที่มีมากกว่า 70 ล้านแห่งทั่วโลก
“เรามีความยินดีที่ได้ร่วมกับ ทีทูพี ในการเปิดตัว วีซ่าไดเร็ค ที่จะทำให้การโอนเงินข้ามประเทศมีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยนวัตกรรมโซลูชันการชำระเงินที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน การเปิดตัววีซ่าไดเร็คในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มทั้งด้านความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้น และความต้องการที่แปรเปลี่ยนไปของผู้บริโภค ที่มองหาวิธีการเคลื่อนย้ายเงินแบบไร้รอยต่อ และปลอดภัยในทุกที่ทุกเวลาที่พวกเขาต้องการ” ซีรีน เกย์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
ทวีชัย ภูรีทิพย์ ประธานบริหาร บริษัท ทีทูพี จำกัด กล่าวว่า "จากการเพิ่มขึ้นของการชำระเงินถึงกันได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์แบบทันทีในประเทศ (instant domestic peer-to-peer payment) เราจึงอยากทำให้การส่งเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับลูกค้า โดยพัฒนาโซลูชันที่ทั้งสะดวก คล่องตัว และปลอดภัย และเพื่อทำตามคำมั่นสัญญานี้ เราจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับวีซ่าในการเปิดใช้โซลูชัน วีซ่าไดเร็ค บนแอป DeepPocket ของเรา ที่ช่วยให้สมาชิก
ในครอบครัวสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ในเรื่องของการเงินไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก นอกเหนือจากฟังก์ชันที่ง่ายต่อการใช้งาน แอปพลิเคชันยังแสดงให้เห็นถึงอัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ และช่วยให้ทั้งผู้โอนและผู้รับทราบจำนวนเงินที่แน่นอนซึ่งจะได้รับในบัตรเดบิตของวีซ่าอีกด้วย”
การโอนเงินแบบดิจิทัลกำลังได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก จากผลการวิจัยของ Money Travel: 2023 Remittance Landscape3 พบว่า ระหว่าง 60-70% ของกลุ่มตัวอย่างในอเมริกาเหนือเคยใช้บริการชำระเงินดิจิทัลผ่านแอปเพื่อโอนหรือรับเงินข้ามประเทศ โดยมีเพียง 10-15% ของกลุ่มตัวอย่างที่ยังพึ่งพาการโอนเงินด้วยเงินสด เช็ค และธนาณัติ
ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศหลักด้านบริการโอนชำระเงินในฝั่งของผู้โอน พบว่า สามในห้าของผู้บริโภคที่ร่วมตอบแบบสอบถาม (61%) เลือกใช้บริการแบบดิจิทัลเท่านั้นในการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยให้เหตุผลในเรื่องของความสะดวกในการใช้งานและความปลอดภัย (53%) นอกจากนี้ จากการศึกษาเกี่ยวกับทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคฉบับล่าสุดของวีซ่า4 ยังแสดงให้เห็นว่าเกือบครึ่งของผู้บริโภคชาวไทย (48%) กล่าวว่าการโอนเงินแบบดิจิทัลเป็นการทำธุรกรรมที่มีความปลอดภัยมากกว่า
สำหรับโซลูชัน วีซ่าไดเร็ค บนแอป DeePocket นี้ ลูกค้าสามารถโอนเงินได้สูงสุดถึง 2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อการทำธุรกรรมหนึ่งครั้ง5
“สิ่งนี้ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมการชำระเงินของประเทศไทย ตั้งแต่ระดับครอบครัวไปจนถึงชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทยที่กำลังมองหาวิธีการส่งเงินไปให้คนที่พวกเขารักในต่างแดน วีซ่ายังจะมุ่งมั่นสร้างแพลตฟอร์มการชำระเงินที่ครอบคลุมและเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับทุกคน ทุกที่ และทุกเวลา” ซีรีน กล่าวสรุป
กรุงเทพฯ 11 กันยายน 2564 - ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ตอกย้ำจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ให้ลูกค้าใช้ชีวิต “ฟรีรอบด้าน” จัดเต็มสิทธิประโยชน์ตรงใจในทุกสถานการณ์ โดยเปลี่ยนทุกการใช้จ่ายของลูกค้าให้คุ้มค่าและประหยัดจริง ส่งผลให้ลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น โดยยอดการใช้จ่ายออนไลน์ผ่านบัตรเดบิต ออลล์ฟรี (ttb all free debit card) รวมทั้งบัตรเดบิต ออลล์ฟรี ดิจิทัล (ttb all free digital debit card) โตขึ้น 25% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2564 นอกจากนี้ ลูกค้าที่มีการใช้จ่ายออนไลน์ผ่านบัตรเดบิต ttb all freeมากกว่า 50% ยังได้รับสิทธิ์รับคะแนน wow คืน 1% ซึ่งสามารถนำคะแนน wow กลับมาใช้แทนเงินสดต่อได้อีก นับเป็นการต่อยอดความคุ้มค่าที่ทุกการใช้จ่ายช่วยลูกค้าประหยัดได้มากกว่าเดิม และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเพื่อช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้และอนาคต
นางสาวนันทพร ตั้งเจริญศิริ หัวหน้าบริหารการตลาดลูกค้าบุคคลและประสบการณ์ลูกค้า ทีเอ็มบี ธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า จากพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้าในปัจจุบันที่ปรับตัวไปใช้จ่ายออนไลน์เพิ่มขึ้นมาก ธนาคารจึงได้พัฒนาสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของบัญชี ttb all free ให้ตอบโจทย์ลูกค้าในด้านของการใช้ออนไลน์ได้อย่างครอบคลุมในทุก ๆ การใช้จ่าย เพื่อตอกย้ำจุดเด่นของ ttb all free ในฐานะผู้นำเทรนด์ความฟรีที่ให้ฟรีค่าธรรมเนียมมาก่อนใคร พร้อมสร้างโซลูชันใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายของลูกค้าให้มีความคุ้มค่าสูงสุด และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายจำเป็นที่ลูกค้าเคยต้องจ่ายได้จริง ๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นของบัญชี ttb all free ที่ลูกค้าสามารถจดจำและนึกถึงได้ในทันที และเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกค้าสมัครบัญชี ttb all free และกลายเป็นบัญชีหลักเพื่อการใช้จ่ายของลูกค้าต่อไป
ทั้งนี้ พบว่ายอดการใช้จ่ายออนไลน์ผ่านบัตรเดบิต ttb all free รวมทั้งบัตรเดบิต ttb all free digital ในไตรมาส 3 ปี 2564 ได้เติบโตขึ้น 25% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี และเติบโตถึง 97% เมื่อเปรียบเทียบปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความสำเร็จจากการนำเสนอโซลูชันที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ เข้าใจพฤติกรรมและตรงกับความต้องการของลูกค้าที่หันมาใช้จ่ายผ่านทางออนไลน์มากขึ้น โดยตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ธนาคารได้ออกแคมเปญ ttb all free go online ที่เมื่อลูกค้าใช้จ่ายผ่าน ttb all free บนแอปพลิเคชันออนไลน์ ช้อปปิ้ง อาทิ Shopee และ Lazada รวมไปถึงแอปพลิเคชันฟู้ด เดลิเวอรี เช่น LINE MAN และ Grab Food ลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษ ทั้ง 3 รูปแบบ ได้แก่ “ลด” รับโค้ดส่วนลดพิเศษ “ฟรี” ประกันช้อปออนไลน์ และ “คืน” 1 %ของยอดช้อปออนไลน์เป็นคะแนน wow (1 wow = 1 บาท) โดยพบว่ามีลูกค้าที่ใช้จ่ายออนไลน์ผ่านบัตรเดบิต ttb all free มากถึง 50% ได้รับสิทธิ์รับคะแนน wow คืน 1% เพื่อนำคะแนน wow กลับมาใช้แทนเงินสดต่อได้อีก นับเป็นการต่อยอดความคุ้มค่าที่ทุกการใช้จ่ายช่วยลูกค้าประหยัดได้มากกว่าเดิม และปัจจุบันพบว่ามี
ลูกค้าออกบัตรเดบิต ttb all free digital เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 สูงถึง 86% ทั้งหมดนี้จึงช่วยการันตีชัดว่า ttb all free คือตัวจริงที่ช่วยลูกค้าประหยัดทุกการใช้จ่ายออนไลน์ และยืนหนึ่งเป็นบัญชีเพื่อใช้ในใจนักช้อปออนไลน์อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ บัญชี ttb all free ยังมอบสิทธิประโยชน์ด้านความคุ้มครองอุบัติเหตุแบบฟรีๆ เพียงแค่คงเงินไว้ในบัญชีไม่ต่ำกว่า 5,000 บาททุกวัน ก็ได้ประกันอุบัติเหตุโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ได้รับฟรีค่ารักษาอุบัติเหตุ สูงสุด 3,000 บาทต่ออุบัติเหตุ ไม่จำกัดครั้ง ไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน รวมทั้ง ฟรีความคุ้มครองชีวิต 20 เท่าของเงินฝาก สูงสุด 3 ล้านบาท เหมือนลูกค้ามีสวัสดิการฟรี ๆ ติดตัว ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าได้รับสิทธิ์ประโยชน์ด้านความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุ คิดเป็น 40% ของลูกค้า ttb all free ทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้าให้การตอบรับแคมเปญนี้เป็นอย่างดี และตอกย้ำว่า ttb all free เป็นผู้นำแนวทางการส่งมอบความฟรีให้กับลูกค้าและมุ่งช่วยเหลือลูกค้าให้ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้จริง ๆ
“ธนาคารเข้าใจในทุก ๆ ปัญหาทางการเงินของลูกค้าที่ต้องเผชิญจากผลกระทบของสถานการณ์รุมเร้าหลายด้าน ลูกค้ามีความจำเป็นต้องคิดเรื่องการใช้จ่ายให้รอบคอบมากขึ้น ทีเอ็มบีธนชาตจึงอยากเป็นทางเลือกให้ลูกค้าคลายความกังวลลง โดยช่วยเพิ่มมูลค่าเงินฝากหรือเงินออมที่มีอยู่ในบัญชีให้สามารถนำมาใช้จับจ่ายสินค้าแล้วได้เงินคืนกลับมา รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอด้วยการให้ความคุ้มครองแบบฟรี ๆ ซึ่งเราจึงคาดหวังและขอเชิญชวนทุกคนเข้ามาเป็นครอบครัว ทีทีบี ออลล์ ฟรี เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมาย ผ่านโซลูชันที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นต่อไป” นางสาวนันทพร กล่าวสรุป