November 19, 2024

(กรุงเทพฯ ประเทศไทย) กุมภาพันธ์ 2566 – งานวิจัยฉบับใหม่* จากมินเทล ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลตลาดระดับโลก ชี้ว่าการใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนทำให้คน Gen Z** ให้ความสำคัญกับอนาคต หาความรู้ทางการเงินมากขึ้น และตัดสินใจอย่างชาญฉลาดขึ้นในการจับจ่ายใช้สอย

หลังจากต้องประสบกับเหตุการระบาดใหญ่โควิด-19 ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เงินเฟ้อสูง สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคชาวไทยที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี มีความอยากใช้เงินลดลง โดยประมาณ 3 ใน 4 คน (75%) เลือกที่จะเก็บออมเพื่ออนาคตมากกว่าการใช้เงินไปกับการซื้อสิ่งของต่าง ๆ

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่คิดก่อนจ่ายเสมอ โดยคนรุ่นใหม่ประมาณ 4 ใน 5 คน (86%) อ่านรีวิวสินค้าก่อนซื้อ พวกเขายังยินดีมากขึ้นที่จะจ่ายเงินไปกับผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ (53%) ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองที่น่าเชื่อถือ (39%) และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (36%)

แม้ว่าคน Gen Z ประมาณ 2 ใน 3 คน (60%) มีความพึงพอใจกับชีวิตของพวกเขาในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา (จนถึงเดือนมิถุนายน 2565) งานวิจัยจากมินเทลชี้ว่า ผู้บริโภครุ่นใหม่รู้สึกเครียดและโดดเดี่ยว พวกเขาให้ความสำคัญกับสุขภาพองค์รวมและความเป็นอยู่ที่ดีในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ

คน Gen Z มองหาทางออกด้านสุขภาพที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้ง่าย แต่มากกว่า 2 ใน 3 คน (38%) จะตัดสินใจซื้อสินค้านั้นๆ ก็ต่อเมื่อพวกเขาสามารถตรวจสอบได้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเป็นของแท้และน่าเชื่อถือ โดยการกระทำนี้เห็นได้ชัดในการจับจ่ายไปกับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งคน Gen Z ใช้เงินกับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มากที่สุด (65%)

แม้ว่าคน Gen Z จะพบเจอความท้าทายมากมาย ความมุ่งมั่นของพวกเขาที่มีต่อความยั่งยืนและประโยชน์ต่อสังคมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และพวกเขายังคาดหวังที่จะเห็นคุณค่าของตนเองสะท้อนออกมาจากแบรนด์ที่พวกเขาเลือก คน Gen Z จำนวนมากกว่า 3 ใน 4 คน (76%) ในประเทศไทย กล่าวว่าพวกเขาใช้ความพยายามมากกว่าเดิมในชีวิตประจำวันเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และประมาณ 25% คิดว่าการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนนั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่า

ช่องทางออนไลน์ยังคงเป็นช่องทางที่ผู้บริโภครุ่นใหม่ในประเทศไทยใช้งานบ่อยที่สุด โดยมากกว่า 3 ใน 5 คน (65%) ระบุว่าพวกเขาอยากซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่าออฟไลน์ และจำนวนใกล้เคียงกัน (64%) ระบุว่าพวกเขาเลื่อนดูสิ่งต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดียเพื่อการผ่อนคลาย

ดร. วิลาสิณี ศิริบูรณ์พิพัฒนา (ไข่มุก) นักวิเคราะห์ไลฟ์สไตล์อาวุโส มินเทล รีพอร์ทส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ผู้บริโภคอายุ 18-25 ปี มีจำนวนประมาณ 1 ใน 5 ของผู้บริโภคในประเทศไทยทั้งหมด พวกเขาเป็นตัวแทนของอนาคต แบรนด์จำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงวิธีการที่จะเข้าหาผู้บริโภคกลุ่มนี้และสร้างความภักดีต่อแบรนด์ตั้งแต่เนิ่น

“แต่แบรนด์จะพบกับความท้าทายเช่นกัน แม้ผู้บริโภค Gen Z ส่วนใหญ่ต้องการใช้เงินมากกว่าการเก็บออม แต่หลายคนก็ยังต้องพึ่งพาผู้ปกครองในด้านการเงินอยู่ และพวกเขาอาจไม่มีอิสระในการเลือกจับจ่ายใช้สอย

“แบรนด์สามารถเชื่อมต่อกับคน Gen Z ได้อย่างสำเร็จและมีประสิทธิภาพโดยการใช้ช่องทางดิจิทัล โดยการเสนอข้อมูลอย่างแท้จริง โปร่งใส และสนับสนุนในสิ่งที่ผู้บริโภค Gen Z ให้ความสนใจมากที่สุด แบรนด์สามารถใช้โอกาสนี้เพื่อช่วยลดความกังวลในการใช้เงิน โดยเพิ่มคุณค่าให้กับการใช้จ่ายของผู้บริโภครุ่นใหม่ และช่วยให้พวกเขาสามารถเก็บออมได้ดีมากขึ้นสำหรับอนาคต”

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์การตลาดของผู้บริโภค Gen Z และบทสัมภาษณ์นักวิเคราะห์ สามารถส่งคำขอได้ที่ Mintel Press Office

DAK GALBI เปิดตัวเมนูแพลนต์เบส แบรนด์ Meat Zero เอาใจสายรักสุขภาพ เป็นทางเลือกกลุ่มมังสวิรัติ ให้รสชาติเสมือนรับประทานเนื้อจริงๆ พร้อมขนเมนูเด็ดหลายหลากสไตล์ให้เลือกรับประทาน และโปรโมชันพิเศษ

บริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จํากัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ DAK GALBI, DGB, GALBI X และ WOK Station เปิดตัวเมนูอาหารจากแพลนต์เบส (Plant Based) จากแบรนด์ Meat Zero นวัตกรรมเนื้อสัตว์จากพืช ให้เนื้อสัมผัสและรสชาติเสมือนเนื้อจริง ปราศจากคอเลสเตอรอลและมีโปรตีนสูง เอาใจผู้บริโภคยุคใหม่ และคนที่ดูแลสุขภาพ รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคมังสวิรัติ ให้เลือกรับประทานหลากหลายรสชาติ ทั้งแบบไทยและเกาหลี

นายทศพร วณิชวรพงศ์ กรรมการ บริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จํากัด เปิดเผยว่า ตอนนี้กระแสการบริโภคเนื้อสัตว์จากพืชกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในหลายประเทศ รวมทั้งไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ตลอดจนผู้บริโภคกลุ่มวีแกนและกลุ่มมังสวิรัติยืดหยุ่น (Flexitarian) ทางดัคกาลบี้ มองเห็นการขยายและเปิดโอกาส เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ จึงร่วมมือกับแบรนด์ Meat Zero นำวัตถุดิบคุณภาพดี จากการผลิตที่ได้มาตรฐาน ให้รสสัมผัสและรสชาติเสมือนเนื้อสัตว์จริงมากที่สุด มารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ แต่ยังคงเสน่ห์ของทางร้าน

"สำหรับเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ 'สลัดคิมบับไร้เนื้อ' จากร้าน GALBI X นำโบโลน่าของ Meat Zero รวมไว้ในข้าวห่อสาหร่าย ปรุงรสชาติสไตล์เกาหลี เมนูนี้ต้องขอแนะนำว่า สายสุขภาพต้องลอง!!! ถัดมาคือ เมนู 'ข้าวหมูสับคั่วกะเพราไร้เนื้อ' จากร้าน WOK Station รสชาติและลักษณะกลมกลืนเสมือนหมูสับ แต่ทำมาจากพืช คลุกเคล้ากับเครื่องปรุงจัดจ้านแบบไทย ใครที่อยากเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ ห้ามพลาดเมนูนี้" นายทศพร กล่าว

สำหรับโปรโมชัน ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จัดเมนู Combo Set ราคาพิเศษสำหรับแบรนด์ Dak Galbi, DGB. และ Galbi-X ได้แก่ Kimbap Zero (สลัดคิมบับไร้เนื้อและโบโลน่าป็อกกี้ไร้เนื้อ) เพียง 220 บาท (จากปกติ 338 บาท) Kimbap Zero 2 (สลัดคิมบับไร้เนื้อ รับประทานกับปลาแผ่นและปลาบดปรุงรสในน้ำซุป) ราคา 155 บาท (จากปกติ 209 บาท) 

นอกจากนี้ แบรนด์ WOK Station ได้แก่ WOK Zero Set 1 (ข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือไร้เนื้อและข้าวหมูสับคั่วกระเทียมไร้เนื้อไข่เป็ดดาว) เพียง 171 บาท (จากปกติ 190 บาท) WOK Zero Set 2 (ข้าวหมูสับคั่วกะเพราไร้เนื้อไข่ดาวและข้าวหมูกรอบคั่วกระเทียมไร้เนื้อ) ราคา 167 บาท (จากปกติ 185 บาท ) และ WOK Zero Set 3 (ข้าวหมูกรอบคั่วกะเพราไร้เนื้อไข่ยั่วและข้าวคะน้าหมูกรอบไร้เนื้อไข่ดาว) อยู่ที่ 194 บาท (จากปกติ 215 บาท) เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป ทุกสาขาทั่วประเทศ

ส่วนช่องทางการจำหน่าย สามารถสั่งอาหารผ่าน Food Delivery ไม่ว่าเป็น Grab, Lineman และ Robinhood หรือผ่านทาง Line Official ของทุกแบรนด์ ในเครือ Dak Galbi Group ได้แก่ Dak Galbi, DGB, Galbi X, WOK Station พร้อมทั้งติดตามรายละเอียดและโปรโมชันดีๆ เพิ่มเติม ได้ที่ Facebook Fanpage : https://www.facebook.com/DakGalbiThailand, https://www.facebook.com/DGB.dakgalbihttps://www.facebook.com/galbix.kimbap และ https://www.facebook.com/wokstation.th 

ด้าน นางศุภรา ศรีบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ขณะนี้เทรนด์ของผู้บริโภคอาหารมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการรับประทานเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีกำลังเป็นนิยมต่อเนื่อง ซีพีเอฟในฐานะผู้ผลิตอาหารชั้นนำ จึงขยายตลาด เพื่อรับรองกับความต้องการของผู้บริโภค ออกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Meat Zero เป็นอาหารทางเลือก สร้างสรรค์วัตถุดิบนวัตกรรมใหม่โปรตีนจากพืช ให้เข้าถึงผู้ที่รับประทานและไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ตลอดจนคำนึงถึงความสะดวกในการเลือกซื้อ โดยวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วไป ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงเป็นเมนูในร้านอาหารต่างๆ

"สำหรับ การร่วมมือของ ดัคกาลบี้ กรุ๊ป และ Meat Zero ถือเป็นการเพิ่มกลุ่ม​ลูกค้า เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้​ลิ้มลอง​ความ​อร่อย​ ทั้งนี้ ช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 อาหารคือ สิ่งแรกที่หลายคนหันมาใส่ใจ ฉะนั้น บริษัทฯ วางแผนจะขยายไปยังร้านอาหารต่างๆ เพิ่มเติม ควบคู่กับการพัฒนาอาหารให้ตรงใจผู้บริโภค เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มอายุ" นางศุภรา กล่าว

X

Right Click

No right click