December 05, 2025

9 มิถุนายน 2568 - ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมสนับสนุนกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) โดยกองกำลังสุรนารี ในพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นำรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (COW) เพิ่มสัญญาณ หรือ อัปเกรดเสา พร้อมติดตั้งเสาสัญญาณขนาดเล็ก หรือ Small Cell เฉพาะกิจ ให้มีความครอบคลุมในพื้นที่ตั้งของทหารไทยรองรับการปฏิบัติหน้าที่เพื่อภารกิจความมั่นคงและการติดต่อสื่อสาร ดังนี้

1. ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

2. ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

3. ฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี

4. ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์

5. ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ

นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราขอสนับสนุนทหารไทยอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติภารกิจเพื่อความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทีมงานของเราได้รับการประสานขอสัญญาณเพิ่มจากกองทัพบก และทรู คอร์ปอเรชั่นได้ส่งทีมงานที่เข้าไปสำรวจพื้นที่ และนำรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (COW) ไปติดตั้งในพื้นที่ของทหารตั้งแต่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา และเพิ่มโซลูชันเพื่อประสิทธิภาพการสื่อสารให้แก่ทหารไทยในการปฏิบัติภารกิจอีกหลายจุด โดยทั้งหมดครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ของทหารไทยที่ประจำการ และดำเนินการระงับสัญญาณมือถือตามที่เราได้ปฏิบัติตามความร่วมมือกับภาครัฐ-ดีอีเอส-กสทช. อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการใช้งานสัญญาณผิดวัตถุประสงค์ และลดความเสี่ยงจากการกระทำผิดกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน”

โดยที่ผ่านมา ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ดำเนินการเข้มงวดตามมาตรการของสำนักงาน กสทช. ด้วยการระงับสัญญาณ (Switch off) ตามแนวชายแดนไทย และดำเนินการรื้อถอนหรือปรับทิศทางเพื่อป้องกันการลักลอบใช้งานในพื้นที่เสี่ยงรวมทั้งพื้นที่ติดกับกัมพูชาเสร็จสิ้นเมื่อ มิถุนายน 2567 ปีที่แล้ว เพื่อป้องกันการใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือในการก่ออาชญากรรมข้ามแดน โดยเฉพาะการหลอกลวงผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่ดำเนินการ เช่น

1. สระแก้ว: อำเภออรัญประเทศ

2. จันทบุรี: อำเภอโป่งน้ำร้อน

3. บุรีรัมย์: อำเภอบ้านกรวด

4. สุรินทร์: อำเภอกาบเชิง

ทรู คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนภารกิจความมั่นคงโดยเพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ทหารตามคำขอ และให้ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับภาครัฐและ กสทช. แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ลักลอบใช้สัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ตไทย ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง

CPANEL ผลประกอบการปี 2567 รายได้รวม 247 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 3.8 ล้านบาท มั่นใจปีนี้ธุรกิจโตแม้ตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว เดินหน้าขยายพอร์ตงานภาครัฐเต็มสูบ คว้างานใหม่เพิ่ม 181.65 ล้านบาท ดัน Backlog แตะ 1,358.39 ล้านบาท ทยอยส่งมอบงานหนุนผลงานไตรมาส 1/2568 สดใส โชว์ฐานะการเงินแกร่ง พร้อมรับมือความท้าทาย พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต พัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบรับเทรนด์ก่อสร้างยุคใหม่ หนุนยอดขาย

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 247 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 436.82 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 3.8 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 62.49 ล้านบาท ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 4/2567 มีรายได้รวม 25 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 12 ล้านบาท

ทั้งนี้ภาพรวมผลประกอบการปรับตัวลดลง จากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการชะลอการเปิดโครงการใหม่ ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปลดลง

อย่างไรก็ตามบริษัทได้ดำเนินการปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าภาครัฐมากขึ้น ล่าสุดบริษัทเข้ารับงานโครงการอาคารมูลค่ารวม 181.65 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,358.39 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นโครงการภาครัฐ 60% ภาคเอกชน 40% ซึ่งจะทยอยส่งมอบงานและรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 1/2568 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ CPANEL ยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการดีไซน์ การลดของเสีย เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบรับเทรนด์การก่อสร้างยุคใหม่ ทั้งในส่วนของงานภาครัฐและเอกชน ที่เน้นด้านดีไซน์เพื่อจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่า และการให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการใช้พลังงาน และลดต้นทุนการก่อสร้าง เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร

“ผลประกอบการปีที่ผ่านมาถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ในปีนี้จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของ CPANEL ตั้งแต่ไตรมาสแรก เป็นต้นไป มั่นใจว่าบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าได้อย่างมั่นคง จากการปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าที่หลากหลาย ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับความท้าทายจากสภาวะตลาด เพื่อสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายชาคริต กล่าว

X

Right Click

No right click