ธนาคารไทยพาณิชย์ ตระหนักถึงภัยทางการเงินที่มีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น โดยจากสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 12 - 18 มีนาคม 2566 มีการรับแจ้งความออนไลน์ จากคดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ หรือ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” จำนวน 529 เคส มูลค่าความเสียหายกว่า 65 ล้านบาท ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานว่ามีภัยทุจริตทางการเงิน เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์, SMS หลอกลวง, แอปดูดเงิน ฯลฯ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแอปดูดเงินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเดือน มิถุนายน 2566 ที่มีรายงานความเสียหายจากแอปดูดเงินในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ธันวาคม 2565 - มิถุนายน 2566) อยู่ที่ 1,152 ล้านบาท

 

แม้ว่าจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาป้องกันอย่างเข้มข้นแล้วก็ตาม แต่เพราะมิจฉาชีพมีการปรับปรุงเทคนิคการหลอกลวงและพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ ที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ธนาคารจึงเดินหน้าสานต่อโครงการ “แก้ เกม กล โกง” เปิดตัวเว็บไซต์ศูนย์รวมคอนเทนต์คู่มือป้องกันมิจฉาชีพยุคใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยให้คนไทย ตื่นตัว รับรู้ เข้าใจ และรู้ทันวิธีป้องกันภัยทุจริตทางการเงิน และภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วยตนเอง ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับภัยจากมิจฉาชีพทั้งภาคธุรกิจ และผู้บริโภคภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ 1. อัปเดตกลโกง 2. วิธีป้องกันกลโกง 3. ถ้าโดนโกงแล้วต้องทำอย่างไร รวมถึงการแจ้งข่าวสาร ประกาศจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับภัยมิจฉาชีพ พร้อมส่ง “น้องเอ๊ะ เดอะซีรีส์” ผู้ช่วยเตือนภัยยุคใหม่ มาพร้อมคาแรกเตอร์ที่น่าเชื่อถือและเป็นกันเอง ถ่ายทอดประสบการณ์ภัยจากมิจฉาชีพจากการรับเคสต่างๆ ที่ลูกค้าเจอเป็นหลัก รวมถึงเคสจริงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธปท. และข่าวบนโซเชียลมีเดีย นำมากลั่นกรองและนำเสนอผ่านวีดีโอคอนเทต์ที่เข้าใจง่าย มุ่งหวังสร้างความตระหนักรู้แก่คนไทยให้เท่าทันภัยมิจฉาชีพ

ธนาคารให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยมีการพัฒนายกระดับความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันและจัดการภัยทางการเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้ จะสามารถสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนให้รู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพได้ อย่างไรก็ตาม ลูกค้าและประชาชน ควรต้องติดตามข้อมูลและปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันภัยทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงการตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพ

สามารถติดตามเนื้อหาป้องกันภัยจากมิจฉาชีพจากเว็บไซต์โครงการ “แก้ เกม กล โกง” ได้ที่ https://link.scb/49pv2cw รวมถึง Social media ของธนาคารไทยพาณิชย์ และ The Standard ทุกช่องทาง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เคทีซีตอกย้ำจุดยืนความปลอดภัยของสมาชิกเป็นสำคัญ พร้อมพัฒนาระบบป้องกันภัยทุจริต อย่างต่อเนื่องและติดตามข้อมูลการใช้จ่ายหากผิดปกติแจ้งสมาชิกทันทีเพื่อป้องกันมิจฉาชีพบนออนไลน์ พร้อมแนะนำ 6 ข้อต้องรู้ก่อนทำธุรกรรม

นายไรวินทร์ วรวงษ์สถิตย์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานควบคุมงานปฏิบัติการและปฏิบัติการร้านค้า “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลโกงมิจฉาชีพที่หลอกดูดเงินได้ปรับเปลี่ยนวิธีการตลอด มีทั้งการหลอกให้โอนเงินหรือสวมสิทธิ์ในแอปพลิเคชันเพื่อหลอกดูดเงินจากบัตรเครดิตทำให้ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อโดยไม่ทันระวัง ถึงแม้เทคโนโลยีการเงินในปัจจุบันจะพัฒนาระบบให้สอดรับกับผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการทำธุรกรรม

“ลักษณะมิจฉาชีพที่ติดต่อเข้ามามีหลายช่องทาง ทั้งสร้างเรื่องให้มีความกลัว เช่นหลอกว่าเราได้รับของผิดกฎหมายหรือของค้างอยู่ที่กรมศุลกากร ถ้ามีลักษณะที่ต้องสงสัยว่าเราไปทำอะไรผิดมา แต่ไม่ได้ทำก็อย่าหลงเชื่อ หรือ การหลอกโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันที่เราใช้อยู่ ต้องมีการใส่รหัสผ่านที่ใช้เพียงครั้งเดียว หรือ OTP (One Time Password) ถ้าเราไม่ทันระวังให้รหัสไป มิจฉาชีพก็จะนำไปใช้ได้” นายไรวินทร์กล่าว

เคทีซีในฐานะผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่ดำเนินการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมได้ศึกษาและพัฒนาระบบบริหารการป้องกันภัยทุจริตให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าเป็นสำคัญและมีทีมงานที่ดูแลตรวจสอบการใช้จ่ายของสมาชิกเมื่อพบสิ่งผิดปกติ จะรีบติดต่อสมาชิกผู้ถือบัตรทันทีเพื่อป้องกันมิจฉาชีพได้อย่างทันท่วงที พร้อมแนะนำ 6 วิธีป้องกันภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ ดังนี้

1. ตั้งสติและอย่าหลงเชื่อข้อมูลตามที่มิจฉาชีพแจ้ง

2. ไม่กดลิงค์ต่างๆ ที่ได้รับโดยไม่รู้จักแหล่งที่มา

3. กำหนดรหัสผ่าน (Password) ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการเงินให้มีความหลากหลาย อย่าใช้รหัสซ้ำเพื่อป้องกันการคาดเดาและนำไปใช้ต่อจากผู้ไม่หวังดี

4. ไม่แจ้งรหัสผ่าน และ OTP ให้ผู้อื่นทราบอย่างเด็ดขาด และ ต้องอ่านข้อความให้ชัดเจนทุกครั้งเมื่อได้รับ OTP เช่น การระบุชื่อร้านค้าต้องถูกต้อง รายละเอียดสินค้าต้องตรงกับที่สมาชิกซื้อ เพื่อการกรอกข้อมูลที่ถูกต้อง

5. หากพบข้อสงสัยว่าจะถูกมิจฉาชีพหลอกข้อมูล ควรโทรศัพท์หรือติดต่อสอบถามหน่วยงานที่ถูกอ้างอิง

6. โหลดแอปพลิเคชันที่ช่วยระบุหมายเลขที่ไม่รู้จัก เช่น Whoscall เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ

หากพบข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000 หรือ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีสามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ 

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โร่...แจ้งความใช้หลักฐานจากผู้เสียหายเอาผิดกับมิจฉาชีพให้ถึงที่สุด

X

Right Click

No right click