ในงานเสวนา “Fly DIRECT, Discover the WORLD with AIR CANADA and KTC” ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของสายการบินแอร์แคนาดาและ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินแอร์แคนาดาได้ประกาศจุดยืนเน้นการท่องเที่ยวเชิงรักษ์โลก เปิดให้บริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังนครแวนคูเวอร์อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2567 – วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจไทยที่เพิ่มมากขึ้น โดยเคทีซีได้ร่วมชูจุดยืนสนับสนุนผลิตภัณฑ์กรีนโปรดักส์ผ่านช่องทาง KTC World Travel Service
มิสเตอร์ ซันจีฟ เชาเดอรีย์ ที่ปรึกษา (พาณิชย์) และกรรมาธิการการค้าอาวุโส สถานทูตแคนาดาประจำประเทศไทย กล่าวว่า แคนาดามุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่เน้นความยั่งยืนตลอด 4 ฤดูกาล โดยคำนึงถึงทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ด้วยบริการเที่ยวบินตรงจากอเมริกาเหนือสู่ประเทศไทยโดยสายการบินแอร์แคนาดา และโครงการ eTA ใหม่ เป็นปัจจัยเอื้อให้คนไทยสามารถเดินทางไปเยือนแคนาดาได้อย่างง่ายดาย และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แคนาดามีทุกสิ่งที่นักท่องเที่ยวปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นการเล่นสกี เดินป่า แคมปิ้ง พายเรือ หรือกิจกรรมในทุกฤดูกาล นอกจากธรรมชาติอันสวยงามและบริสุทธิ์แล้ว แคนาดายังมีสีสันของเมืองใหญ่ที่พร้อมนำเสนอประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและความบันเทิงต่าง ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
มิสเตอร์ ฮอน แลม ผู้จัดการทั่วไปของแอร์แคนาดา ฮ่องกง จีนตอนใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แอร์ แคนาดา กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม 2567 – วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 แอร์แคนาดาประกาศเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ ถึงนครแวนคูเวอร์อีกครั้ง โดยได้เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ โดยเที่ยวบินดังกล่าวจะให้บริการด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงสูงขึ้นประมาณ 20% สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ แอร์แคนาดายังได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของการใส่ใจสิ่งแวดล้อมจึงได้จัดทำแคมเปญ “Leave Less, Do More” ผ่านตัวอย่างกิจกรรมสำคัญภายใต้แนวคิด “Leave Less” มุ่งเน้นลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน โดยได้ร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนชุมชนและลดขยะอย่างต่อเนื่อง รายละเอียดของความสำเร็จจากโครงการ อาทิ การบริจาคชุดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ยากไร้กว่า 24,000 ชุด บริจาคผ้านวมและแผ่นรองที่นอนกว่า 20,000 ชิ้น ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวกว่า 47.8 ล้านชิ้น และรีไซเคิลสิ่งทอจากเครื่องบินได้กว่า 16 ตัน
นางสาวพัทธ์ธีรา อนันต์โชติพัชร ผู้บริหาร KTC World Travel Service และการตลาดหมวดสายการบิน “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เคทีซีดำเนินธุรกิจบนแนวคิดด้านความยั่งยืนโดยคำนึงถึงทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล และได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ยังร่วมส่งเสริมกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของพันธมิตรหมวดสายการบินผ่านกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เคทีซีจึงได้ร่วมวางแผนกับสายการบินแอร์แคนาดาในหลายรูปแบบเพื่อให้สมาชิกได้สัมผัสประสบการณ์การบินตรงสู่แวนคูเวอร์ได้สะดวก และเดินทางได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้นด้วยข้อเสนอการแบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 6 เดือนผ่านช่องทาง KTC World Travel Service และได้จับมือร่วมกับบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวอีก 5 ราย ได้แก่ บริษัท โกลเบิล ยูเนี่ยน เอกซ์เพรส จำกัด (G.U.E.) / มาแจ๊สติก ทราเวล (Majestic Travel ) / ควอลิตี้ เอ็กซ์เพรส (Quality Express) / ยูนิไทย (Unithai) / บริษัท เวิลด์ เอ็กซ์พลอเรอร์ (World Explorer) และ ทราเวลโลก้า* (Traveloka) (*เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด) หรือ เลือกรับคะแนน KTC FOREVER เพิ่ม 10,000 คะแนน เมื่อจองตั๋วเครื่องบินและชำระเต็มจำนวนผ่าน KTC World Travel Service เท่านั้น (สิทธิ์มีจำนวนจำกัด) สามารถจองได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 - วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 และเดินทาง 2 พฤศจิกายน 2567 - วันที่ 31 พฤษภาคม 2568
นอกจากนี้ เคทีซีและสายการบินแอร์แคนาดายังได้จัดแคมเปญในหมวดช็อปปิ้งร่วมกับห้างสรรพสินค้าเช็นทรัล ชิดลม มอบรางวัลตั๋วเครื่องบินสายการบินแอร์ แคนาดาบินตรงสู่แวนคูเวอร์จำนวน 1 รางวัล 2 ที่นั่ง (มูลค่ารวม 140,000 บาท) ให้กับสมาชิกบัตรฯ ที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2567 - วันที่ 31 มกราคม 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ktc.co.th/ktcworld/promotion/air-ticket/domestic-and-overseas-air-ticket/air-canada
ภายในงานเสวนายังได้รับเกียรติจาก คุณปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันได้สวมบทบาทเป็นนักท่องโลก นักเขียน พิธีกรรายการสารคดี ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การท่องเที่ยวแคนาดาในหัวข้อ The Spirit Bear of Canada คุณปอย - ตรีชฎา หงษ์หยก คุณแพม – สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท OH! RiCH (บริษัท เอสอาร์ที ฟอเร็กซ์ จำกัด) และ ดร. วิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดโครงการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ร่วมถ่ายทอดความประทับใจจากประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศแคนาดารวมถึงต่อยอดการทำธุรกิจในประเทศไทย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC World Travel Service โทร 02 123 5050 หรือทักแชท https://ktc.cards/KWT-addline-FB
หรือเช็คราคา จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ด้วยตัวเองได้ที่ https://bit.ly/KTCFlightOB
สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซี https://ktc.today/apply-card
หรือติดต่อ KTC Phone โทรศัพท์ 02 123 5000 หรือศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ
บริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด (SCIeco) ผู้นำด้านการจัดการของเสียและกากอุตสาหกรรม และบริการการตรวจวัดสิ่งแวดล้อม ชวนทุกท่านมาเจาะลึกอนาคตแห่งการจัดการสิ่งแวดล้อม ในงาน Environmental and Waste Management Expo 2024 (EnwastExpo 2024) งานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านสิ่งแวดล้อม และการจัดการของเสีย ภายใต้แนวคิด “Join the movement towards a better planet” หรือ “ร่วมขับเคลื่อนสู่โลก ที่ดีกว่า”
ห้ามพลาดกับ SCIeco ภายใต้ Green Circular ซึ่งครั้งนี้มาในคอนเซ็ปต์ “Waste to The Future” ด้วยโซลูชันด้านการจัดการ Waste เพื่อสร้างสรรค์โลกที่ดีขึ้น เพื่ออนาคตที่ดีและสิ่งแวดล้อมที่ดี ได้แก่ Industrial Waste Management บริการรับจัดการของเสียและกากอุตสาหกรรม, Municipal Waste Management การจัดการ waste ภาคชุมชนมาเป็นเชื้อเพลิงทดแทน RDF, Agricultural Waste Management แปลงวัสดุเหลือทิ้งภาคการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล, Environmental Service Solutions บริการตรวจวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม พร้อมดูแลครบวงจร พร้อมกันนี้ ทุกท่านยังจะได้สัมผัสการสาธิตแบบจำลองระบบตรวจวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม โดยมี Model ปล่องระบาย
อากาศที่แสดงผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบเรียลไทม์ เพื่อให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการตรวจวัดและวิเคราะห์คุณภาพอากาศจากปล่องอุตสาหกรรม
การท่องเที่ยวไต้หวันเผยปี 67 คนไทยไปไต้หวันเพิ่มขึ้นเกือบ 18% เดินหน้าจับมือเคทีซีเปิดตัวแคมเปญ ‘Unseen Taiwan 2024’ เที่ยวได้ในทุกฤดูกาล พร้อมเผยโฉมโลโก้ ‘Taiwan - Waves of Wonder’ สะท้อนกลยุทธ์การท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สอดรับเทรนด์คนไทยนิยมเดินทางใกล้ วางรูปแบบการท่องเที่ยวตามปัจเจกนิยม และให้คุณค่ากับบริการรักษ์โลก หวังสิ้นปีดันยอดคนไทยเยือนไต้หวันเพิ่มไม่ต่ำกว่านักท่องเที่ยวในช่วงก่อนโควิด
มิสซินดี้ เฉิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ในปี 2566 นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปไต้หวันทั้งสิ้นเกือบ 4 แสนคน และตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2567 ยอดรวมนักท่องเที่ยวคนไทยแตะ 153,638 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 17.82% เป็นผลจากการขยายระยะเวลานโยบายฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย 14 วัน จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 รวมถึงจำนวนเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ - ไต้หวัน ก็มีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน สำหรับในปีนี้ การท่องเที่ยวไต้หวันได้เปลี่ยนโลโก้ใหม่ภายใต้ธีม ‘Taiwan - Waves of Wonder’ เพื่อชูจุดยืนเรื่องกลยุทธ์การท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้รูปแบบเส้นสายลอนคลื่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภูเขา ทะเล ถนนทรงคดเคี้ยว หรือทางรถไฟ บ่งบอกถึงความงดงามของภูมิทัศน์ธรรมชาติผสานกับมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานของไต้หวัน การเลือกโทนสีส้มเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ขึ้น สื่อถึงความหวังสำหรับการท่องเที่ยวยั่งยืนที่พร้อมส่งต่อไปยังประชากรรุ่นต่อไปในอนาคต
ถึงแม้ว่าไต้หวันต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้ได้มากขึ้น แต่รัฐบาลก็ได้ออกนโยบายเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจมีต่อทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม ด้วยการรณรงค์ให้ความรู้แก่หน่วยงานภาคการท่องเที่ยวในเรื่องการลดปริมาณขยะ การใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า และเคารพวัฒนธรรมพื้นถิ่น นอกจากนี้รัฐบาลยังได้วางแผนงานเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism) ดังนี้ 1) โครงการด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ (Ecotourism Initiatives) การจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ อุทยานธรณี และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ พร้อมแผนการบริหารด้านการท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม 2) การคมนาคมคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Transportation) ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางด้วยรถไฟ เส้นทางจักรยาน หรือการเช่ารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยปริมาณคาร์บอน 3) การรับรองมาตรฐานคุณภาพ (Certification and Standards) รัฐบาลสนับสนุนธุรกิจบริการท่องเที่ยวให้ได้รับใบรับรอง อาทิ Green Travel Mark และ Travelife เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นและรับผิดชอบต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน 4) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Development) การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน อาทิ ที่พักที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบการกำจัดของเสีย รวมถึงศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวเพื่อให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและมรดกทางวัฒนธรรม
ทั้งนี้ ปัจจุบันไต้หวันได้มีโครงการที่เป็นแบบอย่างของนโยบายท่องเที่ยวยั่งยืนเชิงรุก อาทิ ระบบยืมแก้วน้ำใช้ซ้ำที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา: เพื่อลดปริมาณแก้วน้ำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยอนุญาตให้ผู้เข้าชมยืมแก้วน้ำใช้ซ้ำ (Reuse) แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะลดขยะตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม หรือโครงการติดป้าย Bicycle-Friendly: เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวด้วยจักรยาน โดยรับรองมาตรฐานที่พักว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักปั่นจักรยาน และส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากเรื่องของการท่องเที่ยวยั่งยืนแล้ว ไต้หวันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวจากแคมเปญ ‘Unseen Taiwan 2024’ ที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับนักท่องเที่ยวใน 4 ฤดูกาลดังนี้
นางสาวพัทธ์ธีรา อนันต์โชติพัชร ผู้บริหาร KTC World Travel Service และการตลาดหมวดสายการบิน “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดของเคทีซีที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอคือเรื่อง Partnership Marketing โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ให้การสนับสนุน ส่งเสริม และขยายขอบเขตความร่วมมือกับพันธมิตรในทุกภาคส่วน อาทิ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว สายการบิน บริษัทตัวแทน (ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์) โรงแรม รถไฟ รถเช่า หรือเรือสำราญ ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังได้ทำกิจกรรมการตลาดร่วมกันเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกผ่านงานด้านการท่องเที่ยวหรืองานแฟร์ การจัดเวิร์กชอป และกิจกรรมร่วมกับชุมชน รวมถึงพัฒนาช่องทางสื่อสารให้ตรงกลุ่มสมาชิกมากยิ่งขึ้น สำหรับความร่วมมือกับการท่องเที่ยวไต้หวันในปี 2566 ที่ผ่านมา ได้รับผลตอบรับที่ดี สะท้อนจากจำนวนสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีและยอดรวมการใช้จ่ายที่ไต้หวันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ไต้หวันยังคงเป็นเส้นทางยอดนิยมของสมาชิก โดยในครึ่งปีแรกของปี 2567สมาชิกใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่ไต้หวันเป็นอันดับที่ 5 เมื่อดูจากพอร์ตยอดรวมการใช้จ่ายในต่างประเทศเส้นทางเอเชีย รองจากญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง และจีน และสมาชิกเลือกใช้บริการเพื่อเดินทางไปยังไต้หวันผ่าน KTC World Travel Service สูงเป็นอันดับที่ 4 รองจากฮ่องกง ญี่ปุ่น และ จีน โดยมียอดใช้จ่ายสำหรับการเดินทางต่อบุคคลอยู่ที่ 23,000 บาทต่อราย
ในปี 2567 เทรนด์การท่องเที่ยวมีการปรับเปลี่ยนไป สมาชิกนิยมเลือกใช้เวลาเดินทางสั้นลง และวางแผนการท่องเที่ยวด้วยตัวเองตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างมากขึ้น รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมก็เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกใช้บริการด้านการท่องเที่ยว KTC World Travel Service จึงได้รวมผลิตภัณฑ์บริการท่องเที่ยวที่แสดงความมุ่งมั่นด้านรักษ์สิ่งแวดล้อมไว้ในหมวดที่เรียกว่า ‘Green Products’ โดยเคทีซีได้ร่วมมอบสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนร่วมกับพันธมิตรทุกราย สำหรับแคมเปญ ‘Unseen Taiwan 2024’ เคทีซีได้จับมือกับสายการบินหลักได้แก่ ไชน่าแอร์ไลน์ (China Airlines) อีวีเอ แอร์ (EVA Air) สตาร์ลักซ์ แอร์ไลน์ (STARLUX Airlines) และการบินไทย (THAI Airways) มอบส่วนลดพิเศษเฉพาะบัตรเครดิตเคทีซี เมื่อสมาชิกจองตั๋วเครื่องบินผ่านเว็บไซต์สายการบินดังกล่าวรวมถึงผ่านช่องทางของเคเคเดย์ (KKday) นอกจากนี้ KTC World Travel Service ยังได้เสนอแพ็กเกจ ‘Taiwan Explorer’ รวมตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และบัตรรถไฟเพื่อเน้นเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระยะเวลา 3 วัน 2 คืน โดยสามารถเลือกเมืองจุดหมายที่ต้องการ เช่น ไทเป เกาสง หรือเมืองทางตอนใต้อื่นๆ สำหรับรายละเอียดแพ็กเกจมีดังนี้
ระยะเวลาการจองตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 – วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ระยะเวลาเดินทางตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 - วันที่ 15 มกราคม 2568 สมาชิกสามารถเลือกใช้บริการแบ่งชำระ 0% นาน 6 เดือน และพิเศษ! เมื่อชำระค่าตั๋วเครื่องบินหรือแพ็กเกจด้วยบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่าทุกประเภท รับฟรี Dragon Pass ทันที ดูรายละเอียดสิทธิประโยชน์จากแคมเปญ ‘Unseen Taiwan 2024’ ได้ที่ www.ktc.co.th/UNSEENTAIWAN
นายคณพศ สิทธิวงค์ บรรณาธิการนิตยสาร My World นิตยสารท่องเที่ยวราย 2 เดือนที่จัดพิมพ์สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่สนใจด้านการเดินทางและเป็นผู้มียอดใช้จ่ายสูงในหมวดท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ กล่าวว่า สมาชิกนิตยสาร My World มีไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวแบบ Frequent Travelers หรือวางแผนการท่องเที่ยวบ่อย ๆ ไต้หวันจึงเป็นเส้นทางที่ตอบโจทย์ เพราะมีองค์ประกอบครบครัน อาทิ วัฒนธรรมที่สะท้อนจากประวัติศาสตร์และประเพณีที่มีอายุยาวนาน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมควบคู่ไปกับวัฒนธรรมสมัยใหม่ ธรรมชาติและภูมิประเทศที่สวยงาม เช่น อุทยานแห่งชาติอาลีซาน เมืองทางใต้ที่ทันสมัยและสวยงามอย่างเกาสง หรือเกาะทางใต้ที่มีวิถีดั้งเดิมของชาวประมง เช่น เกาะเผิงหู อาหารไต้หวันเป็นที่รู้จักในเรื่องความอร่อยและหลากหลาย โดยเฉพาะ Street Food ใน Night Market ที่มีในทุกเมืองใหญ่ การเดินทางสะดวก มีระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน รถบัส หรือรถไฟความเร็วสูง ชาวไต้หวันมีชื่อเสียงในเรื่องความเป็นมิตรและการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านและสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างใกล้ชิด
นางสาวกิจชรัตน์ นทีธำรงสุทธิ์ จากเฟสบุ๊คเพจ Ratto Wanderlust เปิดเผยถึงเทรนด์การท่องเที่ยวไต้หวันมีการปรับเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว และยังมีสถานที่ Unseen ที่ไม่ควรพลาด เช่น ถนนแห่งของกินย่านหย่งคัง (Yongkang Food Street) ที่นอกจากจะเป็นแหล่งรวมอาหารยอดนิยมโดยเฉพาะอาหารท้องถิ่นแท้ๆ ของไต้หวันแล้ว ยังมีร้านคาเฟ่น่ารักๆ ที่ทำให้ทุกคนเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ รวมถึงสวนหรงจิ่น (Rongjin Gorgeous Time) แหล่งรวมสถานที่โดนใจวัยรุ่นแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไทเปเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและยังมีกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่น เดินทางสะดวกสบาย กิน ช้อป จบในที่เดียว
มิสซินดี้ เฉินกล่าวปิดท้ายว่า การท่องเที่ยวไต้หวันได้ร่วมมือกับเคทีซีมาเป็นปีที่ 2 แล้ว และรู้สึกพึงพอใจกับกิจกรรมต่างๆ ที่เคทีซีให้การสนับสนุนด้วยดีทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์และสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรฯ จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปไต้หวันก็เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่าสิ้นปี 2567 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปไต้หวันเพิ่มไม่ต่ำกว่านักท่องเที่ยวในช่วงก่อนโควิด
ผู้สนใจสิทธิพิเศษด้านการเดินทางท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC World Travel Service โทรศัพท์ 02 123 5050 ตั้งแต่เวลา 8.00 น. – 22.00 น. หรือทักแชทไลน์ได้ที่ @KTCWORLD สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาฯ จัดกิจกรรมค่ายผู้นำเยาวชนด้านสิ่งแวดล้อมรวม 3 วัน ให้กับน้อง ๆ ม.ต้น จากโรงเรียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อสร้างเสริมทัศนคติและพฤติกรรมที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และสัมผัสเชื่อมโยงกับธรรมชาติ พร้อมกับพัฒนาทักษะและศักยภาพให้เยาวชนไทยสามารถเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและมีส่วนร่วมในการลงมือปฏิบัติจริงเพื่อพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยมีนายประทรรศน์ สูตะบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นประธานเปิดค่าย และ ดร.อรทัย พงศ์รักธรรม ผู้จัดการแผนกกิจการด้านความยั่งยืน ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ในแวดวงวิชาการและองค์กรระดับนานาชาติ ร่วมถึงการดำเนินงานในปัจจุบันร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในหลากหลายโครงการด้านการต้านโลกร้อน เปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ และส่งเสริมวงจรรีไซเคิล ร่วมแชร์มุมมอง ชวนน้อง ๆ ขบคิด ตั้งคำถาม และนำไปเป็นแนวทางประยุกต์ใช้กับโครงการหรือการดำเนินชีวิตประจำวันต่อไปในอนาคตได้ระหว่างการเสวนาหัวข้อ “ทักษะผู้นำเยาวชนในยุคโลกรวน” พร้อมกันนี้ยังได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินโครงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน ณ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
กรุงเทพฯ 21 มิถุนายน 2566 – มิตรผล ไบโอเทค หนึ่งในกลุ่มธุรกิจใหม่ ‘ไบโอเบส’ (Bio-based) ภายใต้ มิตรผล ร่วมทัพองค์กรต่างๆ โชว์สุดยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตระดับอุตสาหกรรมในงาน Manufacturing Expo 2023 โดยงานนี้ มิตรผล ไบโอเทค ยกนวัตกรรมการพัฒนาเม็ดพลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable Compound) ที่ผลิตจากมันสำปะหลังและอ้อย มาจัดแสดงภายใต้แบรนด์ PlaneX (แพลนเน็กซ์) และสามารถนำมาต่อยอดเพิ่มคุณค่าสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์อาหารสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable Food Packaging) ภายใต้แบรนด์ CaneX (เคนเอ็กซ์) ผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ที่รักษ์โลก เพราะผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค แถมยังสามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลาสติกของไทยให้เติบโตอย่างเป็นมิตร สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต
สำหรับผู้ที่สนใจและอยากสัมผัสประสบการณ์จริงกับผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพจากแบรนด์ PlaneX และ CaneX สามารถเยี่ยมชมได้ที่บูธ “บริษัท มิตรผล ไบโอเทค จำกัด” 3D16 Hall 103 และในส่วนแสดงพิเศษ “Sustainovation Showcase” Hall 102 ซึ่งเป็นโซนจัดแสดงกระบวนการผลิตสินค้าจากพลาสติกชีวภาพ ในงาน Manufacturing Expo 2023 ณ ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันนี้ – 24 มิถุนายน 2566