

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการการเงินดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้นำบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีของไทย และพันธมิตร ร่วมสนับสนุนแคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” ภายใต้โครงการ “Thai Cyber Ranger: ไทยรู้ ทันหลอก” ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผอช.สอท.) หรือ CYBER CRIME INVESTIGATION BUREAU (CCIB) โดยแคมเปญดังกล่าวมุ่งสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ให้กับประชาชนทั่วประเทศ ตลอดไตรมาส 3 ของปี 2568 โดยในงานเปิดแคมเปญ พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีพลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ผอ. ศปอส. ตร.) เป็นผู้กล่าวเปิดงาน และมีตัวแทนจากภาคเอกชน ภาควิชาการ และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ร่วมแสดงพลังสนับสนุนแคมเปญดังกล่าว
![]()
นายสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด
โดยภายในงาน นายสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ยังได้ร่วมเวทีเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ ‘เตรียมอย่างไรให้พร้อม ก่อนภัยไซเบอร์คลื่นใหม่เข้าสู่สังคมไทย’ และกล่าวว่า “การร่วมมือของ ทรูมันนี่ และ ทรู กับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในแคมเปญ ‘รีบโอน โจรยิ้ม’ ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่มุ่งลดความเสี่ยงจากอาชญากรรมไซเบอร์ โดย ทรูมันนี่ มีการพัฒนาทั้งด้านเทคโนโลยีและฟีเจอร์ความปลอดภัย เครือข่ายความร่วมมือ การให้ความรู้ ตลอดจนการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ใช้งาน โดยในอนาคต ทรูมันนี่ จะยังคงเดินหน้าขยายความร่วมมือกับภาครัฐและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดการเสริมเกราะป้องกัน และยกระดับภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้กับคนไทย”
![]()
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทรูมันนี่ ได้เดินหน้าปกป้องผู้ใช้งานจากภัยไซเบอร์ผ่าน 4 มาตรการสำคัญ ได้แก่ 1) เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงรุก โดยเราได้พัฒนาระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น ที่เรียกว่า TrueMoney 3X Protection ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI ตรวจ จับ และหยุดพฤติกรรมฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรม อุปกรณ์ และตำแหน่งที่ตั้งแบบเรียลไทม์ เพื่อหยุดธุรกรรมต้องสงสัยก่อนเกิดความเสียหาย 2) ความร่วมมือเชิงลึกกับภาครัฐ ผ่านการแจ้งเตือนบัญชีต้องสงสัยและสนับสนุนข้อมูลวิเคราะห์เพื่อใช้ในกระบวนการสืบสวนแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานภาครัฐ 3) การสื่อสารเพื่อสร้างความรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ให้กับผู้ใช้และประชาชน ผ่านแพลตฟอร์มและสื่อในเครือข่ายของทรูมันนี่ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนแคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี และ 4) การตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ใช้งาน ที่พร้อมประสานหน่วยงานภาครัฐและให้คำปรึกษาในการดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีบริการสายด่วนแจ้งเหตุต้องสงสัยและภัยทางการเงินผ่านเบอร์ 1240 กด 6 สำหรับรับแจ้งเหตุฉุกเฉินและอายัดบัญชีตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ทรูมันนี่ ในการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่มั่นคง ปลอดภัย และเชื่อถือได้ เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถใช้ชีวิตและทำธุรกรรมในโลกดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ
ปัจจุบัน อาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะภัยหลอกลวงจากการให้โอนเงิน ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของจำนวนคดี มูลค่าความเสียหาย และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ข้อมูลล่าสุดจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 - พฤษภาคม 2568 มีคดีออนไลน์สะสมแล้วกว่า 900,000 เรื่อง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 91,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยสูงถึง 77 ล้านบาทต่อวัน โดย 5 อันดับคดีออนไลน์ที่เกิดขึ้นมากที่สุด ได้แก่ การหลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการ 44.85% การหลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน 12.40% การหลอกให้กู้เงิน 9.29% การหลอกลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 7.27% และการข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center) 6.46% ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการหลอกลวงที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นภัยใกล้ตัวที่ประชาชนต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน
ในอนาคต ทรูมันนี่ ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและมีเแผนเปิดตัวฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพื่อยกระดับความปลอดภัยและลดความเสี่ยงให้กับผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างระบบนิเวศการเงินดิจิทัลที่ยั่งยืน
ร่วมต้านภัยไซเบอร์ ... ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ ตำรวจไซเบอร์ เปิดตัวแคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” ภายใต้โครงการ Thai Cyber Ranger ไทยรู้ ทันหลอก จัดโดย กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดย พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการฯ ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน รวมถึง ทรู คอร์ปอเรชั่น โดย นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร พร้อมด้วย นางสุกัณณี เลิศสุขวิบูลย์ หัวหน้าสายงานธุรกิจต่างประเทศและบริการดิจิทัล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมงาน ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ในโอกาสนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้ร่วมเสวนาพิเศษหัวข้อ “เตรียมอย่างไรให้พร้อม ก่อนภัยไซเบอร์คลื่นใหม่เข้าสู่สังคมไทย” แบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์ โดย นางสุกัณณี เลิศสุขวิบูลย์ หัวหน้าสายงานธุรกิจต่างประเทศและบริการดิจิทัล กล่าวถึงแคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” ของ ตำรวจไซเบอร์ ที่ทรูพร้อมเต็มที่ในการสนับสนุนทุกภารกิจ เพื่อร่วมจัดการภัยคุกคามจากมิจฉาชีพในยุคไซเบอร์ ทั้งการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แคมเปญนี้ ในสื่อของเครือ ไม่ว่าจะเป็น TrueID, TrueVisions TNN โดยผ่านหลากหลายช่องทางดิจิทัล ทั้ง เว็บไซต์ และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ต่างๆ ทั้งนี้ ยังร่วมป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้คนไทยด้วย True CyberSafe บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ใช้งานมือถือและเน็ตบ้านจากภัยไซเบอร์ทุกรูปแบบ โดย มี AI ช่วยวิเคราะห์และตรวจสอบอยู่ข้างหลัง จุดเด่น คือไม่ต้องโหลดแอป ไม่ต้องลงทะเบียน และไม่มีค่าบริการ โดยมี 3 ฟีเจอร์การทำงาน คือ 1. URL Protection on SMS and Browser บล็อก หรือ แจ้งเตือน เมื่อมีการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อาจจะเป็นอันตราย โดยที่ผ่านมาได้ช่วยปกป้องลูกค้าไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแล้ว 1,400 ล้านครั้ง และได้เชื่อมข้อมูลรวบรวมลิงก์อันตรายที่มีความเสี่ยงจากตำรวจไซเบอร์ได้ราว 180,000 ลิงก์ 2. CALL AI FILTER บริการกรองและแจ้งเตือนสายเรียกเข้าที่เสี่ยงจะเป็นมิจฉาชีพ โดยใช้ AI ประมวลผลข้อมูลที่รวบรวมจากพฤติกรรมการใช้งานมือถือของมิจฉาชีพ และข้อมูลหมายเลขต้องสงสัยที่ได้จากตำรวจไซเบอร์รวมกว่า 300,000 หมายเลข 3. SMS AI FILTER บริการแจ้งเตือน SMS อันตราย โดยจะเปิดให้บริการในปี 2568 นี้”