December 05, 2025

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกาศรอบไฟนอลเวที ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” โจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” ทีม AINU เจ้าของโซลูชัน TH Welcome ID ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Digital ID สำหรับชาวต่างชาติในไทย ให้เข้าถึงบริการและยืนยันตัวตนกับทั้งรัฐและเอกชนได้อย่างสะดวก น่าเชื่อถือใช้เทคโนโลยี blockchain เพื่อความปลอดภัย ตรวจสอบได้ — ด้วย concept สสส = สะดวก สบายใจและสอดรับความมั่นคง เป็นตัวตนดิจิทัลที่ทุกฝ่ายวางใจ ชนะใจกรรมการ คว้ารางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโอกาสในการต่อยอดโซลูชัน Digital ID สำหรับคนต่างด้าวสู่การใช้งานจริง ยกระดับ Digital ID ไทยเพื่อธุรกรรมออนไลน์ที่ทุกคนมั่นใจ!

นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า เวที “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID”ถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนา ผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีใจรักในนวัตกรรม มาร่วมกันออกแบบโซลูชันที่จะเข้ามาพลิกโฉมการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงกับระบบที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพ เกิดการต่อยอด สู่การใช้งานได้จริง และขยายผลได้ในอนาคต เพราะ ETDA เชื่อมั่นว่าพลังความร่วมมือและไอเดียสร้างสรรค์จากที่นี่ จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบ Digital ID ที่รองรับคนต่างด้าวอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นในการเข้าถึงบริการทั้งภาครัฐและเอกชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น

สำหรับการแข่งขัน ETDA Hackathon ภายใต้โจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” นี้ ETDA เปิดกว้างให้ผู้เข้าแข่งขันได้ออกแบบและพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนต่างด้าวในหลากหลายมิติ ตั้งแต่การลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน การเข้าถึงข้อมูลและบริการที่จำเป็น การทำธุรกรรมทางการเงิน การใช้บริการด้านสุขภาพ หรือแม้แต่การติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐ สิ่งที่เรามองหาคือโซลูชันที่ไม่เพียงแต่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ต้องคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX/UI) ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy & Security) การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Compliance) และที่สำคัญคือศักยภาพในการนำไปพัฒนาต่อยอดและใช้งานได้จริง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เอื้ออำนวย และเป็นมิตร โดยเส้นทางการแข่งขันสำหรับโจทย์ที่ 2 นี้ เริ่มเปิดรับสมัครพร้อมกับโจทย์แรก และได้รับความสนใจจากทีมผู้พัฒนาและนักออกแบบเป็นจำนวนมาก ก่อนผ่านกระบวนการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจนได้ 10 ทีมสุดท้าย ได้แก่ 1. ทีม AINU 2. ทีม BCI : Human Right คนนี้แหละใช่จริงจริง 3. ทีม Davoy 4. ทีม Global Helpcare Solutions 5. ทีม InDistinct 6. ทีม keroro 7. ทีม Lorem Dimsum 8. ทีม Onochayama 9. ทีม Zimplexity และ 10. ทีม แพวบุ้คต๊ะฟ้า ซึ่งทั้ง 10 ทีมนี้ได้เข้าร่วมกิจกรรม Pre-Hack Workshop ที่ ETDA จัดขึ้น โดยเฉพาะ Workshop ครั้งที่ 3 ที่เน้นเนื้อหาสำคัญและ Use Cases ที่เกี่ยวข้องกับ Digital ID for Foreigners โดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญของ ETDA สำนักงาน กสทช. และสำนักสุขภาพดิจิทัล กระทรวงสาธารณสุข ควบคู่กับการให้คำปรึกษาแบบ One-on-One เพื่อลับคมไอเดียและเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ก่อนเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันนี้ (17 พฤษภาคม 2568) ที่ทุกทีมได้นำเสนอผลงาน (Pitching) ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้บริหารจาก ETDA, สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, สำนักสุขภาพดิจิทัล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และพันธมิตรภาคเอกชน สะท้อนถึงการบูรณาการมุมมองที่หลากหลายเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมอย่างแท้จริง

หลังจากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน จากแนวคิดโซลูชันที่หลากหลายและตอบโจทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนต่างด้าวตั้งแต่การลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล การเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไปจนถึงการสร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรมออนไลน์ เป็นต้น ในที่สุดผลการแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID โจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” รอบไฟนอล  ก็ได้ทีมผู้ชนะคว้ารางวัลชนะเลิศ คือ ทีม AINU กับผลงาน “TH Welcome IDDigital ID สำหรับชาวต่างชาติในไทย ให้เข้าถึงบริการและยืนยันตัวตนกับทั้งรัฐและเอกชนได้อย่างสะดวก น่าเชื่อถือ ใช้เทคโนโลยี blockchain เพื่อความปลอดภัย ตรวจสอบได้ — ด้วย concept สสส = สะดวก สบายใจ และสอดรับความมั่นคง เป็นตัวตนดิจิทัลที่ทุกฝ่ายวางใจ คว้าเงินรางวัล 100,000 บาท ตามมาด้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ ทีม ZIMPLEXITY กับผลงาน FDID (Foreign Digital ID) แพลตฟอร์มยืนยันตัวตนดิจิทัลสำหรับคนต่างด้าว ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ ปลอดภัย เชื่อมต่อภาครัฐ-เอกชน ลดการใช้เอกสาร ต่อยอดบริการเปิดบัญชี ซิมมือถือ และสุขภาพ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ทีม ONOCHAYAMA จากผลงานระบบ Onochayama Identity เป็นโซลูชันเพื่อการกระจายศูนย์การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าและลายนิ้วมือสำหรับ Digital ID โดยเชื่อมต่อข้อมูลสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้ใช้แรงงานต่างด้าว พร้อมจัดเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลเข้ารหัส เพื่อความปลอดภัย ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท โดยทุกทีมจะได้รับประกาศนียบัตร (e-Certificate) จาก ETDA พร้อมโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรมสู่การใช้งานจริง โดย ETDA เตรียมจัดกิจกรรม “Partnership Meeting” เพื่อให้ทีมผู้ชนะจากทั้งสองโจทย์การแข่งขัน ได้ร่วมหารือแนวทางการพัฒนาและต่อยอดผลงานกับเหล่าพันธมิตรโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน และกิจกรรม “Business Matching” เพื่อสร้างเครือข่ายและโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงโอกาสในการนำเสนอผลงานบนเวที Tech Showcase Stage ในงาน Techsauce Global Summit 2025 อีกด้วย

ในฐานะที่ ETDA เป็นหน่วยงานที่มุ่งมั่นส่งเสริมและพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลของไทย โดยเน้นการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน (Co-Creation Regulator) เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า พลังแห่งความร่วมมือและสุดยอดไอเดียที่เกิดขึ้นจากเวที ETDA Hackathon ทั้งสองโจทย์ในปีนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้าน Digital ID ที่แข็งแกร่ง ทันสมัย น่าเชื่อถือ และครอบคลุมผู้ใช้งานทุกกลุ่ม รวมถึงคนต่างด้าว ผลลัพธ์ที่ได้จากการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซลูชันสำหรับ Digital ID for Foreigners จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตที่ชัดเจนของการประยุกต์ใช้ Digital ID เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ ETDA พร้อมสนับสนุนและทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้นวัตกรรมเหล่านี้สามารถนำไปใช้งานได้จริง สร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน”
นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข กล่าวทิ้งท้าย

การแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ทั้งสองโจทย์ได้สิ้นสุดลงแล้วด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม ETDA ขอขอบคุณผู้เข้าแข่งขันทุกทีม พันธมิตรทุกองค์กร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ร่วมกันจุดประกายความคิดและปลดล็อกอนาคต Digital ID ของประเทศไทย โปรดติดตามกิจกรรมและโครงการดีๆ จาก ETDA ที่จะช่วยยกระดับชีวิตดิจิทัลของคนไทยให้มั่นคงและปลอดภัยได้ทางเฟซบุ๊ก ETDA Thailand (www.facebook.com/ETDA.Thailand)

ภายใต้โจทย์ “Digital ID for Foreigners” ทีมไหนคว้าแชมป์ 17 พ.ค. นี้ รู้กัน!

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA จับมือพาร์ทเนอร์ เตรียมจัด ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID รอบชิงชนะเลิศ ชูแนวคิด “จุดประกายความคิด ปลดล็อคอนาคต Digital ID” เร่งเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมยกระดับบริการ Digital ID สำหรับการทำธุรกรรมของนิติบุคคลและคนต่างด้าว ชวนลุ้น! จากโจทย์ที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “e-Juristic Person Transaction” ทีมใดจะคว้าชัยในสนามนวัตกรรม สู่สุดยอดโซลูชัน Digital ID พลิกโฉมธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของนิติบุคคล รู้พร้อมกัน 26 เมษายนนี้

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า การเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบโซลูชัน จะช่วยเร่งให้เกิดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง และสอดคล้องกับบริบทของประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID ที่ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือ ‘หัวใจ’ ของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ลดความซับซ้อน และสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมออนไลน์ทั้งของบุคคลและนิติบุคคล ซึ่งยังมีข้อจำกัดหลายด้าน ดังนั้น ETDA จึงไม่ได้หยุดแค่การออกแบบนโยบายเพื่อการกำกับดูแล แต่ยังมุ่งสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม ผ่านกิจกรรมการแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด ปลดล็อคอนาคต Digital ID” ที่ไม่เพียงเป็นเวทีการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมยกระดับบริการ Digital ID สำหรับการทำธุรกรรมของนิติบุคคลและคนต่างด้าวเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการมีส่วนร่วม ที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมออกแบบอนาคตของ Digital ID ที่เข้าถึงได้ เชื่อถือได้ และใช้งานได้จริงในทุกมิติของสังคมดิจิทัลไทย ผ่านโจทย์การแข่งขันสุดท้าทาย 2 เวที กับ 2 โจทย์ใหญ่ ได้แก่ โจทย์ที่ 1 “e-Juristic Person Transaction” การทำธุรกรรมของนิติบุคคลแบบอิเล็กทรอนิกส์ และโจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” มุ่งพัฒนาแนวทางการพิสูจน์ตัวตนสำหรับคนต่างด้าวในไทย

 

สำหรับเวทีการแข่งขันเวทีแรก กับ โจทย์ที่ 1 “e-Juristic Person Transaction” ที่มุ่งเฟ้นหาโซลูชัน Digital ID ที่เข้ามายกระดับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับกลุ่มนิติบุคคล ตั้งแต่เปิดรับสมัครในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา พบว่า ได้รับการตอบรับจากทีมผู้เข้าแข่งขันที่ร่วมสมัครภายใต้โจทย์นี้จำนวนมาก รวมกว่า 34 ทีม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัด Workshop เพื่อปูพื้นฐานให้กับผู้เข้าแข่งขัน พร้อมจัด Pre-Hack Workshop ถึง 2 ครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมและให้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นแก่ผู้เข้าแข่งขันก่อนลงสนามจริง ที่เน้นเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อสำคัญ เช่น วิธีการเชื่อมต่อ API ระบบ BDEX ทั้งยังมีการแบ่งปัน Use Cases ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้ e-Stamp Duty และ e-Signature ในการธุรกรรมออนไลน์จริง ก่อนที่เหล่าคณะกรรมการจะทำการคัดเลือก ให้เหลือ 10 ทีมสุดท้าย ที่ไปต่อในกิจกรรม Orientation Day เตรียมพร้อมทุกทีมก่อนเข้าสู่สนามแข่งจริงในรอบชิงชนะเลิศ

โดย 10 ทีมที่ผ่านรอบสุดท้าย ได้แก่ 1.ทีม ATTRA CARD 2.ทีม BCI: IdentityX 3.ทีม BOL 4.ทีม DeepPocket 5.ทีม Creden 6.ทีม EazyLaw 7.ทีม Finema Co. Ltd. 8.ทีม ID Pivot 9.ทีม InDistinct และ 10.ทีม TDID ซึ่งแต่ละทีมได้นำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ Digital ID ที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับกลุ่มนิติบุคคลที่สะดวก ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน ตัวอย่าง เทคโนโลยีที่ทีมเลือกมาประยุกต์ใช้กับโซลูชัน เช่น e-Signature, eKYC, Smart Contract, Public Key Infrastructure ส่วนการทำธุรกรรมที่ผู้เข้าแข่งขันเห็นความสำคัญและร่วมหยิบยกมาใช้เป็น Use Case ที่มีมุมมองแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น การทำสัญญา การลงนามในเอกสาร การลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงเอกสาร การยื่นภาษี การใช้งานเอกสารในชั้นศาล การตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลนิติบุคคล เป็นต้น

โดยกิจกรรม ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ภายใต้โจทย์ที่ 1 “e-Juristic Person Transaction” รอบชิงชนะเลิศ เตรียมจัดขึ้นในวันที่ 26 เมษายน 2568 ณ House Samyan โรงหนังที่ 4 สามย่านมิตรทาวน์ ชั้น 5 โดยความร่วมมือระหว่าง ETDA และพาร์ทเนอร์สำคัญ ได้แก่ กรมการปกครอง, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD), กรมสรรพากร, กรมศุลกากร, สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.), สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA),สํานักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา, สำนักสุขภาพดิจิทัล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และ บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด โดยเวทีนี้ ถือเป็นการแข่งขันรอบตัดเชือกครั้งสุดท้าย ที่ทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ จะต้องแข่งขันกันในรูปแบบ Pitching ด้วยการนำเสนอไอเดีย นวัตกรรมที่สอดคล้องกับโจทย์การแข่งขัน เป็นเวลาทีมละ 5 นาที และถามตอบอีก 10 นาที ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากหลากหลายสาขาที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA คุณจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA คุณจันทร์เจริญ แบร์โรวส์ ผู้อำนวยการกองบริหารการเสียภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง คุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง Techsauce ผู้บริหาร จากสํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และคุณกิตติ ขุนสนิท ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมแพลตฟอร์มและบริการดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)

โดยทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และ รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ประกาศนียบัตร (e-Certificate) จาก ETDA พร้อมโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรมสู่การใช้งานจริงไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์ภาครัฐและเอกชนพร้อมโอกาสนำเสนอผลงานบนเวที Tech Showcase Stage ในงาน Techsauce Global Summit 2025

ผู้สนใจสามารถรับชม Live ถ่ายทอดสดการแข่งขันและร่วมลุ้นไปพร้อมกันทาง เฟซบุ๊ก ETDA Thailand (https://www.facebook.com/ETDA.Thailand) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.etda.or.th/th/digital-id-hackathon 

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) ผนึกกำลังพาร์ทเนอร์ ภาครัฐ เอกชน ลุยเปิดตัว‘ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID’ ชูแนวคิด ‘จุดประกายความคิด ปลดล็อคอนาคต Digital ID’ เฟ้นหาสุดยอดโซลูชัน นวัตกรรม ต่อยอด Digital ID สำหรับ ‘นิติบุคคลและคนต่างด้าว’ ชวนคนสาย Tech ที่มีไอเดีย มาร่วมพัฒนา Digital Ecosystem เพื่อการทำธุรกรรมออนไลน์ที่มั่นใจปลอดภัยด้วย Digital ID ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2568

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA เปิดเผยว่า "ETDA มุ่งมั่นผลักดัน Digital ID หรือการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล สู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับทุกธุรกรรมออนไลน์ที่ทุกคนเข้าถึงได้” โดยที่ผ่านมา ETDA ได้ดำเนินการภายใต้กรอบการขับเคลื่อน Digital ID ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2565 - 2567) ซึ่งได้สร้างรากฐานสำคัญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน Digital ID ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านบริการ ThaID (ไทยดี) ของกรมการปกครองที่เป็น Digital ID หลักของบุคคลธรรมดาสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์กับภาครัฐ รวมถึงการพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าทางดิจิทัล (Face Verification Service: FVS) ที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยของการยืนยันตัวตนผ่านข้อมูลชีวมิติ เป็นต้น

ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ETDA ได้ต่อยอดสู่ กรอบแนวคิด Digital ID ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2568 – 2570) โดยมุ่งเน้นให้ Digital ID เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สะดวก ปลอดภัย ไร้รอยต่อ และครอบคลุมทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ผ่านกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1) การอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการภาครัฐผ่าน Digital ID 2) การสร้างความน่าเชื่อถือของ Digital ID เพื่อช่วยลดปัญหาการปลอมแปลงและฉ้อโกง 3) การสนับสนุนการทำธุรกรรมของนิติบุคคลด้วย Digital ID 4) การพัฒนากลไก Data Sharing ระหว่างภาคธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐ 5) การวางโครงสร้างพื้นฐานให้คนต่างด้าวสามารถใช้ Digital ID ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 6) สร้างกลไกติดตามและประเมินความเสี่ยงของผู้ให้บริการ Digital ID

ETDA คาดหวังว่า ภายในปี พ.ศ. 2570 ประชาชนจะสามารถใช้ Digital ID ในการเข้าถึงบริการ e-Service ได้ไม่น้อยกว่า 1,000 บริการ ขณะเดียวกัน Digital ID จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการ ลดปัญหาการปลอมแปลงและการฉ้อโกงในแพลตฟอร์มออนไลน์และธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงการได้รับการยอมรับและใช้งานอย่างแพร่หลายในภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะ Document Wallet ที่จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของการทำธุรกรรมในอนาคต ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า การขับเคลื่อน Digital ID ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ

ETDA Hackathon” เวทีเฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลดล็อก Digital ID

แม้จะมีความก้าวหน้ามากขึ้น แต่ยังพบความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะ กลุ่มนิติบุคคลและคนต่างด้าว ที่ยังคงเผชิญข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการ Digital ID ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการตรวจสอบข้อมูลการมอบอำนาจโดยผู้แทนนิติบุคคลรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของคนต่างด้าวที่ยังไม่มีมาตรฐานกลางรองรับในทุกภาคส่วน ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับข้อจำกัดรวมถึงแผนยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ETDA จึงจับมือพาร์ทเนอร์ ได้แก่ กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด จัดการแข่งขัน “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” ภายใต้แนวคิด ‘จุดประกายความคิด ปลดล็อคอนาคต Digital ID’  เพื่อมุ่งเฟ้นหานวัตกรรม โซลูชัน Digital ID ที่จะเข้ามาช่วยในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล สำหรับกลุ่มนิติบุคคลและคนต่างด้าวซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ แต่ยังคงเผชิญความท้าทายในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมุ่งเน้นในการเฟ้นหานักพัฒนานวัตกรรม โซลูชัน ที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมสร้างสรรค์ไอเดียที่ช่วยให้ทุกภาคส่วนเข้าถึงบริการออนไลน์ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของทั้งภาคธุรกิจและประชาชน

การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 โจทย์สำคัญ ได้แก่:

  • โจทย์ที่ 1: e-Juristic Person Transaction มุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันที่จะช่วยให้การทำธุรกรรมของนิติบุคคลเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
  • โจทย์ที่ 2: Digital ID for Foreigners มุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันที่จะช่วยให้คนต่างด้าวสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ในประเทศไทยได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขัน ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 ก่อนดำเนินการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และประกาศรายชื่อทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบ 15 ทีม ในวันที่ 4 เมษายน 2568 จากนั้นผู้เข้าแข่งขันทุกทีมจะต้องไปต่อกับกิจกรรม Workshops และ Mentoring Sessions จากผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าด้าน Digital ID ของประเทศไทย ที่จะได้ ทั้งเทคนิคการออกแบบ Digital ID ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง  หลักการบริหารจัดการข้อมูลและความปลอดภัยในระบบ Digital ID ตลอดจนคำแนะนำเชิงเทคนิคในการพัฒนาโซลูชัน Digital ID ให้มีประสิทธิภาพและขยายผลได้ ก่อนคัดเลือกให้เหลือ 10 ทีมสุดท้ายที่จะไปต่อในรอบไฟนอลกับการแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายน 2568

สำหรับสิทธิประโยชน์และเงินรางวัล ที่ทีมเข้าร่วมการแข่งขันจะได้รับ มีมูลค่ารวมกว่า 360,000 บาท โดยทีมที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมรางวัลชนะเลิศในแต่ละโจทย์จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับ 50,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับ 30,000 บาท อย่างละ 2 รางวัล รวมทั้งหมด 6 รางวัล นอกจากนี้ ทุกทีมที่ชนะจะยังได้รับโอกาสในการนำเสนอผลงานบน Tech Showcase Stage ในงาน Techsauce Global Summit 2025 พร้อมประกาศนียบัตร (e-Certificate) รับรองผลงานจาก ETDA พร้อมโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรม สร้างความพร้อมก่อนใช้งานจริงไปกับ ETDA Sandbox รวมถึงโอกาสในการในการถึง Venture Capital  หรือเหล่านักลงทุนที่จะมาร่วมต่อยอดและพัฒนานวัตกรรม Digital ID สู่การใช้งานในวงกว้าง ไปพร้อมกับ ETDA และเครือข่ายพาร์ทเนอร์ เพื่อสนับสนุนการขยายผลสู่ธุรกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศด้วย Digital ID

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” จะต้องมีคุณสมบัติ คือ อายุ 20 ปีขึ้นไป รวมเป็นทีม ทีมละ 3 - 5 คน ที่สำคัญต้องมีความสามารถในการพัฒนา Digital Solution ตอบโจทย์การแข่งขัน ที่พร้อมเรียนรู้และพร้อมเข้าร่วมกิจกรรมที่ ETDA จัดขึ้นภายใต้การแข่งขัน ETDA Hackathon โดยสามารถสมัครร่วมโครงการได้ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 ที่ ลิงก์ https://www.etda.or.th/th/digital-id-hackathon สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือติดตามความเคลื่อนไหวที่เพจ Facebook : ETDA Thailand

"Digital ID คือกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ETDA ขอเชิญชวนนักพัฒนานวัตกรรม โซลูชัน และผู้มีไอเดีย มาร่วมสร้างโซลูชันที่จะแก้ปัญหาจริง ใช้งานได้จริง และสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับประเทศผ่านเวที ETDA Hackathon มาร่วมปลดล็อกอนาคต Digital ID ไปด้วยกัน!" ดร.ชัยชนะ กล่าวทิ้งท้าย

จุดประกายอนาคต Digital ID สำหรับนิติบุคคลและคนต่างด้าว

Page 1 of 3
X

Right Click

No right click