December 05, 2025

ตลาดหุ้นฮ่องกงกลายเป็นที่หมายปองของบริษัทจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนหรือ IPO โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ตลาดหุ้นฮ่องกงขึ้นครองอันดับหนึ่งของโลกในฐานะตลาด IPO ด้วยมูลค่า IPO รวมกว่า 13,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (กว่า 4 แสนล้านบาท) ประกอบกับ Hong Kong Exchanges and Clearing Limited (HKEX) ผู้ให้บริการตลาดหลักทรัพย์ในศูนย์กลางการเงินแห่งเอเชียแห่งนี้ ได้ปฏิรูปกรอบการดำเนินงานและกฎเกณฑ์การจดทะเบียนบริษัทหลายประการ ทำให้สามารถขับเคลื่อนกิจกรรมการระดมทุนได้อย่างทรงพลังและต่อเนื่อง

Innovative Food and Beverage Holding (IFBH) Limited ผู้ผลิตเครื่องดื่มของไทยได้ จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการจดทะเบียนแบบ Primary Listing เพื่อซื้อขายในกระดานหลัก ทั้งนี้ บริษัท IFBH Limited ได้ระดมทุนไปแล้วกว่า 140 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (กว่า 4,500 ล้านบาท) IFBH Limited กลายเป็นหนึ่งในบริษัทจำนวนร้อยกว่าแห่งจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงตลาดทุนที่มีสภาพคล่องสูง โดยหากดูสัดส่วนบริษัทจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2566 จะพบว่า จากบริษัททั้งหมด 163 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ มีจำนวนถึง 83 แห่งที่เลือกจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (ข้อมูลจากรายงานวิจัยร่วมระหว่าง DealStreetAsia และ HKEX)

 

ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการซื้อขายและระดมทุนที่คึกคักที่สุดในเอเชีย ด้วยมูลค่าการซื้อขาย เฉลี่ยต่อวัน (ADT: average daily turnover) มากกว่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณหนึ่งล้านล้านบาท) นับตั้งแต่ต้นปี หนึ่งในห้าของปริมาณการซื้อขายมาจากนักลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่ผ่านระบบ “Stock Connect” ที่เชื่อมโยงกับตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น

Stock Connect เป็นระบบการซื้อขายระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และตลาดหลักทรัพย์จีนแผ่นดินใหญ่ (เซี่ยงไฮ้ และ เซินเจิ้น) ช่วยให้นักลงทุนจากทั้งสองตลาดสามารถซื้อขายหุ้นของอีกฝ่ายได้ ระบบ Stock Connect ทำให้ฮ่องกงเป็นตลาดสากลเพียงแห่งเดียวที่นักลงทุนทั่วโลกและนักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่สามารถซื้อขายหุ้นร่วมกันได้โดยตรง บริษัทต่างชาติที่จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงมีสิทธิ์ระดมทุนจากระบบ Stock Connect ได้ก็ต่อเมื่อผ่านเกณฑ์ที่กำหนด

นอกเหนือจากการจดทะเบียนหลักทรัพย์หลักหรือ Primary Listing HKEX ยังเปิดรับจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รอง หรือ Secondary Listing สำหรับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดอื่นเป็นตลาดแรกไปแล้ว การจดเทะเบียนแบบ Secondary Listing เป็นการเปิดช่องทางระดมทุนเพิ่มเติม โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การที่ HKEX ให้การยอมรับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย (IDX) ในฐานะ “ตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับ” (RSE: Recognised Stock Exchanges) ทำให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดทั้งสองแห่งนี้เป็นตลาดแรกไปแล้ว สามารถ จดทะเบียนแบบ Secondary Listing หรือจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเป็นตลาดรองเพื่อเข้าถึงนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นได้

การจดทะเบียนแบบ Secondary Listing มีข้อกำหนดด้านกฎระเบียบน้อยกว่าและต้นทุนที่ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับการจดทะเบียนแบบ Primary Listing และยังสามารถเข้าถึงฐานนักลงทุนขนาดใหญ่หลากหลายกลุ่มในตลาดฮ่องกงได้เช่นกัน บางบริษัทเริ่มจากจดเข้า Secondary Listing ก่อน แล้วแปลงสถานะย้ายมาจดเข้า primary listing ในภายหลัง เพื่อให้ได้สิทธิ์เข้าสู่การซื้อขายผ่าน Stock Connect ทั้งนี้ จากสถิติของ HKEX พบว่า บริษัทที่มีสิทธิ์เข้าถึงนักลงทุนจีนโดยผ่านระบบ Stock Connect มักจะมีมูลค่าการซื้อขายหุ้นต่อวันที่สูงขึ้น โดยบริษัทที่จดทะเบียนหลักที่ตลาดหุ้นฮ่องกง หรือ Primary Listing จะสามารถเข้าถึงนักลงทุนจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ได้

 

คำอธิบายภาพ - ฮ่องกงครองอันดับหนึ่งของโลกในฐานะแหล่งระดมทุนผ่าน IPO ในครึ่งแรกของปี 2568

แหล่งเงินทุนในฮ่องกงไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะการระดมทุนผ่าน IPO เท่านั้น แต่ยังมีตลาดรองที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งเอื้อต่อการระดมทุนเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย (follow-on fundraising) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทจดทะเบียนในฮ่องกงสามารถระดมทุนเพิ่มเติมรวมกันแล้วมากกว่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณหนึ่งล้านล้านบาท) โดยกว่าหนึ่งในสามของธุรกรรมทั้งหมดในตลาดตราสารทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อยู่ที่ฮ่องกงนี้เอง ตอกย้ำสถานะของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศชั้นนำของภูมิภาค

นอกจากนี้ การปฏิรูปกฎระเบียบการจดทะเบียนหลักทรัพย์ช่วงปี 2561 ทำให้บริษัทกลุ่ม “new economy” มองฮ่องกงเป็นแหล่งระดมทุนอันดับแรก ๆ โดยจากสถิติพบว่าบริษัทในกลุ่มธุรกิจสุขภาพ (healthcare) เทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคม (TMT) มากกว่า 350 ราย นับรวมกันแล้วสามารถระดมทุนได้มากกว่า 135,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท) และล่าสุดทาง HKEX ได้ต่อยอดความสำเร็จนี้ด้วยการเพิ่มบทบัญญัติ (chapter) บทใหม่เข้าไปในกฎเกณฑ์การจดทะเบียนบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ให้รองรับธุรกิจในกลุ่ม “เทคโนโลยีเฉพาะทาง” (Specialist Technology) เป็นการเฉพาะตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา เช่นธุรกิจด้านปัญญาประดิษฐ์ พลังงานรูปแบบใหม่ และวัสดุขั้นสูง ดังนั้น ตลาดหุ้นฮ่องกงจึงนับได้ว่ามีระบบนิเวศที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วสำหรับบริษัทกลุ่ม new economy พร้อมดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกที่มองหาโอกาสการลงทุนและการเติบโตใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ทางเว็บไซต์ HKEX

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โบรกเกอร์สัญชาติไทยแห่งแรกที่ออก HSI DW หรือ DW อ้างอิงดัชนีฮั่งเส็ง จัดงานสัมมนาหัวข้อ “เปิดโลกการลงทุนในตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงกับ HSI DW06” ให้กับนักลงทุนที่สนใจ โดยมีนายพงศธร ลีลาประชากุล นักวิเคราะห์การลงทุนตราสารทุนต่างประเทศ ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน วิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจจีนและฮ่องกง ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้น กลยุทธ์การลงทุน และโอกาสในการลงทุนในหุ้นกลุ่มต่างๆ และนายปวริศวร์ ภูริเวทย์คุณากร ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ ฝ่ายค้าหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า แนะนำการเริ่มต้นลงทุนใน HSI DW06 อาทิ กลไกการทำงาน ความเสี่ยง วิธีการซื้อขาย และกลยุทธ์การลงทุน นอกจากนั้นยังมี Boy DW Trader หรือนายธนภัทร ดวงจิตร จากเพจ DW Trader หุ้นใหญ่ กราฟสวย กูรูด้านการลงทุน DW มาร่วมให้มุมมองเกี่ยวกับเทคนิคการวิเคราะห์ กลยุทธ์การเข้าซื้อ-ขาย และการบริหารความเสี่ยง ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา

เปิดประสบการณ์ Immersive Show ส่งโลกแฟชั่นประชันโลกเสมือนจริง นำ 52 ดีไซเนอร์ฮ่องกงอวดผลงานพร้อม 4  ดีไซเนอร์แบรนด์ไทยรับเชิญ

 การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) ได้ลงนามข้อตกลงสามปีกับ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม (CJ ENM) หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเอเชีย ลงนามข้อตกลงสามปี ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2567 เพื่อสร้างมุมมองใหม่ต่อฮ่องกงในฐานะสถานที่น่าท่องเที่ยวผ่านซีรีส์ และรายการวาไรตี้เกาหลี และยังเป็นครั้งแรกที่องค์กรด้านการท่องเที่ยวได้ร่วมวางแผนกลยุทธ์ควบคู่กับบริษัทด้านความบันเทิงอย่างซีเจ อีเอ็นเอ็ม ซึ่งมีประสบการณ์ในการผลิตซีรีส์และวาไรตี้ที่ได้รับกระแสตอบรับล้นหลามในระดับโลกอย่าง ซีรีส์ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing On You), ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (Goblin: The Lonely and Great God)เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (Hospital Playlist), วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย (Vincenzo) รวมทั้งรายการวาไรตี้อย่าง Youn's Kitchen และ New Journey to the West การร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ชมได้นึกถึงฉากที่ชื่นชอบจากซีรีส์เกาลี และรายการวาไรตี้ต่างๆ ในบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นในฮ่องกง และยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมื่อสามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อีกครั้งด้วย

การท่องเที่ยวฮ่องกง และบริษัทสัญชาติเกาหลีอย่าง ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงได้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหารายการมากมายที่ผลิตโดย ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2567 โดยจะนำเสนอภาพของไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมฮ่องกงอันเป็นเอกลักษณ์ สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ในปัจจุบัน คอนเทนต์อันโด่งดังที่ทางซีเจ อีเอ็นเอ็มผลิตขึ้นนั้น ถ่ายทอดไปแล้วกว่า 200 ประเทศ และมีการรับชมทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังระดับโลกที่เป็นพันธมิตรกับซีเจ อีเอ็นเอ็มอีกด้วย

เมื่อการจำกัดการเดินทางสิ้นสุดลง ภาพบรรยากาศของฮ่องกงก็จะได้รับการถ่ายทอดออกไปในฐานะฉากหลังของละครและรายการวาไรตี้หลายประเภทที่ผลิตโดยบริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ที่เคยฝากผลงานการผลิตซีรีส์สุดฮิตและได้รับกระแสตอบรับที่ดีทั่วโลก อย่าง ซีรีส์ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing On You), ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (Goblin: The Lonely and Great God)เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (Hospital Playlist), วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย (Vincenzo) รวมทั้งรายการวาไรตี้อย่าง Youn's Kitchen และ New Journey to the West

หุ้นส่วนทั้งสองจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อก่อให้เกิดความกลมกลืนของผลงาน ซึ่งรวมถึงการให้คำแนะนำด้านสถานที่และมุมมองทางวัฒนธรรมของฮ่องกงที่จะปรากฏในแต่ละรายการ ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงติดอันดับลิสต์สถานที่น่าท่องเที่ยวของคอซีรีส์เกาหลีอย่างแน่นอน

ดร. วายเค แปง ประธานการท่องเที่ยวฮ่องกง ผู้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจออนไลน์ ระหว่าง นายเดน เฉิง ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวฮ่องกง และ นายลี ซังมู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายขายโฆษณา และพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม กล่าวว่า “การท่องเที่ยวฮ่องกงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นองค์กรด้านการท่องเที่ยวแรกที่มีการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ลักษณะนี้กับบริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม เป้าหมายของเราคือการสอดแทรกฮ่องกงในเนื้อหาซีรีส์และรายการวาไรตี้เกาหลีชื่อดัง ซึ่งจะช่วยเสริมสถานะให้ฮ่องกงเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อีกครั้ง เราคาดการณ์ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะทวีความเข้มข้นขึ้นเมื่อโรคระบาดนี้สิ้นสุดลง ดังนั้น การท่องเที่ยวฮ่องกงจึงออกตัวก่อนด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรที่ทรงอิทธิพลในด้านสื่อ เพื่อให้ฮ่องกงยังคงอยู่ในสายตาและความสนใจของผู้ชมทั่วโลกอยู่เสมอ”

นายลี ซังมู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายขายโฆษณาและพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม กล่าวปิดท้ายว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เป็นพันธมิตรกับการท่องเที่ยวฮ่องกง และหยิบยกเสน่ห์ และความน่าตื่นตาตื่นใจของฮ่องกง ออกสู่สายตาของผู้ชมผ่านซีรีส์และรายการวาไรตี้ที่เป็นที่นิยมของเรา และด้วยคอนเทนต์ระดับพรี
เมียมของซีเจ อีเอ็นเอ็ม ที่ผ่านการพิสูจน์ทั้งยอดการรับชมและอิทธิพลในระดับโลก เรายังคงมุ่งมั่นที่จะขยายผลงานสู่ตลาดนานาชาติผ่านกลยุทธ์การร่วมมือจากทั่วโลก”

###

X

Right Click

No right click