ทีทีบีไดรฟ์ โดยทีเอ็มบีธนชาต จัดโปรโมชันพิเศษเอาใจคนอยากซื้อรถยนต์ใหม่ส่งท้ายปี ภายในงาน Motor Expo 2024 เมื่อออกรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) และจัดสินเชื่อรถยนต์ใหม่กับ ทีทีบีไดรฟ์ พร้อมเปิดบัญชี ttb all free และสมัครเข้าใช้งาน แอป ttb touch รับส่วนลดช่วยผ่อนชำระค่างวดสินเชื่อรถยนต์ สูงสุด 3,000 บาท (เฉพาะแบรนด์และรุ่นย่อยที่ร่วมรายการจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการเท่านั้น) พิเศษขึ้นอีก เมื่อสมัครสินเชื่อผ่านฟีเจอร์ My Credit บนแอป ttb touch ซึ่งสามารถรู้วงเงินเบื้องต้นก่อนออกรถใหม่ภายใน 2 นาที รับของสมนาคุณ ฟรี Power Bank สีดำ ขนาดความจุ 10,000 mAh มูลค่า 990 บาท ที่บูททีทีบีไดรฟ์ ภายในงาน Motor Expo 2024 ระหว่างวันที่ 28 พ.ย. 2567 – 10 ธ.ค. 2567 โดยสินเชื่อต้องได้รับการอนุมัติสัญญาและรับรถยนต์ภายในวันที่ 28 ก.พ. 2568
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/motor-expo-2024
และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์ ได้ที่ www.ttbbank.com หรือ ttb contact center 1428 และ www.facebook.com/ttbDRIVE
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จัดกิจกรรมระดมผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตร ร่วมเปิดมุมมองเศรษฐกิจและแบ่งปันองค์ความรู้ เพื่อเสริมแกร่งให้กับองค์กรธุรกิจ ผ่านงานสัมมนาให้ความรู้พร้อมกิจกรรม ttb I Sustainable Success Together “ต่อยอด เติบโต ยั่งยืน” แก่ผู้ประกอบการใน 4 ภูมิภาค ตอกย้ำการเป็นธนาคารพันธมิตรที่พร้อมช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและเอสเอ็มอี สามารถวางแผนการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ทีทีบีเป็นธนาคารพันธมิตรที่พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนธุรกิจ ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และดิจิทัลโซลูชันทางการเงินแบบครบวงจร พร้อมกับเสริมด้วยองค์ความรู้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและเอสเอ็มอี สามารถวางแผนให้ธุรกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง จึงได้จัดกิจกรรมเดินสายแชร์ความรู้ทางเศรษฐกิจแก่ผู้ประกอบการ ให้รู้ทันเศรษฐกิจ พร้อมเปิดมุมมองเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ใน 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา ภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และภาคกลาง กรุงเทพมหานคร
ในงานสัมมนา ttb I Sustainable Success Together “ต่อยอด เติบโต ยั่งยืน” ดร.จิรเมธ มโนศิรินุกูล ผู้เชี่ยวชาญ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบีธนชาต ได้กล่าวถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจในปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยชะลอตัวจากโครงสร้างและพฤติกรรมของประชากรที่เปลี่ยนไป อุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังอยู่ในขาลง และเจาะลึกปัจจัยที่เป็นแรงหนุนสำคัญของเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค รวมทั้งยังมีแรงกดดันจากสงครามการค้ารอบใหม่หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาที่ประเทศไทยจะต้องจับตาและเตรียมพร้อมในการรับมือ นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากตัวแทนผู้บริหาร 2 องค์กร ภายใต้หัวข้อ “ก้าวข้ามขีดจำกัด... สู่การเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างมืออาชีพ” โดย รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, กรรมการ บมจ. ไทยเพรซิเด้นท์ฟูดส์ และผู้ร่วมก่อตั้ง บจก. แฟมซ์ ได้แนะนำ 3 Magic Tools เครื่องมือที่จะช่วยให้ธุรกิจครอบครัวเติบโตได้อย่างยั่งยืน ได้แก่ 1) การจัดสมดุลระหว่างการควบคุม (Control) การเติบโต (Growth) และสภาพคล่อง (Liquidity) 2) การมีธรรมนูญครอบครัวเป็นกรอบการทำงาน 3) การดูแลความสัมพันธ์ของบุคลากรในกลุ่มธุรกิจครอบครัวให้ราบรื่น
ขณะที่นางกนกพร จูฑา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต ให้ข้อมูลเจาะลึกถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้ามามีบทบาท และธุรกิจยังต้องมีความใส่ใจในด้านของสังคมร่วมด้วย ผู้ประกอบการต้องก้าวให้ทัน ด้วยเครื่องมือดิจิทัลที่สามารถตอบสนองการทำธุรกรรมทางการเงิน บริหารการรับชำระเงิน และการจ่ายเงิน ได้ทันยุคสมัย ตรงต่อความคาดหวังของผู้บริโภค ซึ่งธนาคารมีเครื่องมือและบริการทางการเงินที่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าธุรกิจ ได้แก่ ทีทีบี สมาร์ทช็อป (ttb smart shop) แอปจัดการร้านค้าครบวงจร ที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบครัน ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจให้ “รับไว รู้ลึก ธุรกิจปังปัง”, ทีทีบี เพย์ โรลพลัส (ttb payroll plus) บริการโอนจ่ายเงินเดือนและดูแลสวัสดิการพนักงานแบบครบวงจร รวมถึง my work by ttb ระบบบริหารงานบุคคลแบบมืออาชีพ ปิดท้ายด้วยการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้บริหารของธนาคารและลูกค้า เพื่อร่วมสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถต่อยอด เติบโตอย่างยั่งยืน
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เป็นหนึ่งในภาคเอกชนไทยที่เข้าร่วมในงานประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP29) โดยมีนายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมเป็นวิทยากรงานเสวนาในกิจกรรมคู่ขนาน (Side Event) การประชุมรัฐภาคีฯ หัวข้อ “Financing the Transition" นำเสนอในเรื่อง "Empowering SMEs and Sustainable Development through Green and Blue Financing" ซึ่งทีทีบีให้ความสำคัญและดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าตามเป้าหมาย Net-zero Commitment ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในความท้าทายเร่งด่วนที่สุดของโลกในปัจจุบัน ซึ่งทีทีบีตระหนักถึงบทบาทสำคัญและความรับผิดชอบ พร้อมนำความสามารถมาสร้างโซลูชันทางการเงินที่จะช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่าน เพราะบทบาทของธนาคารไม่ใช่การนำพาองค์กรไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยทีทีบีมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนในการดำเนินงานเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero Economy) ผ่านการให้สินเชื่อ ให้คำปรึกษาลูกค้า และสนับสนุนบนเส้นทางการเปลี่ยนผ่าน
ทีทีบีมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามกรอบ B+ESG ทุกกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจต้องอยู่บนพื้นฐานของการสร้างการเติบโตและยั่งยืน เพราะธุรกิจ (Business) หรือ B ต้องเติบโตอย่างแข็งแรง ทีทีบีจึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทางการเงินที่ยั่งยืนเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยนำกฎเกณฑ์ด้าน ESG มาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อและการลงทุน พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มุ่งเน้นส่งเสริมด้าน ESG ให้กับลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล เช่น สินเชื่อสีเขียว สินเชื่อสีฟ้า สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน การเงินเพื่อการปรับตัวสู่ความยั่งยืน ตราสารหนี้สีเขียว ตราสารหนี้สีฟ้า กองทุุนเพื่อการลงทุุนด้าน ESG และยังมีบริการให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาด้าน ESG ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ พร้อมมีเป้าหมายช่วยเหลือลูกค้าให้มีความเข้าใจและสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้าน ESG เพื่อให้ลูกค้ามีความรับผิดชอบและเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
ภายในงาน นายกมลพันธ์ ได้กล่าวถึงการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านว่า “ธนาคารได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบจากกฎกติกาต่าง ๆ ที่จะบังคับใช้ในอนาคต เช่น มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM-Carbon Border Adjustment Mechanism) ประกอบกับการวิเคราะห์พอร์ทสินเชื่อของลูกค้าตามความเสี่ยงของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ เพื่อวางแผน จัดกิจกรรมการมีส่วนร่วม และสร้างเกราะป้องกันให้กับลูกค้าตั้งแต่เริ่มต้น โดยทีทีบีจะจัดหาพันธมิตรด้านโซลูชันทางเทคนิคสำหรับการลดใช้พลังงาน การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เป็นต้น และในปี 2567 ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน Green Transformation เพื่อช่วยสนับสนุนทางการเงินและส่งเสริมการลงทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน
“จากการรวมปัจจัยด้าน ESG เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้คำปรึกษาและการอนุมัติสินเชื่อตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารเห็นถึงความสนใจในสินเชื่อ ESG ที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า โดยตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจของทีทีบีได้สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นและแก้ปัญหาให้ผู้คนอย่างแท้จริง ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ตอกย้ำความสำเร็จจากรางวัลด้านความยั่งยืนที่ธนาคารได้รับมาต่อเนื่อง สะท้อนชัดถึงการลงมือทำอย่างแท้จริงของธนาคารในการขับเคลื่อนสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน” นายกมลพันธ์ กล่าวสรุป