

ในวันที่โลกหมุนเร็วเกินจะคาดเดา ความไม่แน่นอนกลายเป็นเพื่อนร่วมทางของทุกธุรกิจ ลูกค้าพร้อมเปลี่ยนใจในเสี้ยววินาที ขณะที่ต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่พุ่งสูงขึ้นไม่หยุด วันนี้ การรักษาหัวใจของลูกค้าเดิมจึงไม่ใช่แค่เป้าหมาย แต่คือ “ภารกิจสำคัญ” ที่จะตัดสินอนาคตของแบรนด์ LINE ในฐานะแพลตฟอร์มสื่อสารอันดับหนึ่งที่อยู่เคียงข้างธุรกิจไทย มุ่งมั่นสนับสนุนธุรกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วย LINE for Business โซลูชันการตลาดแบบครบวงจร ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่เครื่องมือ แต่คือพลังที่ช่วยแบรนด์ฝ่าฟันทุกความเปลี่ยนแปลง ด้วยกลยุทธ์ “4Cs” ที่ออกแบบมาเพื่อสร้าง ภาพจำในใจลูกค้าอย่างยั่งยืน ที่จะช่วยให้ทุกแบรนด์สร้างประสบการณ์ที่ตรงใจ และอยู่ในความทรงจำของลูกค้าแม้ในวันที่โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
![]()
คุณสกุลรัตน์ ตันยงศิริ ผู้อำนวยการธุรกิจ LINE Official Account จาก LINE ประเทศไทย ได้กล่าวถึงเทคนิคการสร้างภาพจำของแบรนด์ในงาน Marketing Oops! Summit 2025 ไว้ว่า “ในยุคที่ลูกค้าเลือกแบรนด์ได้ภายในไม่กี่วินาที สิ่งที่แบรนด์ต้องให้ความสำคัญไม่ใช่แค่การเข้าถึง แต่คือการสร้างความรู้สึกผูกพันที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อว่าการสร้าง Brand Memory ไม่ใช่เรื่องของการทำการตลาด
ให้ดังที่สุด แต่คือการสื่อสารอย่างมีความหมายในทุกจุดสัมผัส และนี่คือเหตุผลที่ LINE มุ่งพัฒนาโซลูชันที่ช่วยให้ทุกธุรกิจสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืนและเป็นธรรมชาติที่สุด”
ถอดรหัส 4Cs กลยุทธ์เด็ดที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม
การสร้าง "Brand Memory" หรือ ภาพจำแบรนด์ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการโฆษณาเพียงครั้งเดียว แต่ต้องอาศัยการออกแบบประสบการณ์ร่วมในทุก Touchpoint อย่างมีระบบ ผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญที่แบรนด์สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที เพื่อสร้างความผูกพันระยะยาวกับลูกค้า
1. Communicate: สื่อสารให้ตรงใจแบบ Real-time
หัวใจสำคัญคือการสื่อสารแบบเจาะจงกลุ่มด้วยการแบ่งกลุ่มลูกค้า (Customer Segmentation) ให้ชัดเจน ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า "แบรนด์เข้าใจฉัน" พร้อมสื่อสารไปในช่วงเวลาที่ใช่ มีความสอดคล้องกับปัจจุบันในแบบ Real-time และสอดคล้องกับบริบทความสนใจในขณะนั้นหรือ Contextual Marketing เพราะการสื่อสารที่ดี ต้องมาพร้อมกับการสื่อสารที่ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้าจะหยุดฟังเราก็ต่อเมื่อสิ่งที่เรากำลังสื่อสาร เป็นสิ่งที่ตรงกับความสนใจของลูกค้า
2. Connect: สื่อสารด้วยคอนเทนต์ที่สร้างประโยชน์ต่อลูกค้า
นอกจากการสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมายแล้ว คอนเทนต์ที่ใช้สื่อสารก็สำคัญไม่แพ้กัน แบรนด์จะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำคอนเทนต์ให้ลูกค้ารู้ประทับใจ สื่อสารให้ลูกค้าเกิด engagement ต่อแบรนด์ เช่น คอนเทนต์ที่กระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อ อยากสนใจขึ้นมาทันที อาทิ โปรโมชัน หรือคอลเลกชันพิเศษ เป็นต้น
3. Convert: เปลี่ยนความสนใจเป็นยอดขาย
สร้างแรงจูงใจด้วยแคมเปญและโปรโมชันแบบเฉพาะกลุ่ม (Exclusivity) เพื่อสร้างความรู้สึกพิเศษและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ด้วยประสบการณ์ที่เป็น Seamless Journey เส้นทางการซื้อแบบไร้รอยต่อ เพื่อให้ลูกค้ากดเพียงไม่กี่คลิก การสั่งซื้อก็สำเร็จได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องออกจากแอป LINE ซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสการปิดการขายให้กับแบรนด์ได้อย่างมาก
4. CRM: บริหารความสัมพันธ์ด้วยข้อมูล
การทำ CRM ที่ดีคือการเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการ เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ และนำไปสู่ Loyalty Program นอกจากนี้การสะสมแต้ม หรือการให้สิทธิพิเศษก่อนเก็บข้อมูลลูกค้า ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าสมัครสมาชิกและให้ข้อมูลในภายหลังได้ดียิ่งขึ้น โดยข้อมูลที่แบรนด์จะเก็บจากลูกค้า ควรกระชับและผ่านการคิดวิเคราะห์มาเป็นอย่างดี เพื่อให้แบรนด์ได้ข้อมูลที่สามารถนำมาพัฒนา สร้างประโยชน์สูงสุดกลับไปสู่ลูกค้าได้จริง
![]()
เปิด Success Story จากแบรนด์ดังชู “4Cs” สร้างภาพจำแก่ผู้บริโภค
1. Madame Fin 9
Madame Fin 9 ใช้ Emotional Marketing สร้างคาแรกเตอร์เฉพาะให้แก่น้ำหอม ลูกค้าสามารถเลือกน้ำหอมจากคาแรกเตอร์ที่แบรนด์สร้างไว้ พร้อมทำคอนเทนต์แบบ Real-time เช่น ทำคอนเทนต์ในวันที่ 1 และ 16 เพื่อล้อไปกับกระแสหวยออก นอกจากนี้ Madame Fin 9 ยังทำ CRM ได้อย่างน่าสนใจ คือให้แต้มลูกค้าก่อนการสั่งซื้อ ช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ซึ่งชุดข้อมูลที่ขอจากลูกค้าถือว่าสั้น กระชับ แต่สามารถนำไปพัฒนาบริการได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ
2. Heng Heng Seafood
Heng Heng Seafood ผู้จำหน่ายอาหารทะเลสดและสินค้าแปรรูประดับพรีเมียม โดดเด่นด้วยการทำ Partnership กับ Sweet & Green แบรนด์ผัก ผลไม้ และวัตถุดิบอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยจุดมุ่งหมายที่อยากทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสูงสุด ไม่ต้องตามหาวัตถุดิบจากหลายที่ จึงเกิดความร่วมมือในครั้งนี้ ผ่านการใช้ LINE เป็นเครื่องมือหลักในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ควบคู่ไปกับการทำ 4Cs
3. Merge.official
Merge.official เน้นการสื่อสารกับลูกค้าโดยใช้ LINE เพื่อรวมฐานข้อมูลลูกค้าไว้ในที่เดียว พร้อมสร้าง Exclusive Product ที่ขายผ่าน LINE OA เท่านั้นได้อย่างน่าสนใจ มีการแจ้งลูกค้าล่วงหน้าเพื่อสร้างความรู้สึกพิเศษ ทำให้ Merge.official ประสบความสำเร็จ และปิดการขายกับลูกค้าบน LINE OA ได้อย่างถล่มทลาย จนเพิ่มยอดขายรายวันสูงกว่าวันปกติถึง 23 เท่า
ด้วยแนวคิด “4Cs” จาก LINE ประเทศไทย นอกจากช่วยให้แบรนด์สามารถสร้าง "ภาพจำ" ที่ดีในใจลูกค้า และยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับตัวให้ทันโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะ LINE ไม่ใช่แค่
แพลตฟอร์มแชท แต่คือ Open Platform ที่เปิดกว้างให้ธุรกิจสามารถออกแบบ Customer Experience ได้อย่างไร้ขีดจำกัด รองรับการเชื่อมต่อและต่อยอดกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบจัดการหลังบ้าน ระบบ CRM หรือ Marketing Automation ต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ ทำให้ LINE กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจสามารถสร้างการสื่อสารที่ทรงพลัง เชื่อมต่อกับลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง และเติบโตได้อย่างยั่งยืนในทุกสภาพเศรษฐกิจ
บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำตลาดอาหารเสริมสุขภาพภายใต้ตราผลิตภัณฑ์แบรนด์ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย จับมือ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขยายเวลาแคมเปญประกวดออกแบบลายเสื้อยืดในคอนเซปท์ “Give Blood Gives Lives...พลังเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่” ภายใต้โครงการ “แบรนด์…พลังเลือดใหม่ ต่อพลังชีวิต 2567” (BRAND’S Young Blood 2024) ที่ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 24 เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักศึกษาทั่วประเทศประชันไอเดียความคิดสร้างสรรค์และเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างกว้างขวาง เพื่อชิงทุนการศึกษา เกียรติบัตรและผลิตภัณฑ์แบรนด์ตลอดปี โดยลายเสื้อที่ชนะการประกวดจะถูกนำไปผลิตเป็นเสื้อยืดเพื่อมอบให้กับผู้บริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย สามารถส่งผลงานร่วมโครงการตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 31 สิงหาคม 2567

นางมธุวลี สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สอดคล้องกับค่านิยม ‘Giving Back to Society’ ของบริษัท เรามุ่งสร้างจิตสำนึกของการเป็นผู้ให้ และรณรงค์ให้เกิดการบริจาคโลหิต เพื่อจัดหาโลหิตสำรองให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในแต่ละปีของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โดยที่เราเล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่ และพลังความคิดสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ของเยาวชน นักเรียนและนักศึกษา เราจึงจัดประกวดออกแบบลายเสื้อยืดตามแนวคิด ‘Give Blood Gives Lives...พลังเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่’ ในหัวข้อการเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต รวมทั้งสาระน่ารู้เกี่ยวกับธาตุเหล็กและการบริจาคโลหิต ภายใต้โครงการ ‘แบรนด์…พลังเลือดใหม่ ต่อพลังชีวิต 2567’ (BRAND’S Young Blood 2024) เพื่อรณรงค์ให้เกิดการบริจาคโลหิตในวงกว้าง ตลอดจนชิงทุนการศึกษา เกียรติบัตร และผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัด โดยผลงานที่ชนะเลิศจะถูกนำไปผลิตเป็นเสื้อยืดเพื่อมอบให้กับผู้บริจาคโลหิตต่อไป”

รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มีภารกิจหลักในการให้บริการโลหิตที่เพียงพอ มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากล เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ โดยประเทศไทย มีผู้บริจาคโลหิต 2.5 - 3 ล้านยูนิตต่อปี จากสถิติปี 2566 มีกลุ่มเยาวชนอายุ 17-20 ปี จำนวนทั้งหมด 3,194,117 ราย เป็นเยาวชนที่บริจาคโลหิตเพียงจำนวน 170,598 ราย หากมีการรณรงค์ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้เยาวชนได้เห็นถึงความสำคัญของโลหิต รวมทั้งสร้างจิตสำนึกที่ดีในการบริจาคโลหิต จะส่งผลให้เยาวชนบริจาคโลหิตเพิ่มมากขึ้น และเป็นพลังสำคัญในการบริจาคโลหิตอย่างยั่งยืนในอนาคต ดังนั้น ความร่วมมือภายใต้โครงการ ‘แบรนด์…พลังเลือดใหม่ ต่อพลังชีวิต 2567’ จึงมีส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้กลุ่มเยาวชนได้เริ่มต้นการบริจาคโลหิตครั้งแรกเพิ่มขึ้น รวมทั้งสร้างวัฒนธรรมการบริจาคโลหิตเป็นประจำทุก 3 เดือน โดยตั้งเป้าหมายการรับบริจาคโลหิตในโครงการฯ ให้ได้จำนวน 100,000 ยูนิต ปัจจุบัน มียอดการบริจาคโลหิตแล้ว 49,481 ยูนิต ซึ่งได้รับจากการจัดหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ไปยังมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ จำนวน 64 แห่ง ตั้งแต่เดือน มกราคม - พฤษภาคม 2567”

สำหรับการจัดโครงการฯ ปีนี้ เพื่อมุ่งส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษา ตลอดจนบุคลากรในมหาวิทยาลัยได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องถึงความสำคัญในเรื่องของการบริจาคโลหิต ร่วมบริจาคโลหิตเพิ่มมากขึ้น และเป็นผู้บริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ทำให้มีปริมาณโลหิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการใช้ของทั้งประเทศ จึงขอเชิญชวนนิสิต นักศึกษา ทั่วประเทศ มาร่วมแสดงพลังของวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ในการทำสิ่งดี ๆ เพื่อตอบแทนสังคม ทั้งในเรื่องของการบริจาคโลหิต และการร่วมออกแบบลายเสื้อยืดกับโครงการฯ
ทั้งนี้ คุณสมบัติผู้เข้าร่วมประกวดออกแบบลายเสื้อยืดในโครงการฯ ต้องเป็นนิสิต นักศึกษาในสถาบันการศึกษาอย่างถูกต้องและมีอายุไม่เกิน 22 ปี โดยสามารถส่งผลงานออกแบบ 1 คน หรือ 1 ทีม (สมาชิกไม่เกิน 2 คน) ไม่จำกัดจำนวนผลงาน ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดและกรอกใบสมัครเข้าร่วมการประกวดได้ที่ www.blooddonationthai.com (หัวข้อดาวน์โหลด)

โดยสามารถส่งผลงานได้ 3 วิธี ได้แก่
(1) ส่งไฟล์ผลงานมาที่ email : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2567
(2) ส่งผลงานทางไปรษณีย์ ใส่ซองปิดผนึก จ่าหน้าซองถึง งานกิจกรรมสัมพันธ์และโครงการพิเศษ ฝ่ายจัดหาผู้บริจาคโลหิตและสื่อสารองค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 วงเล็บมุมซองว่า (ประกวดออกแบบลายเสื้อ – BYB 2024) โดยจะยึดตามวันที่ประทับตราบนซองเป็นสำคัญ
(3) กรณีส่งผลงานด้วยตัวเอง ให้ติดต่อฝ่ายจัดหาผู้บริจาคโลหิตและสื่อสารองค์กร อาคารเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ (ในวันและเวลาราชการ จันทร์-ศุกร์ 8.00 – 16.30 น.)
โครงการจะประกาศผลผู้ได้รับรางวัลทุกระดับ ในวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 ผ่านทาง www.facebook.com/nbctrc และ www.facebook.com/BRANDSWorldThailand
ผู้ชนะเลิศจะได้รับเกียรติบัตร พร้อมทุนการศึกษา 10,000 บาท, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 จะได้รับเกียรติบัตร พร้อมทุนการศึกษา 5,000 บาท, รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 จะได้รับเกียรติบัตรพร้อมทุนการศึกษา 3,000 บาท โดยผู้ชนะรางวัลในทุกระดับจะได้รับผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัดดื่มฟรีตลอดปีสำหรับนิสิต นักศึกษา และสถาบันการศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการประกวดออกแบบลายเสื้อ สามารถดาวน์โหลดใบสมัคร และสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร. 0 2263 9600 ต่อ 1743 หรือ www.blooddonationthai.com (หัวข้อดาวน์โหลด)
บนความสำเร็จ “ฮาตาริ” แบรนด์ที่เกิดจากความตั้งใจและแรงบันดาลใจของจุน-คุณสุนทรี วนวิทย์ จากจุดเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ที่ถึงทุกวันนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ฮาตาริ คือ ผู้ผลิตพัดลมชั้นนำของคนไทยอย่างแท้จริง และอยู่คู่สังคมไทยมายาวนานกว่า 30 ปี วางรากฐานธุรกิจอย่างมั่นคง ควบคู่กับการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ คืนสู่สังคมไปพร้อมกัน
คุณวิทยา พานิชตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนแบรนด์ “ฮาตาริ” ก้าวสู่สหัศวรรษใหม่ในยุคตลาดแข่งขันสูงและมีความท้าทายในทุกมิติ แต่สิ่งที่เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด คือ 1) ความไม่หยุดนิ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เข้าใจในทุกไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค และ 2) ความเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม พร้อมใส่ใจต่อชุมชนโดยรอบ ภายใต้จุดมุ่งหมายให้ แบรนด์ ฮาตาริ ก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมผู้ผลิตพัดลมไฟฟ้าระดับสากลที่คนไทยภาคภูมิใจ
ครองใจคนไทย เจาะตลาดส่งออกเพิ่ม
“นโยบายดำเนินธุรกิจในปี 2567 ฮาตาริยังคงให้ความสำคัญต่อการเติบโตทางธุรกิจตลาดภายในประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็มีความพร้อมที่จะขยายสัดส่วนตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นเช่นเดียวกันกับประเทศไทย ประกอบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น และภาวะตลาดมีโอกาสเติบโตสูงจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ
ซึ่งแน่นอนว่าปีนี้ยังเป็นอีกปีที่ฮาตาริมุ่งเน้นพัฒนาภาคการผลิตและการออกแบบผลิตภัณฑ์ ด้วยดีไซน์ใหม่ที่ทันสมัย ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ตรงใจผู้บริโภคในทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ควบคู่กับการทำงานร่วมกันกับพันธมิตรใหม่ๆ อาทิ การจับมือกับ Habits Design Studio สตูดิโอออกแบบจากอิตาลีที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและมีประสบการณ์ออกแบบให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมาแล้วมากมาย เพื่อเพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจ และทำให้แบรนด์ได้ใกล้ชิดและอยู่เป็นส่วนหนึ่งในทุกช่วงชีวิตผู้คนมากยิ่งขึ้น” คุณชัญญา พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กล่าวเสริม
สานต่อ DNA สร้างสรรค์คุณค่าธุรกิจ คืนประโยชน์สู่สังคม
ปณิธานอันแน่วแน่ที่ คุณจุน-คุณสุนทรี วนวิทย์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ฮาตาริ มุ่งหวังที่จะทำให้ประเทศไทยเติบโตอย่างมั่นคงไปพร้อมกับแบรนด์ฮาตาริ ได้รับการสานต่อและต่อยอดอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้การดำเนินงานของ “กองทุนฮาตาริเพื่อการศึกษา โดย คุณจุน – คุณสุนทรี วนวิทย์” เป็นปีที่สอง ตลอดจนโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับการให้โอกาสด้านการศึกษาแก่วงการแพทย์และพยาบาล ที่ปัจจุบันประสบปัญหาขาดแคลนกำลังคนที่จะดูแลรักษาชีวิตประชาชน ซึ่งในวันนี้ (14 กุมภาพันธ์) ฮาตาริ โดย คุณสุนทรี วนวิทย์ ประธานกรรมการบริหาร เป็นผู้แทนในการส่งต่อความตั้งใจจริงนี้ โดยมอบทุนการศึกษาเป็นจำนวนเงิน 20 ล้านบาท แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเป็นการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ออกสู่สังคม ซึ่งโอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก ผศ. ร.ท.ทพ. ชัชชัย คุณาวิศรุต รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ และ รองศาสตราจารย์ ดร.เอมพร รตินธร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ให้การต้อนรับ
![]()
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ และ คณบดีคณะ
พยาบาลศาสตร์ มอบของที่ระลึกแด่ผู้บริหารกองทุนฮาตาริฯ ผู้บริหารกองทุนฮาตาริฯ เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ทางการพยาบาล ศาลายา (ห้อง LRC)

กว่า 30 ปีที่ผ่านมา ฮาตาริ ไม่เคยหยุดพัฒนาแบรนด์สัญชาติไทยออกไปสร้างชื่อเสียงและแสดงศักยภาพขีดความสามารถของคนไทยที่ทัดเทียมเวทีโลก ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ฮาตาริ พร้อมก้าวไปข้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ทำให้คุณภาพชีวิตของทุกคนและดีขึ้น สร้างช่วงเวลาแห่งความสุขและตอบโจทย์ความ
ต้องการของผู้ใช้งานในทุกมิติด้วยราคาที่สมเหตุสมผล มุ่งสู่การเป็นแบรนด์ของคนไทยที่เติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างยั่งยืน