December 15, 2025

เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัวสูท AIA MDRT 2026 ดีไซน์ใหม่ล่าสุด โดยแบรนด์ POEM แบรนด์แฟชั่นไทยชื่อดัง ตอกย้ำการเป็นบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพที่มีตัวแทน MDRT มากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ อีกทั้งกลุ่มบริษัทเอไอเอ ยังสามารถครองแชมป์บริษัทที่มีจำนวน MDRT มากที่สุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แสดงถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพของพลังตัวแทนเอไอเอ โดยสะท้อนออกมายังสูท AIA MDRT 2026 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Lines of Liability’ ลายเส้นซิลลูเอทที่ชัดเจนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรูหราด้วยการตัดเย็บอย่างประณีต และลาย Pinstripes ที่สื่อถึงความเป็นเลิศในวิชาชีพ และ Ombre หรือเทคนิคการไล่สีที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ช่วยสร้างมิติและความเป็นตัวตนให้กับชุดสูท AIA MDRT 2026 ซึ่งชุดสูทใหม่นี้รังสรรค์ขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติและยินดีกับความสำเร็จของตัวแทนเอไอเอ ประเทศไทย ที่ได้รับคุณวุฒิ MDRT 2026 รวมถึงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่พลังตัวแทนทุกคนให้มุ่งสู่การพิชิตคุณวุฒิ MDRT 2026 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมาย 5,000 MDRT และรักษาตำแหน่งอันดับหนึ่งของโลกได้อย่างต่อเนื่อง

นางอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ เป็นผู้นำในหลากหลายมิติ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และยูนิต ลิงค์ รวมไปถึงการบริการทั้งที่ผ่านช่องทางดิจิทัล และช่องทางตัวแทน ซึ่งเอไอเอ นับว่าเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีจำนวนตัวแทนมากที่สุดกว่า 55,000 คน ดังนั้นการสนับสนุนและผลักดันตัวแทนนั้น เอไอเอ เราได้มี Initiatives และโครงการต่าง ๆ มากมาย ที่จะช่วยสร้างความเป็นมืออาชีพให้กับพลังตัวแทนของเรา โดยเฉพาะการยกระดับตัวแทนสู่การเป็นตัวแทน MDRT เอไอเอ มีการสร้าง MDRT Ecosystem ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งประกอบด้วยการพัฒนาด้านต่าง ๆ ได้แก่

  • Branding - การสร้างแบรนด์ MDRT ให้ตัวแทนรู้จักผ่านการสื่อสารทุกช่องทาง
  • Positioning - การกำหนดให้ MDRT เป็นมาตรฐานขั้นพื้นฐานสำหรับตัวแทนทุกคน
  • Training - การให้ความรู้ผ่านโครงการ Pre-MDRT School เพื่อพัฒนาตัวแทนให้ไปสู่ MDRT รวมถึงหลักสูตรพิเศษที่ออกแบบมาให้กับตัวแทน MDRT โดยเฉพาะ เพื่อยกระดับความรู้และการบริการขึ้นไปอีกขั้น
  • Campaign & Recognition - การมีแคมเปญสนับสนุนตัวแทนที่สามารถพิชิตคุณวุฒิ MDRT ทั้งการสนับสนุนค่าสมัครสมาชิก MDRT รวมถึงการเข้าร่วมประชุม MDRT โลก และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งการเชิดชูเกียรติระดับประเทศผ่านช่องทาง online และ offline อีกด้วย
  • MDRT Ambassadors - การจัดตั้งตัวแทนที่มีประการณ์การพิชิตคุณวุฒิ MDRT และเป็น Influencers ในพื้นที่ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ เพื่อผลักดันจำนวน MDRT ในแต่ละพื้นที่
  • Club MDRT - การจัดตั้ง Club MDRT ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อเป็นศูนย์รวมการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ระหว่างตัวแทน

 

“เรามีการมอบประสบการณ์ที่เงินหาซื้อไม่ได้ หรือ Money Can’t Buy Experience ให้แก่ตัวแทน MDRT โดยเฉพาะการมอบสูทดีไซน์พิเศษจากแบรนด์ดัง เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจที่เราทำมาอย่างต่อเนื่อง โดยเอไอเอได้มีการออกแบบสูทร่วมกับดีไซน์เนอร์ไทยและนักวาดภาพประกอบชื่อดังมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นระยะเวลา 5 ปีต่อเนื่องแล้ว และในปีนี้มีความพิเศษกว่าที่เคย เพราะเราได้ร่วมมือกับ POEM แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของไทย เพื่อสร้างสรรค์สูทสำหรับ AIA MDRT 2026 โดยเน้นการออกแบบที่พิถีพิถัน ผสมผสานกับเอกลักษณ์ของ POEM เพื่อมอบเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจแก่ตัวแทนเอไอเอที่สามารถพิชิตคุณวุฒิ MDRT”

 

ด้าน นายชวนล ไคสิริ หรือ ณอน ดีไซน์เนอร์เจ้าของแบรนด์ POEM เผยถึงที่มาของสูท AIA MDRT 2026 ว่า “ที่มาของการดีไซน์สูทนี้ ผมตีความว่าคุณวุฒิ MDRT คือความสำเร็จ และมากไปกว่านั้น MDRT ยังคือความภาคภูมิใจด้วย เพราะฉะนั้นดีไซน์ของสูทจึงมาจาก ‘ความสำเร็จ’ ผนวกกับ ‘ความภาคภูมิใจ’ โดยเราต้องการให้สูทตัวนี้สื่อสารถึงความภูมิใจและความเป็นมืออาชีพของตัวแทน AIA MDRT ในเวลาเดียวกัน เราใช้คอนเซ็ปต์ที่เรียกว่า ‘The Lines of Liability’ เป็นการทำโครงเสื้อสไตล์ Tailoring แบบสูทให้เป็น Power Suit และใช้เนื้อผ้า Pinstripes ซึ่งเป็นลายเส้นที่สื่อถึงความชัดเจนและซื่อตรง นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์ที่เป็นกิมมิกเล็ก ๆ ทำให้ทุกคนได้ตื่นเต้น คือสีของผ้าซับในของสูทสี Ombre ที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ POEM ซึ่งใช้เป็นโทนสีแดงของเอไอเอ แล้วไล่เฉดสีให้ดูหรูหรามีระดับและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

“สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจคือ เอไอเอไม่ได้มองว่า MDRT เป็นเพียงรางวัลแห่งความสำเร็จ แต่เป็นสัญลักษณ์ของมาตรฐานวิชาชีพระดับโลก ผมเลยอยากถ่ายทอดความหมายนี้ออกมาในรูปแบบของชุดสูทที่ทุกคนได้สวมใส่แล้วจะรู้สึกได้ถึงความพิเศษและคุณค่าของความสำเร็จ” นายชวนล กล่าวทิ้งท้าย

กองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) โดยนายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย จัดโครงการชี้แจงทำความเข้าใจในกระบวนการชำระบัญชีและการชำระหนี้ของกองทุนประกันวินาศภัยแก่บุคลากร สำนักงาน คปภ. จังหวัดพังงา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภารกิจของ กปว. ในการบริหารจัดการกรณีบริษัทประกันภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย

การจัดโครงการครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการชำระบัญชีและการจัดการหนี้สินของบริษัทประกันภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยและเจ้าหนี้ โดย กปว. ได้อธิบายแนวทางการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. จังหวัดพังงา สามารถนำข้อมูลไปเผยแพร่และถ่ายทอดแก่ประชาชนและเจ้าหนี้ในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเข้าใจง่าย นอกจากการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการทำงานของกองทุนประกันวินาศภัยแล้ว กองทุนประกันวินาศภัยยังได้ชี้แจงแนวทางการบริหารจัดการหนี้สิน รวมถึงวิธีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยและเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่าง กปว. และสำนักงาน คปภ. จังหวัดพังงา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในพื้นที่ การมีความเข้าใจตรงกันเกี่ยวกับกระบวนการชำระบัญชีของกองทุนประกันวินาศภัย จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ สำนักงาน คปภ. จังหวัดพังงา สามารถปฏิบัติหน้าที่และให้คำปรึกษาประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการประชาสัมพันธ์เชิงรุกของกองทุนประกันวินาศภัยที่มุ่งเน้นการสื่อสารข้อมูลอย่างถูกต้อง ชัดเจน และเข้าถึงง่ายแก่ประชาชน ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย กปว. มีความเชื่อมั่นว่าความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับระบบประกันภัย รวมทั้งทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันภัยทั้งในชีวิตและธุรกิจ

กปว. ยืนยันว่าหากเกิดกรณีบริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย กองทุนประกันวินาศภัยจะเข้ามาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยและเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัยอย่างเต็มที่ อันเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงและความเชื่อมั่นแก่ประชาชนต่อไป

BAM จัดงาน “BAM & Friends Day”  มหกรรมบูธแสนอบอุ่นและคึกคัก งานที่รวมพันธมิตรและคู่ค้า เพื่อนร่วมเส้นทางธุรกิจของ BAM จากหลากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธนาคาร บริษัทประกันภัย ประกันชีวิต โรงพยาบาล  ยานยนต์ พลังงาน และอีกหลายธุรกิจ รวม 19 บูธ ร่วมสร้างสีสัน และมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ร่วมงานมากมาย

นางทองอุไร  ลิ้มปิติ  ประธานกรรมการ  นายบรรยง  วิเศษมงคลชัย รองประธานกรรมการ และนางพรรณี วรวุฒิจงสถิต  นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์  กรรมการบริษัท รวมทั้งดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสมพร มูลศรีแก้ว ผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM  ร่วมพิธีเปิดงาน BAM & Friends Day ในงานได้รับเกียรติจาก คุณเกรซ มหาดำรงค์กุล ร่วมงานและมอบภาพถ่ายในโอกาส BAM ร่วมมอบเงินสนับสนุนมูลนิธิถันยรักษ์ ฯ

งานนี้นับเป็นครั้งแรกของการจัดงานออกบูธรวมพันธมิตร/คู่ค้า ภายใต้แนวคิด #มิตรภาพที่ดี เติบโตไปด้วยกัน  ที่ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ของการจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย BAM การนำเสนอผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการของพันธมิตรเท่านั้น แต่ยังเป็น “พื้นที่แห่งมิตรภาพ” ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์กับพันธมิตร/คู่ค้าทางธุรกิจของ BAM เข้าด้วยกัน

ภายในงานบรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความทรงจำที่น่าประทับใจ ผู้เข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกค้า และประชาชนผู้สนใจต่างเข้าเยี่ยมชมบูธกิจกรรม รับสิทธิพิเศษ ส่วนลด ของแถม พร้อมช้อปสินค้า และอาหารอร่อยจากบูธต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ความรู้บนเวที และการแจกรางวัลตลอดทั้งงาน สร้างความสุขให้กับผู้ร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำเจตนารมณ์ของ BAM  ในการสานสายใยมิตรภาพ เติมเต็มพลังแห่งความร่วมมือที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า สร้างความเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมทั้งส่งต่อสิ่งดี ๆ คืนสู่สังคม

กรุงเทพประกันชีวิต เดินหน้าสานต่อพันธกิจด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านโครงการ สานฝันจากพี่สู่น้องประจำปี 2568 โดยกลุ่มตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงินจาก Bangkok Life Top 100 Club พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงนำโดย นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายจักรพงศ์ แสงแก้ว ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงิน และ นางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการ ร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมเยาวชนไทยให้เข้าถึงการศึกษา มีพัฒนาการ และสุขภาพที่ดี ณ ศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดสระบุรี และโรงเรียนบ้านคลองเดื่อ จังหวัดนครราชสีมา

นายโชน กล่าวว่า กรุงเทพประกันชีวิต ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงมุ่งมั่นตั้งใจและใส่ใจในการเติบโตของเยาวชนซึ่งถือเป็นอนาคตของชาติ โดยต้องการให้เด็กๆ สามารถเข้าถึงการศึกษา มีพัฒนาการและสุขภาพอนามัยที่ดี จึงได้จัดกิจกรรม Top 100 สานฝันจากพี่สู่น้อง” อย่างต่อเนื่องทุกปี และในปี 2568 นี้ กรุงเทพประกันชีวิตดำเนินธุรกิจครบ 74 ปี จึงได้มีความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างตัวแทนประกันชีวิต ที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้บริหารของบริษัท รวมถึงพนักงาน จำนวน 150 คน จัดกิจกรรมในช่วง 3 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 17–19 กันยายน ที่ผ่านมา

สำหรับสถานศึกษาแห่งแรกของโครงการ “สานฝันจากพี่สู่น้อง” ได้ดำเนินกิจกรรมที่ ศูนย์การศึกษาพิเศษ จังหวัดสระบุรี โดยได้สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุภายในห้องกิจกรรมบำบัด อาทิ ผนังบุกันกระแทก โฟมปูพื้นห้อง รวมถึงอุปกรณ์เสริมสร้างพัฒนาการ และยังปรับปรุงอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง อาทิ โทรทัศน์แขวนผนัง พัดลมระบายอากาศ รวมทั้งจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน

สำหรับสถานศึกษาแห่งที่ 2 ได้จัดกิจกรรมที่ โรงเรียนบ้านคลองเดื่อ จังหวัดนครราชสีมา โดยสนับสนุนระบบน้ำดื่มที่สะอาด จึงได้ทำการติดตั้งถังเก็บน้ำ ระบบกรองน้ำ และเครื่องกดน้ำที่ได้คุณภาพ พร้อมทั้งปรับปรุงสนามเด็กเล่นเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการ รวมถึงพื้นที่บริเวณโดยรอบ อีกทั้งยังได้มอบอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์ทำอาหาร รวมทั้งทุนการศึกษาอีกด้วย

ดร.ทอภัค ด่านกระโทก ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองเดื่อ กล่าวว่า ขอขอบคุณกรุงเทพประกันชีวิตที่ได้มอบสิ่งต่างๆ ให้กับโรงเรียนในวันนี้ ทั้งน้ำดื่มสะอาด พื้นที่การเรียนรู้ สนามเด็กเล่นรวมถึงการปรับปรุงภูมิทัศน์และอุปกรณ์การเรียนการรับประทานอาหาร ทุนการศึกษา และยังเลี้ยงอาหารกลางวันให้เด็กๆ เราเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่ผ่านมาเราขับเคลื่อนด้วยการสนับสนุนจากชุมชน ซึ่งในวันนี้กรุงเทพประกันชีวิตได้เข้ามาสนับสนุนและช่วยเหลือ ซึ่งทำให้คุณครูของเราสามารถนำไปใช้ในการจัดการการเรียนรู้และพัฒนาให้กับนักเรียนในท้ายที่สุด

“กรุงเทพประกันชีวิต เชื่อมั่นว่า การเป็นองค์กรที่ดีของสังคมมีจุดเริ่มต้นที่ความใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า พนักงาน ตัวแทนประกันชีวิต ที่ปรึกษาทางการเงิน และคู่ค้า ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชนและสังคม ซึ่งพวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งต่างๆ ที่มอบให้กับน้องๆ ศูนย์การศึกษาพิเศษ จังหวัดสระบุรี และนักเรียนโรงเรียนบ้านคลองเดื่อ จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาให้เด็กๆ ได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ มีชีวิตที่ดี และมีความสุขในการเรียน เป็นกำลังหลักที่สำคัญของประเทศต่อไป” นายโชนกล่าว

‘เทลสกอร์’ ย้ำภาพผู้นำ Influencer Marketing จัดงาน ‘Thailand Influencer Awards 2025’ สร้างคุณค่า–ยกระดับมาตรฐาน มองโอกาสอินฟลูเอนเซอร์ไทยไปต่อระดับภูมิภาค

บริษัท บีบีไอเอ็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (“BBIX Thailand”) ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้เครือ SoftBank Corp จากประเทศญี่ปุ่น ประกาศเปิดให้บริการจุดเชื่อมต่อสำหรับเครือข่ายคลาวด์ “Open Connectivity eXchange” (“OCX”) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยจุดเชื่อมต่อจะตั้งอยู่ ณ ดาต้าเซ็นเตอร์ระดับสากลที่ทรู ไอดีซี นอร์ธ เมืองทอง และทรู ไอดีซี อีสต์ บางนา แคมปัส การันตีความเสถียรและความปลอดภัย โดยบริการนี้จะมายกระดับการเชื่อมต่อให้กลุ่มธุรกิจที่ใช้งานระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

OCX เป็นบริการเครือข่ายบนคลาวด์ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม IX (Internet Exchange หรือ จุดแลกเปลี่ยนการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ต) ของ BBIX ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งมอบการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย รวดเร็ว และปรับขยายได้ตามความต้องการ ลูกค้าสามารถจัดเตรียมเครือข่ายส่วนตัวได้แบบออนดีมานด์ (on-demand) ผ่านพอร์ทัลออนไลน์ ลดเวลาการติดตั้งจากระดับสัปดาห์ให้เหลือเพียงไม่กี่นาที อีกทั้งยังสามารถขยายแบนด์วิดธ์เพื่อรองรับการย้ายระบบขึ้นคลาวด์หรือการเปิดใช้งานโปรเจ็กต์ใหม่ได้อย่างยืดหยุ่น พร้อมรองรับการเชื่อมต่อผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ เช่น AWS และ Oracle ผ่านแพลตฟอร์มเดียว

นอกจากนี้ OCX ยังมีศักยภาพในการเชื่อมต่อระหว่างประเทศอย่างไร้รอยต่อ ครอบคลุมโตเกียว สิงคโปร์ และประเทศไทย โดยมาพร้อมกับความปลอดภัยมาตรฐานระดับผู้ให้บริการโทรคมนาคม (carrier-grade) ผ่านการเชื่อมต่อแบบเครือข่ายส่วนตัวที่แยกอิสระสำหรับลูกค้าแต่ละราย ลดความเสี่ยงจากการถูกดักฟังหรือโจมตีทางไซเบอร์ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่มีความเสถียรสูง รองรับการเฝ้าระวังและการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลุ่มธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์จากบริการนี้ครอบคลุมองค์กรที่ใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในการขับเคลื่อนธุรกิจ เช่น แพลตฟอร์มไอโอทีในอุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจการเงินการธนาคาร รวมถึงผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ประเภท Software as a Service ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (MNO) ที่ต้องการการเชื่อมต่อตรงไปยังระบบคลาวด์ด้วยความเสถียร เป็นส่วนตัว และรวดเร็ว ตลอดจนบริษัทที่มีการขยายขนาดของระบบหรือมีความผันผวนด้านทราฟฟิกการใช้งานสูง มีความจำเป็นต้องจัดการแบนด์วิดธ์แบบปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

นายฮิเดโตชิ อิเคดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีบีไอเอ็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การเปิดให้บริการจุดเชื่อมต่อ OCX ไม่เพียงเป็นการยกระดับการให้บริการเครือข่ายที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงเท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับความต้องการของตลาดคลาวด์ในประเทศไทยที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ข้อมูลคาดการณ์ระบุว่าตลาด Public Cloud ในไทยจะเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 23.68% ระหว่างปี 2568–2573 จนมีมูลค่าตลาดสูงถึง 8.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 การเติบโตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการโซลูชันคลาวด์ที่มีความยืดหยุ่น คุ้มค่า และมั่นคงปลอดภัย ซึ่ง OCX ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้อย่างแท้จริง ทั้งในมิติของมัลติคลาวด์ การเชื่อมต่อระดับสากล และการรองรับการใช้งานที่ปรับขยายได้ ผมเชื่อมั่นว่าบริการนี้จะช่วยสร้างศักยภาพในการแข่งขันและทางเลือกใหม่ให้กับธุรกิจของไทย”

BBIX Thailand ยังคงมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับธุรกิจที่สนใจขอคำปรึกษาเกี่ยวกับบริการนี้ สามารถติดต่อได้ที่อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

เพิ่มเป้าอัดฉีดเม็ดเงินความยั่งยืน เป็น 4-5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 (ค.ศ.2030) พร้อมตั้งเป้าหมายเป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้านสภาพภูมิอากาศที่ครอบคลุมที่สุด

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน และเริ่มมีบทบาทในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและยกระดับองค์กรให้ก้าวทันโลก องค์กรต้องพร้อมสำหรับ AI Adoption หรือการนำ AI เข้ามาใช้ในกระบวนการทำงาน บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ก้าวสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านองค์กรในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้นำ AI เข้ามาช่วยขับเคลื่อน ปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจ และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ธุรกิจ

นายวิธพล เจาะจิตต์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - ทรัพยากรมนุษย์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บ้านปูเน้นดำเนินธุรกิจด้วยความยืดหยุ่น คลื่นเทคโนโลยี AI กำลังเข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานอย่างต่อเนื่อง เราจึงต้องมีการคิดใหม่และวางแผนให้เป็นระบบ เพื่อนำพาองค์กรก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ผสานพลังการทำงานระหว่างพนักงานกับการเข้ามามีบทบาทของ AI อย่างเป็นทีมเวิร์ค บริษัทฯ มองระบบนิเวศทั้งภาพใหญ่และการปฏิบัติการ เชื่อมวิสัยทัศน์กับผลกระทบระยะยาว พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงด้วยแนวทางและเป้าหมายการทำงานร่วมกับ AI ที่ชัดเจน เพื่อการสร้างการเติบโตที่ส่งเสริม  ทุกฝ่ายและเดินหน้าได้อย่างมั่นคง”

 

แนวคิด 3R ที่บ้านปูใช้ขับเคลื่อนเพื่อนำองค์กรเข้าสู่ยุคพลังงานแห่งอนาคต

Reframe – ปรับมุมมองเกี่ยวกับ AI

พนักงานในองค์กรมักจะกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนที่คน ผู้นำในองค์กรต้องหาวิธีปรับมุมมองพนักงานใหม่ ผ่านการสื่อสารด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ  โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญว่า AI สามารถเข้ามาช่วยให้การทำงานของพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างโดยสิ้นเชิงอย่างที่กังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านปูมีแนวคิดว่า AI เปรียบเสมือนเพื่อนร่วมงาน เมื่อพนักงานรู้สึกว่าองค์กรเข้าใจและได้รับการสนับสนุน จึงเต็มใจยอมรับและพร้อมที่จะเรียนรู้การทำงานควบคู่ไปกับ AI ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ จัดกิจกรรมอบรมและกิจกรรมสื่อสารเรื่อง AI อย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส เพื่อให้พนักงานในทุกประเทศเข้าใจตรงกันอย่างชัดเจนถึงบทบาทของ AI และประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับจากการใช้ AI ให้เป็น อีกทั้งยังเปิดเวทีให้ผู้เชี่ยวชาญมาแบ่งปันแนวคิดและแนวทางการใช้ AI ในภาคธุรกิจอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพให้กับพนักงานอีกด้วย

Reskill – เรียนรู้การใช้

เมื่อองค์กรมอง AI เป็นเสมือนเพื่อนร่วมงานคนใหม่ ที่ต้องเข้ามาอบรมการทำงานร่วมกันและพัฒนาความรู้ควบคู่กันไปอย่างเป็นทีม สมาชิกใหม่ของทีมคนนี้ มาพร้อมกับความสามารถใหม่ ๆ ที่จะเสริมให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น ช่วยให้องค์กรเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ ผู้นำต้องเสริมทักษะพนักงานให้สามารถทำงานกับ AI ได้อย่างราบรื่น โดยเน้นให้พนักงานเป็นศูนย์กลาง ในขณะที่ AI เข้ามาสนับสนุนส่วนงานที่ท้าทายและมีความซับซ้อนสูง และเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เร็วขึ้น ในปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดอบรมด้าน AI ตอบโจทย์ทุกระดับ หลักสูตร AI for Everyone ที่เน้นเคล็ดลับและตัวอย่างการใช้งานจริง รวมถึง Generative AI for Business Productivity และ Generative AI Mastery for Leader เพื่อเสริมทักษะพนักงานในการทำงานกับ AI เช่น วิธีป้อนคำสั่งให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ การรู้ข้อจำกัด และผลกระทบ ตลอดจนการใช้ AI เพื่อออกแบบงานระดับวางกลยุทธ์ และสร้างวิธีทำงานใหม่ ๆ เป็นต้น

Reimagine – มองเห็นภาพการทำงานร่วมกัน

ในอุตสาหกรรมพลังงาน การเข้ามามีบทบาทของ AI ทำให้บริษัทสามารถยกระดับการทำงานและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้มากขึ้น จากคุณสมบัติของ AI ในการคาดการณ์และวางแผนการบำรุงรักษา การจัดสรรทรัพยากร การตัดสินใจที่แม่นยำ และการส่งมอบผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต่อธุรกิจในภาพรวมเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จ

ตัวอย่างการนำ AI เข้ามาผสานในการทำงานของบ้านปู ได้แก่ การทำธุรกิจระบบการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าในประเทศออสเตรเลีย โดยทีมเทรดเดอร์ของบ้านปูนำ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลแบบเรียลไทม์ได้อย่างแม่นยำ และตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด เพื่อประเมินช่วงเวลาในการซื้อไฟฟ้าเมื่อราคาต่ำ และขายไฟฟ้าเมื่อความต้องการและราคาพุ่งสูง กลายเป็นการสร้างมูลค่าทางธุรกิจที่จับต้องได้ รวมถึงการใช้ AI เพิ่มความแม่นยำและรวดเร็วในการประมวลผลเกี่ยวกับพนักงาน เพื่อคัดกรองบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับองค์กรรวมไปถึงการพัฒนาพนักงานซึ่งมีระดับศักยภาพหลากหลาย และรักษาคนเก่งและดีให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว 

แนวคิด 3R ของบ้านปู สะท้อนการวางรากฐานการใช้ AI อย่างเป็นระบบ เพราะให้ความสำคัญตั้งแต่การปรับกรอบความเข้าใจของผู้ใช้ระยะยาวอย่างพนักงาน ต่อยอดสู่การเติมทักษะ และนำมาใช้จริงในการปฎิบัติการของธุรกิจพลังงาน ถือเป็นการนำ AI มาทำหน้าที่ผสานคน เทคโนโลยี และธุรกิจให้พัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มไปด้วยกัน ช่วยให้องค์กรขับเคลื่อนสู่อนาคตได้อย่างแข็งแกร่ง

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และพันธมิตร เปิดรับสมัครผู้ท้าชิงที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.1-ม.6 หรือเทียบเท่า ร่วมสร้างทีมจำนวน 4-15 คน (ควรมีสมาชิกผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน (inclusive member) เพื่อส่งเสริมความหลากหลาย) เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์ FIRST® Tech Challenge Thailand ครั้งที่ 7 มุ่งสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ STEM Education พัฒนาผู้เรียนด้านทักษะกระบวนการคิด การแก้ปัญหา การออกแบบ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพิชิตภารกิจในหัวข้อ “DECODE Presented by RTX” ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2568  ณ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่  ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษา และได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติที่สหรัฐอเมริกา ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันสามารถสแกน QR Code ในโปสเตอร์รับสมัครภายในวันที่ 17 ตุลาคม 2568 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/FIRSTTechChallengeTHAILAND/

Page 5 of 943
X

Right Click

No right click