บ้านปู เน็กซ์ บริษัทลูกของบ้านปู ผู้ให้บริการ Net Zero Solutions ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมกับดูราเพาเวอร์* ผู้นำด้านระบบแบตเตอรี่จัดเก็บพลังงานแบบลิเธียมไอออนระดับโลกสำหรับการใช้งานด้านพลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า เดินหน้าเปิดโรงงานประกอบแบตเตอรี่ดีพี เน็กซ์ อย่างเป็นทางการ ส่งเสริมการเดินทางและขนส่งด้วยพลังงานสะอาด และรองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในประเทศไทย และเอเชียแปซิฟิก
โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี ซึ่งนอกจากพร้อมสนับสนุนตลาดรถบัสไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ขยายอย่างรวดเร็วในภูมิภาคแล้ว ยังสอดรับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศไทยด้วย รวมถึงมีส่วนช่วยขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
โรงงานประกอบแบตเตอรี่ดีพี เน็กซ์ ดำเนินกิจการภายใต้บริษัทร่วมทุน (JV) ระหว่างบ้านปู เน็กซ์ และดูราเพาเวอร์ ผนึกความเชี่ยวชาญของสองบริษัททั้งองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีล้ำสมัยและความเข้าใจตลาด เพื่อส่งมอบแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงและตรงกับความต้องการในภูมิภาค โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะแบบกึ่งอัตโนมัติ (semi-automated intelligent production) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในโรงงานแบตเตอรี่ของดูราเพาเวอร์ สามารถส่งมอบแบตเตอรี่ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รวมถึงรถขนส่งเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ด้วยการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา รองรับการชาร์จเร็ว และกักเก็บพลังงานได้ยาวนาน ทั้งยังมีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด อาทิ UNECE No. 100 ฉบับที่ 3 ซึ่งเป็นข้อกำหนดตามมาตรฐานยุโรปในการอนุมัติยานยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งบนถนน หรือ IEC 62660 ซึ่งเป็นมาตรฐานการทดสอบประสิทธิภาพสำหรับเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทุติยภูมิ (secondary lithium-ion cells) ที่ใช้ในยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ แบตเตอรี่จากโรงงานดีพี เน็กซ์ ยังผ่านการทดสอบแบบเจาะทะลุ ซึ่งเป็นการทดสอบประสิทธิภาพความปลอดภัยของแบตเตอรี่
โรงงานแห่งนี้สามารถประกอบแบตเตอรี่ได้มากกว่า 15,000 ชุดต่อปีตามความต้องการของตลาด โดยมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตสูงสุดเป็น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงในอนาคตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาค โดยร้อยละ 80 ของแบตเตอรี่ที่ผลิตทั้งหมดจะถูกจำหน่ายในประเทศ ขณะที่อีกร้อยละ 20 จะถูกส่งออกไปยังตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และสหรัฐอเมริกา โรงงานนี้มีโซลูชันแบตเตอรี่ที่ครอบคลุมทั้งลิเธียมนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ออกไซด์ (NMC) และลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายประเภทในอุตสาหกรรมการเดินทางและขนส่ง ไม่ว่าจะเป็น
นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “เอเชียแปซิฟิกถือเป็นผู้นำในตลาดรถบัสไฟฟ้าระดับโลกที่คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 44.74 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 เป็น 73.88 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2572** ซึ่งโรงงานแห่งนี้สอดรับกับทิศทางการเติบโตดังกล่าว และเป้าหมายของประเทศไทยที่มุ่งจะเพิ่มรถบัสและรถบรรทุกไฟฟ้าเป็น 33,000 คัน หรือ 40% ของยานยนต์ที่จดทะเบียนบนท้องถนนภายในปี 2573*** ทั้งยังสร้างโอกาสให้กับซัพพลายเออร์แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่อีกด้วย โรงงานประกอบแบตเตอรี่แห่งนี้จึงไม่เพียงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบ้านปู เน็กซ์ สู่การเป็น Net-Zero Solutions Provider ให้กับองค์กรทั่วเอเชียแปซิฟิก แต่ยังจะช่วยส่งเสริมตลาดแรงงานไทยผ่านการจ้างงานในท้องถิ่นมากกว่า 300 ตำแหน่งตามเป้าหมายการผลิตในระยะยาว”
นายเคลวิน ลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดูราเพาเวอร์ กล่าวว่า “โรงงานดีพี เน็กซ์ จะขยายศักยภาพของดูราเพาเวอร์ในการนำเสนอโซลูชันแบตเตอรี่ชั้นนำให้กับลูกค้าทั่วโลก ซึ่งมีความพร้อมด้านกระบวนการผลิตและประกอบแบตเตอรี่ เสริมด้วยจุดเด่นด้านนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง โดยนำเทคโนโลยีล้ำสมัยและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาใช้เพื่อส่งมอบแบตเตอรี่คุณภาพสูงตามความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชันพลังงานที่สะอาดและยั่งยืนให้กับลูกค้าในประเทศไทย ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเราในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
บ้านปู เน็กซ์ และดูราเพาเวอร์ ร่วมกันนำเสนอโซลูชันแบตเตอรี่ที่ล้ำสมัยและมีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดให้กับลูกค้าจากหลากหลายอุตสาหกรรม อีกทั้งสนับสนุนให้องค์กรต่างๆ เปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อทรานส์ฟอร์มธุรกิจและขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมไร้คาร์บอน โดยโรงงานแห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยควบคู่ไปกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
*ดูราเพาเวอร์ เป็นบริษัทลูกของบ้านปู เน็กซ์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ 65.1%
**ที่มา: Asia Pacific Electric Bus Market Size & Share Analysis - Growth Trends & Forecasts (2024 - 2029)
***ที่มา: Industry Outlook 2024-2026: Electric Vehicle Industry
บ้านปู เน็กซ์ บริษัทลูกของบ้านปู ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมกับ SVOLT ผู้ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ประกาศเดินหน้าสายการผลิตของโรงงาน SVOLT Thailand อย่างเป็นทางการ พร้อมส่งมอบแบตเตอรี่สู่ตลาดประเทศไทย เพื่อใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ และ โฮซอน มอเตอร์ นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับโรงงานแห่งนี้ที่สามารถผลิตแบตเตอรี่และส่งมอบให้กับลูกค้าในไทยได้ภายในระยะเวลาเพียง 5 เดือน ตอกย้ำความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ในเอเชียแปซิฟิก โดยมีผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ Group Senior Vice President บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด และ Mr. Yang Hongxin, Chairman และ CEO บริษัท เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี จำกัด (SVOLT) ร่วมเป็นเกียรติในงาน
โรงงาน SVOLT Thailand ได้ก่อสร้างและเปิดทำการอย่างรวดเร็ว นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการขยายธุรกิจของบ้านปู เน็กซ์ และ SVOLT ด้วยความตั้งใจที่จะผลิตและส่งมอบแบตเตอรี่ให้กับลูกค้าในประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น โดยโรงงานแห่งนี้ดำเนินการตามมาตรฐานการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ของบริษัทฯ ทั้งยังนำเทคโนโลยีล้ำสมัยจากประเทศจีนมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม กระบวนการผลิต และอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมแบตเตอรี่โดยเฉพาะ ผสานหลายเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาทิ ระบบการตรวจสอบและวิเคราะห์ด้วยดิจิทัล รวมถึงระบบการติดตามและวิเคราะห์คุณภาพอย่างเต็มรูปแบบ สอดรับกับนโยบาย EV 3.5 ของภาครัฐ ทั้งยังมีสายการผลิตที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถสลับการผลิตแบตเตอรี่แต่ละประเภทได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยจะผลิตแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าจากเกรท วอลล์ มอเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น ORA, Haval, Tank และรุ่นอื่นๆ รวมถึงรถยนต์พลังงานใหม่จากค่ายโฮซอน มอเตอร์ คาดว่าโรงงาน SVOLT Thailand จะส่งมอบแบตเตอรี่ให้กับลูกค้าในประเทศไทยได้มากกว่า 20,000 ชุดตามความต้องการตลาดในปีนี้
นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “บ้านปู เน็กซ์ มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้กับ SVOLT ซึ่งช่วยสะท้อนความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมไร้คาร์บอน (Net-Zero) ของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรามั่นใจว่าการเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของ SVOLT จะรองรับความต้องการแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตขึ้น รวมถึงเสริมแกร่งศักยภาพการแข่งขันให้กับตลาด EV ทั้งในประเทศไทยและอาเซียน ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบ้านปู เน็กซ์ และ SVOLT ที่ต้องการส่งมอบโซลูชันพลังงานสะอาดคุณภาพสูง ผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ที่ผลิตในประเทศ และบริการที่ตอบสนองเทรนด์และความต้องการของลูกค้า ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมพลังงานในภูมิภาค”
Mr. Yang Hongxin, Chairman และ CEO บริษัท เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี จำกัด (SVOLT) กล่าวว่า “การเปิดโรงงาน SVOLT Thailand ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะสานต่อปรัชญาการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าในแต่ละประเทศควบคู่ไปกับการเดินหน้ากลยุทธ์ระดับโลกของเรา โดยโรงงานแห่งนี้มีศักยภาพการผลิตและทุนสำรองทางเทคนิคสำหรับผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท เมื่อเปิดทำการ โรงงานแห่งนี้จะเพิ่มขีดความสามารถทางการผลิตเพื่อให้สอดรับกับแผนการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไปยังต่างประเทศ รวมถึงให้ความสำคัญกับการตอบสนองความต้องการของตลาดและผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพการแข่งขัน ในอนาคต SVOLT จะต่อยอดองค์ความรู้ระดับโลกและอุดมการณ์ระยะยาวเพื่อให้เข้าใจตลาดและความต้องการของลูกค้าในแต่ละประเทศได้อย่างแท้จริง นำไปสู่การส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ที่ผลิตในประเทศเหล่านั้นให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น”
โรงงาน SVOLT Thailand เป็นส่วนสำคัญในแผนการขยายสู่ตลาดต่างประเทศของ SVOLT โดยเป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง บ้านปู เน็กซ์ กับบริษัทลูกของ SVOLT คือ บริษัท เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SVOLT Thailand เน้นผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับรถ 2 ล้อและ 3 ล้อ ระบบกักเก็บพลังงาน รวมถึงการรีไซเคิลแบตเตอรี่ และอื่นๆ อีกมากมาย ปัจจุบัน โรงงาน SVOLT Thailand ผลิตแบตเตอรี่ LCTP (Low-Carbon Transition Plan) ซึ่งมาพร้อมเซลล์พลังงาน Short Blade L600 ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ได้แก่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และ โฮซอน มอเตอร์ รองรับความต้องการแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก (A-Segment) ในตลาดประเทศไทย
บ้านปู เน็กซ์ และ SVOLT เป็น long-term partners ที่มีความมุ่งมั่นและเป้าหมายร่วมกันในการตอบรับเทรนด์พลังงานโลก การเปิดโรงงาน SVOLT Thailand จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทได้ผนึกความเชี่ยวชาญและยกระดับเทคโนโลยีล้ำสมัยจากประเทศจีน เพื่อส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางชั้นนำของการลดการปล่อยคาร์บอนในเอเชียแปซิฟิก สะท้อนจุดยืนของทั้งสองบริษัทที่จะส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่คุณภาพสูงที่เหมาะสมในแต่ละตลาด ตลอดจนส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคอีกด้วย
บ้านปู เน็กซ์ บริษัทลูกของบ้านปู ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ต่อยอดความแข็งแกร่งทางธุรกิจกับ SVOLT ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดตั้งโรงงานและพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการกักเก็บพลังงาน เซลล์แบตเตอรี่ และการรีไซเคิลแบตเตอรี่ ตั้งเป้าให้โรงงาน SVOLT Thailand แห่งนี้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ลิเธียมในประเทศไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆ โดยได้รับเกียรติจาก Mr. Yang Hongxin, Chairman และ CEO บริษัท เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี จำกัด (SVOLT) Mr. Zhang Feng, Vice President บริษัท เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี จำกัด (SVOLT) นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ Group Senior Vice President บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และนายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ร่วมลงนามความร่วมมือ
SVOLT และบ้านปู เน็กซ์จะเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ร่วมกันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในการประกอบแบตเตอรี่ลิเธียม ระบบกักเก็บพลังงาน การผลิตเซลล์แบตเตอรี่ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในประเทศไทยและสอดรับกับนโยบายต่างๆ นอกจากนี้ จะศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานผลิตระบบกักเก็บพลังงานในประเทศไทย และอัปเกรดสายการผลิตจากแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเป็นระบบกักเก็บพลังงานอีกด้วย โดยจะเริ่มต้นจากการศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ในไทยเพื่อขานรับนโยบายภาครัฐและเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตในปี พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป พร้อมทั้งขยายขอบเขตความร่วมมือทางธุรกิจ การใช้ทรัพยากรร่วมกัน และการพัฒนาโครงการด้านระบบกักเก็บพลังงานเพื่อสร้างแผนธุรกิจใหม่ๆ สำหรับรุกตลาดทั้งในไทยและภูมิภาคอาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และทวีปอเมริกาเหนือ
นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “วันนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของบ้านปู เน็กซ์ ที่จะมุ่งขับเคลื่อนสังคมไร้คาร์บอนในอนาคต การต่อยอดความร่วมมือกับ SVOLT เพื่อตอกย้ำการเป็นพันธมิตรธุรกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมเปิดโอกาสใหม่ในธุรกิจด้านการกักเก็บพลังงาน เซลล์แบตเตอรี่ และการรีไซเคิลแบตเตอรี่ อีกทั้งช่วยสร้างมูลค่าในธุรกิจแบตเตอรี่ของบ้านปู เน็กซ์ ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น รวมถึงผลักดันให้เรานำจุดแข็งมาตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศและบุกเบิกนวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดจากความร่วมมือทางการค้า ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศไทยและทั่วโลกได้”
Mr. Yang Hongxin, Chairman และ CEO บริษัท เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี จำกัด (SVOLT) กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่หน่วยงานภาครัฐของไทยและบ้านปู เน็กซ์ ได้สนับสนุนการพัฒนาธุรกิจของ SVOLT ในประเทศไทย การลงนามในข้อตกลงครั้งนี้เป็นผลสำเร็จจากการทำงานร่วมกันของทั้งสองบริษัท ซึ่งจะนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานรูปแบบใหม่ที่มีคุณภาพสูงในประเทศไทย เราเชื่อว่าความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้ระหว่าง SVOLT และบ้านปู เน็กซ์ จะช่วยให้ SVOLT สามารถส่งมอบเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ล้ำสมัยสู่ตลาดไทยได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งช่วยส่งเสริมการพัฒนาตลาดพลังงานใหม่ในประเทศซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ระดับโลก และสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจและผู้บริโภคชาวไทย”
ในฐานะองค์กรด้านเทคโนโลยีโครงข่ายพลังงานระดับโลก SVOLT ได้ขยายฐานธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ได้ร่วมมือกับบ้านปู เน็กซ์ ในหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มก่อสร้างโรงงาน SVOLT Thailand อย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม การเข้าซื้อหุ้น SVOLT Thailand ของบ้านปู เน็กซ์ ในเดือนตุลาคม ตามมาด้วยกิจกรรมการเยี่ยมชมโรงงาน SVOLT ในเดือนพฤศจิกายนซึ่งได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารจากกระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ก่อนจะปิดท้ายด้วยการผลิตแบตเตอรี่ชุดแรกจากโรงงานของ SVOLT Thailand และบ้านปู เน็กซ์ ในเดือนธันวาคม ด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ SVOLT และบ้านปู เน็กซ์ จะผนึกกำลังนำความแข็งแกร่งมาใช้ร่วมกันทั้งเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์ระดับโลก และความหลากหลายทางธุรกิจ ซึ่งจะรวมไปถึงการร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ ในประเทศ ในการพัฒนาเทคโนโลยี การผลิต และผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตให้กับตลาดพลังงานของไทยและส่งเสริมการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพและสะอาดมากขึ้น