แบรนด์ CP ในกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารคุณภาพ ปลอดภัย เปิดประสบการณ์ 'ไส้กรอกซีพี มินิค็อกเทล ไซซ์เล็ก สนุกใหญ่' ตอกย้ำความอร่อยของไส้กรอก มินิค็อกเทล ขนาดพอดีคำ เนื้อแน่น กินเพลิน พร้อมบรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ ที่ได้ SAHREDTOY หรือ คุณต๊อด อาร์ตติสชื่อดังระดับประเทษศมาออกแบบลวดลายคาเรคเตอร์การ์ตูน ชูรสชาติของ ไส้กรอก ซีพี มินิค็อกเทล ทั้ง 4 ให้โดดเด่น ง่ายต่อการเลือกซื้อตามใจชอบ ด้วยกระแสตอบรับที่ดี แบรนด์ CP จึงจัดกิจกรรม Exclusive กับ พีพี-กฤษฏ์ อํานวยเดชกร พรีเซนเตอร์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ ที่ใส่ใจตัวเองและเต็มที่กับทุกๆ กิจกรรม
ภายในงาน ผู้ร่วมงานได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมหลักแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ เมืองจำลอง “ไส้กรอก มินิค็อกเทล" แชะ โพสต์ แชร์ลงโชเชียลกันอย่างจุใจ และช่วงบ่าย เป็นกิจกรรมที่ทุกคนรอคอย กับพรีเซ็นเตอร์สุดฮอตแห่งปี ด้วยไฮไลท์พื้นที่ Exclusive Seats พิเศษกว่าใคร สำหรับ 'Lucky Fans' จำนวน 100 คนจากการร่วมสนุกผ่านช่องทางออนไลน์ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษที่ ไส้กรอก ซีพี มินิค็อกเทล ร่วมกับเหล่าแฟนคลับทำ Fan’s Project ให้แก่ พีพี-กฤษฏ์ โดยเฉพาะอีกด้วย
นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดกลาง ซีพีเอฟ กล่าวว่า ไส้กรอก ซีพี มินิค็อกเทล เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ CP ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ด้วยรูปลักษณ์ขนาดพอดีคำ รับประทานง่าย ได้ทุกที่ทุกเวลา มีให้เลือก 4 รสชาติ คือ คลาสสิค สไปซี่ แฮมเบคอน และบาร์บีคิว ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่มีกิจกรรมมากมายในแต่ละวัน ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และอิ่มท้อง สำหรับการร่วมงานกับน้องพีพีครั้งนี้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้แฟนตัวยงของ ไส้กรอก ซีพี มินิค็อกเทลมาร่วมแบ่งปันความชื่นชอบแก่ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่โดยตรง
ด้าน พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร กล่าวถึงความประทับในฐานะพรีเซ็นเตอร์ ไส้กรอก ซีพี มินิค็อกเทล ว่า อย่างแรกที่ชอบ คือ ขนาดที่มีความมินิพอดีคำ รับประทานง่าย ไม่เลอะมือ เหมาะกับเป็นของว่างหรือรองท้องในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ดูซีรีส์ เล่นเกม คุยโทรศัพท์ หรือหิวตอนขับรถ ชอบและรับประทานเป็นประจำอยู่ 2 รส คลาสสิคและแฮม เบคอน และที่โดนใจมาก แพกเกจจิ้งใหม่ลายการ์ตูน ที่ออกแบบได้น่ารักสดใสมาก อยากชวนทุกคนมาลองซีพี มินิค็อกเทล ไซซ์มินิ ความอร่อยไซซ์บิ๊กมาก
นางสาวอนรรฆวี กล่าวเพิ่มเติม สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไส้กรอก ซีพีเอฟมุ่งมั่นที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ด้วยแนวคิด ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Consumer Centric) ทำความเข้าใจ คิดค้น และพัฒนาอาหารให้มีคุณภาพสูง สะอาด ปลอดภัย หลากหลายสามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ปีนี้มีการเปิดตัวแบรนด์ CP Halal ไส้กรอกไก่คุณให้ภาพที่ได้มาตรฐานฮาลาล เพิ่มทางเลือกกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ภาคใต้ และพี่น้องมุสลิม รวมถึงอกไก่แผ่นสไลด์รมควัน CP Delight ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไส้กรอกรูปแบบใหม่ เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องแคลอรี่ของอาหารทุกคำที่รับประทาน
ทีมนักศึกษาจากประเทศไทยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศอีกครั้ง โดยคว้ารางวัลทีมภาษาอังกฤษยอดเยี่ยมจากการแข่งขัน Global Brand Planning Competition (GBPC) 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ โดยทีม "Win Won Won" ที่ประกอบด้วยนักศึกษาจาก 3 มหาวิทยาลัย ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ได้แสดงความสามารถโดดเด่นในการวางแผนการสร้างแบรนด์ ‘CP Bologna’ จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในประเภทแผนภาษาอังกฤษได้สำเร็จ
การแข่งขันครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ซึ่งทำหน้าที่คัดเลือกทีมตัวแทนและส่งเสริมศักยภาพของนักการตลาดรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในการแข่งขันระดับนานาชาติที่มีคู่แข่งจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นจากจีน สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานด้านการตลาดและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ในวงการธุรกิจ
นอกจากการวางแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน ทีมไทยยังได้รับคำชื่นชมในเรื่องของการวิเคราะห์ตลาดและความสามารถในการเชื่อมโยงแผนการตลาดเข้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งนี้ GBPC เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาจากหลากหลายประเทศได้แสดงความสามารถ ทั้งด้านความรู้และทักษะด้านการตลาด รวมถึงการสร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญในวงการ
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "MAT ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนทีมนักศึกษาไทยให้ก้าวไปถึงเวทีระดับโลก การแข่งขันนี้ไม่เพียงเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางการตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างนักการตลาดรุ่นใหม่กับผู้เชี่ยวชาญระดับสากล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตในสายอาชีพในอนาคต"
จากการแข่งขันครั้งนี้ ทีม "Win Won Won" ได้พิสูจน์แล้วว่าความรู้ ความสามารถ และความมุ่งมั่นของนักศึกษาไทยสามารถสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศได้อีกครั้งในเวทีสากล
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ CP "หมูฮ้อง สูตรภูเก็ต" และ "ขาหมูพะโล้" ใช้วัตถุดิบพรีเมียมหมูชีวา ที่มีโอเมก้า 3 ตอบโจทย์สไตล์คนรุ่นใหม่หรือผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานเมนูตุ๋น อร่อยติดมันเด้งดึ๋ง ที่ต้องใช้ระยะเวลาให้การปรุงนานให้สะดวกขึ้น พร้อมทั้งได้รสชาติอร่อยตามต้นตำรับอย่างแท้จริง ภายในงานได้รับเกียรติจาก 'เชฟอิน-ณรงค์ฤทธิ์ แซ่ขอ' จาก TikTok กำลังอิน และเจ้าของร้าน ครัวบ้านอิน รวมถึง ชาตรี จากเพจชาตรีกินแซ่บ มาร่วมสร้างสีสันและถ่ายทอดประสบการณ์ความอร่อยของ 2 เมนูนี้
สำหรับ "หมูฮ้อง สูตรภูเก็ต และ ขาหมูพะโล้" รังสรรค์ด้วยความพิถีพิถัน ด้วยการนำเนื้อหมูชีวาที่มีเนื้อนุ่มฉ่ำมาตุ๋นจนเปื่อย รสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อ หอมกลิ่นเครื่องเทศสามเกลอ สำหรับเมนูหมูฮ้อง อาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของเมืองภูเก็ต ซึ่งมีความพิเศษที่แตกต่างจากการตุ๋นเนื้อหมูสามชั้นทั่วไป ครั้งนี้แบรนด์ CP ได้นำเคล็ดลับความอร่อยจากต้นตำรับมาบรรจุลงในซอง เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสความออริจินัล เหมือนบินไปรับประทานถึงถิ่น
ทั้ง 2 เมนู ยังมีความพิเศษจากการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีอย่าง หมูชีวา ที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 จากธรรมชาติ มาจากเลี้ยงด้วยสูตรอาหารซูเปอร์ฟู้ด อาทิ เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) น้ำมันปลาและสาหร่ายทะเล เป็นต้น ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ 100% ตลอดการเลี้ยงดู ได้การรับรองมาตรฐานความปลอดภัยการเลี้ยงจาก NSF จากประเทศสหรัฐอเมริกา การันตีด้วยรางวัลระดับนานาชาติ ทั้งนี้เป็นผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์รายแรกและรายเดียวที่ได้รับการรับรองตรา ‘อาหารรักษ์หัวใจ’ จากมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและหัวใจ จึงเหมาะกับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ วัยเด็ก วัยทำงาน และผู้สูงวัย สามารถรับประทานได้ทุกวัน
เมนู "หมูฮ้อง สูตรภูเก็ต และ ขาหมูพะโล้" มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เฉพาะที่ แม็คโครและโลตัส กับโปรโมชัน ซื้อผลิตภัณฑ์ในราคาพิเศษ เพียงชิ้นละ 139 บาท (จาก 149 บาท) ตั้งแต่วันนี้ถึง 18 กันยายน 2567
การจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันไม่ได้มุ่งเพียงเนื้อหาวิชาการเท่านั้น หลายโรงเรียนยังให้ความสำคัญกับแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” โดยจัดให้มีการสอนที่สัมพันธ์กับชีวิตประจำวันหรือชีวิตจริงของเด็กนักเรียนมากยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการพัฒนาทักษะความสามารถรให้กับเด็กและเยาวชน
นายวินิต ศิริสันติเมธาคม ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านโนนสูงน้อย ต.หนองชัยศรี อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า โรงเรียนบ้านโนนสูงน้อย เป็นโรงเรียนขนาดกลาง เปิดสอนระดับอนุบาล 2 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียน 246 คน การเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านโนนสูงน้อย มุ่งให้ “นักเรียนเป็นศูนย์กลาง” นอกจากด้านวิชาการที่เป็นพื้นฐานแล้ว ยังเน้นการเพิ่มเวลารู้ ด้วยการเพิ่มเวลาและโอกาสให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้มีประสบการณ์ตรง รู้จักคิดวิเคราะห์ ฝึกการทำงานเป็นทีม และเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีความสุข จากกิจกรรมสร้างสรรค์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน โรงเรียนบ้านโนนสูงน้อย ที่เป็นโรงเรียนดีประจำตำบล และเป็นหนึ่งในสถานศึกษาในโครงการ สานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี (CONNEXT ED) อยู่แล้ว จึงตัดสินใจเสนอโครงงานเรื่อง ร้านการแฟเด็กน้อย ร้อยเรียงสู่อาชีพ เพื่อสร้างทักษะในการประกอบอาชีพให้กับนักเรียน ถือเป็นการฝึกกระบวนการทำงาน และยังช่วยสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพเสริม แลเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวของนักเรียน หลังจากเสนอโครงการแล้ว ก็ได้รับการอนุมัติและการสนับสนุนจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ให้จัดทำร้านจำหน่ายกาแฟและเครื่องดื่ม ภายใต้ชื่อร้าน "CP สานฝันเด็กไทย"
“ร้านกาแฟ "CP สานฝันเด็กไทย" เป็นโครงการที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชน และสอดคล้องกับนโยบายการดำเนินงานของโรงเรียน ที่ต้องการเสริมทักษะความรู้และอาชีพให้กับเด็กนักเรียน เพื่อปูพื้นฐานอาชีพให้กับพวกเขาในอนาคต ซึ่งร้านจำหน่ายกาแฟและเครื่องดื่มชงนั้นใช้เงินลงทุนไม่มาก หากนักเรียนจะนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดเป็นอาชีพของตนเองและครอบครัวก็สามารถทำได้ โรงเรียนก็อยากให้เด็กๆ ได้เป็นเจ้าของกิจการ โครงการฯ นี้จึงช่วยสานฝันการประกอบอาชีพของพวกเขาได้ สำหรับนักเรียนจะมีรายได้จากส่วนแบ่งการขาย และร้านเปิดเป็นบัญชีร้านเพื่อควบคุมรายรับรายจ่าย มีการทำบัญชีควบคู่ เพื่อให้ร้านดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน มีคุณครูดูแล 4 คน มีนักเรียน 10 คนเป็นคนดูแลประจำร้าน โดยเด็กๆมีโอกาสเข้าเรียนรู้ทุกคน” ผอ.วินิต กล่าว
สำหรับน้องๆ นักเรียนที่ผ่านการฝึกประกอบอาชีพจากร้านกาแฟ ที่ผ่านมาจำนวนหนึ่งรุ่น เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 จำนวน 40 คน ซึ่งเป็นการเพิ่มเวลารู้ในที่คาบชุมนุมที่ ในช่วงบ่ายสามถึงสี่โมง ทุกวันจันทร์ จึงไม่กระทบกับการเรียนการสอน โดยมีน้องๆ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 24 คน ที่จบการศึกษาและได้ไปศึกษาต่อในลำดับชั้นที่สูงขึ้น ในจำนวนนี้ได้ใช้ความรู้จากการได้ศึกษาลงมือปฏิบัติจากโรงเรียน ไปใช้ในงาน Part Time ได้ทันที
ดญ.ฑิมพิกา ผมพันธุ์ หรือน้องแก้ม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หนึ่งในแกนนำนักเรียน บอกว่า ดีใจมากและขอขอบคุณที่ซีพีเอฟ สนับสนุนการเปิดร้านกาแฟ ทำให้มีร้านกาแฟและวัตถุดิบในการเปิดร้านกาแฟอย่างครบถ้วน และยังมีพี่ๆจากร้านสตาร์คอฟฟีมาเป็นวิทยาการช่วยสอน ฝึกอบรมการชงกาแฟสด และเครื่องดื่มต่างๆทำให้มีสูตรชงที่แน่นอน จนลูกค้าต่างติดใจในรสชาติที่อร่อย โครงการนี้ทำให้เรามีความรู้สามารถนำไปต่อยอดสร้างรายได้ให้ตัวเองและครอบครัวได้หลังจากจบการศึกษา หรือแม้แต่ช่วงวันหยุดปิดภาคเรียนก็สามารถแล้ว ทำเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ ที่สำคัญทักษะเหล่านี้ยังทำให้คว้ารางวัลในการประกวดโครงงานสร้างความภูมิใจให้กับพวกเรา
เช่นเดียวกับ ดช.ทีทายุ เทินสะเกษ หรือน้องอชิ นักเรียนชั้นเดียวกัน กล่าวว่า การได้ฝึกทักษะอาชีพร้านกาแฟ ทำให้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับเพื่อนๆ รู้เทคนิคการขาย การพบปะผู้คน สร้างความมั่นใจให้กับตนเองและเพื่อนๆ นอกจากการจำหน่ายกาแฟและเครื่องดื่มต่างๆที่หน้าร้าน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านข้างสหกรณ์โรงเรียนแล้ว เรายังขยายการจำหน่ายเป็นเครื่องดื่มชงบรรจุขวด ราคาย่อมเยาเพียงขวดละ 5 บาท ทำให้สะดวกต่อการดื่มและสามารถซื้อหาไปฝากครอบครัวได้ ถือเป็นอีกช่องทางการจำหน่ายที่สร้างรายได้เพิ่มให้กับโครงการ ขณะเดียวกัน ยังมีการรับคำสั่งซื้อสินค้าสำหรับงานต่างๆ รวมถึงการออกบูธในงานแสดงสินค้าต่างๆ อย่างเช่น งานของดีลำปลายมาศ ซึ่งบูธของเราได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และยังได้วางแผนต่อยอดสู่การทำเบเกอรี่ในอนาคตด้วย
โครงการ สานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี และซีพีเอฟ ภูมิใจที่ได้มีส่วนสนับสนุนนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ให้กับเด็กไทย และเป็นอีกพลังในการสนับสนุนให้น้องๆนักเรียนมีวิชาความรู้ติดตัวสู่อนาต และเปิดโลกกว้างทางการศึกษาและการยกระดับพัฒนาเด็กๆ มาอย่างต่อเนื่อง
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เซเว่น เดลิเวอรี่ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ขอบคุณนักลงทุนที่เข้ามาร่วมจองซื้อหุ้นกู้ชุดใหม่เต็มจำนวน 13,000 ล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนของตลาดตราสารหนี้ไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกของประเทศที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 14,854 สาขา และความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด โดยเสนอขายให้กับประชาชนเป็นการทั่วไป ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 4 ปี 4 วัน อัตราดอกเบี้ย 3.05% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 8 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.75% ต่อปี โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคม 2567 นี้
“บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน ที่ให้ความไว้วางใจเข้ามาร่วมลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ จนทำให้ยอดจองซื้อเต็มวงเงินที่เสนอขาย 13,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ที่เป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกของประเทศภายใต้แบรนด์ “เซเว่น อีเลฟเว่น” และมีบริษัทย่อยที่เป็นผู้นำในธุรกิจค้าส่งของประเทศอีกด้วย โดยในการแสดงความจำนงจองซื้อหุ้นกู้ของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนสหกรณ์ได้แสดงความสนใจเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า 5.6 เท่าของยอดที่จัดสรรให้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา โดยหลังจากนี้ บริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างความสะดวกกับทุกชุมชน ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ต่อไป”
ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทางผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้การตอบรับหุ้นกู้ของซีพี ออลล์ ในครั้งนี้เป็นอย่างดี ทำให้มียอดจองซื้อครบเต็มจำนวน 13,000 ล้านบาทตามที่บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้ อีกทั้งหุ้นกู้ซีพี ออลล์ ในครั้งนี้ได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถือเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ “AA-” และมีแนวโน้มเป็น “คงที่” (Stable) เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจโดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์ตลาดตราสารหนี้มีความผันผวนสูง ซึ่งเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นกู้ที่มีความมั่นคงสูง และขอเน้นย้ำเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนที่พลาดโอกาสการจองซื้อหุ้นกู้ซีพี ออลล์ ในครั้งนี้ ขอให้ผู้ลงทุนโปรดระวังมิจฉาชีพที่แอบอ้างชื่อ “ซีพี ออลล์” หลอกลงทุน โดยนำเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริงผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook และแอปพลิเคชั่น LINE เป็นต้น ทั้งนี้ ช่องทาง CP ALL ของจริง ต้องมีสัญลักษณ์ติ๊กถูกสีฟ้า (Verified Account) เท่านั้น”