ห้าดาว (FIVE STAR) แบรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์อาหารแถวหน้า ตำนานความอร่อยคู่คนไทยมากว่า 40 ปี จับมือ โก๋แก่ แบรนด์ขนมขบเคี้ยวอันดับหนึ่งของโปรดคนไทย เปิดตัว ‘ถั่วลิสงอบกรอบ รสไก่ย่างห้าดาว ตราโก๋แก่’ เจาะตลาดสแน็กในไทย ตอกย้ำรสชาติซิกเนเจอร์ของ ไก่ย่างห้าดาว ดึงกลยุทธ์ 'The Heritage Fusion' ผสานจุดแข็งของแต่ละแบรนด์ ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการประสบการณ์ความอร่อยแนวใหม่ ภายใต้รสชาติที่คุ้นเคย
นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างห้าดาวและโก๋แก่ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการนำเสนอความอร่อยที่แปลกใหม่และสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้บริโภค การผสานระหว่างรสชาติของถั่วโก๋แก่คลุกเคล้ากับน้ำจิ้มรสซิกเนเจอร์สูตรเฉพาะของไก่ย่างห้าดาวที่คนไทยคุ้นเคย เป็นการสร้างสรรค์ที่ลงตัวอย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยความแข็งแกร่งของทั้งสองแบรนด์ เชื่อว่าจะสร้างตำนานแบบที่ยากจะปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ห้าดาวเอง ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ยืนหนึ่งเรื่องไก่ย่างที่มีสูตรเฉพาะ ส่วนโก๋แก่ แบรนด์ขนมถั่วลิสงอบกรอบ รสชาติเข้มข้น ที่ครองใจผู้บริโภคไทยมาหลายทศวรรษ
"การเลือกกลยุทธ์ The Heritage Fusion นำเสนอความลงตัวระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัยของทั้งสองแบรนด์ เพื่อผสมผสานเอกลักษณ์ของห้าดาวที่เชี่ยวชาญด้านไก่ย่างเข้ากับโก๋แก่ที่เด่นเรื่องถั่วลิสงอบกรอบ ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและสร้างประสบการณ์ใหม่ในรสชาติให้แก่ผู้บริโภค นี่คือการแสดงพลังร่วมกันที่ไม่เพียงแต่สร้างความแตกต่าง แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการขนมทานเล่นในบ้านเราอีกด้วย” คุณสุนทร กล่าว
สำหรับ ‘ถั่วลิสงอบกรอบ รสไก่ย่างห้าดาว ตราโก๋แก่’ มาพร้อมรสชาติที่เข้มข้นไม่เหมือนใครจากการคัดสรรถั่วลิสงคุณภาพสูง นำมาคลุกเคล้ากับน้ำจิ้มรสซิกเนเจอร์ของไก่ย่างของห้าดาว เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ เป็นต้นไป ในร้าน 7-Eleven ห้างแม็คโครและโลตัสทุกสาขาทั่วประเทศ ราคาซองละ 22 บาท
“เราเป็นลูกค้าที่ชอบทานทุกเมนูของห้าดาว เพราะคุณภาพสินค้า และรสชาติที่อร่อยแบบคงที่ 40 ปีผ่านไป สินค้าเขาก็ยังคงรสชาติความอร่อยไม่เคยเปลี่ยน มีแต่พัฒนายิ่งขึ้น สินค้ามาตรฐานเหมือนกันทุกสาขา และยังเป็นอาหารที่รับประทานได้ง่ายๆ ไก่จ๊อตอนเช้าสำหรับทุกคนในครอบครัวก็อิ่มอร่อยได้ แถมยังมีประโยชน์เพราะมีโปรตีนจากเนื้อไก่แบบ เรามองที่ตัวเองก่อน และน่าจะเป็นสินค้าตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบเหมือนกันกับเรา เมื่อประทับใจ ก็อยากทำร้านของตัวเอง การเริ่มทำแฟรนไชส์ได้ง่าย โดยมีทีมงานห้าดาวเป็นทีมหลังบ้านสนับสนุนที่ดีมาก จากร้านแรกเมื่อปี 2561 ก็ขยายสู่ร้านต่อๆไป จนกระทั่งขยายเป็น 11 สาขาในวันนี้” รุ่งอรุณ ภักดีสูงเนิน หรือ เจ๊รุ่ง เริ่มต้นเล่าที่มาของการเป็นนักธุรกิจแฟรนไชส์ห้าดาวอย่างน่าสนใจ
จากแม่ค้าที่มีร้านขายอาหารในห้าง ที่อยากสร้างธุรกิจใหม่ๆควบคู่กัน เจ้รุ่งเลือกแฟรนไชส์ห้าดาว จากความชอบของตนเอง ที่เปลี่ยนเป็นความรักในอาชีพนี้ อาชีพที่สร้างงาน สร้างรายได้ที่มั่นคง ให้กับตัวเธอตลอด 6 ปีที่ผ่านมา และยังสร้างอาชีพให้กับทีมงานอีก 12 คน ที่ช่วยกันดูแลร้านทั้ง 11 สาขา ทำให้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว มีเงินส่งเสียลูกหลานได้เรียนหนังสือ
เมื่อถามว่าการมีสาขาร้านมากๆเช่นนี้ การบริหารและดูแลร้านต้องทำอย่างไร เจ๊รุ่งบอกว่า ในทุกๆวันจะต้องเดินทางไปดูร้านให้ครบทั้ง 11 สาขา โลตัสแจ้งวัฒนะ โลตัสรัตนาธิเบศร์ โลตัสศิริชัย โลตัสเรวดี แม็คโครรังสิต วิภาวดี35 บิ๊กซีสี่มุมเมือง แยกเกษตร(ตลาดกินซ่า) โรงพยาบาลทรวงอก พันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน และบิ๊กซีแจ้งวัฒนะ2 กรณีที่ไปด้วยตัวเองไม่ได้ จะดูผ่าน CCTV ที่สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง ทำให้สามารถบริหารจัดการร้านได้อย่างสะดวก พูดคุยกับทีมงานได้ทันที และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งกระบวนการผลิตในร้าน การทำงานของทีมงาน การให้บริการ และจำนวนลูกค้าในแต่ละวัน ส่วนเรื่องผลิตภัณฑ์ก็ไม่ต้องกังวลเพราะทางห้าดาวรับผิดชอบเรื่องนี้ ตั้งแต่พัฒนาผลิตภัณฑ์ จัดส่งสินค้า สนับสนุนด้านการตลาดและโปรโมชันอย่างครบวงจร
“การทำร้านห้าดาวเราไม่คาดหวังว่าต้องได้เยอะตั้งแต่แรก ขอแค่ร้านมั่นคงเลี้ยงตัวเองได้ และตัวเราได้ทีมงานก็ต้องได้ด้วย ที่สำคัญทีมเราทั้ง 12 คน ต้องมีอาชีพ มีรายได้ สร้างงานให้เขา และเติบโตไปพร้อมๆกัน ที่ผ่านมาจะบอกทีมงานเสมอว่าให้คิดว่าเป็นร้านของตัวเอง การทำงานจะมี incentive เป็นแรงจูงใจให้ทุกคน ส่วนสิ่งที่ร้านเราให้ความสำคัญที่สุดคือ การบริการต้องมาที่หนึ่ง ต้องสร้างความประทับใจ จะไม่กดดันเรื่องยอดขาย ขอให้ทุกคนทำให้เต็มที่ ใส่ใจบริการลูกค้าอย่างดีที่สุด หลังจากนั้นลูกค้าจะเป็นคนตัดสินใจเอง” เจ๊รุ่งบอกเทคนิคสร้างความสำเร็จ
เมื่อถามถึงแคมเปญ ‘ลดรายจ่ายคนซื้อ เพิ่มรายได้คนขาย’ ที่ห้าดาวตั้งใจมอบสิ่งดีๆให้กับลูกค้าและแฟรนไชส์ เจ๊รุ่งบอกว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แคมเปญนี้ช่วยกระตุ้นยอดขาย ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและบริการที่ได้รับ เขาก็พร้อมสนับสนุน เพราะสินค้าห้าดาวถึงแม้ไม่ใช่ช่วงโปรโมชัน ผู้บริโภคก็ยังรู้สึคุ้มค่าคุ้มราคา เรียกว่ามี ‘ความคุ้มค่าเป็นปกติ' ขณะเดียวกัน แฟรนไชส์เองก็มีแคมเปญหลังบ้านที่ทำให้ผลกำไรจากตัวสินค้า และมียอดขายเพิ่มขึ้นจากแคมเปญ เรียกว่าได้ประโยชน์สองต่อทั้งกำไรหลังบ้านและยอดขายที่เพิ่มในแต่ละครั้ง และยังมีระบบการจัดการยอดขายผ่านเครื่อง POS ทุกจุดหลังบ้าน พร้อมระบบเดลิเวอรี่เพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย ทุกแพลตฟอร์ม ทุกสาขาอีกด้วย
“วันนี้พูดได้เต็มปากว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของ ‘ครอบครัวห้าดาว’ เป็นห่วงโซ่สุดท้ายที่สำคัญในการส่งมอบอาหารปลอดภัย อาหารที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภค ทุกวันนี้เรามีกินมีใช้ก็เพราะธุรกิจนี้ มีกินมีใช้ เลี้ยงพ่อแม่ เลี้ยงดูหลานๆ ทีมงานมีรายได้ มีเงินปลูกบ้านก็เพราะธุรกิจนี้ พ่อแม่สนับสนุนเต็มที่และภูมิใจที่เราประสบความสำเร็จ รวมถึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างอาชีพให้คนอื่นๆด้วย” เจ๊รุ่ง กล่าวทิ้งท้ายอย่างภูมิใจ
ถ้าพูดถึงเมนูฮิต แบรนด์ FIVE STAR หรือที่คุ้นหูว่า 'ห้าดาว' หนึ่งในนั้นคือ 'ไก่จ๊อ' ที่ขึ้นแท่นเมนูโปรดของหลายๆ คน ปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบออริจินัล สูตรต้นตำรับ และสูตรพริกสด ที่สามารถทานเล่น หรือเป็นกับข้าว โดยเฉพาะรับประทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย สูตรพิเศษของห้าดาว จะยิ่งเพิ่มความอร่อยแบบทวีคูณ ชนิดไม้เดียวไม่เคยพอ
จุดเริ่มต้นจาก “ไก่จ๊อ สูตรต้นตำรับ” รสชาติความอร่อยที่ครองใจผู้บริโภคมายาวนาน ใช้วัตถุดิบคุณภาพจากเนื้อไก่คัดพิเศษ ใส่ใจตั้งแต่กระบวนการเลี้ยงเป็นอย่างดีในโรงเรือนระบบปิด หรือ EVAP (Evapolative Cooling System) ของซีพีเอฟ นำมาปรุงคลุกเคล้ากับส่วนผสมที่คัดสรรอย่างดี ได้แก่ แครอท ข้าวโพด เห็ดหอม ต้นหอม ทำให้ได้วิตามินดีจากผัก ปรุงรสให้กลมกล่อม จากนั้นห่อด้วยฟองเต้าหู้เกรด A การันตีความสะอาด ปลอดภัย ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล
หลังจากเสียงตอบรับอย่างล้นหลามของสูตรต้นตำรับ ห้าดาวจึงพัฒนาสูตรใหม่ "ไก่จ๊อ สูตรพริกสด" ปรับรสชาติให้จัดจ้าน ถูกปากคนไทยเพิ่มขึ้น ผสมผสานระหว่างพริกสดคลุกเคล้ากับเนื้อไก่ รวมถึงส่วนผสมอื่นๆ ทั้งเห็ดหอม ข้าวโพด วุ้นเส้น พริกสด และผักต่างๆ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศ ได้รสจัดจ้านทุกคำ และกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยเสริมรสชาติของอาหารให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น เป็นสูตรลับเฉพาะไก่จ๊อห้าดาวเท่านั้น
นอกจากความอร่อยที่ห้าดาวพร้อมเสิร์ฟแก่ผู้บริโภค ยังมีคุณค่าทางโภชนาการเป็นสิ่งสำคัญ อย่าง เมนูไก่จ๊อ ที่อุดมด้วยโปรตีนจากเนื้อไก่ วิตามินเอและบี รวมถึงธาตุเหล็ก เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สะดวก รับประทานง่าย
พิเศษ!! โปรโมชันตอนนี้ ซื้อไก่จ๊อสูตรต้นตำรับ 2 ไม้ ฟรี Pepsi 1 ขวด ขนาด 340 มล. เพียง 50 บาท (ปกติ 65 บาท) ตัังแต่วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2567 ที่ร้านห้าดาวมากกว่า 5,000 สาขาทั่วประเทศ หรือสามารถสั่งเดลิเวอรี ตรวจสอบสาขาบริการจัดส่ง ได้ที่ Star Delivery: https://fivestar.in.th/deliverylocation/ หรือผ่านสั่งผ่าน Grab food: https://bit.ly/3DYox0o, LINE MAN: https://bit.ly/3TywErg และ True Food: https://bit.ly/smTF
ทั้งนี้ ยังมีจำหน่ายในช่องทางสั่งออนไลน์ มีให้เลือกทั้งแบบแพ็กแช่แข็งที่บ้าน เพียงนำออกมาละลายน้ำแข็ง ก่อนนำไปทอดด้วยไฟกลางจนได้ไก่จ๊อสีเหลืองทอง สำหรับสายรักสุขภาพสามารถไปอุ่นในไมโครเวฟหรือหม้อทอดไร้น้ำมัน แต่ยังคงความอร่อยเข้มข้นได้เหมือนเดิม
อาชีพอิสระกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของคนรุ่นใหม่ในยุคสมัยนี้ หลายคนไม่อยากทำงานบริษัท ไม่อยากทำงานประจำ และอยากมีอาชีพที่เป็นนายตัวเอง เฟิร์น - อัญชิสา ธนโชติจิรวณิชย์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ภายหลังเรียนจบจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เธอตัดสินใจไม่สมัครงานกับบริษัทเหมือนกับเพื่อนๆในรุ่นเดียวกัน
เฟิร์นเลือกทำ “แฟรนไชส์ห้าดาว” ธุรกิจที่เธอเห็นความสำเร็จจากคุณแม่ ที่เป็นแฟรนไชส์ห้าดาวเปิดสาขาที่บิ๊กซีราชบุรี อาชีพนี้ทำให้มีรายได้พอเลี้ยงดูครอบครัวมาโดยตลอด ประกอบกับตนเองมีโอกาสได้ช่วยคุณแม่ขายของมาตั้งแต่ต้น ทำให้ชอบงานด้านนี้ และต้องการมีร้านของตัวเองบ้าง เธอปรึกษากับพ่อแม่เพื่อขอเปิดร้านแห่งใหม่ที่หน้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในตัวเมืองราชบุรี เมื่อปี 2564 ทำร้านในรูปแบบกลาสเฮ้าส์ กิจการเป็นไปได้ด้วยดี จากนั้นเธอเห็นว่ามีทำเลใหม่ในเขตกรุงเทพฯ ที่ตลาดวังหลัง ศิริราช ซึ่งเป็นทำเลที่ดีมาก บริเวณนั้นมีทั้งวัด โรงพยาบาล ท่าเรือ และชุมชนขนาดใหญ่ จึงทำร้านสาขาใหม่ยอดขายที่สาขานี้เป็นไปได้ดี และเมื่อทีมงานห้าดาวเสนอทำเลใหม่ที่โรงพยาบาลศาลายา จ.นครปฐม เฟิร์นเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ จึงเริ่มทำร้านสาขาล่าสุดเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
“ปัจจุบันมีแฟรนไชส์มากมายให้เลือก เราเลือก “ห้าดาว” เพราะตอบโจทย์ความต้องการของเรา เป็นแบรนด์อันดับต้นๆที่คนคิดจะลงทุน เนื่องจากห้าดาวอยู่คู่คนไทยมานานถึง 40 ปี แล้ว แบรนด์เป็นที่รู้จัก มีฐานลูกค้าที่ชื่นชอบในตัวแบรนด์อยู่แล้ว จึงไม่ต้องโฆษณามาก สินค้าก็มีคุณภาพ มีมาตรฐาน รสชาติอร่อย และหลากหลาย สินค้าห้าดาวแม้จะไม่ใช่ช่วงโปรโมชันผู้บริโภคยังรู้สึกถึงความค่าคุ้มราคา คือมีความ 'คุ้มค่าเป็นปกติ' ตัวเราเองก็รู้จักกับห้าดาวมาตั้งแต่ก่อนที่แม่จะทำแฟรนไชส์นี้ ยิ่งแม่ทำร้านก็ยิ่งรู้จักแบรนด์มากขึ้น รู้ขั้นตอน วิธีการ กระบวนการบริหารจัดการทั้งหมดเป็นอย่างดี จึงตัดสินใจยึดแฟรนไชส์ห้าดาวเป็นธุรกิจสร้างอาชีพ” เฟิร์นกล่าว
เฟิร์นบอกว่าก่อนที่จะเริ่มทำร้าน เธอต้องเข้าฝึกอบรมเป็นเวลา 5 วัน เรียนรู้ทั้งเรื่องเทคนิค วิธีการ กระบวนการจัดการ ขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑ์ตามหลักที่บริษัทกำหนด จนถึงวิธีการจำหน่าย ซึ่งทั้งหมดเธอมีพื้นฐานจากการช่วยแม่ทำร้านตั้งแต่แรก ทุกอย่างที่ได้ฝึกอบรมเหมือนกับที่แม่เคยสอนไว้ จึงสามารถเรียนรู้ได้อย่างเร็วและถูกต้องตามขั้นตอนทุกอย่าง ขณะเดียวกัน หลังเปิดร้านยังมีทีมงานห้าดาวที่เป็นเสมือนเพื่อนสนับสนุนหลังบ้านที่ดีมาก คอยเข้ามาดูแลสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง มีการตรวจสอบมาตรฐานและแนะนำเทคนิคต่างๆ เพื่อพัฒนาร้านให้ดียิ่งขึ้น
“ที่ตัดสินใจทำแฟรนไชส์ก็เพราะเป็นแบรนด์นี้ โดยมองในมุมมองของลูกค้าก่อน ว่าเขาขายอะไร มีสินค้าอะไร จึงเลือกที่จะลงทุน จากนั้นพวกบริการหลังการขาย และทีมงานหลังบ้านเป็นส่วนซัพพอร์ตเพิ่มเติม ห้าดาวถือเป็นธุรกิจที่ช่วยสร้างอาชีพจริงๆ เมื่อลงทุนแล้วสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เป็นอาชีพมั่งคงได้ ยิ่งทางห้าดาวมี แคมเปญ ‘ลดรายจ่ายคนซื้อ เพิ่มรายได้คนขาย’ แม้จะเป็นช่วงโปรโมชั่นลดราคาสินค้าให้ผู้บริโภค แต่ตัวแฟรนไชส์เองยังได้กำไรเท่ากับช่วงปกติ ทำให้คนขายอยู่ได้ คนซื้อก็มีกำลังซื้อ ซึ่งเหมาะกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน เรียกว่า 3 ประโยชน์ คือประโยชน์ของผู้บริโภค ประโยชน์ของแฟรนไชส์ และเป็นประโยชน์ต่อบริษัท นอกจากนี้ ทีมงานของเราก็มีอาชีพที่ดี มีรายได้เลี้ยงตัวเองและสามารถจุนเจือครอบครัวได้” เฟิร์นกล่าวด้วยความภูมิใจ
แฟรนไชส์ห้าดาว ถือเป็นเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สนับสนุนให้คนไทยได้เป็นเถ้าแก่ ด้วยการมีกิจการเป็นของตนเอง ด้วยการลงทุนไม่สูง เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษกิจฐานรากด้วยการสร้างงานสร้างอาชีพที่มั่นคง สำหรับผู้ที่สนใจร่วมสร้างงานสร้างอาชีพ ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.fivestars-allfranchises.com หรือสอบถามที่ โทร. 02-800-8000
นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด เปิด เผยว่า "ธุรกิจห้าดาว" (Five Star) สานฝันผู้ประกอบการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง มุ่งสร้างงานสร้างอาชีพและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ประกอบการ มาตลอด 40 ปี ปัจจุบันมีแฟรนไชส์กว่า 5,000 รายในประเทศไทย และอีก 3,500 รายในต่างประเทศ ตั้งเป้าปี 2567 ขยายความสำเร็จเป็น 11,500 ราย ใน 10 ประเทศ โดยมุ่งเน้นการสานต่อความสำเร็จ สร้างเถ้าแก่ที่เข้มแข็งมีคุณภาพ ส่งต่ออาหารคุณภาพปลอดภัยสู่ผู้บริโภค โดยมีบริษัทฯ เป็น “เพื่อนแท้ทางธุรกิจ” ที่ช่วยสนับสนุนในทุกๆด้าน ช่วยสร้างโอกาสที่จับต้องได้ บนพื้นฐานความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจของห้าดาวที่มีมาอย่างยาวนาน ด้วยกลยุทธ์ที่โดดเด่น ซึ่งสามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการเป็นเถ้าแก่ที่มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคง
“ตลอดการดำเนินงาน 40 ปี ธุรกิจห้าดาวมุ่งมั่นสร้างอาชีพ ให้ผู้ประกอบการมีโอกาสเติบโตบนเส้นทางธุรกิจไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน จากระบบบริหารจัดการแบบครบวงจร ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ โดยมีบริษัทฯ เป็นทีมหลังบ้านที่แข็งแกร่ง ด้วยการลงทุนที่ต่ำกว่าในอุตสาหกรรมใกล้เคียงกัน จึงลดความเสี่ยงของผู้ลงทุน ทำให้สามารถคืนทุนได้ในเวลาอันรวดเร็ว เป็นการสร้างอาชีพและรายได้ที่แน่นอน ช่วยสร้างงานให้กับคนในชุมชน เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งมอบอาหารปลอดภัยให้กับผู้บริโภค และมีส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน” นายสุนทร กล่าว
ธุรกิจห้าดาว เป็นธุรกิจจุดจำหน่ายอาหารในรูปแบบแฟรนไชส์สัญชาติไทย ดำเนินการภายใต้ บริษัท ซีพีเอฟเรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด บริษัทย่อยของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ปัจจุบันธุรกิจห้าดาวมีแฟรนไชส์จำหน่ายอาหารหลากหลาย ตั้งแต่ ซุ้มไก่ย่าง-ไก่ทอดห้าดาว กระทะเหล็ก Hi Pork เป็ดเจ้าสัว ข้าวมันไก่ไห่หนาน และ STAR COFFEE และยังคงเดินหน้าพัฒนารูปแบบร้านให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ ทั้งรูปแบบ Five Star Glass House และ Five Star Shop
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการทำ Food Delivery สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่าน TrueMoney Wallet ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในยุคของสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ที่สำคัญยังมีทีมงานเข้าตรวจสอบคุณภาพมาตรฐาน QSC และประเมินการรักษามาตรฐานของร้านอยู่เสมอ ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นเจ้าของธุรกิจอาหารที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นด้านคุณภาพ ความปลอดภัยของสินค้า และมีความเป็นเลิศในการบริการ