“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) รับโล่เกียรติยศ “คนดี รักษ์โลก” ประจำปี 2567 โดยมี นางสาวดวงกมล อินทรพราหมณ์ (ซ้าย) ผู้บริหาร แผนกบริหารเงินและพัฒนาเพื่อความยั่งยืน เป็นผู้รับมอบ จากศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยดร.ศิรินา ปวโรฬารวิทยา (ที่ 2 จากขวา) ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมและจริยธรรม และนางรัตน์วลี อนันตานานนท์ (ขวา) ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ ณ อาคารรัฐสภา

โล่เกียรติยศ "คนดี รักษ์โลก" นี้ ทางคณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมและจริยธรรม และคณะทำงานคนดี รักษ์โลก ในคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา จัดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติองค์กรที่มีหลักการและแนวปฏิบัติที่ดีในการบริหารจัดการที่ให้ความสำคัญต่อการใช้ทรัพยากร ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดความเสี่ยงด้านการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด และตระหนักถึงแนวทางการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการสร้างขยะ รวมถึงเห็นคุณค่าความสำคัญของสิ่งแวดล้อม อันเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมโดยส่วนรวม

เคทีซีเผยสภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังคงชะลอตัว ผู้บริโภคใช้จ่ายระมัดระวัง ส่งผลภาพรวมของพอร์ตสินเชื่อทรงตัว มีมูลค่าพอร์ตรวมเท่ากับ 105,803 ล้านบาท จำนวนสมาชิกเท่ากับ 3.45 ล้านบัญชี โดยครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 3,629 ล้านบาท ในขณะที่ NPL รวมลดลงอยู่ที่ 1.97% ต่ำกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม เดินหน้าสู่เป้าหมายหลักในการรักษาคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ สร้างมูลค่ากำไรสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่างๆ และเสนอแนวทางในการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เหมาะสมและเป็นธรรม  

นางพิทยา  วรปัญญาสกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมของอุตสาหกรรมสินเชื่อผู้บริโภคเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว จากแรงกดดันของหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังสะท้อนความเชื่อมั่นในเกณฑ์ดีติดต่อกันถึงเดือนมิถุนายน 2567 ทำให้การใช้จ่ายรวมของผู้บริโภคยังมีการเติบโตบ้าง โดยเคทีซีมีสัดส่วนของลูกหนี้บัตรเครดิตและลูกหนี้สินเชื่อบุคคล (ไม่รวมสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน) เทียบกับอุตสาหกรรมระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567 เท่ากับ 14.9% และ 6.3% ตามลำดับ ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของเคทีซีเท่ากับ 12.8%”

“ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ภาพรวมการดำเนินงานของเคทีซีและกลุ่มบริษัทอยู่ในระดับทรงตัว จากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอน ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง แม้ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตเพิ่มขึ้น แต่เป็นการใช้จ่ายเพื่อสิ่งที่จำเป็นในชีวิต ขณะที่พอร์ตสินเชื่อบุคคลขยายตัวเพียงเล็กน้อย จากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่มีสัดส่วนสูงขึ้น ประกอบกับเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อที่รัดกุม สำหรับคุณภาพพอร์ตของกลุ่มบริษัทยังบริหารจัดการได้ดี โดยมี NPL รวมต่ำกว่าอุตสาหกรรม และมีเงินสำรองเพียงพอโดยมี NPL Coverage Ratio ในระดับแข็งแกร่งที่ 363.3%”

“สำหรับกำไรสุทธิของเคทีซีเทียบจากงวดเดียวกันของปี 2566 ตามงบการเงินเฉพาะกิจการครึ่งปีแรก 2567 เท่ากับ 3,722 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2.0%) และในไตรมาส 2/2567 เท่ากับ 1,829 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1.3%) โดยงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทครึ่งปีแรก 2567 เท่ากับ 3,629 ล้านบาท (ลดลง 1.3%) และไตรมาส 2/2567 เท่ากับ 1,826 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1.1%) โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 6,781 ล้านบาท เติบโต 8.7% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 จากรายได้ค่าธรรมเนียมและหนี้สูญได้รับคืนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 4,497 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% ส่วนหนึ่งจากค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณธุรกรรมที่ขยายตัว รวมถึงผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) สูงขึ้น จากการตัดหนี้สูญและการตั้งสำรองเพิ่มตามหลักความระมัดระวัง เพื่อรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งต้นทุนทางการเงินที่ปรับขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงิน”

“อย่างไรก็ตาม เคทีซียังเชื่อว่าด้วยแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ จะเอื้อประโยชน์ให้เคทีซีสามารถบรรลุเป้าหมายหลักในปี 2567 อันได้แก่ การสร้างมูลค่ากำไรสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการรักษาคุณภาพพอร์ตให้อัตราส่วนของหนี้ด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ โดยจะมุ่งสร้างฐานลูกค้าบัตรเครดิตในกลุ่มที่มีรายได้สูงขึ้น การคัดกรองคุณภาพพอร์ตทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อีกทั้งการเพิ่มช่องทางรับสมัครสมาชิกผ่านจุดบริการใหม่ ๆ อย่างเคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน (One Stop Service) ที่กระจายในพื้นที่กลุ่มเป้าหมาย จะช่วยสร้างการตระหนักรู้ในผลิตภัณฑ์และสร้างโอกาสในการเข้าถึงผู้ต้องการสินเชื่อได้มากขึ้น”

“เคทีซียังได้เสนอแนวทางต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่เหมาะสมและเป็นธรรม โดยในครึ่งแรกของปี 2567 พบว่าลูกหนี้บัตรเครดิตส่วนใหญ่ของบริษัทสามารถจ่ายชำระขั้นต่ำที่ 8% ได้ มีเพียงลูกหนี้ส่วนน้อยที่ประสบปัญหา นอกจากนี้ยังมีมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ระยะยาวในแต่ละผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกช. 7/2566 เรื่อง การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending: RL) ดังนี้ บัตรเครดิตสามารถเปลี่ยนเป็นหนี้เงินกู้สินเชื่อระยะยาวนาน 48 เดือน บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” (KTC PROUD) สามารถผ่อนผันการชำระหนี้เป็นระยะเวลา  60 เดือน สินเชื่ออเนกประสงค์ “เคทีซี แคช” (KTC CASH) ปรับลดค่างวด 30% นาน 3 รอบบัญชี/งวด  สินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” สำหรับรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์และรถบิ๊กไบค์ สามารถปรับลดค่างวด 30% นาน 3 รอบบัญชี/งวด  หรือขยายระยะเวลาผ่อนค่างวดเป็น 60 เดือน หรือ 72 เดือน หรือ 84 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทของรถที่มาขอสินเชื่อ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน www.ktc.co.th/support/rate/table-of-disclosures  และสำหรับโครงการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นหนี้เรื้อรัง (Severe Persistent Debt: SPD) นั้น ในไตรมาส 2/2567 ซึ่งเป็นช่วงเวลา 3 เดือนแรกนับตั้งแต่เกณฑ์ SPD เริ่มมีผลบังคับใช้ มีลูกหนี้เคทีซีที่สมัครเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือ คิดเป็นผลกระทบต่อรายได้ดอกเบี้ยจริง 1.3% ของผลกระทบที่เคยประมาณการไว้ (18 ล้านบาทต่อเดือน) หากลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์ทุกรายเข้าร่วมโครงการ”

ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 เคทีซีมีฐานสมาชิกรวม 3,448,530 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 105,803 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0.2%) อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) 1.97% แบ่งเป็นสมาชิกบัตรเครดิต 2,717,213 บัตร (เพิ่มขึ้น 4.3%) เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม 69,253 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0.9%) NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.42% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรสำหรับงวดไตรมาส 2/2567 มูลค่า 70,949 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 11.5%) สมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี 731,317 บัญชี (ลดลง 2.9%) เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม 34,028 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1.9%) NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.21% โดยมียอดสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” จำนวน 2,699 ล้านบาท (ขยายตัว 62.8%) ในส่วนของลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อในบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด (KTBL) มีมูลค่า 2,523 ล้านบาท (ลดลง 28.7%) ซึ่งเคทีซีได้หยุดปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 และปัจจุบันมุ่งเน้นการติดตามหนี้และบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตสินเชื่อที่มีอยู่

ในส่วนของแหล่งเงินทุน กลุ่มบริษัทมีเงินกู้ยืมทั้งสิ้น 61,965 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น (รวมส่วนของเงินกู้ยืมและหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี) 28.0% และเงินกู้ยืมระยะยาว 72.0% อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.97 เท่า ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 2.18 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพัน (Debt Covenants) ที่กำหนดไว้ 10 เท่า และมีวงเงินกู้ยืมคงเหลือ (Available Credit Line) 28,171 ล้านบาท (ระยะสั้น 22,671 ล้านบาท และระยะยาว 5,500 ล้านบาท) โดยกลุ่มบริษัทมีหุ้นกู้และเงินกู้ยืมที่จะครบกำหนดในครึ่งหลังของปี 2567 ทั้งสิ้น 7,845 ล้านบาท

เคทีซีเผยภาพรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่จีนช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้นมากกว่า 500% พร้อมเดินหน้าดำเนินธุรกิจด้วยการมอบประสบการณ์พิเศษให้กับสมาชิกที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวที่สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึง ฮ่องกง / มาเก๊า / ไต้หวัน /เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ทุกประเภทและบัตรกดเงินสดเคทีซี พราว ยูเนี่ยนเพย์ รับเครดิตเงินคืน 3% ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 – วันที่ 30 กันยายน 2567

นายธศพงษ์ รังควร ผู้บริหารสูงสุดสายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท    บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีที่ประเทศจีนมียอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่า 500%รับอานิสงส์มาตรการยกเว้นวีซ่าระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะเดียวกันเคทีซียังคงให้ความสำคัญกับเรื่องการมอบประสบการณ์พิเศษสำหรับลูกค้า (Customer Experience) จึงได้มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ทุกประเภทและบัตรกดเงินสดเคทีซี พราว ยูเนี่ยนเพย์ ด้วยเครดิตเงินคืน 3% เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่ร้านค้าในสาธารณรัฐประชาชนจีน / ฮ่องกง / มาเก๊า / ไต้หวัน /เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ เป็นสกุลเงินต่างประเทศ (ยกเว้นยอดใช้จ่ายรายการออนไลน์) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 – วันที่ 30 กันยายน 2567 โดยสมาชิกสามารถลงทะเบียนก่อน หรือภายในวันที่มียอดใช้จ่ายเกิดขึ้น ที่ www.ktc.co.th/upieastasia ลงทะเบียนเพียงครั้งเดียวต่อ 1 หมายเลขบัตรตลอดรายการ

นายธศพงษ์  กล่าวเสริมว่า ข้อดีของการใช้บัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ทุกประเภท ที่ประเทศจีน สมาชิกสามารถชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน QR PAY ได้สะดวกสบายโดยไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก และมีความปลอดภัย รวมถึงการจ่ายค่าธรรมเนียมอัตราความเสี่ยงการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเพียง 2% เท่านั้นจากอัตราปกติ 2.5%

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ktc.co.th/upieastasia หรือสอบถามรายละเอียดที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 021235000สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ www.ktc.co.th/apply/credit-card-une หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ 

หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนดจะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ไลฟ์ อิมแพค อีเว้นท์ จัดกิจกรรม  "พี่  KTC Coop ส่งภาษามือจูงน้องเรียนรู้มรดกเหนือกาลเวลาของ ดาวินชี อะไลฟ์” ณ ไอคอนสยาม ให้กับน้องๆ ที่บกพร่องทางการได้ยิน โรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระราชูปถัมภ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 - 6 เพื่อเปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน โดยมีนิสิต นักศึกษาโครงการ KTC Coop ร่วมเป็นพี่เลี้ยงดูแลน้องๆ ตลอดกิจกรรม 

นางสาวปิยะสุดาแคว้นนนทรีย์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานทรัพยากรบุคคล “เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หนึ่งในนโยบายการทำการพัฒนาที่ยั่งยืน (SD) ของเคทีซีคือการให้โอกาสทางการศึกษา และร่วมพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยให้มีคุณภาพในด้านต่างๆ อย่างไม่มีขีดจำกัด เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยอย่างยั่งยืน เคทีซีจึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ไลฟ์ อิมแพค อีเว้นท์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของเคทีซี จัดกิจกรรม "พี่ KTC Coop ส่งภาษามือจูงน้องเรียนรู้มรดกเหนือกาลเวลาของ ดาวินชี อะไลฟ์” ณ ไอคอนสยาม ให้กับน้องๆ ที่บกพร่องทางการได้ยิน โรงเรียนเศรษฐ-เสถียรในพระราชูปถัมภ์ โดยมุ่งหมายให้น้องๆ ได้เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านมรดกเหนือกาลเวลาของเลโอนาร์โด ดาวินชี อัจฉริยะก่อนกาล 500 ปี เจ้าของผลงานชิ้นเอกระดับโลกอย่างภาพวาด Mona Lisa และ The Last Supper รวมทั้งเป็นนักประดิษฐ์ นักออกแบบ นักดนตรี นักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ จนได้ชื่อว่าเป็น “พหูสูต” แห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) และได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก  ชมผลงานที่ประสบความสำเร็จของเลโอนาร์โด ชีวิตและความฉลาดของอัจฉริยะที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ ในด้านวิทยาศาสตร์ ความคิดสร้างสรรค์ และความคิดเชิงเทคนิค ในผลงานชิ้นเอก สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ตำราโบราณ และภาพวาดของปรมาจารย์ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา อิทธิพลของเลโอนาร์โดที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปะ วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ แสดให้เห็นถึงวิธีการค้นพบการประดิษฐ์ในรูปแบบใหม่ๆ และข้อสงสัยเกี่ยวกับโลกที่อยู่รอบตัวเรา ซึ่งในกิจกรรมครั้งนี้จะมีพี่ๆ นิสิต นักศึกษาโครงการ KTC Coop ร่วมเป็นพี่เลี้ยงดูแลน้องๆ ตลอดกิจกรรม 

KTC COOP (KTC Cooperative Program) คือ โครงการที่เคทีซีเข้าร่วมกับโครงการสหกิจศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาจากหลายสาขาวิชาเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์และฝึกปฏิบัติงานกับทีมงานมืออาชีพทางด้านธุรกิจการเงิน โครงการ KTC COOP เริ่มต้นในปี 2566 และมีนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ทั้งภาคภาษาไทยและนานาชาติกว่า 100 คน นอกจากนิสิตและนักศึกษาในโครงการ KTC COOP จะได้มีโอกาสปฏิบัติงานจริงเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์แล้ว เคทีซียังมุ่งพัฒนาคนรุ่นใหม่ก้าวสู่โลกการทำงานอย่างมั่นคง ด้วยการจัดหลักสูตรฝึกอบรมและกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างทักษะความสามารถเชิงสมรรถนะ (Soft Skill) รวมทั้งจัดหลักสูตรอบรมเทคนิคการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์งาน เพื่อเตรียมน้องให้พร้อมสู่โลกการทำงานหลังจากจบโครงการ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเข้าร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ของบริษัทอีกด้วย 

“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ไลฟ์ อิมแพค อีเว้นท์ จัดกิจกรรม  "พี่  KTC Coop ส่งภาษามือจูงน้องเรียนรู้มรดกเหนือกาลเวลาของ ดาวินชี อะไลฟ์” ณ ไอคอนสยาม ให้กับน้องๆ ที่บกพร่องทางการได้ยิน โรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระราชูปถัมภ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 - 6 เพื่อเปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน โดยมีนิสิต นักศึกษาโครงการ KTC Coop ร่วมเป็นพี่เลี้ยงดูแลน้องๆ ตลอดกิจกรรม

นางสาวปิยะสุดา แคว้นนนทรีย์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานทรัพยากรบุคคล “เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หนึ่งในนโยบายการทำการพัฒนาที่ยั่งยืน (SD) ของเคทีซีคือการให้โอกาสทางการศึกษา และร่วมพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยให้มีคุณภาพในด้านต่างๆ อย่างไม่มีขีดจำกัด เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยอย่างยั่งยืน เคทีซีจึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ไลฟ์ อิมแพค อีเว้นท์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของเคทีซี จัดกิจกรรม "พี่ KTC Coop ส่งภาษามือจูงน้องเรียนรู้มรดกเหนือกาลเวลาของ ดาวินชี อะไลฟ์” ณ ไอคอนสยาม ให้กับน้องๆ ที่บกพร่องทางการได้ยิน โรงเรียนเศรษฐ-เสถียรในพระราชูปถัมภ์ โดยมุ่งหมายให้น้องๆ ได้เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านมรดกเหนือกาลเวลาของเลโอนาร์โด ดาวินชี อัจฉริยะก่อนกาล 500 ปี เจ้าของผลงานชิ้นเอกระดับโลกอย่างภาพวาด Mona Lisa และ The Last Supper รวมทั้งเป็นนักประดิษฐ์ นักออกแบบ นักดนตรี นักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ จนได้ชื่อว่าเป็น “พหูสูต” แห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) และได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก  ชมผลงานที่ประสบความสำเร็จของเลโอนาร์โด ชีวิตและความฉลาดของอัจฉริยะที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ ในด้านวิทยาศาสตร์ ความคิดสร้างสรรค์ และความคิดเชิงเทคนิค ในผลงานชิ้นเอก สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ตำราโบราณ และภาพวาดของปรมาจารย์ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา อิทธิพลของเลโอนาร์โดที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปะ วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ แสด’ให้เห็นถึงวิธีการค้นพบการประดิษฐ์ในรูปแบบใหม่ๆ และข้อสงสัยเกี่ยวกับโลกที่อยู่รอบตัวเรา ซึ่งในกิจกรรมครั้งนี้จะมีพี่ๆ นิสิต นักศึกษาโครงการ KTC Coop ร่วมเป็นพี่เลี้ยงดูแลน้องๆ ตลอดกิจกรรม”

KTC COOP (KTC Cooperative Program) คือ โครงการที่เคทีซีเข้าร่วมกับโครงการสหกิจศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาจากหลายสาขาวิชาเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์และฝึกปฏิบัติงานกับทีมงานมืออาชีพทางด้านธุรกิจการเงิน โครงการ KTC COOP เริ่มต้นในปี 2566 และมีนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ทั้งภาคภาษาไทยและนานาชาติกว่า 100 คน นอกจากนิสิตและนักศึกษาในโครงการ KTC COOP จะได้มีโอกาสปฏิบัติงานจริงเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์แล้ว เคทีซียังมุ่งพัฒนาคนรุ่นใหม่ก้าวสู่โลกการทำงานอย่างมั่นคง ด้วยการจัดหลักสูตรฝึกอบรมและกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างทักษะความสามารถเชิงสมรรถนะ (Soft Skill) รวมทั้งจัดหลักสูตรอบรมเทคนิคการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์งาน เพื่อเตรียมน้องให้พร้อมสู่โลกการทำงานหลังจากจบโครงการ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเข้าร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ของบริษัทอีกด้วย

Page 1 of 64
X

Right Click

No right click