ปัญหาค่าใช้จ่ายฉุกเฉินแบบคาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หลายคนชีวิตต้องสะดุดเพราะขาดสภาพคล่องทางการเงิน สินเชื่อส่วนบุคคลจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนอย่างกระทันหัน เพื่อนำไปใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นในช่วงเวลานั้น แต่การเลือกสินเชื่อส่วนบุคคลให้เหมาะสมนั้นสำคัญมาก เพราะหมายถึงภาระหนี้ที่จะต้องแบกรับในระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ทีทีบีจึงชวนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลให้มากขึ้น
สินเชื่อส่วนบุคคล ช่วยได้อย่างไร
สินเชื่อส่วนบุคคล คือ สินเชื่อที่สถาบันการเงินให้กู้ยืมโดยไม่ต้องมีหลักประกัน ซึ่งผู้ขอสินเชื่อสามารถนำเงินก้อนไปใช้จ่ายได้ตามต้องการ โดยมีเงื่อนไขในการผ่อนชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้กับธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเงินก้อนฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น รถเสีย บ้านชำรุด หรือค่ารักษาพยาบาล ต้องการเงินก้อนเพื่อการลงทุน เช่น เปิดร้านค้า ซื้อสินค้ามาขาย ต้องการปรับปรุงบ้าน เช่น ตกแต่งต่อเติมบ้าน หรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ต้องการปิดหนี้บัตรเครดิต โดยรวบหนี้บัตรเครดิตหลายใบให้เป็นก้อนเดียว ต้องการศึกษาต่อ เช่น ชำระค่าเทอม ค่าใช้จ่ายระหว่างเรียน หรือเตรียมพร้อมให้บุตรก่อนเปิดเทอม และยังมีอีกหลายเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องการเงินก้อนไปใช้จ่ายยามจำเป็น
สิ่งที่ควรรู้ก่อนกู้สินเชื่อส่วนบุคคล
ผู้ขอสินเชื่อส่วนบุคคลควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ก่อนตัดสินใจ เพื่อจะได้เลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความจำเป็นของตนเองมากที่สุด ไม่เป็นภาระหนี้สินมากเกินไป จนกระทบต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
การเลือกสินเชื่อส่วนบุคคลยังต้องใช้ความรอบคอบและศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เพื่อให้ได้สินเชื่อที่เหมาะสมตามความต้องการและมีกำลังทรัพย์ในการใช้หนี้คืน และอย่าลืมวางแผนการเงินให้ดี ก่อนตัดสินใจกู้สินเชื่อ ควรคำนวณรายรับรายจ่ายให้เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามกำหนด เปรียบเทียบเงื่อนไขหลาย ๆ ที่ ข้อเสนอจากหลาย ๆ สถาบันการเงิน เพื่อเลือกสินเชื่อที่คุ้มค่าและเหมาะกับการจ่ายคืนของเรามากที่สุด พิจารณาสัญญาให้ละเอียด ควรอ่านสัญญาการกู้ยืมให้ละเอียด เพื่อทำความเข้าใจเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างชัดเจน หากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไหนดี สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่น่าเชื่อถือได้
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เข้าใจถึงความจำเป็นในการใช้จ่ายของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน จึงสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกปัญหาทางการเงิน ด้วยสินเชื่อส่วนบุคคล 2 ประเภท ได้แก่
หากสนใจสามารถอัปโหลดเอกสารผ่านแอป ttb touch ได้ทันที หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินของทีทีบี ที่จะช่วยวางแผนทั้งในเรื่องการเลือกประเภทสินเชื่อและอัตราการผ่อนชำระ เพื่อช่วยคลี่คลายปัญหาสุขภาพการเงินของลูกค้าได้ทุกจุด
ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าบัตรกดเงินสด กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25% ต่อปี เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีทั้งในวันนี้ และอนาคต
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จัดสัมมนา ttb I Global Trade & FX Forum ภายใต้หัวข้อ “The Future of Asia : Economic Trends and Trade Challenges for Thailand 2025” วิเคราะห์เจาะลึกสภาวการณ์เศรษฐกิจของไทยและการค้าโลกในปี 2025 เปิดมุมมองและประสบการณ์ตรงในการทำการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดในเอเชีย ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญในภาครัฐ ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกจากธุรกิจขนาดใหญ่ พร้อมแนะนำเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกของไทย บริหารความเสี่ยงในการทำการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า อิทธิพลของภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งทางการค้า ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังคงเป็นปัญหาหลักที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งถือเป็นความท้าทายและเป็นความเสี่ยงอย่างมาก สำหรับผู้ประกอบการการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากความผันผวนของค่าเงินสามารถส่งผลกระทบต่อกำไรและต้นทุนของธุรกิจ นอกจากนี้ สาธารณรัฐประชาชนจีนยังเป็นประเทศที่มีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงนโยบายของจีนส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและโอกาสทางการค้าของธุรกิจทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ในขณะที่ตลาดเอเชียยังคงมีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งการเข้าถึงตลาดเหล่านี้ช่วยกระจายความเสี่ยงและเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต
จากปัจจัยดังกล่าว นับเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการที่ทำการค้าระหว่างประเทศต้องมีความเข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจ ตลาดการค้าโลกและในเอเชีย เพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในระดับโลก รักษาความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตในระยะยาว ซึ่งงานสัมมนาในครั้งนี้ ทีทีบีมุ่งหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถวางแผนและปรับกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม รู้วิธีการบริหารจัดการความเสี่ยงจากการทำการค้าระหว่างประเทศ และได้รับประสบการณ์ตรงจากผู้ที่ดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ที่ทำการค้าระหว่างประเทศในตลาดการค้าโลก
สำหรับงานสัมมนา ttb I Global Trade & FX Forum ภายใต้หัวข้อ “The Future of Asia : Economic Trends and Trade Challenges for Thailand 2025” มีผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์เศรษฐกิจทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ที่ทำการค้าระหว่างประเทศในตลาดเอเชีย ผู้บริหารความเสี่ยงการทำการค้าระหว่างประเทศมาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานนำไปปรับใช้กับองค์กรได้ตรงจุดมากขึ้น โดยมีวิทยากร ได้แก่ ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษาและรองคณบดี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาบรรยายเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวเศรษฐกิจจีนที่ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกและการค้าไทย ในหัวข้อ “The 2025 Horizon: China’s Impact on Global Trade” และนายนริศ สถาผลเดชา ประธานกลุ่มงาน Data และ Analytics ทีเอ็มบีธนชาต ให้มุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและประเทศไทย ในหัวข้อ “Global & Thailand Economic Outlook 2025”
นอกจากนี้ มีการจัดเวทีเสวนาแบ่งปันประสบการณ์จากผู้บริหารเจ้าของธุรกิจนำเข้าและส่งออก และมุมมองของภาครัฐ ในหัวข้อ “Asia Trade Link Opportunities and Challenges” โอกาสและความท้าทายของผู้ประกอบการไทย ในตลาดเอเชีย โดย นายอรรถ เมธาพิพัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงิน บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) ดร.ธนภัท แสงอรุณ ผู้แทนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อดีตรองกงสุลฝ่ายพาณิชย์ ณ เมืองมุมไบ และนางสาวบุษรัตน์ เบญจรงคกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต ที่มาแนะนำเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกของไทย บริหารความเสี่ยงในการทำการค้าระหว่างประเทศ
ทีทีบี เป็นธนาคารที่พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นในทุกสถานการณ์ ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยบริหารความเสี่ยงสำหรับการนำเข้า-ส่งออก สำหรับการวางแผนการบริหารงานและกลยุทธ์การเติบโตขององค์กรได้อย่างยั่งยืน
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มุ่งมั่นเดินหน้าเปลี่ยน...ชุมชนเพื่อความยั่งยืน เชิญชวนผู้ที่สนใจเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม fai-fah for Communities ที่ดำเนินการโดย มูลนิธิทีทีบี ภายใต้แคมเปญ “ขอ 1 วัน ใน 1 ปี มาทำอะไรดี ๆ ด้วยกัน” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม เพื่อจุดประกายและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนดีขึ้นอย่างยั่งยืน
นางประภาศิริ โฆษิตธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการรวมตัวกันของอาสาสมัครทีทีบี (ttb volunteer) เพราะเชื่อว่า นอกเหนือจากการมาทำงานที่ธนาคารแห่งนี้ พวกเราชาวทีทีบีไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้ชุมชนด้วยเช่นกัน จึงเกิดโครงการที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้ใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งนอกจากจะช่วยจุดประกายโอกาสให้กับสังคมแล้ว ยังเป็นโอกาสดี ๆ ที่อาสาสมัครจะได้ทำความรู้จัก พบปะเพื่อนใหม่ต่างแผนก พัฒนาโครงการเพื่อสังคมที่ตนเองสนใจ วางแผนงานร่วมกับชุมชน และสุดท้าย ส่งต่อให้ชุมชนสามารถดำเนินงานต่อได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญา Make REAL Change ที่พนักงานทุกคนยึดถือมาโดยตลอด
โดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อาสาสมัครทีทีบีกว่า 20,000 คน ได้นำความรู้ความสามารถ เข้าช่วยเหลือชุมชนแล้วกว่า 260 ชุมชน เป็นจำนวน 262 โครงการทั่วประเทศ ซึ่งส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้ มีช่องทางในการประกอบอาชีพที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มทักษะการบริหารจัดการทางการเงิน การทำบัญชี เพื่อให้วิสาหกิจชุมชน หรือองค์กรเหล่านั้นเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ในปี 2567 นี้ เหล่าอาสาสมัครทีทีบี ยังคงมุ่งมั่นค้นหาชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือและพัฒนาสังคมต่อไป และเพื่อต่อยอดพร้อมทั้งส่งต่อความรู้สึกแห่งการให้แก่ผู้มีจิตอาสาภายนอกองค์กร เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงโลกให้น่าอยู่มากขึ้น จึงขอเชิญชวนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปัน ในกิจกรรม fai-fah for Communities ภายใต้แคมเปญ “ขอ 1 วัน ใน 1 ปี มาทำอะไรดี ๆ ด้วยกัน” กับ “ฝาขวด...รักษ์โลก” โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยน...ขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อลดขยะพลาสติก ลดมลพิษ และสร้างคุณค่าให้แก่ฝาขวดพลาสติกสามารถนำไปเป็นทรัพยากรหมุนเวียนใช้ประโยชน์ต่อได้ โดยฝาขวดน้ำพลาสติกที่ได้รับจะนำไปรีไซเคิลเปลี่ยนเป็นโต๊ะ เก้าอี้เพื่ออุปกรณ์การเรียน เครื่องดนตรี บล็อกปูพื้นถนน ฯลฯ โดยผู้เชี่ยวชาญอย่างมหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาศาสตร์ และโครงการกรีนโรด จังหวัดลำพูน ก่อนนำไปมอบให้น้องนักเรียนที่ขาดแคลนต่อไป” นางประภาศิริ กล่าว
ผู้ที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับอาสาสมัครทีทีบี สามารถส่งฝาขวดมาได้ที่ โครงการอาสาช่วยกันทำ ที่อยู่ 1/31 ซ.เพิ่มสิน 39 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. 10220
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มุ่งขับเคลื่อนองค์กรสู่ธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Banking) พร้อมตอกย้ำความเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาทางธุรกิจที่ลูกค้าไว้วางใจ ในการสนับสนุนสินเชื่อระยะยาว และโซลูชันทางการเงินแบบครบวงจร ให้แก่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) นำโดย นายอเล็กซานเดอร์ นนท์ แลงเฟลด์ (ที่ 3 จากซ้าย) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารความสัมพันธ์ธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต และนางชนมาศ ศาสนนันทน์ (ที่ 2 จากซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
ด้านการเงินและบัญชี บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
โดยทีทีบี ได้สนับสนุนสินเชื่อทางธุรกิจระยะยาว รวมวงเงิน 3,000 ล้านบาท และโซลูชันทางการเงิน ให้แก่ บริษัทไทยออยล์ เพื่อให้แผนการดำเนินธุรกิจตอบสนองต่อทิศทางในอนาคตที่มุ่งสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดและการปรับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ตามแนวคิดในการบริหารจัดการองค์กรอย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีความพร้อมที่จะทรานส์ฟอร์มธุรกิจและแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงโลก (Mega Trend) เพื่อต่อยอดไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนระดับองค์กร 100 ปี ภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงาน และเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน”
ทีทีบีมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และโซลูชันทางการเงิน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในอุตสาหกรรมหลักอย่างครบวงจร และพร้อมเคียงข้างสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจสามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้ในทุกสถานการณ์ ก้าวผ่านความท้าทายต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จและเติบโตได้อย่างยั่งยืน