December 05, 2025

Tact ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ความยั่งยืนและโซลูชัน ESG นำเทคโนโลยี AI ขับเคลื่อนการจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน ด้วย Microsoft Cloud for Sustainability เพื่อช่วยองค์กรไทยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ภายใต้กติกาการค้าของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ผ่านระบบการจัดเก็บและบริหารจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้บรรลุทั้งเป้าหมาย Net Zero และเป้าหมายความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ

Tact นำความเชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจอย่างยั่งยืน ผสานกับศักยภาพของ AI จากไมโครซอฟท์เพื่อช่วยองค์กรในส่วนของ Data Automation เพื่อลดความผิดพลาดจาก Human Error ทำให้การรายงาน ESG เป็นไปอย่างอัตโนมัติให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่ต้องการ เพื่อลดภาระงานและความซับซ้อนของการจัดการข้อมูล และ Analytic ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการวิเคราะห์ข้อมูล AI จะช่วยตรวจสอบแนวโน้ม และวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

นายชยุตม์ สกุลคู Chief Executive Officer ของ Tact กล่าวว่า "นับเป็นก้าวแรกที่เรานำ เทคโนโลยี AI จากไมโครซอฟท์ เข้ามาพลิกโฉมการบริหารจัดการ ESG ขององค์กร โดยในประเทศไทย หลายองค์กรเริ่มมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและรายงานข้อมูล ESG เพื่อตอบรับกับความคาดหวังของนักลงทุนและคู่ค้า  แต่เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ทำให้หลายแห่งขาดองค์ความรู้และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงการจัดการรวบรวมข้อมูลที่มีความซับซ้อน จัดเก็บในลักษณะ Manual หรือบางชุดข้อมูลอาจอยู่นอกเหนือขอบเขตขององค์กร ทั้งหมดนี้คือความท้าทายของการสร้างความโปร่งใสเพื่อตอบรับกับมาตรฐานต่างๆที่มีความจำเป็นขึ้นเรื่อยๆ ในการดำเนินธุรกิจ  การนำ AI เข้ามาใช้ในการบริการจัดการ ESG จึงเป็นแนวทางสำคัญที่จะสามารถปลดล็อกศักยภาพขององค์กร ให้สามารถจัดการกับรูปแบบของข้อมูลที่มีความแตกต่างและกระจัดกระจาย ช่วยองค์กรในวิเคราะห์หา Insight ที่สำคัญ และจัดทำรายงานความยั่งยืนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล 

Tact มุ่งมั่นที่จะผลักดันภาคธุรกิจให้พร้อมต่อการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่แนวทางความยั่งยืน และ AI จะเป็นหัวใจสำคัญของอนาคต โดยสอดคล้องกับพันธกิจ Driving Sustainability Transformation ของเรา เพื่อช่วยให้องค์กรทุกขนาดสามารถปรับตัวและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศได้อย่างแท้จริง

นายวสุพล ธารกกาญจน์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า ไมโครซอฟท์เชื่อว่า AI เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพช่วยเร่งให้การดำเนินงานด้านความยั่งยืนทั่วโลกมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการโซลูชั่นต่าง ๆ  ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร และส่งเสริมการกำกับดูแล AI ผ่านการร่วมกับพันธมิตรของเรา ช่วยให้องค์กรธุรกิจต่าง ๆ บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน

ปัจจุบันองค์กรชั้นนำทั่วโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันในการบริหาร ESG ให้มีความถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ Microsoft Cloud for Sustainability ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้โดยตรง โดยการนำโซลูชันนี้มาใช้จะช่วยให้องค์กรสามารถยกระดับการบริหาร ESG ได้อย่างเป็นระบบ แม่นยำ และสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว โดย Microsoft Cloud for Sustainability มี Use Case ที่เด่น ๆ ดังนี้

  1. ESG data automation: ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่มีปริมาณมหาศาลและกระจัดกระจายในรูปแบบที่แตกต่างกัน การนำ AI เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลขาเข้าจึงเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยลดความซับซ้อนและภาระงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยเฉพาะกับข้อมูล manual เช่น บิลน้ำมันหรือบิลค่าไฟ ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยี OCR เข้ามาช่วยประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลที่อ่านได้ เข้าสู่ ESG data management platform โดยตรง ทำให้สามารถนำข้อมูลคุณภาพสูงไปใช้งานต่อได้ทันที พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความถูกต้องและความสามารถในการติดตามข้อมูล (data traceability) ตลอดจนยกระดับ productivity ของทีมงานโดยรวม
  2. AI-driven analytics: การนำข้อมูล ESG ไปวิเคราะห์และใช้ในเชิงปฏิบัติยังเผชิญกับข้อจำกัด การนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานในองค์กร เช่น สร้าง Forecasting model เพื่อพยากรณ์ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จะลดลงจากการทำโปรเจกต์ เพื่อให้เห็นภาพรวมและแนวโน้มในอนาคตก่อนตัดสินใจลงทุน นอกจากนี้ การนำ AI plug-in เข้ามาประยุกต์ใช้ในแดชบอร์ดช่วยให้ผู้ใช้งานที่ไม่ใช่สาย IT สามารถเจาะลึกข้อมูลเชิงลึกได้อย่างอิสระและครบถ้วน ส่งผลให้ได้ insights ที่มีประโยชน์ในการปรับปรุง ESG performance และสนับสนุนการตัดสินใจแบบ data-driven ภายในองค์กรอย่างแท้จริง
  3. ESG Compliance and Benchmarking Insights: ในยุคที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูล ESG และถูกประเมินโดยมาตรฐานระดับโลก เช่น DJSI ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กรต่อนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจึงมีความสำคัญสูง การนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ gap analysis เพื่อเปรียบเทียบการดำเนินงานด้าน ESG กับมาตรฐานต่าง ๆ ช่วยระบุช่องว่างและข้อบกพร่องที่ต้องปรับปรุงได้ชัดเจน พร้อมทั้งใช้ AI ทำ benchmarking analysis เปรียบเทียบกับคู่แข่งหรือมาตรฐานอุตสาหกรรมจากข้อมูลสาธารณะ ช่วยให้บริษัททราบตำแหน่งในตลาดและจุดที่ยังขาดตกบกพร่อง ส่งเสริมให้องค์กรพัฒนาการดำเนินงานด้าน ESG อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว

ค์กรที่ต้องการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของ ESG สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการและโซลูชันของ Tact ได้ที่ www.tact.in.th 

จากแนวโน้มการค้าของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ความยั่งยืนจึงไม่ใช่เพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็นทางรอดที่ภาคเอกชนจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อบริหารจัดการและรายงานข้อมูลด้านความยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและนักลงทุน พร้อมทั้งมองหาโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจผ่านกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน บริษัท แทคท์ โซเชียล-คอนซัลติ้ง จำกัด ได้เปิดตัวธุรกิจ Sustainability Consulting ซึ่งให้บริการที่ปรึกษากลยุทธ์ด้านความยั่งยืนแก่ภาคธุรกิจและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้การเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรที่ยั่งยืนเป็นไปได้อย่างเหมาะสมใน บริบทของประเทศไทย

นางสาวดลพร พิทักษ์สิทธิ์ Co-Founder และ CFO บริษัท แทคท์ โซเชียล คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า “Tact เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน โดยช่วยองค์กรวางกลยุทธ์และดำเนินโครงการเพื่อแก้ปัญหาที่กระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเสริมสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการประเด็นด้านความยั่งยืนให้ดียิ่งขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของ Tact ได้แก่ ภาคเอกชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อบริหารจัดการและรายงานข้อมูลด้านความยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและนักลงทุน, ภาคเอกชนผู้ส่งออกในกลุ่มธุรกิจที่มีการปล่อยคาร์บอนสูง (Carbon-intensive), และบริษัทที่ผู้บริหารมองหาโอกาสเติบโตทางธุรกิจผ่านกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน”

สำหรับการบริการของ Tact ประกอบด้วย :

  1. Academy
  • Training and Workshop จัดกิจกรรมอบรมและเวิร์คชอปที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนและ Climate Change ให้แก่กลุ่มผู้บริหารและพนักงานขององค์กร อาทิ เวิร์คชอปการตั้งเป้าหมายหรือกลยุทธ์ความยั่งยืนของบริษัท การอบรมความรู้ด้าน ESG และการวัดประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์และคาร์บอนเครดิต รวมถึงการปลูกฝังแผนงานด้านความยั่งยืนเข้าไปสู่ฝ่ายงานต่าง ๆ ในองค์กร
  1. Advisory
  • Sustainability Strategy ให้คำปรึกษาในการวางแผนกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้กับองค์กร โดยการวิเคราะห์ประเด็นสำคัญด้านยั่งยืน (Materiality Assessment) ที่สร้างผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
  • Net Zero Strategy ให้คำปรึกษาในการตั้งเป้าหมายและกลยุทธ์เพื่อไปสู่การลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์สำหรับองค์กร โดยตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับ Science Based Target Initiative (SBTi) และแผนการหาทางแก้ปัญหาที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมในองค์กร
  1. Assessment & Disclosure
  • Sustainability Reporting and Certificate การจัดทำรายงานและยื่นมาตรฐาน/รางวัลด้านความยั่งยืน อาทิ รายงานด้านความยั่งยืนประจำปี การรายงาน 56-1 One Report และยื่นการประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (ESG rating), สำหรับบริษัทจดทะเบียน, SDG Impact Standard, GRI Standards เป็นต้น
  • Carbon Footprint Accounting ให้คำปรึกษาวัดประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO) และผลิตภัณฑ์ (CFP) แบบครบวงจร ตั้งแต่การวิเคราะห์แหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กร การเก็บรวบรวมข้อมูลไปจนถึงคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และเตรียมพร้อมสำหรับการรับรองจากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (อบก.) หรือ ISO 14064 โดยใช้มาตรฐานตามหน่วยงานของไทย และระดับสากล เช่น TGO, IPCC, GHG Protocol, PCAF
  1. AI for Sustainability
  • Microsoft Cloud for Sustainability (MCfS) การบริหารจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืนขององค์กรแบบเรียลไทม์ผ่าน Microsoft Cloud for Sustainability (MCfS) ที่มีเทคโนโลยี AI ในการช่วยรวมข้อมูลที่กระจัดกระจาย เช่น ระบบ ERP บิลค่าไฟ หรือแหล่งต่าง ๆ ขององค์กร รวบรวมเข้าไปในแพลตฟอร์มเพื่อจัดทำรายงานด้าน ESG ตามมาตรฐานต่าง ๆ และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญสำหรับผู้บริหารหรือฝ่ายต่าง ๆ ในการวางแผนกลยุทธ์องค์กร

ผู้บริหารกล่าวเพิ่มว่า จุดเด่นที่แตกต่างของ Tact ในฐานะที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนของไทย คือ : 

  1. การปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับภาษาและวัฒนธรรม (Localization)

Tact ให้ความสำคัญกับการปรับ Framework ด้านความยั่งยืนจากต่างประเทศให้สอดคล้องกับบริบทเฉพาะของประเทศไทย เพื่อให้องค์กรสามารถนำไปใช้ได้จริงและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

  1. ความยืดหยุ่น (Flexibility)

บริการของ Tact ถูกออกแบบให้ปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้า โดยคำนึงถึงอุตสาหกรรม งบประมาณ และเป้าหมายเฉพาะของแต่ละองค์กร

  1. ทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง (Academic Driven)

Tact ให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการ เช่น โครงการ Sustainability Consulting & Reporting ทาง Tact ทำงานร่วมกับทางสถาบันพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน (SBDi) ซึ่งมีประสบการณ์ออกแบบหลักสูตรและสอนบริษัทต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า 15 ปี

  1. AI for Sustainability Solutions

Tact เป็น Prioritized Partner ของ Microsoft ในการใช้ Microsoft Cloud for Sustainability โดยนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล ESG ขององค์กร

หากองค์กรของคุณกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน Tact พร้อมเป็นที่ปรึกษาที่จะช่วยวางกลยุทธ์และดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานใกล้ชิดกับองค์กร ตั้งแต่การศึกษาและวางแผนกลยุทธ์ ไปจนถึงการออกแบบกระบวนการที่สามารถวัดผลได้จริง พร้อมจัดทำรายงานความยั่งยืนตามมาตรฐานสากลเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม นอกจากนี้ Tact ยังสามารถนำ AI Sustainability Solutions มาใช้เพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนขององค์กรคุณเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

X

Right Click

No right click