บ้านปู เน็กซ์ บริษัทลูกของบ้านปู ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จับมือ อีโวลูชั่น ดาต้า เซ็นเตอร์ (EDC) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำ เตรียมติดตั้งโซลูชันพลังงานสะอาดให้กับศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ของ EDC ในไทยและเวียดนาม ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ พร้อมรองรับความต้องการด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) และดาต้าเซ็นเตอร์ที่เพิ่มขึ้นทั่วภูมิภาค พัฒนาธุรกิจให้ยั่งยืนและร่วมขับเคลื่อนสังคมไร้คาร์บอนไปด้วยกัน
ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก*มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 10.21% ในช่วงปี 2567 ถึง 2572 จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมคลาวด์คอมพิวติ้งที่ใช้ AI เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยจะเติบโตเฉลี่ยต่อปี 27% ในช่วงปี 2564 ถึง 2569** ความร่วมมือระหว่างบ้านปู เน็กซ์ และ EDC จะช่วยพัฒนาให้ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศไทย
สำหรับอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศเวียดนาม มีส่วนสร้างการเติบโตให้เศรษฐกิจของประเทศเช่นกัน สอดรับทิศทางของภาครัฐที่ต้องการให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วน 25% ของ GDP ภายในปี 2568*** โดยคาดว่าดาต้าเซ็นเตอร์ในเวียดนามจะขยายตัวเฉลี่ยต่อปี 37% ระหว่างปี 2564 ถึง 2569**** ในอนาคตทั้งไทยและเวียดนามจะกลายเป็นทำเลยุทธศาสตร์สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่กำลังมองหาศูนย์กลางแห่งใหม่ในอาเซียนที่มีโครงสร้างพื้นฐานล้ำสมัย ทั้งด้านการจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงข่ายไฟเบอร์ ระบบการคมนาคมขนส่ง และพลังงานสะอาด
นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “บ้านปู เน็กซ์ บริการโซลูชันพลังงานสะอาดให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม ดำเนินธุรกิจอยู่ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม เราจึงพร้อมที่จะสนับสนุน EDC โดยนำเสนอระบบโซลาร์ รวมถึงโซลูชันพลังงานสะอาดอื่นๆ ที่ออกแบบอย่างเหมาะสม และตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้อย่างครอบคลุม จึงมั่นใจได้ว่าดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลจะใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ประหยัดค่าไฟฟ้า รวมทั้งลดการปล่อยคาร์บอน บ้านปู เน็กซ์ มีศักยภาพในการติดตั้งโซลูชันที่สามารถรองรับความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์ได้ 100% หรือกว่า 30 เมกะวัตต์ สำหรับโครงการแห่งแรกในประเทศไทย และกว่า 50 เมกะวัตต์ สำหรับโครงการแห่งแรกในเวียดนาม”
นายดาร์เรน เว็บบ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีโวลูชั่น ดาต้า เซ็นเตอร์ กล่าวว่า “EDC มุ่งพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าของเรามองหาเช่นกัน ปัจจุบันผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยคาร์บอน จึงจำเป็นต้องมีแหล่งพลังงานสะอาดขนาดใหญ่เข้ามาเป็นตัวช่วยในธุรกิจ โดยบ้านปู เน็กซ์ จะส่งมอบโซลูชันพลังงานสะอาดศักยภาพสูง เพื่อช่วยให้ EDC มีแหล่งพลังงานที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือให้บริการลูกค้าในดาต้าเซ็นเตอร์ของเราทั้งในไทยและเวียดนาม ซึ่งโครงการในสองประเทศนี้จะเป็นทำเลสำคัญที่เพิ่มศักยภาพให้กับโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ พร้อมรองรับความต้องการด้านดิจิทัลที่เติบโตขึ้น นอกจากนี้ ความร่วมมือกับบ้านปู เน็กซ์ จะช่วยเสริมแกร่ง EDC ในการพัฒนาและบริหารดาต้าเซ็นเตอร์ระดับไฮเปอร์สเกลในภูมิภาคนี้ให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น”
ในอนาคต บ้านปู เน็กซ์ มีแผนที่จะนำโซลูชันพลังงานสะอาดอื่นๆ ไปเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ของ EDC ได้แก่ ระบบกักเก็บพลังงาน และการบริหารจัดการพลังงาน อาทิ ระบบทำความเย็น เป็นต้น
ข้อมูลอ้างอิง
* Asia-Pacific Data Center Market Size & Share Analysis - Growth Trends & Forecast up to 2029: - https://www.mordorintelligence.com/industry-reports/asia-pacific-data-center-market
** How Data Center Operators Can Win in South-East Asia – Kearney
*** Vietnam holds potential in virtual digital economy - https://english.mic.gov.vn/Pages/TinTuc/161654/Vietnam-holds-potential-in-virtual-digital-economy--Deputy-Minister.html
**** How Data Center Operators Can Win in South-East Asia – Kearney
บ้านปู เน็กซ์ ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เผยเทรนด์สำคัญที่สะท้อนว่าองค์กรทั่วโลกต่างมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายด้าน Net-Zero อย่างจริงจังมากขึ้นโดยใช้นวัตกรรมพลังงานสะอาดเพื่อรับมือกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน ตั้งเป้าจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงเกินแก้ไขหากอุณหภูมิโลกสูงขึ้นถึง 2 องศาเซลเซียส โดยเทรนด์ดังกล่าวยังสอดรับกับบทสรุปของการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 28 หรือ COP28 ที่เน้นย้ำบทบาทของภาคเอกชนในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงชูความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคพลังงานสะอาดอีกด้วย
การขับเคลื่อน Net-Zero ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเมื่อองค์กรขนาดใหญ่จำนวนมาก ต่างวางเป้าหมายในด้านดังกล่าวไว้อย่างเข้มข้น โดยรายงานของ Net-Zero Tracker หน่วยงานอิสระที่ติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกระบุว่า 1,475 องค์กรจากกว่า 4,000 รายทั่วโลกกำหนดเป้าหมาย Net-Zero เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ โดยธุรกิจต่างๆ จากหลากหลายอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีชีวภาพ เภสัชกรรม อาหารและเครื่องดื่ม เกษตรกรรม การโรงแรม ภาคการผลิต วัสดุอุปกรณ์ ค้าปลีก คมนาคมขนส่ง และพลังงาน ต่างเห็นความจำเป็นเร่งด่วนของการรับมือกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง โดยดำเนินกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งการทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการนำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาใช้วางเป้าหมายขององค์กร การชดเชยด้วยคาร์บอนเครดิต รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีและการบริหารการดำเนินงานที่ยั่งยืน
สำหรับประเทศไทย ทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ต่างชาติจากแต่ละอุตสาหกรรมกำลังดำเนินกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนภายใต้เป้าหมายที่จะสร้างเสริมโลกที่เป็นมิตรกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้นและมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ อย่างเช่นนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง, บีทาเก้น, โครงการมิกซ์ยูสซัมเมอร์ ลาซาล, โรงเรียนนานาชาติรักบี้, ตลาดสามย่าน, เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท, เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์, เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์, เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย), ดิ เอราวัณ กรุ๊ป และ ล็อกซเล่ย์ เป็นตัวอย่างองค์กรและแบรนด์ชั้นนำที่หันมาขับเคลื่อนธุรกิจไปพร้อมกับการลดการปล่อย CO2 ปริมาณมหาศาลต่อปี
ท่ามกลางความตื่นตัวด้านความยั่งยืนที่เติบโตขึ้นทั่วโลก บ้านปู เน็กซ์ เชื่อว่านวัตกรรมพลังงานสะอาด อาทิ แหล่งพลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงาน ระบบบริหารจัดการพลังงาน ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า ตลอดจนเทคโนโลยีดักจับ กักเก็บ และใช้ประโยชน์คาร์บอน มีความจำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายด้าน Net-Zero เนื่องจากนวัตกรรมเหล่านี้มีบทบาทในการลดการปล่อยคาร์บอน จึงช่วยให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานหมุนเวียน และนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนในท้ายที่สุด โดยภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมอนาคตที่ดียิ่งขึ้นให้กับทุกคน บ้านปู เน็กซ์ เดินหน้าพัฒนาโซลูชันพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นรูปธรรม และได้ช่วยให้คู่ค้าลดการปล่อยคาร์บอนได้ประมาณ 4 แสนตัน เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ประมาณ 29 ล้านต้นถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนสังคมไร้คาร์บอนพร้อมทั้งสนับสนุนประเทศไทยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน พ.ศ. 2608
บ้านปู เน็กซ์ มุ่งมั่นเป็นผู้ให้บริการโซลูชัน Net-Zero ให้กับองค์กรทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงเดินหน้าขับเคลื่อน 5 ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า ธุรกิจอี-โมบิลิตี้ และธุรกิจพัฒนาเมืองอัจฉริยะและจัดการพลังงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการรับมือกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงทั่วโลก นอกจากนี้ บ้านปู เน็กซ์ ยังมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการเป็นพันธมิตรกับองค์กรด้านเทคโนโลยีและพลังงานสะอาดที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศธุรกิจโดยรวมอีกด้วย
‘บีเอ็นเอสพี สมาร์ท เทค’ (BNSP Smart Tech) บริษัทร่วมทุนระหว่าง ‘บ้านปู เน็กซ์’ ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ ‘เอสพี กรุ๊ป’ ผู้ให้บริการระบบสาธารณูปโภคด้านพลังงานชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก ประกาศความสำเร็จคว้าสิทธิ์ออกแบบ พัฒนา และบริหารจัดการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling System) ที่ครบครันด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ในโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ โซนซี หากติดตั้งเสร็จคาดว่าระบบนี้จะช่วยประหยัดค่าพลังงานในโครงการฯ ได้กว่า 40 ล้านบาทต่อปี หรือลดลงกว่า 20% และลดการปล่อย CO2 ได้ปีละกว่า 3,000 ตัน เมื่อครบระยะเวลาสัญญา 20 ปี จะสามารถลดการปล่อย CO2 เทียบเท่ารถยนต์สันดาปประมาณ 20,000 คัน*
เมื่อติดตั้งระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางเสร็จในปี 2566 จะสามารถทำความเย็นสูงสุดถึง 14,000 ตันความเย็น (RT) สร้างความเย็นหมุนเวียนให้กับโครงการฯ โซนซี ซึ่งมีพื้นที่รวม 660,000 ตารางเมตร โดยบีเอ็นเอสพี สมาร์ท เทค จะนำความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งของบ้านปู เน็กซ์ และเอสพี กรุ๊ป มาใช้ในการออกแบบ ดำเนินงาน และดูแลรักษาระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางเพื่อให้สามารถผลิตและกระจายน้ำเย็นไปยังพื้นที่ทุกส่วนภายในโครงการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดพลังงาน และมั่นใจในบริการได้ทุกขั้นตอน พร้อมนำเสนอบริการโซลูชันพลังงานสะอาดแบบครบวงจร โดยนอกจากการติดตั้งระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางแล้ว ยังมีแผนติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้บริการในพื้นที่โครงการอีกด้วย
ที่สำคัญ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืนให้กับโครงการฯ โซนซี บ้านปู เน็กซ์ และเอสพี กรุ๊ป จะจัดหาโซลูชันพลังงานสะอาดอื่น ๆ มาพัฒนาโครงการรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการต่อขยายระบบทำน้ำเย็น รถบัสไฟฟ้า การติดตั้งระบบโซลาร์ และระบบกักเก็บพลังงาน
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “เมกะโปรเจกต์ระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางภายในโครงการฯ โซนซี ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบ้านปู เน็กซ์ บริษัทลูกของบ้านปู ที่จะก้าวเป็น Net-Zero Energy Provider ให้กับทุกองค์กรทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมพัฒนาให้เป็น Smart Enterprise เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือครั้งนี้ยังตอกย้ำความเชี่ยวชาญในธุรกิจจัดการพลังงานของบ้านปู เน็กซ์ ที่มอบบริการแบบครบวงจร ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และมอนิเตอร์ได้เรียลไทม์”
นายสแตนลีย์ หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอสพี กรุ๊ป กล่าวว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกของเอสพี กรุ๊ป ในการรุกตลาดระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางในไทย ทั้งยังสะท้อนความมุ่งมั่นในการนำโซลูชันพลังงานที่ยั่งยืนมาเร่งขับเคลื่อนเป้าหมายด้าน Net-Zero ให้กับประเทศไทย โดยเอสพี กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการบริหารต้นทุนและประสิทธิภาพด้านพลังงานด้วยบริการระบบผลิตความเย็นแบบครบวงจร (Cooling as a Service) เราพร้อมที่จะขยายเครือข่ายและขับเคลื่อนการใช้ระบบความเย็นที่ยั่งยืนในภูมิภาค ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืนด้วยโซลูชันอันล้ำสมัยและการผนึกพันธมิตรที่แข็งแกร่ง”
ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ DAD Asset Development กล่าวว่า “DAD มีความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีระดับเอเชียแปซิฟิกของ บีเอ็นเอสพี สมาร์ท เทค (BNSP Smart Tech) ด้านการบริหารจัดการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling System: DCS) ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและระบบสาธารณูปโภคให้กับศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนซี และเป็นการเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาเมือง DAD จึงมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่ขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 อย่างยั่งยืน”
บ้านปู เน็กซ์ และเอสพี กรุ๊ป มีประสบการณ์นำเสนอโซลูชันทำความเย็นที่ล้ำสมัยและยั่งยืน โดยบ้านปู เน็กซ์ ได้พัฒนาและติดตั้งระบบทำน้ำเย็นให้กับหลายโครงการชั้นนำในประเทศไทย อาทิ จามจุรีสแควร์, แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ และอาคารล็อกซเล่ย์ ขณะที่เอสพี กรุ๊ป เป็นผู้ให้บริการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโครงการในพอร์ตโฟลิโอทั่วเอเชียรวมทั้งสิ้นกว่า 228,000 ตันความเย็น (RT) ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายระบบการทำความเย็นจากส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในพื้นที่ระดับแลนด์มาร์คอย่างมารีน่า เบย์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะสามารถให้บริการทำความเย็นให้กับ 32 อาคารในย่านดังกล่าวภายในปี พ.ศ. 2570 นอกจากนี้ เอสพี กรุ๊ป ยังดูแลระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางให้กับโครงการฟื้นฟูเมืองเชิงบูรณาการให้กับย่านแทมปิเนส (Tampines) ติดตั้งระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางที่ใหญ่ที่สุดสำหรับภาคอุตสาหกรรมในสิงคโปร์ให้กับบริษัทเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (STMicroelectronics) รวมไปถึงอีกหลายโครงการในประเทศจีน อาทิ กลุ่มอาคารราฟเฟิลส์ ซิตี้ ฉงชิ่ง, ศูนย์ออกแบบผังเมืองนานาชาติ เฉิงตู และโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้กว่างโจว