November 08, 2024

แอปสินเชื่อของรัฐ อนุมัติเร็ว ให้คนไทยเข้าถึงดอกเบี้ยเป็นธรรม ตั้งเป้า 4 ปี ปล่อยกู้ได้ 500,000 ราย

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รับ 3 รางวัลสุดยอดซีอีโอ “CEO Econmass Awards 2024” จากนางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประธานมอบรางวัลสุดยอดซีอีโอ “CEO Econmass Awards 2024” ซึ่งสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยรางวัลที่ได้รับ ประกอบด้วย รางวัลสุดยอดซีอีโอรัฐวิสาหกิจ สาขา Social และสาขา Governance และรางวัลสุดยอดซีอีโอขวัญใจสื่อมวลชน (Popular Vote) ด้วยนายวิทัยเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรรัฐวิสาหกิจที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการขับเคลื่อนธนาคารออมสินด้วยยุทธศาสตร์ธนาคารเพื่อสังคม สร้าง Social Impact อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยหลักธรรมาภิบาลในการนำองค์กร

 

ทั้งนี้ รางวัล CEO Econmass Awards 2024 เป็นรางวัลที่ยกย่อง เชิดชูเกียรติผู้บริหารที่นำพาองค์กรจนประสบความสำเร็จ และเติบโตไปพร้อมกับการให้ความสำคัญกับความอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG ตลอดจนเป็นส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง ซึ่งผ่านกระบวนการคัดเลือกตามหลักวิชาการที่เป็นมาตรฐานสากล จากคณะกรรมการคัดเลือกที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ เป็นตัวแทนจาก กกร. สคร. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ส่วนรางวัลสุดยอดซีอีโอขวัญใจสื่อมวลชน เป็นการโหวตโดยสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยมีผู้บริหารธนาคารออมสินร่วมแสดงความยินดี ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567

นางสาวศิริพร เลิศสัตยสุกใส รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล เป็นประธานในพิธีจับรางวัลกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์บัตรเดบิต “ออมสินแจกโชคปีมังกร ฉลอง 111 ปี” เพื่อมอบโชครวม 111 รางวัล ได้แก่ รถยนต์ BYD Dolphin รุ่น Standard Range สี Coral Pink จำนวน 3 รางวัล และทองคำแท่ง น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 108 รางวัล ให้แก่ลูกค้าผู้โชคดีที่สมัครบัตรเดบิตออมสินใหม่ทุกประเภท (ยกเว้นบัตรเดบิตออมสิน เบสิค) และที่มียอดชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรเดบิตออมสินตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 เมษายน - 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา

 

ซึ่งเป็นแคมเปญเพื่อขอบคุณลูกค้าและในโอกาสฉลอง 111 ปี ธนาคารออมสิน โดยมี พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ นายปรีชา เบี้ยมุกดา เจ้าพนักงานปกครองระดับชำนาญการพิเศษ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และนางสาวกัญญาณัฐ พงศ์ธเนศภาคิน ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ PPTV HD 36 ร่วมเป็นกรรมการจับรางวัล ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ทั้งนี้ สามารถติดตามการประกาศรายชื่อผู้โชคดีได้ทางเว็บไซต์ www.gsb.or.th ภายใน 15 วันทำการหลังจากจับรางวัล และมอบรางวัลในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีมติให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี และเพื่อเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการลดภาระทางการเงินของประชาชนในช่วงนี้ ล่าสุด ธนาคารออมสิน จึงประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ประกอบด้วย ดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินกู้ที่มีระยะเวลา (MLR) ลดลงเหลือ 6.900% ต่อปี และดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลดลงเหลือ 6.745% ต่อปี ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อย (MRR) ที่มีการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะครบกำหนดมาตรการในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 นี้ ก็จะได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน อยู่ที่อัตรา 6.595% ต่อปี และเป็นอัตราดอกเบี้ย MRR ที่ต่ำสุดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ถือเป็นการปรับลดดอกเบี้ย MRR ครั้งที่ 3 ของปีนี้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก จะยังคงตรึงดอกเบี้ยไว้ในอัตราเดิมให้ได้นานที่สุด เพื่อให้ประชาชนมีรายได้จากอัตราดอกเบี้ย ภายใต้ภารกิจเพื่อสังคมในการมุ่งส่งเสริมการออม ตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล

การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือลูกค้าเงินกู้ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มฐานราก และกลุ่ม SMEs ในการลดภาระต้นทุนทางการเงิน ให้มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนโดยตรง ทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายและมากขึ้น นับเป็นการเดินหน้าตามภารกิจของธนาคารในการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้เกิดกับสังคมอย่างต่อเนื่อง

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศนโยบายแก้ไขหนี้ทั้งระบบ และได้มอบหมายธนาคารออมสินจัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด หรือ ARI-AMC โดยการร่วมทุนกับ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์จากธนาคารแห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ธนาคารจึงเดินหน้าตามแผนการโอนหนี้สินเชื่อที่เป็น NPLs ให้ ARI-AMC นำไปเข้ากระบวนการปรับโครงสร้างหนี้หรือไกล่เกลี่ยหนี้ด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรนมากขึ้น โดยทำการโอนหนี้ ครั้งที่ 1 จำนวนกว่า 130,000 บัญชี วงเงิน 11,000 ล้านบาท ประเภทสินเชื่อทั้งที่มีและไม่มีหลักประกัน และลูกหนี้มีบัญชีต่อราย จำนวน 1 บัญชี ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากการเป็นผู้เสียประวัติทางเครดิตได้ง่ายขึ้น กลับมามีสถานะหนี้ผ่อนปกติหรือหนี้ปิดบัญชีจะทำให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบในอนาคต และลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบได้ ที่สำคัญยังเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนตามนโยบายรัฐบาล และส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทั้งนี้ ธนาคารจะทำการโอนหนี้อีก 2 ครั้ง ภายในต้นปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะช่วยลูกหนี้ได้ทั้งหมดกว่า 400,000 บัญชี คิดเป็นมูลค่าเงินต้นกว่า 30,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ARI-AMC จัดตั้งขึ้นโดยการร่วมทุนระหว่างธนาคารออมสิน กับ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM มีวัตถุประสงค์เป็นธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อรับซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงินของรัฐ โดยมีทุนจดทะเบียนที่ 1,000 ล้านบาท ในสัดส่วนการร่วมทุนเท่ากันที่ 50:50 และมีระยะเวลาในการดำเนินการไม่เกิน 15 ปี ตามข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยระยะแรก ARI-AMC จะรับซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นการรับซื้อหนี้สินเชื่อทั่วไปทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน โดยเป็นกลุ่มลูกหนี้รายย่อย SMEs รวมถึง หนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย หนี้สูญ และ NPA ที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ยอดหนี้ไม่เกิน 20 ล้านบาท ครอบคลุมหนี้ที่ยังไม่ดำเนินคดี และ ดำเนินคดีแล้วที่ยังมีสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

Page 1 of 9
X

Right Click

No right click