November 27, 2024

พฤกษา โฮลดิ้ง พร้อมด้วยบริษัทในเครือ ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต และ อินโนโฮม คอนสตรัคชัน ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมพลังสานต่อโครงการ “บ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ By PRUKSA” เดินหน้าต่อเนื่องมาสู่ปีที่ 6 โดยโครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญในการปรับปรุงและสร้างบ้านใหม่ให้แก่คนพิการ เพื่อให้คนพิการได้มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม ปลอดภัยและตอบสนองต่อความพิการเฉพาะรายบุคคล เพื่อช่วยให้สามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนสร้างโอกาสในการมีอาชีพของคนพิการ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้และยืนหยัดอย่างมีศักดิ์ศรีในสังคม

การลงพื้นที่สำรวจปัญหาอย่างละเอียดเพื่อแก้ไขตรงจุด

พฤกษาฯ และทีมงานได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพแวดล้อมและความต้องการของคนพิการอย่างใกล้ชิด โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ช่วยให้ทีมงานสามารถประเมินปัญหาที่แท้จริงของแต่ละครอบครัว ทำให้การช่วยเหลือสามารถออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มต้นจากการเยี่ยมเยียนบ้านแต่ละหลังเพื่อพูดคุยกับคนพิการและครอบครัวในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและเชียงใหม่ ทีมงานได้ทำการตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค และความสะดวกในการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานสามารถวางแผนการออกแบบและปรับปรุงบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคลได้อย่างแท้จริง

พลังของพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ผนึกกำลังเพื่อคุณภาพชีวิตคนพิการ

โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากหลากหลายองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งรวมพลังกันในด้านทรัพยากร ความรู้ และความเชี่ยวชาญในการสร้างบ้านและสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่คนพิการ ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม โรงพยาบาลสิรินธร ขอนแก่น ชมรมชมภูม่วนใจ๋ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ที่ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ทุกหน่วยงานทำหน้าที่บูรณาการความช่วยเหลือในหลากหลายด้าน เริ่มตั้งแต่การประเมินปัญหาการอยู่อาศัยของคนพิการ การจัดลำดับความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ การส่งเสริมการเข้าถึงบริการและสวัสดิการของรัฐ และการให้คำปรึกษาในการพัฒนาอาชีพให้ยั่งยืน ซึ่งการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ แต่ยังเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบและความห่วงใยที่องค์กรทั้งหลายมีต่อสังคมอย่างแท้จริง

นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยและการเสริมสร้างอาชีพที่ยั่งยืน

หนึ่งในจุดเด่นของโครงการ “บ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ By PRUKSA” คือการใช้ความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมมาปรับปรุงพื้นที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้พิการในแต่ละพื้นที่ โดยพฤกษาและทีมงานออกแบบโซลูชันที่เป็นมิตรกับการใช้งาน เช่น การปรับแต่งบ้านให้เข้าถึงได้ง่ายด้วยทางเดินที่ปราศจากสิ่งกีดขวาง พื้นห้องน้ำที่ไม่ลื่น ปรับระดับและความสูงของเครื่องมือในบ้านให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้พิการ รวมถึงการใช้วัสดุที่ทนทานและปลอดภัย โดยเตรียมพร้อมเพื่อส่งมอบบ้านที่ปรับปรุงแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้ พฤกษาและพันธมิตรยังให้การสนับสนุนด้านการส่งเสริมอาชีพเพื่อให้คนพิการสามารถพึ่งพาตนเองได้ ด้วยการนำเสนอแนวทางการประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับความสามารถและสถานะของแต่ละคน เช่น การฝึกฝนอาชีพที่สามารถทำได้ที่บ้าน หรือการสร้างรายได้ผ่านการเชื่อมต่อกับเครือข่ายทางธุรกิจในท้องถิ่น เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้พิการในระยะยาว

พฤกษามุ่งมั่นในการสร้างสังคมแห่งความเป็นธรรมและเสมอภาค

ด้วยปณิธานของพฤกษา โฮลดิ้ง ที่ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์โครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาสังคมให้เป็นธรรมและเสมอภาค โดยไม่มองข้ามกลุ่มคนที่ต้องการความช่วยเหลือในสังคม ทั้งนี้ พฤกษาเชื่อมั่นว่าทุกคนควรได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันในการมีชีวิตที่ดีขึ้น มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โครงการ “บ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ By PRUKSA” จึงเป็นการแสดงถึงความตั้งใจของพฤกษาที่จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและจิตวิญญาณในการพัฒนาชุมชนอย่างแท้จริง

พฤกษา โฮลดิ้ง รายงานผลประกอบการช่วง 9 เดือนปี 2567 มีรายได้รวม 15,607 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 753 ล้านบาท   ยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ จากการจัดการยอดหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการเงินลดลง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net Gearing Ratio) อยู่ที่ 0.36 เท่า ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม สะท้อนถึงการบริหารจัดการทางการเงินที่มั่นคง  ท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน ธุรกิจเฮลท์แคร์เติบโต 21% ประกาศรุกตลาดที่อยู่อาศัยแบบเวลเนส เรสซิเดนซ์เต็มรูปแบบ

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH กล่าวถึงการดำเนินงานของบริษัทฯ ว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้รวม 15,607 ล้านบาท ลดลง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีความเปราะบาง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถรักษากำไรขั้นต้นที่ 5,118 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 32.8% จากการใช้กลยุทธ์ด้านราคาที่ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังซบเซา ในขณะเดียวกัน ธุรกิจเฮลท์แคร์ของพฤกษายังคงสร้างผลกำไรที่ดีอย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมฐานรายได้ของบริษัทฯ ในภาพรวม

สำหรับกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือน อยู่ที่ 753 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากธุรกิจหลักลดลง แต่บริษัทฯ ยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ต้นทุนการเงินลดลงจากการจัดการยอดหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง โดยมี อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net Gearing Ratio) อยู่ที่ 0.36 เท่า ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม สะท้อนถึงการบริหารจัดการทางการเงินที่มั่นคง

ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  บริษัทฯ มียอดโอนอสังหาริมทรัพย์รวม 12,930 ล้านบาท ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยมีการโอนคอนโดมิเนียมใหม่ จากโครงการ แชปเตอร์ วัน ออล รามอินทรา และได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดโครงการบ้านเดี่ยวใหม่อย่าง โครงการเดอะ ปาล์ม บางนา-วงแหวน 2 และ โครงการการระดับซูเปอร์ลักชัวรี อย่างเดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส วัชรพล  นอกจากนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายที่ดินมูลค่า 2,413 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการร่วมกับบริษัทพันธมิตรในอนาคต

ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเปิดโครงการใหม่รวม 8 โครงการ มูลค่า 10,085 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการ แชปเตอร์วัน มอร์ เกษตร ใกล้มหาวิทยาลัยและใกล้ BTS สายสีเขียว ที่เปิดในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ (Real Demand) และกลุ่มนักลงทุน มีการจองแล้วกว่า 42%  โดยคาดว่าทั้งปีจะเปิดโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีโครงการไฮไลท์ ได้แก่ เดอะปาล์ม เรสซิเดนเซส พัฒนาการ ซึ่งเป็นโครงการเวลเนส เรสซิเดนซ์เต็มรูปแบบ ในเซกเมนต์ซูเปอร์อัลตร้าลักชัวรี (Super Ultra luxury) โครงการแรกของพฤกษา ภายใต้แนวคิดผสานการดูแลสุขภาพ Well-Living Mastery อย่างลงตัวในทุกมิติ ซึ่งจะเริ่มเปิดพรีเซลล์ในช่วงปลายเดือน

พฤศจิกายนนี้  นับว่าในปีนี้พฤกษาได้รุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นเรื่องของสุขภาพอย่างเต็มตัว โดยเปิดโครงการเวลเนส เรสซิเดนซ์ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 50% จากมูลค่าโครงการเปิดใหม่ทั้งปี  และในปีหน้า มีแผนจะพัฒนาโครงการที่เจาะกลุ่มเฉพาะผู้สูงวัยที่เกษียณอายุด้วย

พร้อมกันนี้บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) รวม 5,000 ล้านบาท โดยมีโครงการพร้อมอยู่ในมือรวมมูลค่ากว่า 8,369 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่มีมูลค่าน้อยกว่า 7 ล้านบาทกว่า 82% ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนลงเหลือ 0.01% และสามารถเร่งโอนรับรู้เป็นรายได้ในสิ้นปีนี้ พร้อมกับได้จัดแคมเปญโปรโมชัน "Last Chance โอกาสสุดท้าย" โดยการนำบ้านในสต็อกมาปรับราคาช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น และเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับผู้ซื้อบ้านในราคาต้นทุนเดิม รวมถึงมอบเงื่อนไขดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ร่วมกับธนาคารพันธมิตรเพื่อส่งเสริมยอดจองในไตรมาสที่ 4 ด้วย

ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ของพฤกษาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยรายได้รวม 9 เดือนแรกที่ 1,600 ล้านบาท เติบโต 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการรักษาคนไข้นอกเพิ่มขึ้น 25% และคนไข้ในเพิ่มขึ้น 22% โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี บวกกลับค่าเสื่อมราคาและจัดจำหน่าย (EBITDA) 197 ล้านบาท สะท้อนความพยายามของกลุ่ม ในการเร่งผลักดันการขยายบริการด้านสุขภาพให้เข้าถึงผู้ป่วย และลูกค้าที่ซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ของพฤกษา  ซึ่งในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยังได้ขยายบริการด้านศัลยกรรมและระบบทางเดินปัสสาวะ รวมถึงยังเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะยกระดับการรักษาและคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วย

“พฤกษา โฮลดิ้ง มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่และสร้างความเชื่อมั่นท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจ ด้วยการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่น และการปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาด เรามีความพร้อมที่จะพัฒนาและขยายธุรกิจเฮลท์แคร์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่สำคัญในการเติบโตของพฤกษา เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของคนไทย และสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวด้วย” นายอุเทนกล่าวทิ้งท้าย

พฤกษา โฮลดิ้ง มุ่งมั่นสู่ความเป็นองค์กรที่ยั่งยืน นำหลักการ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) มาผสานในการดำเนินธุรกิจอย่างครอบคลุม ล่าสุดจัดงานใหญ่ประจำปี ESG DAY 2024 : Everyone Matters ชูวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับสิทธิของคนทุกคน และการต่อต้านการทุจริต เพื่อตอกย้ำให้พนักงานเข้าใจสิทธิและบทบาทความรับผิดชอบของตนเอง ของผู้อื่น และของสังคม สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเสมอภาค และโปร่งใส มุ่งผลักดันความยั่งยืนทั้งด้านธุรกิจและสังคม

นำโดย นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)  พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากทุกสายธุรกิจในกลุ่มร่วมงาน ณ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก

งาน ESG DAY 2024 เป็น Hybrid Event ที่จัดขึ้นทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสื่อสารถึงพนักงานทั้งหมดในกลุ่มพฤกษา ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เฮลท์แคร์ อีคอมเมิร์ช ก่อสร้างและพรีคาสท์ จำนวนรวมกว่า 2,740 คน  ภายในงานมีกิจกรรมที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานตามหลัก ESG ที่แปลงจากนโยบายลงมาสู่แนวปฏิบัติจริงภายในองค์กร การตอบคำถามชิงรางวัลในบูธต่อต้านคอร์รัปชัน การจัดบอร์ดจากวัสดุรีไซเคิลให้พนักงานร่วมเสนอไอเดียการมีส่วนร่วมให้พฤกษาบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 30 ในปี 2030 และบูธกิจกรรม “วนพลัสรีไซเคิล”  ให้พนักงานนำขยะพลาสติกที่แห้งและสะอาด ประเภทขวดพลาสติก หรือ ฟิล์มและพลาสติกยืดได้ หรือ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ขวดแก้ว มาแลกเพื่อเล่นกิจกรรม ซึ่งถือเป็นอีเวนท์ที่ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจด้วยแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่แท้จริง พร้อมมีจัด Talk พิเศษ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานสำหรับพนักงานโดยเฉพาะ โดย ดีเจพี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในหัวข้องานนี้ต้องสตรอง "Club ESG Day" ตอน work life integration สร้างชัยชนะในงานและตนเองไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมตามจรรยาบรรณธุรกิจ ที่พฤกษาให้ความสำคัญต่อการสร้าง mindset ให้การทำงานและการใช้ชีวิต สามารถชนะไปด้วยกันได้อย่างมีความสุข  พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญให้กับองค์กรและสังคมส่วนรวม ส่งมอบคำว่า “อยู่ดี มีสุข” จากภายในสู่ภายนอก ได้จริง

พฤกษา โฮลดิ้ง ตอบรับเทรนด์พลังงานสะอาด เตรียมดันแบรนด์ Green Leaf Energy รุกธุรกิจโซลาร์รูฟในคอนเซปต์ “ผลักดันพลังงานสะอาดและยั่งยืนสู่ทุกบ้านและธุรกิจ มุ่งมั่นเพื่อช่วยคนไทย ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้”มอบบริการครบวงจร ทั้งจำหน่าย ติดตั้ง และดูแลรักษาระบบ เตรียมขึ้นแท่นสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมที่ผลักดันเรื่อง บ้านพลังงานสะอาด โดยมุ่งหวังให้คนไทยมีบ้านประหยัดพลังงาน ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเลือกใช้โซลาร์รูฟ ระบบ Micro Inverter คุณภาพระดับสากล ที่เพิ่มความปลอดภัย และง่ายต่อการดูแล เพื่อความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า พร้อมสอดรับภารกิจมุ่งสู่ Net Zero และมอบการอยู่อาศัยตามกรอบแนวคิด อยู่ดี มีสุข ของกลุ่มพฤกษา

นายบุญไทย แก้วโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์จี โกรท จำกัด ธุรกิจในเครือพฤกษา โฮลดิ้ง กล่าวถึงแนวโน้มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือโซลาร์รูฟ (Solar Roof) ว่า ธุรกิจนี้กำลังเติบโตขึ้นตามความต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นผลจากการวางเป้าหมาย Net Zero ของหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย โดยตลาดการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปีนี้จะมีการขยายตัวถึง 29% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิล รวมทั้งแผนการเพิ่มการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน การสนับสนุนจากภาครัฐให้มีการผลิตไฟฟ้าใช้เอง และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ต่ำเมื่อเทียบกับแหล่งพลังงานอื่น สำหรับประเทศไทย ตลาดการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ก็มีทิศทางเช่นเดียวกับตลาดโลก โดยมีแรงหนุนจากตลาดที่ขายไฟให้ลูกค้าโดยตรง (Private PPA) การสนับสนุนให้มีการผลิตไฟฟ้าใช้เอง และการเติบโตของตลาดที่ขายไฟฟ้าให้กับภาครัฐ  

รวมทั้งยังเล็งเห็นถึงปัญหาของสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบโดยรวมทั้งภาคอุตสาหกรรมไปจนถึงภาคครัวเรือน ซึ่งทำให้กระทบไปในวงกว้างทั้งในด้านของค่าใช้จ่ายของครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น จากปัจจัยหลายๆส่วน เช่น ภาระหนี้ อัตราดอกเบี้ย รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเรื่องอัตราค่าไฟที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นลูกบ้านของพฤกษาหรือคนทั่วไป พฤกษา โฮลดิ้ง หนึ่งในกลุ่มผู้นำอสังหาฯ มีความเข้าใจลูกค้าและเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ บวกกับการให้ความสำคัญในการพัฒนา และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ อยากช่วยลดปัญหาของคนไทยทุกคน จึงได้เปิดตัวโซลาร์รูฟแบรนด์ Green Leaf Energy ซึ่งจะเป็นธุรกิจใหม่ภายใต้การดูแลของซินเนอร์จี โกรท โดยในปัจจุบันได้นำร่องติดตั้งโซลาร์รูฟ Green Leaf ที่โครงการ เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส วัชรพล  และวางแผนขยายไปสู่โครงการอื่น ๆ ของพฤกษา เรียลเอสเตท อีกทั้งมีการติดตั้งในธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้ พฤกษา โฮลดิ้ง ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ โรงงานพรีคาสท์ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันจะเน้นเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลก่อน พร้อมเตรียมเดินหน้าขยายบริการสู่กลุ่มลูกค้าทั่วไป และมีแผนจะขยายไปในจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศภายใน 5 ปีข้างหน้า เพื่อช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบ้านพลังงานสะอาดได้” นายบุญไทย กล่าว

ซินเนอร์จี โกรท ดำเนินธุรกิจโซลาร์รูฟแบบครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพ ทั้งการจำหน่าย ติดตั้ง และดูแลรักษาระบบ ภายใต้แนวคิด ผลักดันพลังงานสะอาดและยั่งยืนสู่ทุกบ้านและธุรกิจ มุ่งมั่นเพื่อช่วยคนไทย ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพื่ออยากช่วยลดภาระเรื่องค่าไฟของคนไทยทุกคน ให้คนไทยสามารถเข้าถึงนวัตกรรมที่ทันสมัย ช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องค่าไฟในระยะยาว โดยโซลาร์รูฟช่วยประหยัดไฟ และสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 25 ปี ทั้งยังสามารถเพิ่มรายได้จากการขายไฟส่วนเกินของครัวเรือนให้ภาครัฐกับโครงการโซลาร์ภาคประชาชน ที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2562

โดยโซลาร์รูฟ Green Leaf Energy มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้นวัตกรรมระบบ Micro Inverter คุณภาพระดับสากล จากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการผลิตและติดตั้ง โดยได้รับมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคุณภาพแผงโซลาร์เซลล์ในระดับเทียร์ 1 ซึ่งหมายถึงการอยู่ในกลุ่มอันดับแรกของผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุดและความสามารถในการผลิตตรงตามคุณสมบัติที่กำหนด พร้อมทั้งรับประกันการติดตั้ง 2 ปี และรับประกันการผลิตไฟของแผงโซลาร์นานถึง 25 ปี ในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เริ่มที่ 41,900 บาท และช่วยลดค่าไฟสูงสุดได้ถึง 70% ซึ่งนับว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน ปลอดภัยทั้งตัวอุปกรณ์ มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา เข้าสำรวจพื้นที่ฟรีและรับบริการติดตั้งกับผู้เชี่ยวชาญ

“เราเป็นผู้นำนวัตกรรม เรื่องบ้านประหยัดพลังงาน เลือกนวัตกรรมโซลาร์รูฟที่ใหม่ล่าสุด มุ่งหวังให้คนไทยมีบ้านประหยัดพลังงาน ครอบคลุมทั่วประเทศ” ภายใต้แบรนด์ Green Leaf Energy นอกจากนี้ เรายังเสนอแผนการเงินที่ยืดหยุ่น ที่สามารถขายพร้อมบ้านในโครงการพฤกษา เพื่อให้ลูกค้าสามารถขอสินเชื่อโซลาร์รูฟรวมกับบ้านได้ ซึ่งแผนการเงินเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าเข้าถึงโซลาร์รูฟได้ง่ายขึ้น ช่วยลดภาระจากค่าไฟฟ้า และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมร่วมกัน” นายบุญไทย กล่าว

เนื่องจากเดือนนี้เป็นช่วงเปิดตัวแบรนด์ใหม่ จึงขอมอบโปรโมชันพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อบ้านกับพฤกษา และลูกค้าทั่วไปที่สนใจติดตั้งโซลาร์ ในราคาพิเศษกับรุ่น Solar Rooftop 1.74 kWp ในราคาเริ่มเพียง 93,000 บาท จากปกติ 99,990 พร้อมติดตั้งฟรีถึงบ้าน และมีหลากหลายรุ่นให้เลือกตามความเหมาะสมของการใช้ไฟของแต่ละประเภทบ้าน ช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้เดือนละ 600 – 10,000 บาท โปรโมชันราคาพิเศษสามารถรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line official : @greenleaf เรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาทุกวัน

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ กรรมการ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริจาคเงินส่วนตัวในนาม “ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์” ประจำปี 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ให้กับสถาบันการศึกษา มูลนิธิ โรงพยาบาลและองค์กรสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ จำนวน 45 องค์กร รวมเป็นเงิน 48.5 ล้านบาท โดยแบ่งการสนับสนุนเป็นองค์กรด้านศาสนา 7 หน่วยงาน ด้านการศึกษา 22 หน่วยงาน และ ด้านสังคม 16 หน่วยงาน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมพิธีมอบทุนฯ  ณ  อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ซึ่งเงินบริจาคส่วนนี้จะช่วยสนับสนุนการทำงานขององค์กรต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายทองมาได้มอบ “ทุนวิจิตรพงศ์พันธุ์” ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปีนี้นับเป็นปีที่ 15 โดยได้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนา การศึกษา และสังคม ผ่านมูลนิธิ สถาบันการศึกษา และองค์กรต่าง ๆ  ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 112 องค์กร ทั่วประเทศ รวมถึงในเนปาล เป็นยอดเงินบริจาครวมทั้งสิ้นมากกว่า 522 ล้านบาท ตามเจตนารมณ์ที่ต้องการทำนุบำรุงศาสนา สนับสนุนทุนการศึกษา และช่วยเหลือหน่วยงานต่าง ๆ ที่ทำงานเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click