

ชื่อของ “เครือข่ายใต้ร่มบุญ เกษตรอินทรีย์” เป็นที่รู้จักและพูดถึงกันในกลุ่มปลูกผักออร์แกนิก และผู้บริโภคปลายทางที่ตามหาสินค้าอินทรีย์จากกลุ่มนี้ เพราะเชื่อมั่นในผลผลิตที่ได้จากกระบวนการผลิตจากธรรมชาติ และแนวคิดในการทำเกษตรที่ต้อง win win ทั้งคนปลูก คนขาย คนซื้อ และธรรมชาติ
“จันทร์เพ็ญ เพ็ชรัตน์” หรือ แม่เอียด เจ้าของฟาร์มพ่อไข่แม่เอียด หนึ่งในสมาชิกของเครือข่ายใต้ร่มบุญ เกษตรอินทรีย์ เล่าว่า เห็นเกษตรกรรุ่นปู่ย่าตายาย ป่วยเป็นมะเร็งกันเยอะ ก็หันมาทำเกษตรอินทรีย์ และได้พบคนที่มีแนวคิดเดียวกัน รวมกลุ่มกัน เกิดเป็นเครือข่ายเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม ที่นอกจากผู้ปลูกจะมีหัวใจเดียวกันแล้ว ยังมีภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เข้ามาร่วมกันสร้างความเข้มแข็ง อาทิ วิสาหกิจชุมชนต่างๆ เกษตรจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด พัฒนาที่ดิน กรมวิชาการเกษตร พาณิชย์จังหวัด ภาคเอกชนต่างๆ ฯลฯ
นอกจากจะช่วยเรื่องสุขภาพคนปลูกแล้ว การหันมายึดวิถีปลูกผักออร์แกนิก หรือทำเกษตรอินทรีย์ ยังช่วยในเรื่องสิ่งแวดล้อม ยึดวิถีการทำเกษตรแบบไม่เอาเปรียบธรรมชาติ ซึ่งจะใช้ปุ๋ยหมัก เลี้ยงไส้เดือนเอามูลมาบำรุงดิน ใช้สารชีวภัณฑ์จากธรรมชาติในการกำจัดศัตรูพืช และที่สำคัญยังได้ส่งต่อผลิตผลที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพไปยังผู้บริโภคอีกด้วย
“สิ่งที่ยากสำหรับคนทำเกษตรก็คือ ทำแล้วจะเอาไปขายที่ไหน การที่เรารวมกลุ่มเป็นเครือข่ายทำให้มีความเข้มแข็ง ช่วยกันวางแผนการปลูกร่วมกัน หาตลาดร่วมกัน และช่วยกันขาย จนล่าสุดก็ได้พบกับ โก โฮลเซลล์ ในงานจับคู่ธุรกิจที่จัดโดยพาณิชย์จังหวัด และในเบื้องต้นได้ตกลงรับซื้อสินค้าเกษตรในกลุ่มผัก ไปขายที่ สาขาหาดใหญ่ โดยจะเริ่มส่งผัก กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค คอส เบบี้คอส ผักสลัดรวม กวางตุ้ง กวางตุ้งฮ่องเต้ คะน้า เคล เป็นสาขานำร่องก่อน”
นับเป็นการขยายตลาด เพิ่มช่องทางจำหน่าย จากเดิมที่ส่งขายใน โรงพยาบาล ตลาดสด ทำให้เกษตรกรในเครือข่ายมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเครือข่ายใต้ร่มบุญเกษตรอินทรีย์ มีสมาชิกกว่า 450 คนกระจายอยู่ใน 11 อำเภอของสงขลา ทั้ง หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง เทพา สะบ้าย้อย สะเดา จะนะ นาทวี อำเภอเมือง บางกล่ำ รัตภูมิ ควนเนียง โดยมี “มนูญ แสงจันทร์สิริ” หรือ ตานูน เป็นประธาน ฯ
ผักที่ได้จากเกษตรกรกลุ่มนี้ นอกจากจะสด ปลอดภัยแล้ว คนปลูกยังสุขภาพดี ส่วนคนกินก็จะสุขภาพดีไปด้วยเช่นกัน!
พบกับ “ผักอินทรีย์” จากเครือข่ายใต้ร่มบุญเกษตรอินทรีย์ ได้ที่ โก โฮลเซลล์ สาขาหาดใหญ่ (ตรงข้าม ม.อ.) ที่กำลังจะเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้
โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร จุดหมายใหม่เพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ยึดมั่นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจตามแนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจ ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) ธรรมาภิบาล (Governance) ในทุกการเติบโต
เช่นเดียวกับ การขยายสาขาไปยังจังหวัดต่างๆ ล่าสุด กับสาขาหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สาขาลำดับที่ 13 ที่มีกำหนดการเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “โก โฮลเซลล์” ได้ตระหนักถึงปัญหา “ขยะ” ที่เป็นวาระสำคัญของจังหวัดและนครหาดใหญ่ เนื่องจากเป็นเมืองสำคัญด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และมีจำนวนประชากรตามทะเบียนราษฎรมากที่สุดแห่งหนึ่ง และยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากประเทศใกล้เคียง จนทำให้เกิดปริมาณขยะจำนวนมาก ประมาณกว่า 200-250 ตันต่อวัน ดังนั้น “การคัดแยกขยะ” ตั้งแต่ต้นทางจึงเป็นเรื่องสำคัญ
เพื่อรณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรมการแยกขยะให้ถูกต้องและลดปริมาณขยะฝังกลบที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม “โก โฮลเซลล์” ได้มอบถังขยะคัดแยกให้กับเทศบาลนครหาดใหญ่ ภายใต้โครงการ “โก โฮลเซลล์ คัดแยกขยะ เพื่อโลกสีเขียว” ซึ่งแต่ละจุดจะมีถังคัดแยก 4 ประเภท ได้แก่ ถังขยะย่อยสลาย(สีเขียว) สำหรับขยะที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ เช่น เศษอาหาร กิ่งไม้ มูลสัตว์ ถังขยะทั่วไป(สีน้ำเงิน) สำหรับขยะทั่วไป ที่ย่อยสลายได้ยาก แต่ไม่มีพิษ เช่น โฟม ฟอล์ย ถุงพลาสติก ซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถังขยะรีไซเคิล(สีเหลือง) สำหรับขยะที่นำกลับมาผลิตเพื่อใช้ใหม่ได้อีกครั้ง เช่น กระดาษ แก้ว พลาสติก โลหะ และ ถังขยะอันตราย (สีแดง) สำหรับขยะอันตรายที่มีการปนเปื้อนสารเคมีมีอันตรายต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม เช่น ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ ขวดพลาสติกบรรจุสารเคมี กระป๋องสเปรย์ ยาฆ่าแมลง
ในการนี้ นางสาวจันทิรา บุญชู ผู้จัดการทั่วไป โก โฮลเซลล์ สาขาหาดใหญ่ พร้อมพนักงาน ได้ส่งมอบถังคัดแยกขยะ ให้แก่เทศบาลนครหาดใหญ่ โดยมี พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ เป็นผู้รับมอบ ซึ่งถังเหล่านี้จะถูกนำไปวางโดยรอบบริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ แหล่งพักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ที่มีประชาชนชาวหาดใหญ่ นักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน โก โฮลเซลล์ มีสาขา 12 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ อมตะชลบุรี พัทยาใต้ พระราม2 รังสิต รามคำแหง ราไวย์ เมืองภูเก็ต เจริญราษฎร์ อุดรธานี ขอนแก่น และสาขาล่าสุดลำดับที่ 13 “สาขาหาดใหญ่”
“โก โฮลเซลล์” (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร จุดหมายใหม่เพื่อผู้ประกอบการ ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้านโยบายการให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยในอาหารอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด โก โฮลเซลล์ สาขาพระราม 2 รับมอบป้ายมาตรฐานสถานที่จำหน่ายอาหาร SAN จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ SAN Plus สำหรับ GOfe’ มุมคาเฟ่ ของ โก โฮลเซลล์ สาขาพระราม 2 โดย นายเอกภิญวัฒน์ ชัยเดช นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ และ นางสาวเจนจิรา ดวงสอนแสง นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ กรมอนามัย
SAN ย่อมาจาก Sanitation, Accountability, Network อาหารสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ส่วน Plus คือ การประเมินที่สูงขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์การตรวจสอบการปนเปื้อนโคลิฟอร์มแบคทีเรียในอาหาร ภาชนะ อุปกรณ์ และมือผู้สัมผัสอาหาร และผ่านเกณฑ์เพิ่มเติม 9 ข้อ ประกอบด้วย 1) ผู้สัมผัสอาหารทุกคนติดบัตรหรือแสดงหลักฐานผ่านการอบรม 2) จัดบริการช้อนกลางให้แก่ผู้บริโภคทันที 3) จัดบริการอ่างล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรืออุปกรณ์ล้างมือในจุดรับประทานอาหาร 4) ใช้ผัก และผลไม้ปลอดภัย 5) จัดบริการเมนูชูสุขภาพ/อาหารไทยถิ่น กินเป็นยา อย่างน้อย 1 เมนู 6) ใช้เกลือหรือผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีน 7) จัดบริการส้วมผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS 8) ใช้ภาชนะปลอดภัย : No Foam และ 9) สื่อสารความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อประชาชน
ทั้งนี้ โก โฮลเซลล์ สาขาพระราม 2 เป็นสถานที่จำหน่ายวัตถุดิบอาหารที่มีความครบครัน ได้มาตรฐานความปลอดภัย ขณะที่ GOfe’ เป็นมุมคาเฟ่เล็กๆ ที่มีอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมเบเกอรี่อบสดใหม่ ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งมีเมนูไฮไลท์ที่เป็นสูตรเฉพาะและได้รับความนิยมเป็นที่กล่าวถึงกันสำหรับนักชิมก็คือ ไก่ย่าง ซี่โครงหมูย่างบาบีคิว และไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ในราคาที่ทุกคนต้องร้องว้าว