November 05, 2024

นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทีทีบีมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นำ Data และ AI มาใช้ในการพัฒนาองค์กร โซลูชันทางการเงิน และการให้บริการ เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับธนาคาร โดยมีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นธนาคารผู้นำด้านการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดี ให้กับคนไทย (The Bank of Financial Well-being) โดยตลอดปี 2567 ธนาคารเดินหน้า Transform องค์กรแบบรอบด้าน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด B+ESG เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืนให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้ และอนาคต ซึ่งผลจากการ Transform ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ได้มีผลลัพธ์ทั้งในรูปแบบความคืบหน้าและผลสำเร็จในหลาย ๆ ด้านดังนี้

Digital Transformation: นำ Data และ AI มาใช้ในการทำงาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า

ทีทีบีมุ่งเน้นการใช้ Data Analytics และ Personalized AI Engine ในการยกระดับประสบการณ์การให้บริการลูกค้าในระดับเฉพาะบุคคล หรือ “Segment of One” โดยส่งมอบข้อเสนอ แจ้งเตือน และแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับลูกค้าผ่าน Personalized Message มากกว่า 4 ล้านราย ผ่าน 18 ล้านข้อความต่อวัน บนแอป ttb touch ซึ่งนับเป็นจุดเด่นของโมบายแอปพลิเคชันของทีทีบี ทั้งนี้ ธนาคารยังนำจุดเด่นนี้มาสร้างประโยชน์และยกระดับความปลอดภัยในการใช้งานของธนาคาร ด้วยการส่งข้อความแจ้งเตือนให้ลูกค้าตั้งวงเงินการทำธุรกรรม และปิดฟังก์ชันการใช้งานที่ลูกค้าไม่ได้ใช้ เช่น การใช้จ่ายบัตรเครดิตผ่านช่องทางออนไลน์ หรือร้านค้าต่างประเทศ นอกจากนี้ ธนาคาร มีการใช้ Data Analytics ในการวิเคราะห์พฤติกรรมบัญชีม้าเพื่อตรวจและดักจับการทำธุรกรรมที่ผิดปกติได้แบบ Real-time ทำให้สามารถลดปัญหาบัญชีม้าเกิดใหม่ลงได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

Revenue Model Transformation: สร้างการเติบโตของธุรกิจในรูปแบบ Ecosystem ไปพร้อมกับลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ

จากการเปิดตัวกลยุทธ์การสร้างการเติบโตในรูปแบบ Ecosystem Play เพื่อรองรับ 4 กลุ่มลูกค้าหลักที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญและมีฐานลูกค้าเป็นแต้มต่อ สำหรับกลุ่มลูกค้าคนมีรถ ทีทีบี…เป็นมากกว่าสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Roddonjai.com ช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกที่สะดวก ง่าย และมั่นใจมากขึ้นในการซื้อ-ขายรถมือสอง ปัจจุบันมีจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์มากกว่า 1.9 ล้านคนต่อเดือน มีรถยนต์บนแพลตฟอร์มให้เลือกมากกว่า 65,000 คัน โดยกว่า 50% ของรถยนต์ที่ขายได้มีการจัดสินเชื่อรถยนต์ ttb DRIVE สำหรับลูกค้าที่ใช้งานแอป ttb touch สามารถบริหารจัดการเรื่องรถได้ง่าย ๆ ผ่านฟีเจอร์ My Car ตั้งแต่สนใจอยากซื้อรถ ต่อประกันรถ พ.ร.บ. และภาษีรถ เติมเงิน-เช็กยอด Easy Pass จนถึงขายรถผ่านลานประมูล หรือผ่าน Roddonjai.com โดยมีลูกค้าให้ความสนใจ

เพิ่มข้อมูลรถยนต์เพื่อใช้บริการแล้วมากกว่า 800,000 คัน สำหรับคนมีบ้าน ทีทีบี…เป็นมากกว่าสินเชื่อบ้านด้วยฟีเจอร์ My Home บนแอป ttb touch ผู้ช่วยจัดการเรื่องบ้านแบบครบวงจรที่รวมการจ่ายบิลเกี่ยวกับบ้านไว้ที่เดียว บันทึกประวัติการจ่ายบิลต่าง ๆ ได้ รวมทั้งมีบริการแจ้งเตือนล่วงหน้าไม่ให้ลืมจ่าย โดยปัจจุบันมีลูกค้าสนใจเพิ่มข้อมูลบ้านเพื่อใช้บริการฟีเจอร์นี้มากกว่า 580,000 หลัง สำหรับกลุ่มพนักงานเงินเดือน ทีทีบี…เป็นมากกว่าบัญชีเงินเดือน ด้วย ttb payroll solution ที่ให้สิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์และมากกว่าทั้งในส่วนของพนักงาน     และนายจ้าง ทั้งโซลูชันทางการเงินที่ช่วยพนักงานพิชิตหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงโซลูชัน My Work ระบบบริหารงานบุคคลตอบโจทย์มืออาชีพ ทำให้ไตรมาส 3 ปีนี้ จำนวนบริษัทที่ใช้บริการ ttb payroll solution เติบโตขึ้น  ถึง 43% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สำหรับกลุ่มลูกค้า Wealth Ecosystem ทีทีบีสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอด AUM ได้อย่างต่อเนื่อง จากการมุ่งเน้นการนำเสนอบัญชีเงินตราต่างประเทศ (FCD) ในกลุ่มลูกค้า Wealth with Kids ทำให้มีการเปิดบัญชี FCD เพิ่มขึ้นกว่า 2,600 บัญชี มียอดเงินฝาก 4,120 ล้านบาท การออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Wellness Solutions ทั้งกองทุน Term Fund หุ้นกู้ Structured Note และ กองทุน Structured Fund และจากเอกสิทธิ์อันคุ้มค่าจากบัตรเครดิต ttb reserve ยอดการใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรโดยรวมตั้งแต่ต้นปีเติบโตถึง 38% เทียบกับปีก่อนหน้า

นอกจาก 4 กลุ่มลูกค้า Ecosystem ทีทีบียังให้ความสำคัญและพร้อมเคียงข้างลูกค้าธุรกิจ ด้วยโซลูชัน ttb smart shop ให้ทุกเรื่องการจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย ทั้งยังนำข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกมาใช้ในการสร้าง Data Analytics Report ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลร้านค้าของตนเองได้แบบเรียลไทม์ช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มียอดเติบโตของจำนวนร้านค้าที่ใช้งานถึง 70%จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีมูลค่าธุรกรรมรวมตั้งแต่ต้นปีมากกว่า 3,900 ล้านบาท

Channel & Process Transformation: พัฒนาช่องทางและกระบวนการเพื่อยกระดับประสบการณ์การทำธุรกรรม

จากการเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการให้บริการด้วย Digital-first Operating Model ทำให้วันนี้ 92% ของปริมาณธุรกรรมทางการเงินของทีทีบีเกิดขึ้นบนช่องทางแอป ttb touch ทำให้พนักงานในสาขาสามารถมีเวลามากขึ้นในการให้คำแนะนำและบริการลูกค้า และเมื่อไตรมาสที่ 2 ของปี ธนาคารได้เปิดตัวฟีเจอร์ My Credit เพื่อช่วยลูกค้าประเมินวงเงินสินเชื่อเบื้องต้น รู้ผลภายใน 2 นาที พร้อมยื่นขอสินเชื่อได้ทันทีผ่านแอป ttb touch ซึ่งภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน มีการเข้าชมฟีเจอร์นี้มากกว่า 152,000 ครั้ง และสมัครขอสินเชื่อแล้วกว่า 36,000 ราย

ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบ B+ESG

ด้วยความเชื่อที่ว่าเรื่องของการดำเนินธุรกิจและความยั่งยืนไม่สามารถแยกจากกันได้ ทีทีบีให้ความสำคัญกับการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนผ่านโซลูชันทางการเงินที่รับผิดชอบและเป็นธรรม รวมถึงการให้ความรู้ผ่านการตรวจสุขภาพทางการเงิน (Financial Health Check) และคอร์สอนอบรมเสริมความรู้สร้างภูมิคุ้มกันหนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ใคร ๆ ก็สามารถใช้บริการได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ล่าสุด ธนาคารได้มี

โปรแกรมโค้ชปลดหนี้ที่ให้คำปรึกษาแก้ปัญหาหนี้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีอาการหนี้ขั้นโคม่า ซึ่งได้ทดลองกับพนักงานภายในองค์กรจนเห็นผลสำเร็จแล้ว และมีแผนขยายโปรแกรมนี้ไปสู่ลูกค้าบริษัทที่ใช้บริการ ttb payroll solution รายอื่น ๆ ในปี 2568

ทีทีบียังมุ่งเน้นการให้สินเชื่อและคำปรึกษาลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อเพื่อสนับสนุนลูกค้าสำหรับธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ธนาคารยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างทักษะและโอกาสให้เยาวชนไทยกว่า 13,000 คน ในการพัฒนาตนเองเพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้น ผ่านศูนย์การเรียนรู้โครงการไฟ-ฟ้า จุดประกายเยาวชน

นายฐากร กล่าวปิดท้ายว่า “ทีทีบีมุ่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ Transform องค์กรในทุกมิติ เพิ่มศักยภาพโดยนำดิจิทัล   มาดูแลลูกค้าทุกกลุ่มในทุกช่วงชีวิต เพื่อส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่ดีขึ้นแบบรอบด้าน ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการ Transform ทั้งหมดนี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงให้กับสังคมไทย ช่วยสร้างฐานที่มั่นคงให้กับลูกค้า และนำพาทีทีบีไปสู่เป้าหมายการเป็น The Bank of Financial Well-being หรือผู้นำด้านการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยอย่างยั่งยืน”

การทำธุรกรรมทางการเงินในปัจจุบันมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เคยต้องเดินทางไปทำธุรกรรมที่สาขาธนาคาร กลับเปลี่ยนมาเป็นการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ที่สะดวกและรวดเร็วกว่าเคย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย โดยหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ แต่หลายคนอาจยังมีคำถามในใจว่า เปิดบัญชีออนไลน์ปลอดภัยจริงหรือไม่? วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ จะมาไขข้อสงสัยเหล่านี้ให้กระจ่าง ช่วยให้คุณทำธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจประเภทของบัญชีเงินฝากก่อนว่า มีกี่ประเภทและแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร โดยสามารถแยก ประเภทของบัญชีเงินฝาก ได้ดังนี้

 

1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (Savings Account)

บัญชีที่ให้ความยืดหยุ่นในการฝากถอนเงินได้ตลอดเวลา โดยสามารถใช้ร่วมกับบัตรเดบิต ได้รับอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินหลาย ๆ ครั้งเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น รับเงินเดือน จ่ายค่าสาธารณูปโภค หรือใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

2. บัญชีเงินฝากประจำ (Fixed Deposit Account)

บัญชีที่มีกำหนดระยะเวลาในการฝากถอนเงิน ซึ่งให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ก่อนครบกำหนด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะยาวเพื่อรับผลตอบแทนจากดอกเบี้ย

3. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน (Current Account)

บัญชีที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับการบริหารจัดการทางการเงิน เพื่อใช้ในธุรกิจและการค้าขาย โดยบัญชีเงินฝากกระแสรายวันนี้จะไม่มีสมุดคู่ฝาก แต่สามารถตรวจสอบยอดการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์และการแจ้งยอดบัญชีรายเดือน

เมื่อรู้จักถึงประเภทบัญชีเงินฝากทั้ง 3 ประเภทแล้ว มาดูกันว่าการเปิดบัญชีออนไลน์ จะมีข้อดี และข้อความระวัง หรือเคล็ดลับการเปิดบัญชีออนไลน์ให้ปลอดภัย ห่างไกลมิจฉาชีพกันเถอะครับ

ข้อดีของการเปิดบัญชีออนไลน์

การเปิดบัญชีออนไลน์ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย โดยไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวที่ธนาคาร ไม่ต้องรอเวลาปิด-เปิดสาขาธนาคารที่จำกัด แค่ใช้แอปพลิเคชันของธนาคารก็สามารถเปิดบัญชีและจัดการธุรกรรมได้ นอกจากนี้ การทำธุรกรรมออนไลน์ยังเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลธนาคารและไม่สะดวกในการเดินทาง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่อาจไม่มีสาขาธนาคารใกล้ ๆ รวมทั้งการขอรายการเดินบัญชีหรือทำธุรกรรมอื่น ๆ ก็สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันทันที ไม่ต้องรอหรือเก็บเอกสารแบบเดิม ๆ อีกต่อไป

 

เคล็ดลับเปิดบัญชีออนไลน์อย่างปลอดภัย ห่างไกลมิจฉาชีพ

1. เลือกธนาคารที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกธนาคารที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและมีนโยบายในการป้องกันและเยียวยาผู้ใช้บริการหากเกิดความเสียหายจากการโจรกรรมทางไซเบอร์

2. ใช้ระบบยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัยสูง ควรตรวจสอบว่าธนาคารที่ใช้มีระบบยืนยันตัวตนหลายชั้น เช่น การสแกนใบหน้า การสแกนม่านตา และการตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายาก เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกแฮก

3. ตั้งรหัสผ่านอย่างรอบคอบ การตั้งรหัสผ่านต้องไม่ซ้ำกับรหัสอื่น ๆ ที่เคยใช้ หรือตั้งรหัสง่ายเกินไปจนมิจฉาชีพคาดเดาได้ง่าย หรือ ไม่ควรใช้ข้อมูลส่วนตัวในการตั้งรหัส เช่น วันเดือนปีเกิด หรือหมายเลขโทรศัพท์

4. ใช้อุปกรณ์ส่วนตัวและเครือข่ายที่ปลอดภัย เลือกทำธุรกรรมผ่านอุปกรณ์และ Wi-Fi หรือสัญญาณเครือข่ายส่วนตัว หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะที่อาจเสี่ยงต่อการถูกดักจับข้อมูล

5. เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของธนาคารที่น่าเชื่อถือ มักจะให้กรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ อีเมลและรับแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันของธนาคารเอง ขั้นตอนการเปิดบัญชีออนไลน์จำเป็นต้องตรวจสอบง่าย แจ้งเตือนทุกความเคลื่อนไหวของการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์แบบเรียลไทม์

สำหรับคนที่สนใจเปิดบัญชีออนไลน์กับ ทีทีบี สามารถทำได้ผ่านแอป ttb touch ทั้งสะดวกและปลอดภัย แจ้งเตือนทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี ttb all free ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ส่วนลด

ร้านอาหาร ที่พัก และโค้ดส่วนลดแอปสั่งอาหารออนไลน์ พิเศษ! ฝากเงินตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป รับฟรีประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 3 ล้านบาท ไม่ต้องสำรองจ่าย

แม้การเปิดบัญชีออนไลน์อาจจะดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับบางคน แต่ถ้าเรารู้จักใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องและรู้เท่าทัน การทำธุรกรรมออนไลน์ก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย และปลอดภัย ไม่ว่าจะเปิดบัญชีออนไลน์หรือทำธุรกรรมอย่างอื่น ก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล และห่างไกลมิจฉาชีพ

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.25% ต่อปี ตามมติ กนง. เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้กับประชาชน ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว พร้อมขยายอายุมาตรการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง จากปัญหาสภาพคล่องทางการเงินและภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ย้ำเดินหน้าดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องภายใต้หลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending)

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.50% เหลือ 2.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและเป็นการช่วยลดภาระหนี้ให้กับประชาชนนั้น ทีทีบีมีความห่วงใยลูกค้าพร้อมขานรับนโยบายดังกล่าว จึงประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย MOR ลดลง 0.25% ต่อปี ส่วนอัตราดอกเบี้ย MLR และอัตราดอกเบี้ย MRR ลดลง 0.125% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

สำหรับลูกค้ารายย่อยและ SME ในกลุ่มเปราะบาง ทีทีบีตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและสภาพเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มนี้มาก่อนหน้า นอกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ธนาคารยังมีการต่ออายุมาตรการออกไปจนถึง 31 ธันวาคม 2567 จากเดิมที่จะครบกำหนดในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เพื่อช่วยพยุงสภาพคล่องและลดภาระหนี้ให้กับลูกค้ากลุ่มเปราะบางให้ได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราที่ประกาศอีก 0.25%  ซึ่งจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว มีอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงรวม 0.375-0.50% ต่อปี ทั้งนี้ ธนาคารยังมีแผนที่จะปรับมาตรการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตามความเหมาะสม เมื่อมาตรการดังกล่าวสิ้นสุดลง

สำหรับด้านเงินฝาก เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าเงินออมที่กังวลว่าดอกเบี้ยเงินฝากจะทยอยปรับลดลง ทางทีทีบีมีบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ อัพ แอนด์ อัพ 24 เดือน ที่ตอบโจทย์ลูกค้าเงินฝากทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพราะให้ดอกเบี้ยสูงตั้งแต่ 6 เดือนแรก เริ่มต้นที่ 1.5% ต่อปี และรับดอกเบี้ยสูงขึ้นทุก ๆ 6 เดือน โดยรับดอกเบี้ยสูงสุด 2.0% ต่อปี และยังสามารถถอนก่อนครบกำหนดได้หากมีความจำเป็นในการใช้เงิน จึงเหมาะกับทั้งผู้ที่ฝากระยะสั้นก็จะได้รับดอกเบี้ยสูง และหากฝากต่อเนื่องก็จะเป็นการล็อกเรทอัตราดอกเบี้ยที่ดีในระยะยาว

ทีทีบีพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ตลอดจนมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถจัดการภาระหนี้ที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนผ่านโซลูชันรวบหนี้ และโซลูชันโอนยอดหนี้เพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำลง ช่วยลดภาระดอกเบี้ย เพิ่มสภาพคล่อง ควบคู่กับแนะนำการให้ความรู้ทางการเงิน เพื่อการจัดการหนี้ที่สอดคล้องกับรายได้และความสามารถในการชำระคืนอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ตามเป้าหมายของธนาคารที่มุ่งมั่นทำให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งวันนี้และอนาคต

นายปิติ ตัณฑเกษม (ที่ 4 จากซ้าย)  ประธานกรรมการ มูลนิธิทีทีบี และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต รับมอบเงินสนับสนุนมูลค่า 398,043.11 บาท จากนางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด ในงาน fai-fah Art Fest 2024 เพื่อขับเคลื่อนโครงการไฟ-ฟ้า โครงการแห่งการ “ให้” ที่ยั่งยืน โดย มูลนิธิทีทีบี พร้อมต่อยอดสู่กิจกรรมที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์ รวมถึงการสร้างเยาวชนคุณภาพ เพื่อส่งต่อพลังแห่งการให้กลับคืนสู่สังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งเงินสนับสนุนดังกล่าวมาจาก 10% ของค่าบริหารจัดการ (Management Fee) กองทุนรวมหุ้นทีเอ็มบีธรรมมาภิบาลไทย โดยกิจกรรมจัดขึ้น ณ ทีเอ็มบีธนชาต สำนักงานใหญ่

ttb reserve จับมือ สถาบันวางแผนการศึกษาต่อต่างประเทศ EduSmith จัดสัมมนาพิเศษ ttb reserve Overseas Education Preparation วางแผนการไปศึกษาต่อต่างประเทศสำหรับบุตรหลาน พร้อมโซลูชันการเงินเพื่อต่อยอดความคุ้มค่าและรับผลตอบแทนที่มากกว่า สำหรับ ลูกค้า ttb reserve (ทีทีบี รีเซิร์ฟ) มอบโปรโมชันพิเศษรับส่วนลด 7% เมื่อเข้ารับบริการโปรแกรมสมัครศึกษาต่อ หรือคอร์สเรียนกลุ่ม/เดี่ยวกับ EduSmith ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2567

นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้า Private Banking ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารเล็งเห็นความสำคัญของการวางแผนทางการเงินให้กับลูกค้าที่สนใจส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อต่างประเทศ ซึ่งต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าในหลายช่วงเวลา ตั้งแต่ก่อนเดินทางจนถึงระหว่างที่ศึกษาอยู่ต่างประเทศ โดย ttb reserve พร้อมนำเสนอ Total Wealth Solution ให้กับลูกค้า ด้วยโซลูชัน “Kids Education Financial Solution” เป็นโซลูชันทางการเงินสำหรับการเตรียมตัวศึกษาต่อต่างประเทศ พร้อมกับนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อต่อยอดและเสริมความมั่นคงให้กับครอบครัวในรูปแบบอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งจากประสบการณ์ตรงในการศึกษาต่อต่างประเทศมาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาจนจบมหาวิทยาลัย พบว่า การเตรียม Portfolio มีความสำคัญและช่วยให้ผู้สมัครมีความน่าสนใจและการสัมภาษณ์มีความง่ายมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงร่วมกับ EduSmith จัดงาน ttb reserve Overseas Education Preparation เพื่ออัปเดตและเสริมความรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวสมัครศึกษาต่อต่างประเทศให้กับลูกค้าที่วางแผนส่งบุตรหลานศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดังของต่างประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยในกลุ่ม Ivy League ของสหรัฐอเมริกาในอีก 1-3 ปีข้างหน้า โดยหากมีการเตรียมพร้อมและวางแผนได้ดีจะสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ปกครองที่จะส่งบุตรหลานไปตามเป้าหมายที่ต้องการ

วางแผนทางการเงิน “Financial Partnership for Journey of Overseas Education”

นายเอกรัศมิ์ มนธาตุผลิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าการตลาดธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า การวางแผนทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ปกครองต้องเตรียมพร้อมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความผันผวนต่าง ๆ ซึ่ง ทีทีบี โดย ttb reserve พร้อมวางแผนให้กับผู้ปกครองที่จะส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อยังต่างประเทศแบบ Full Journey ตั้งแต่ก่อนเดินทาง จนกระทั่งเมื่อไปศึกษาที่ต่างประเทศแล้ว โดยแบ่งเป็น 3 เฟส ได้แก่

เฟสที่ 1 : ช่วงวางแผนการศึกษา เป็นช่วงสำคัญที่ควรมีการวางแผนการลงทุนที่ดี เพื่อให้เงินที่มีอยู่เกิดดอกออกผลมากที่สุด เน้นการลงทุนที่ปลอดภัย และคุ้มครองเงินต้น ดังนั้น จึงอยากเสนอตัวช่วยสำหรับการลงทุนที่มีโอกาสต่อยอดให้เงินงอกเงยด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ได้แก่ บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ttb FCD
e-saving ให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย 2-5% ต่อปี รองรับ 5 สกุลเงิน ได้แก่ USD, EUR, AUD, GBP, JPY สามารถจัดการธุรกรรมต่างประเทศ ช่วยบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน สามารถโอนเงินชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สะดวกยิ่งขึ้น และเปิดบัญชีได้ง่ายผ่านแอป ttb touch ซึ่งมาพร้อมกับโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 ธันวาคม 2567 รับดอกเบี้ย US Dollar 3.5% สูงที่สุดในตลาด โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.1% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีบัญชีฝากประจำ 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยสูงถึง  4.5% ต่อปี

เฟสที่ 2 : เตรียมพร้อมสำหรับเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนเป็นอย่างมาก การวางแผนด้านการเงินด้วยโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและความอุ่นใจให้กับผู้ปกครอง ซึ่งทีทีบีสามารถช่วยผู้ปกครองดูแลและบริหารจัดการในเรื่องการชำระค่าเทอม ค่าที่พัก ด้วยบริการที่ช่วยให้การโอนเงินไปต่างประเทศง่ายและสะดวกสบาย พร้อมทีมงานที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนส่วนบุคคล ที่สามารถให้คำปรึกษาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและการโอนเงินในระยะเวลาต่าง ๆ ด้วย API Payments ผู้รับเงินปลายทางจะได้รับเงินเต็มจำนวนเมื่อโอน 6 สกุลเงิน (USD, EUR, GBP, AUD, SGD, HKG) ไปยัง 34  ประเทศ โดยสกุลเงินตรงกับประเทศปลายทาง และในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้จะเพิ่มอีก 1 สกุลเงิน ได้แก่ CAD (ดอลลาร์แคนาดา) เพื่อรองรับจำนวนนักเรียนไทยที่ไปศึกษาต่อ ณ ประเทศแคนาดา นอกจากนี้ผู้ปกครองยังสามารถตรวจสอบสถานะแบบเรียลไทม์ผ่านแอป ttb touch เพิ่มความอุ่นใจ โดยค่าธรรมเนียมโอนเงินในปัจจุบันอยู่ที่ 150 บาทต่อรายการ จากปกติ 1,500 – 2,000 บาทต่อรายการ พร้อมเสนอโปรโมชันพิเศษโอนเงินค่าการศึกษา ค่าที่พัก ค่าอาหาร ใน 4 สกุลเงิน USD, GBP, AUD, CAD  ตรงกับประเทศปลายทาง ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568

เฟสที่ 3 : ช่วงศึกษาต่างประเทศ ผู้ปกครองมักมีความกังวลเกี่ยวกับการจัดการค่าใช้จ่ายระหว่างการศึกษาที่ต่างประเทศ ทีทีบีให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศที่รวดเร็วและปลอดภัย มั่นใจได้ว่าเงินจะส่งมอบถึงบุตรหลานได้ทันเวลาด้วยโซลูชัน 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ บัตร ttb reserve ฟรีค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 2.5% พร้อมส่วนลดอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษสำหรับเงินโอนระหว่างประเทศ 7 สกุลเงิน (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) และ บัตรเดบิต ttb all free ไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 2.5% ไม่มี DCC 1% และไม่มีค่าธรรมเนียมถอนเงินสด จ่าย เติมเงิน ที่ตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ พร้อมส่วนลดสุดคุ้มสำหรับการรับประทานอาหาร ที่พัก และอื่น ๆ อีกหลายรายการ

Overseas Education Admission Trends และ Portfolio ที่ตอบโจทย์ Top Universities

นายพีรกานต์ กาญจนพิมลกุล ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การเตรียมใบสมัครจาก EduSmith กล่าวว่า สถาบันมีความเชี่ยวชาญในการวางแผนการศึกษาให้กับนักเรียนทั้งในระดับไฮสคูล ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก และบอร์ดดิงสคูล พร้อมที่จะให้คำแนะนำกับลูกค้าที่สนใจส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ยุโรป อังกฤษ แคนาดา ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น สำหรับน้อง ๆ ที่สอบติด TOP 50-70 มหาวิทยาลัยชื่อดังของสหรัฐฯ จาก 4,000 แห่ง ซึ่งปัจจุบันร้อยละ 95 จะรับสมัครผ่าน Common App โดยเฉลี่ยการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ จะใช้ระยะเวลา 4 ปี ซึ่งในแต่ละปี โควตาการเปิดรับสมัครของมหาวิทยาลัยไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด แต่จำนวนผู้สมัครนั้นเพิ่มขึ้นในทุกปี โดยประเทศที่ส่งใบสมัครมาสูงสุดเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่ จีน อินเดีย และประเทศในแถบแอฟริกา สิ่งที่ใช้ในการรับสมัครคือเกรดเฉลี่ยและคะแนนวัดระดับภาษาอังกฤษ ซึ่งคำถามในการเขียนเรียงความที่ต้องเจอและตอบให้ได้คือ ทำไมอยากเรียนเมเจอร์นี้ที่มหาวิทยาลัยนี้ นับเป็นการเพิ่มความยากและเป็นตัวบังคับให้ต้องทำ School Research สิ่งสำคัญคือการค้นหาตัวตนว่าตนเองชื่นชอบสิ่งใด มีการทำกิจกรรมหรือชมรมอย่างต่อเนื่องที่สามารถเชื่อมโยงกับสาขาวิชาที่ต้องการลงทะเบียนเรียนได้ เพื่อให้มหาวิทยาลัยเห็นถึงความมุ่งมั่นและความคิดริเริ่มรวมถึงการมีภาวะผู้นำ โดยมี 10 กิจกรรมที่ผู้สมัครจะต้องเขียนอธิบายให้ครบใน 150 คาแรกเตอร์ ขณะที่มหาวิทยาลัยชื่อดังของ UK ใช้ระยะเวลาเรียน 3 ปี ซึ่งผู้สมัครจะต้องเลือกวิชาเมเจอร์ก่อนเข้าไปเรียน และแนวโน้มเทรนด์เด็กอินเตอร์สมัครเพิ่มขึ้นทุกปี โดยประเทศที่สมัครสูงสุดเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่ จีน อินเดีย สหรัฐฯ ไนจีเรีย การเตรียม Portfolio คือสิ่งที่ควรจะมีก่อนสมัครเข้ามหาวิทยาลัย และสิ่งที่ผู้สมัครควรตอบได้คือ ตนเองมีความเก่งและเชี่ยวชาญด้านไหน ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี กีฬา การเขียน ธรรมชาติ ศิลปะ วิชาการ หรือภาวะผู้นำ นอกจากนี้ การจัดทำ SDG Goal (Sustainable Development Goals) เป็นเรื่องที่สำคัญ จากทั้งหมด 17 SDG Goal โดย 3 สิ่งที่ต้องตอบให้ได้เมื่อเริ่มโครงการนั้นคือ 1. คุณเก่งด้านไหน 2. คุณควรจะกล่าวถึงเรื่องอะไร และ 3. เป้าหมายของคุณคืออะไร โดยสามารถแบ่งโครงการออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ 1. โครงการที่สร้างให้เกิดการเรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้อื่น 2. โครงการที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาผ่านการบริการชุมชน/การเป็นอาสาสมัคร 3. โครงการที่มีการสนับสนุนและสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย/กฎหมาย 4. โครงการการกุศลเพื่อรวบรวมการบริจาคเงินและการสนับสนุนทางวัตถุ แนะนำว่าให้จัดทำโครงการที่เราอยากทำมากที่สุด โดยเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ และมีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน

ttb reserve มั่นใจว่าโซลูชัน “Kids Education Financial Solution” จะช่วยเตรียมความพร้อมด้านการเงิน สำหรับการเตรียมตัวส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อต่างประเทศ ลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน อำนวยความสะดวกด้านธุรกรรมระหว่างประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินรูปแบบอื่น ๆ เพื่อต่อยอดและเสริมความมั่นคงให้กับครอบครัว

ลูกค้าที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.ttbbank.com/th/ttb-reserve

Page 1 of 38
X

Right Click

No right click