

ยูเนี่ยนเพย์ (UnionPay) ดำเนินการยกระดับการชำระเงินด้วย QR ข้ามพรมแดนจีน-กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คำแนะนำของธนาคารกลางจีน (PBOC) และธนาคารกลางกัมพูชา (NBC) จนนำไปสู่ความก้าวหน้าในเชิงบวก
โดยในไตรมาส 1/2568 มูลค่าการชำระเงินด้วย QR ผ่านทางแอปยูเนี่ยนเพย์ (UnionPay App) และวอลเล็ตที่เป็นพันธมิตรของยูเนี่ยนเพย์ในกัมพูชา พุ่งขึ้นกว่า 200% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การเชื่อมโยงการชำระเงินด้วย QR ระหว่างจีนกับกัมพูชาถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญภายใต้ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) และมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการอำนวยความสะดวกให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองชาติ
ในเดือนพฤศจิกายน 2566 ธนาคารกลางจีนและธนาคารกลางกัมพูชาได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในด้านนวัตกรรมทางการเงินและระบบการชำระเงิน โดยตกลงที่จะร่วมมือกันในด้านการชำระเงินและด้านอื่น ๆ หนึ่งในนั้นคือโครงการเชื่อมโยงการชำระเงินด้วย QR ซึ่งดำเนินการโดยยูเนี่ยนเพย์และพันธมิตรในกัมพูชาภายใต้กรอบความร่วมมือที่จัดตั้งขึ้นโดยธนาคารกลางทั้งสองแห่ง ต่อมาในเดือนธันวาคม 2566 ยูเนี่ยนเพย์และธนาคารกลางกัมพูชาประกาศร่วมกันว่า เครือข่ายชำระเงิน KHQR ของกัมพูชาได้เปิดรับชำระเงินผ่านวอลเล็ตที่เป็นพันธมิตรของยูเนี่ยนเพย์กว่า 200 ราย รวมถึงแอปยูเนี่ยนเพย์และแอปธนาคารของจีน นับตั้งแต่เปิดตัวมากว่าหนึ่งปี บริการดังกล่าวได้ขยายตัวจนครอบคลุมการใช้งานมากขึ้น และมียอดการชำระเงินเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/2568 พบว่าจำนวนธุรกรรมเติบโตขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่มูลค่าธุรกรรมพุ่งขึ้นกว่า 200%
ในเดือนมีนาคม 2568 ยูเนี่ยนเพย์และธนาคารกลางกัมพูชาประกาศเพิ่มเติมว่า วอลเล็ต Bakong ของกัมพูชาสามารถใช้ชำระเงินผ่านเครือข่าย QR ทั่วโลกของยูเนี่ยนเพย์ และเครือข่ายร้านค้าที่รับ QR ของ WeChat Pay ในประเทศจีน โดยความสำเร็จนี้ถือเป็นการเชื่อมโยงการชำระเงินด้วย QR สองทางเต็มรูปแบบครั้งแรกกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับตั้งแต่นั้นมา วอลเล็ต Bakong ก็มีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน ครอบคลุมทั้งการชำระค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าสินค้าในห้างสรรพสินค้า และค่าตั๋วสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว โดยขึ้นแท่นเป็นเครื่องมือชำระเงินข้ามพรมแดนยอดนิยมในหมู่ชาวกัมพูชา
นับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดกัมพูชาในปี 2551 ยูเนี่ยนเพย์ได้สร้างระบบบริการชำระเงินที่ครอบคลุมในกัมพูชา ด้วยข้อเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครอบคลุม โดยเครื่อง POS ในร้านค้าเกือบทั้งหมดและตู้เอทีเอ็ม 80% ทั่วประเทศล้วนรับบัตรยูเนี่ยนเพย์ และยูเนี่ยนเพย์ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายการรับบัตรยูเนี่ยนเพย์อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับยกระดับข้อเสนอทางธุรกิจในกัมพูชา โดยธนาคารรายใหญ่ในกัมพูชาออกบัตรยูเนี่ยนเพย์รวมกันหลายแสนใบ อีกทั้งการเชื่อมโยงการชำระเงินด้วย QR ยังช่วยให้ชาวกัมพูชาสามารถใช้เครื่องมือการชำระเงินที่คุ้นเคยได้อย่างสะดวกสบายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ปัจจุบัน ยูเนี่ยนเพย์ได้สร้างความร่วมมือหรือกำลังพัฒนาความร่วมมือด้านการชำระเงินด้วย QR ข้ามพรมแดนกับระบบเชื่อมโยงการชำระเงินใน 19 ประเทศและภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ ร้านค้าที่รับชำระเงินด้วย QR ในต่างประเทศมากกว่า 10 ล้านแห่งจึงรับ QR ของยูเนี่ยนเพย์ นับเป็นการสร้างระบบนิเวศการชำระเงินข้ามพรมแดนที่ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ตั้งแต่การชำระค่าอาหาร ค่าสินค้า ไปจนถึงค่าเดินทาง ในอนาคต ยูเนี่ยนเพย์จะยังคงร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนส่งเสริมให้ร้านค้าและผู้บริโภคใช้ QR กันมากขึ้น และมอบคุณค่าที่มากขึ้นให้แก่ผู้บริโภคต่อไป
เคทีซีเผยตัวเลขสมาชิกสแกนจ่ายด้วย QR สูงขึ้นกว่า 60% ร่วมตอบรับสังคมไร้เงินสด คนไทยหันมาทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น พร้อมเดินหน้าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีจับมือยูเนี่ยนเพย์เพิ่มช่องทางชำระเงินด้วยวิธีการสแกน QR Code บัตรเครดิตผ่านแอป KTC Mobile ตอบโจทย์สมาชิกที่ชื่นชอบการทำธุรกรรมออนไลน์ที่ง่าย สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว พิเศษ! สมาชิกที่เลือกชำระบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ ทุกประเภท ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการในประเทศไทยรับส่วนลด 10% ทันทีโดยไม่มีขั้นต่ำ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2567 – 31 ธันวาคม 2567
นายธศพงษ์ รังควร ผู้บริหารสูงสุดสายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) อย่างเต็มรูปแบบ คนไทยหันมาใช้การชำระเงินผ่านการสแกน QR Code ด้วยโทรศัพท์มือถือเพื่อชำระเงินค่าสินค้า และบริการผ่านแอปพลิเคชันธนาคารมากขึ้น โดยเฉพาะ QR Payment บัตรเครดิต ซึ่งเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในร้านค้าชั้นนำ ขณะเดียวกันพบว่าสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีมีพฤติกรรมที่ชื่นชอบการสแกนจ่าย QR บัตรเครดิต เพิ่มมากขึ้นถึง 60% ในช่วงเดือนมกราคม 2567 – เดือนพฤษภาคม 2567 เพราะง่ายต่อการใช้งาน สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และเพื่อให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีมีช่องทางการชำระเงินที่สะดวกมากขึ้นจึงได้เพิ่มทางเลือกให้สมาชิกสแกนจ่ายด้วย QR ผ่านแอป KTC Mobile ที่นอกจากจะสามารถชำระค่าสินค้าและบริการได้แล้วยังสามารถตรวจสอบรายการใช้จ่าย เช็คคะแนนสะสม และเช็ควงเงินของบัตรเครดิตได้อีกด้วย

สำหรับสมาชิกสามารถเลือกสแกนเพื่อจ่ายด้วย QR ผ่านแอป KTC Mobile และเลือกชำระด้วยบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ ทุกประเภท สำหรับชำระค่าสินค้าหรือบริการ ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการในประเทศไทย รับส่วนลด 10% โดยไม่มีขั้นต่ำ (สูงสุด 50 บาทต่อใบเสร็จ) และรับสิทธิ์ได้สูงสุด 3 ครั้ง / บัตรฯ / วัน และรวม 10 ครั้งตลอดระยะเวลาแคมเปญ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2567 – 31 ธันวาคม 2567
ร้านค้าที่รับสแกน QR บัตรเครดิต ได้แก่ คิงเพาเวอร์ / สยามพารากอน / เซ็นทรัล / โลตัส / ท็อปส์ / วัตสัน / แม็กซ์แวลู / ไดโซ / ท็อปส์เดลี่ / ลอว์สัน / เต่าบิน / สตาร์บัคส์ / ชาตรามือ / ซับเวย์ / พิซซ่าฮัท / อาดิดาส / ไนกี้ และโพเมโล
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000 สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ
หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล (UPI)ร่วมมือกับ บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดใช้งานเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนใหม่ล่าสุด 3D Secure (3DS) ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเปิดใช้งานระบบร่วมกับช่องทางอีคอมเมิร์ซ ตั้งเป้ายกระดับประสบการณ์ด้านการชำระเงินแบบดิจิทัลให้สะดวก รวดเร็ว และไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้นแก่ร้านค้า ธนาคารผู้ออกบัตร ผู้ใช้งาน และผู้ให้บริการโซลูชันต่าง ๆ มากมาย
เทคโนโลยียืนยันตัวตน 3DS ยกระดับประสบการณ์การชำระเงินแบบดิจิทัล ด้วยประสิทธิภาพในการตรวจสอบการทำธุรกรรมโดยการใช้เทคโนโลยี 3DS ที่ช่วยให้การยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการบัตรต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวกสบาย โดยที่ไม่ต้องแสดงบัตรเมื่อชำระเงินผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ ระบบการทำงานแบบ 3DS ยังสามารถช่วยลดอัตราการยกเลิกคำสั่งซื้อในหน้าชำระเงินบนช่องทางอีคอมเมิร์ซได้อีกด้วย ในขณะเดียวกัน ทางธนาคารผู้ออกบัตรก็สามารถยกระดับประสบการณ์การยืนยันตัวตนสำหรับการชำระเงินแก่ผู้ใช้บริการได้อย่างไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายและรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทำธุรกรรมที่ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกรรม เพื่อให้มีความครอบคลุม สมบูรณ์ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับประสบการณ์การทำธุรกรรมสำหรับผู้ถือบัตรยูเนี่ยนเพย์ให้สะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
จากผลสำรวจ[1] ‘The Future Shopper Report 2021’ โดย Wunderman Thompson ที่ได้รวบรวมพฤติกรรมของผู้บริโภคกว่า 28,000 ราย จาก 17 ประเทศ ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2564 พบว่าประเทศไทยเป็นอันดับหนึ่งด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ โดย 94% ของผู้บริโภคชาวไทยระบุว่า การช้อปปิ้งออนไลน์เปรียบเสมือนผู้ช่วยชีวิตในช่วง
ล็อกดาวน์จากสถานการณ์โควิด-19 และกว่า 90% มีการใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้นกว่าปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยจำนวนผู้บริโภคกว่า 94.8% ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีขึ้น
แนวโน้มการใช้จ่ายออนไลน์ในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยดังกล่าว ยังสอดคล้องกับตัวเลขการทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านบัตรยูเนี่ยนเพย์ที่เปิดใช้งานในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 38% แบบปีต่อปีอีกด้วย โดยเปรียบเทียบจากตัวเลขในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 และในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2564
นายไช่ ฮุ่ยหมิง ผู้จัดการทั่วไป ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า“แนวโน้มการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างทางสังคมและสุขอนามัยที่มากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาชำระเงินแบบไร้เงินสดมากขึ้นผ่านการช้อปปิ้งออนไลน์ด้วยเช่นเดียวกัน ในฐานะผู้ให้บริการการชำระเงินด้วยนวัตกรรมชั้นนำ ยูเนี่ยนเพย์มุ่งมั่นที่จะยกระดับการบริการและประสบการณ์การทำธุรกรรมบนช่องทางอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้ใช้บริการ ร้านค้า ธนาคารผู้ออกบัตร ตลอดจนผู้ให้บริการโซลูชันต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตยูเนี่ยนเพย์ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับสิทธิพิเศษมากมายจากหลากหลายเว็บไซต์ที่รองรับเทคโนโลยี 3DS เพื่อมอบความคุ้มค่าในทุก ๆ การใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจคับขัน”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับยูเนี่ยนเพย์ ประเทศไทย ได้ที่ Facebook https://www.facebook.com/UnionPayThailand
[1] https://bit.ly/3zAGjo8