


แม้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะลดลงและความผันผวนทางเศรษฐกิจมหภาคยังคงดำเนินอยู่ ครอบครัวไทยยังคงมองว่าการศึกษาในต่างประเทศเป็นการลงทุนระยะยาวที่สำคัญสำหรับอนาคตของบุตรหลาน YouTrip (ยูทริป) ผู้ให้บริการดิจิทัลวอลเล็ตรองรับหลายสกุลและ Travel card อันดับ 1 ที่นักเดินทางไทยไว้วางใจ ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ได้กลายเป็นบริการทางการเงินที่ได้รับความนิยมสำหรับการจัดการค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในต่างประเทศ
ในการเติบโตของยอดการชำระค่าเล่าเรียนผ่าน YouTrip เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 70% เมื่อเทียบกับปีก่อน สิ่งนี้สะท้อนถึงบทบาทของ YouTrip ในฐานะ “ผู้นำด้านการชำระเงินระหว่างประเทศ” ที่ครอบครัวและนักเรียนต่างวางใจ ยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความผันผวน การชำระค่าเล่าเรียนสถาบันการศึกษาชั้นนำใน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา จีน และประเทศต่างๆ ทั่วโลก YouTrip ตอบโจทย์ในการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศด้วยเรทที่ดี ไม่มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่างจากบัตรเครดิต จึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่นักเรียนไทยเลือกใช้เวลาไปศึกษาต่อต่างประเทศ จากสถิติของ YouTrip ในสหราชอาณาจักร (UK) นักเรียนไทย 54% ที่ศึกษาอยู่ที่นั่นใช้ YouTrip เป็นช่องทางการชำระเงินหลักสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายประจำวัน สถาบันชั้นนำที่นักเรียนไทยนิยม ได้แก่ Imperial College London, King’s College London, London School of Economics และ Leeds University นอกจาก UK แล้ว นักเรียนไทยยังคงเลือกศึกษาต่อในหลักสูตรเต็มเวลา (ระดับปริญญาตรี โท และเอก) ในสหรัฐอเมริกา (US) ออสเตรเลีย และแคนาดา โดยมีนักเรียนไทยเข้าศึกษาต่อในสถาบันที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น
· สหรัฐอเมริกา: Berklee College of Music, UCLA, MIT และ Harvard Business School
· ออสเตรเลีย: RMIT University, Swinburne University, Macquarie University, University of Queensland, University of Sydney และ Monash University
· แคนาดา: Douglas College, Centennial College และ Langara College
สำหรับโปรแกรมแลกเปลี่ยนระยะสั้น หรือ Summer School เป็นอีกจุดหมายในเอเชียที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนมีจำนวนนักเรียนไทยเข้าร่วมเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น หลักสูตรระยะสั้นของ Zhongnan University (Wuhan), South China University of Technology และ Zhejiang University
ค่าเล่าเรียนสำหรับปีการศึกษา 2025/2026 ระดับปริญญาตรีเต็มเวลาที่ Harvard1 ในสหรัฐอเมริกา มีค่าใช้จ่ายโดยประมาณอยู่ที่ 2.8 ล้านบาท ที่ King’s College London2 ในสหราชอาณาจักร ประมาณ 2.4 ล้านบาท และที่ South China University of Technology3 ในจีน ประมาณ 900,000 บาท
แม้ค่าเล่าเรียนจะเป็นองค์ประกอบสำคัญของค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อต่างประเทศ แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ปกครองและนักเรียนต้องพิจารณาอย่างรอบด้านคือ ค่าครองชีพ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการวางแผนงบประมาณตลอดระยะเวลาที่ศึกษา
โดยคาดการณ์ค่าครองชีพรายปีสำหรับนักเรียนที่ไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา4 ประมาณ 540,000 – 670,000 บาท ประมาณ 330,000 – 580,000 บาท สำหรับการศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักร5 และประมาณ 332,000 บาทที่จีน6

พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักเรียนสะท้อนวิถีชีวิตในต่างแดนและแรงกดดันด้านค่าครองชีพที่สูงขึ้น จากสถิติของ YouTrip พบว่า “การช้อปปิ้ง” เป็นหมวดค่าใช้จ่ายอันดับแรกของนักเรียนไทยในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาสิ่งของเข้าที่พัก ไปจนถึงการให้รางวัลตัวเองด้วยสินค้าแบรนด์เนมหรือของสะสมยอดนิยมอย่าง Pop Mart ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในทุกประเทศที่นักเรียนไทยไปเรียน โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรที่นักเรียนมีแนวโน้มใช้จ่ายกับสินค้าหรูมากกว่าประเทศอื่น เนื่องจากราคาที่ดึงดูดใจและอยู่ใกล้ศูนย์กลางการช้อปในยุโรป แม้จะมีการใช้จ่ายเพื่อความเพลิดเพลิน แต่นักเรียนไทยส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย มักเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าท้องถิ่นเพื่อความประหยัด และสินค้าที่ไม่มีในประเทศไทย
รองจากหมวดช้อปปิ้ง ค่าใช้จ่ายที่พบได้บ่อย คือการรับประทานอาหารนอกบ้านและการซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไปตามวิถีชีวิตของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะค่าอาหารและความบันเทิงทั้งในแง่ราคาและพฤติกรรมการใช้จ่าย ที่สะท้อนค่านิยมและสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
นักเรียนไทยที่เรียนในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะเลือกทำอาหารรับประทานเองมากขึ้น เนื่องจากค่าครองชีพโดยเฉพาะค่าอาหารนอกบ้านมีราคาสูง ในเมืองใหญ่อย่างลอนดอนและซิดนีย์ การไปรับประทานอาหารในร้านอาจมีค่าใช้จ่ายสูงเป็นสองเท่าของการซื้อวัตถุดิบจากซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น เช่น Tesco (สหราชอาณาจักร) และ Coles (ออสเตรเลีย) เพื่อมาประกอบอาหารเองที่บ้าน
ในทางตรงกันข้าม นักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะทำอาหารเองและรับประทานอาหารนอกบ้านในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากมีร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดชื่อดังมีราคาเข้าถึงง่าย เช่น Shake Shack และ In-N-Out นอกจากนี้วัฒนธรรมการให้ทิปในสหรัฐอเมริกา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่เลือกบริโภคอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดมากกว่าการนั่งร้านอาหาร เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
อีกหนึ่งพฤติกรรมที่พบเหมือนกันในทุกประเทศปลายทาง คือความรักในอาหารไทยและอาหารเอเชียของนักเรียนไทย ซึ่งนำไปสู่การแวะเวียนหาร้านอาหารเอเชีย เช่น Panda Express เพื่อเต็มอิ่มกับรสชาติที่คุ้นเคยระหว่างการใช้ชีวิตในต่างแดน การเรียนต่อต่างประเทศยังเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สำรวจสิ่งใหม่ๆ ไปพร้อมกับการเรียนรู้ นับเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่หลายคนให้ความสำคัญ อาทิ ในสหราชอาณาจักร สามารถใช้ประโยชน์จากส่วนลดนักเรียนและการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรี ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายด้านความบันเทิงได้, ในออสเตรเลียและแคนาดา นักเรียนมักใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมกลางแจ้งที่มีต้นทุนต่ำ เช่น การเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ หรือการท่องเที่ยวชายหาดธรรมชาติ ตอบโจทย์ทั้งในด้านประสบการณ์และความคุ้มค่า
ในทางตรงกันข้าม นักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกาจำนวนไม่น้อยมีค่าใช้จ่ายด้านกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นเกือบสองเท่า เช่น ราคาบัตรเข้า Disneyland ในสหรัฐฯ สูงกว่าทัวร์ Great Ocean Road แบบครบวงจรในออสเตรเลียมากกว่าสองเท่า
ประเทศจีนถือเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเรียนมีค่าใช้จ่ายรวมต่ำที่สุด ปัจจัยสำคัญมาจากค่าครองชีพที่ไม่สูง และค่าท่องเที่ยวที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้นักเรียนสามารถใช้ชีวิตและท่องเที่ยวได้อย่างประหยัดกว่าประเทศอื่นอย่างเห็นได้ชัด
นายชยพัทธ์ ปทุมนากุล (ปอนด์), ศิษย์เก่าไทยจาก The University of Manchester, ปริญญาโทสาขานวัตกรรมการจัดการและการประกอบการ, รุ่นปี 2023, กล่าวว่า “การใช้ชีวิตที่อังกฤษ ผมต้องวางแผนเรื่องเงินให้รอบคอบ ทั้งทำงานพิเศษ เรียนไปด้วย เพราะค่าครองชีพสูงมากครับ ผมใช้ YouTrip เป็นหลักในการจัดการเรื่องการเงินครับ ไม่ว่าจะเป็นจ่ายค่าเรียน ค่าที่พัก หรือแลกเงินเวลาที่เรทดีๆ มันช่วยให้วางแผนค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น แล้วก็ประหยัดไปได้เยอะเลย”
การบริหารจัดการสกุลเงินอย่างคุ้มค่าสำหรับนักเรียนและผู้ปกครอง เนื่องจากความต้องการศึกษาต่อต่างประเทศยังคงมีอยู่สูง การบริหารจัดการสกุลเงินอย่างชาญฉลาดจึงมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับครอบครัวที่วางแผนค่าใช้จ่ายในต่างประเทศ
![]()
นางสาวจุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทย กล่าวว่า “แม้ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาต่อต่างประเทศจะดูเป็นภาระที่หนักในช่วงแรก แต่ก็ถือเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ไม่เพียงเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพ หากยังรวมถึงโอกาสในการเติบโตและการเรียนรู้ และเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ครอบครัวจำนวนมากยังคงให้ความสำคัญกับการศึกษา เพราะผลตอบแทนจากการเรียนรู้ประเมินค่าไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการปรับตัวในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โอกาสในระดับสากล หรือการเสริมสร้างศักยภาพที่พร้อมรับอนาคต ที่ YouTrip เรามุ่งมั่นสนับสนุนนักเรียนและผู้ปกครองให้สามารถก้าวผ่านการลงทุนครั้งสำคัญนี้ได้อย่างราบรื่นข้ามพรมแดน เพื่อให้เรื่องของการเงินไม่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโต”
เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงิน YouTrip จัดกิจกรรมโรดโชว์ด้านการศึกษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้นักเรียนไทยได้รับความรู้ที่จำเป็นเกี่ยวกับการจัดการอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่าย ความพยายามเหล่านี้ส่งผลให้นักเรียนไทยมีความรู้ทางการเงินมากขึ้น โดยนักเรียนไทย 3 ใน 5 คนติดตามอัตราแลกเปลี่ยนอย่างกระตือรือร้นและแลกเงินบาทล่วงหน้าเป็นสกุลเงินปลายทางเพื่อล็อกอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี
YouTrip ยังตระหนักถึงความต้องการเงินสดในยามฉุกเฉิน ด้วยเหตุนี้ จึงมีบริการถอนเงินจากตู้ ATM ฟรี (สูงสุด 50,000 บาทต่อเดือน) เพื่อให้นักเรียนมีความยืดหยุ่นทางการเงิน ความปลอดภัย และความสบายใจเพิ่มเติมในขณะที่อยู่ต่างประเทศ
แคมเปญ Student Perks เรียนนอกแบบ Smart มอบ Cashback7 เพื่อสนับสนุนผู้ปกครองและนักเรียน
เพื่อช่วยผู้ปกครองและนักเรียนจัดการค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อต่างประเทศ YouTrip จึงนำโปรโมชันเงินคืนสำหรับการชำระค่าเล่าเรียนในสกุลเงินต่างประเทศกลับมาอีกครั้ง! นักเรียนสามารถรับเงินคืนสูงสุด 2,000 บาท สำหรับค่าเล่าเรียนที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศที่ชำระระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ถึง 31 สิงหาคม 2568 โดยมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 150,000 บาทต่อครั้ง นักเรียนแต่ละคนสามารถใช้สิทธิ์ได้สูงสุดสองครั้ง (เงินคืนครั้งละ 1,000 บาท) ตลอดระยะเวลาแคมเปญ
YouTrip (ยูทริป) ผู้ให้บริการดิจิทัลวอลเล็ตรองรับหลายสกุล (Multi-currency wallet) ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ฉลองครบรอบ 5 ปี จัดกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์ โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา YouTrip จัดงานวันเกิดให้กับน้องหมาพันธุ์ชิบะอินุสุดน่ารัก เรียกได้ว่าดึงดูดทุกสายตา ทั้งเหล่า Pet Lover และคนที่เดินผ่านไปมา ในธีมงานวันเกิดสีม่วงสุดอลังการใครเห็นเป็นต้องหยุดดูความน่ารักเกินต้าน พร้อมร่วมสแกน QR ที่พิมพ์บนลูกโป่งขนาดใหญ่ เพื่อฝากคำอวยพรให้เจ้าของวันเกิด ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อีสต์วิลล์
อย่างไรก็ตาม การเฉลิมฉลองที่เริ่มต้นด้วยความอบอุ่นหัวใจ ได้แฝงกลยุทธ์การตลาดสุดสร้างสรรค์ของ YouTrip เบื้องหลังหน้าตาแสนน่ารัก ที่ดึงดูดผู้คนที่ผ่านมาให้สแกน QR ไปสู่หน้าแลนด์ดิ้ง เพจ ที่จัดทำขึ้นเพื่อเปิดตัวแคมเปญฉลองวันเกิดครบรอบ 5 ปีของ YouTrip แจกรางวัลมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท
YouTrip ยังเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าได้ร่วมอวยพรวันเกิดครบรอบ 5 ปีแบบอบอุ่นสุดๆ ผ่านแสกน QR Code นั้น มีข้อความอวยพรวันเกิดจากผู้ใช้ YouTrip มากมาย ที่แชร์ประสบการณ์สุดประทับใจ และบอกเล่าว่า YouTrip ช่วยเติมเต็มการเดินทางของพวกเขาให้พิเศษขึ้นยังไงบ้างตลอด 5 ปีที่ผ่านมา YouTrip ไม่ได้แค่สร้างสีสันให้กับแคมเปญ แต่ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วม และเชื่อมต่อกับแบรนด์ได้อย่างสนุกสนานและน่าจดจำ

พร้อมแจกใหญ่มูลค่า 3 ล้านบาท YouTrip ฉลองครบรอบ 5 ปี รับสมัครนักเที่ยว ชวนลูกค้าแชร์โมเมนต์เกี่ยวกับ YouTrip บน TikTok, รับเงินคืน 5%, และ Top Spender 10 อันดับแรกรับตั๋วเครื่องบินฟรีลัดฟ้าไปญี่ปุ่น โดยประกาศให้ทราบบนเว็บไซต์ ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้
รับสมัครนักเที่ยวด้วย YouTrip โพสต์คลิป TikTok แชร์โมเมนต์เกี่ยวกับ YouTrip โดยผู้ชนะจะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล YouTrip Travel Credits มูลค่าสูงสุด 60,000 บาทต่อสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวแนะนำการท่องเที่ยว รีวิวทริปสุดประทับใจ หรือจะครีเอทคอนเทนต์ท่องเที่ยวแบบไหนก็ได้ตามสไตล์คุณ หากต้องการเข้าร่วม บัญชีจะต้องตั้งค่าเป็นสาธารณะ ติดตามเพจโซเชียลมีเดียของ YouTrip Thailand (@youtripth) และแท็ก #YouTrip5thBD และ @youtripth ในโพสต์ ลุ้นเป็น 1 ใน 120 ผู้โชคดี ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ ประกาศผลผู้โชคดี 30 คนทุกสัปดาห์
เฉลิมฉลองให้คนที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่น และเป็นสายช้อปตัวจริง YouTrip แจกตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ - โตเกียว มูลค่า 60,000 บาท รวม 20 รางวัล ให้กับ 10 นักช้อปตัวจริง! บินลัดฟ้าสู่โตเกียว เพียงแค่ใช้จ่ายผ่านบัตร YouTrip ที่ร้านค้าต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะสกุลเงินไหน ก็มีสิทธิ์ลุ้น ยิ่งช้อปมาก ยิ่งมีสิทธิ์มาก นับยอดใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2567 นี้เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นรับเงินคืน 5% สำหรับการใช้จ่ายระหว่างประเทศ (มียอดขั้นต่ำ 5,000 บาทต่อรายการในสกุลเงินต่างประเทศ) สำหรับเดือนพฤศจิกายนนี้

5 ปีแห่งความคุ้มค่า สะดวกสบาย และสิทธิประโยชน์มากมาย
นับตั้งแต่ปี 2562 YouTrip มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบาย คุ้มค่า และปลอดภัยให้กับนักเดินทางทั่วโลก ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง พร้อมสิทธิประโยชน์และข้อเสนอเงินคืนพิเศษมากมายจากพันธมิตรด้านการเดินทางและอีคอมเมิร์ซชั้นนำ YouTrip ได้กำหนดนิยามใหม่การชำระเงินข้ามพรมแดน ที่ง่าย สะดวก และคุ้มค่ากว่าที่เคย
ความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาบริการและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ได้รับการยอมรับจากหลากหลายสถาบันระดับโลก YouTrip ภูมิใจที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย อาทิเช่น

YouTrip ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ไว้วางใจให้เราเป็นเพื่อนร่วมทาง เราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุดให้กับคุณ
ติดตามทุกความพิเศษเกี่ยวกับแคมเปญได้ ที่นี่! YouTrip ฉลองครบรอบ 5 ปี จัดหนักแคมเปญท่องเที่ยวสิ้นปีนี้ – Blog – YouTrip Thailand (https://www.you.co/th/blog/birthday/)
YouTrip (ยูทริป) ผู้ให้บริการดิจิทัลวอลเล็ตรองรับหลายสกุล (Multi-currency wallet) ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย พร้อมด้วย 3 พันธมิตร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำของคนไทย บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และ Klook แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวชั้นนำระดับเอเชีย เปิดเวทีเสวนาเชิงลึก เผยอินไซต์การท่องเที่ยวต่างประเทศของนักเดินทางไทยในวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 พาเจาะลึกไปกับกระแสการท่องเที่ยวที่กำลังมาแรง รวมทั้งความชอบและแรงจูงใจที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดลักษณะของนักเดินทางยุคใหม่ในประเทศไทย และจุดหมายปลายทางยอดนิยมของโลก โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ YouTrip พบว่า การใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมียอดใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 150% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) ซึ่งปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หลังจากการฟื้นตัวของสถานการณ์โควิด-19 ประกอบกับการมีจุดหมายปลายทางที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าเพิ่มมากขึ้น ตามข้อตกลงการเดินทางแบบทวิภาคี

คุณจุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากเหล่าผู้นำที่ได้รับการยกย่องในแวดวงอุตสาหกรรมจากทั้ง เมืองไทยประกันภัย การบินไทย และ Klook ให้มาร่วมงานเสวนา YouTrip Travel Trend Insights ครั้งแรกของเราในวันนี้ โดย YouTrip มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งการรวมตัวกันของผู้นำในแวดวงอุตสาหกรรมเหล่านี้ ทำให้เราเข้าใจถึงเทรนด์ล่าสุดและแรงจูงใจของนักท่องเที่ยวชาวไทย รวมทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นสู่การวางแผนสานต่อความร่วมมือกับผู้เล่นหลักในภาคการท่องเที่ยว เพื่อทำให้ทุกการเดินทางสนุกสนาน ไร้รอยต่อ และเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน พร้อมเสริมสร้างศักยภาพให้ทุกคนออกไปสำรวจโลกได้ด้วยความมั่นใจ”

เงินเยนอ่อนค่า หนุน “ญี่ปุ่น” ครองแชมป์จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวไทย
ญี่ปุ่นยังคงครองอันดับ 1 จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย โดย 1 ใน 3 ของผู้ใช้ YouTrip ที่เดินทางไปต่างประเทศ เลือกมุ่งหน้าเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่น ปัจจัยสนับสนุนหลักที่ทำให้ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายยอดนิยมคือ วัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว อาหารท้องถิ่นแสนอร่อย และแหล่งช้อปปิ้งหรู ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนค่าลง (JPY) ยิ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญให้การท่องเที่ยวคึกคัก ทั้งนี้ จากข้อมูลการใช้จ่ายของผู้ใช้ YouTrip พบว่า การใช้จ่ายเพื่อการช้อปปิ้งสูงเป็นอันดับ 1 (58%) และในหมวดหมู่ประเภทสินค้าของนักท่องเที่ยวที่ไปญี่ปุ่นนิยมซื้อคือ สินค้าแบรนด์หรู ที่กลายเป็นส่วนสำคัญของการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นของคนไทย โดยมียอดใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
นอกจากนี้ YouTrip ยังพบว่าพฤติกรรมของผู้ใช้มีการแลกเงินบาท (THB) เป็นเงินเยน (JPY) ผ่านกระเป๋าเงิน JPY ภายในแอปฯ เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว การอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินบาท และการล็อคเรทล่วงหน้าง่ายภายในแอปฯ YouTrip ล้วนส่งผลให้ญี่ปุ่นครองแชมป์จุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง

ด้านคุณมิเชล โฮ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Klook ประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า “จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีอากาศเย็น โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ซึ่งแต่ละพื้นที่มีเสน่ห์แตกต่างกันไป เน้นสถานที่ที่ถ่ายรูปสวย รวมทั้งยังนิยมเที่ยวตามคอนเทนต์และการรีวิวในโซเชียลมีเดีย”

สอดคล้องกับข้อมูลจาก คุณวาสิต ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เมืองไทยประกันภัย ที่ระบุว่า “นักท่องเที่ยวไทยยังคงนิยมเดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับ 1 เนื่องจาก อากาศที่ดี การเดินทางที่สะดวกสบาย และสถานที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย โดยหลังโควิด-19 พบว่านักท่องเที่ยวไทยหันมาให้ความสำคัญกับการซื้อประกันเดินทางมากขึ้น ซึ่งนอกจากการคุ้มครองจากประกันพื้นฐาน ยังมีการเพิ่มเรื่องของการประกันของสูญหาย การยกเลิกเที่ยวบิน หรือกรณีเที่ยวบินล่าช้า รวมถึงภัยธรรมชาติ”

คุณภิรมย์ทิศ ทองแถม ณ อยุธยา หัวหน้ากลุ่มงานการตลาดผลิตภัณฑ์ บมจ. การบินไทย กล่าวว่า “หลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด คนไทยเริ่มกลับมาเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยลักษณะการเดินทางท่องเที่ยวเปลี่ยนไปเป็นแบบ FIT (Free Independent Travelers) ซึ่งเป็นการจองตั๋วเพื่อเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง จากที่ก่อนหน้านี้นิยมใช้บริการจากบริษัททัวร์”
ฟรีวีซ่าดัน “จีน” ผงาดขึ้นเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง
ความสนใจของนักท่องเที่ยวในจีนเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 โดยหลังจากมีการประกาศข้อตกลงเดินทางปลอดวีซ่าระหว่างไทยและจีน ในเดือนเมษายน 2567 YouTrip พบว่า มีปริมาณการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นถึง 466% และจีนกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 2 ที่มีการเดินทางไปมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเมืองยอดนิยมที่ผู้ใช้ YouTrip ชื่นชอบ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้น และเฉิงตู

คุณภิรมย์ทิศ กล่าวว่า “ในช่วงเทศกาลสงกรานต์คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศจีนจำนวนมาก โดยมี ยอดการจองตั๋วผ่านการบินไทยเต็ม 100% ทุกเที่ยวบิน ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากนโยบายฟรีวีซ่า”
คุณวาสิต กล่าวว่า “ประเทศจีนถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายการท่องเที่ยวของคนไทยที่กำลังมาแรง สะท้อนได้จากยอดการซื้อประกันภัยการเดินทางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง”
ส่วนทางด้าน คุณมิเชล ระบุว่า “จากนโยบายฟรีซีซ่าไทย-จีน ดึงดูดให้คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศจีนมากขึ้น ทำให้ยอดจองทำกิจกรรมต่าง ๆ ในจีนผ่าน Klook เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า”
“แม้การแลกเปลี่ยนเงินตราอาจเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอีกต่อไป เพราะการใช้งาน YouTrip ร่วมกับ Alipay และ WeChat Pay จะช่วยให้การเดินทางไปจีนง่ายขึ้น และช่วยขจัดความยุ่งยากเรื่องการชำระเงินในประเทศจีน เพียงนักท่องเที่ยวผูกบัตร YouTrip เข้ากับ Alipay หรือ WeChat Pay ก็สามารถสแกนจ่ายในประเทศจีนได้ทันที ไม่ต้องแลกเงินล่วงหน้าและหมดกังวลเรื่องค่าธรรมเนียม DCC (Dynamic Currency Conversion)” คุณจุฑาศรี กล่าวเสริม
มองเทรนด์การท่องเที่ยวต่างประเทศของนักเดินทางไทย
คุณจุฑาศรี กล่าวถึง แนวโน้มการท่องเที่ยวต่างประเทศของนักเดินทางไทย ว่า “หลังโควิดได้เกิดเทรนด์การเที่ยวล้างแค้นขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยังคงดำเนินต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง และการเดินทางท่องเที่ยวได้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ของคนไทยไปแล้ว แต่พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เทรนด์ “ช้อปหรู กินอยู่ประหยัด” เป็นสิ่งที่พบเห็นมากขึ้น และจากการเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจุดหมายปลายทางหลักในระยะสั้นและระยะกลางยังคงเป็นประเทศญี่ปุ่น”

คุณวาสิต กล่าวว่า “การเข้ามาของเทคโนโลยีจะช่วยตอบโจทย์เรื่องการเดินทางให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายในหลากหลายด้าน ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้คนหันมาเลือกเดินทางด้วยตัวเองมากขึ้นแทนการเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์ เช่น Google Map ที่ช่วยให้คนเดินทางได้ง่ายขึ้น ส่วนในด้านการใช้จ่ายก็ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด เพราะมีบริการดิจิทัลวอลเล็ตรองรับหลายสกุล นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังมีการคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้เห็นความสำคัญในการซื้อประกันการเดินทางเพิ่มขึ้นตาม”
คุณภิรมย์ทิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เทรนด์การเดินทางด้วยตัวเองมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากเทคโนโลยีทำให้การเดินทางง่ายขึ้น ตั้งแต่การจองตั๋วเครื่องบิน และการจองที่พัก รวมถึงการใช้จ่าย ซึ่งการบินไทยมองเห็นความต้องการในจุดนี้ จึงได้พัฒนาระบบการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์อย่างไร้รอยต่อมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการเดินทางด้วยตัวเอง”
ปิดท้ายที่ คุณมิเชล กล่าวว่า “แนวโน้มการท่องเที่ยวหนึ่งที่เราเห็นได้อย่างชัดเจน คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวมีอายุน้อยลง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Gen Y ที่นิยมออกเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมทั้งยังเปิดรับจุดหมายปลายทางในประเทศใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากญี่ปุ่นและจีน”
YouTrip (ยูทริป) ผู้ให้บริการดิจิทัลวอลเล็ตรองรับหลายสกุล (Multi-currency wallet) ประกาศความสำเร็จจากการระดมเงินทุนรอบ Series B คว้าเงินลงทุนมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.84 พันล้านบาท นำโดย Lightspeed บริษัท Venture Capital ชั้นนำระดับโลก ที่ลงทุนใน Grab, Snap, OYO Rooms เป็นต้น จากความสำเร็จในการระดมทุนครั้งนี้ส่งผลให้ YouTrip มียอดระดมทุนมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3.68 พันล้านบาท นับตั้งแต่เปิดให้บริการเป็นต้นมา
เงินทุนใหม่นี้จะนำไปใช้เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในด้านเทคโนโลยีของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น สร้างผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมการชำระเงินที่ตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวกสบายและไร้รอยต่อ รวมถึงการขยายทีมเพิ่มอีกกว่าหนึ่งร้อยคนเพื่อเตรียมความพร้อมในการขยายการให้บริการไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

นางสาวซีซีเลีย ชู ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ YouTrip กล่าวว่า “YouTrip เปิดตัวและเริ่มให้บริการในปี 2561 ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนที่ต้องการมอบประสบการณ์ใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศที่สะดวกสบายให้ทุกคนสามารถใช้จ่ายได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น แม้จะมีการแพร่ระบาดโควิด-19 เรายังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดดและกลายเป็นผู้นำด้านการชำระเงินระหว่างประเทศสำหรับลูกค้าบุคคลภายใต้บริการ YouTrip และลูกค้าธุรกิจภายใต้บริการ YouBiz ในภูมิภาคนี้”
“การระดมทุนรอบล่าสุดถือเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดของ YouTrip ตอกย้ำถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งของเราในด้านการชำระเงินระหว่างประเทศ เรามั่นใจว่าบริการของเราที่เข้าถึงได้ง่าย สะดวกสบาย จะตอบโจทย์ผู้ใช้งานหลายล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจะทำให้การชำระเงินระหว่างประเทศเติบโตมากยิ่งขึ้น” นางสาวซีซีเลีย ชู กล่าวเสริม
เร่งการเติบโตในยุคทองของดิจิทัลวอลเล็ต
ด้วยการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศของผู้บริโภคในประเทศไทยและสิงคโปร์ที่เติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงสองปีที่ผ่านมาจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ และการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ส่งผลให้ฐานลูกค้าของ YouTrip เติบโตขึ้นสามเท่า ยอดการทำรายการทั่วโลกเติบโตขึ้นสี่เท่า และกลายเป็นตัวเลือกหลักในการใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ
![]()
นางสาวจุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทย กล่าวว่า “การปิดการระดมทุน Series B ของ YouTrip ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัท และเป็นก้าวที่น่าตื่นเต้นสำหรับลูกค้าชาวไทย เพราะนอกเหนือจากการรีเฟรชแบรนด์ปรับโฉมของ YouTrip ให้ทันสมัยแต่ยังคงตอบโจทย์ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีและความปลอดภัยในการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยเงินลงทุนนี้ เราจะนำมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าชาวไทย”
นอกจาก YouTrip แล้ว ทางด้านผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าธุรกิจ YouBiz ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการบัตรองค์กร (corporate card) และการใช้จ่ายสำหรับ SMEs ในสิงคโปร์ก็เติบโตขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยตั้งแต่เปิดตัวให้บริการในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ภายในปีแรก YouBiz ได้ให้บริการแก่องค์กรต่างๆ มากกว่า 3,000 แห่ง และตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนเป็นสองเท่าภายในปี 2567 อีกด้วย
ขนาดของเงินลงทุนจาก Lightspeed เป็นการแสดงออกถึงความมั่นใจในความสามารถของ YouTrip ในการนำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันที่เหมาะสมกับตลาดในแต่ละประเทศ และทีมผู้บริหารที่สามารถสร้างแผนธุรกิจที่สามารถขยายตัวและเติบโตได้สูงสอดรับกับศักยภาพของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นางสาวพัชร ล้อจินดากุล นักลงทุนจาก Lightspeed กล่าวว่า “จากประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับปัญหาของระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ ตอกย้ำความเชื่อมั่นของเราในสิ่งที่ YouTrip สร้าง บริการดิจิทัลวอลเล็ตและระบบชำระเงินรองรับหลายสกุลที่ช่วยให้ผู้ใช้งานทุกคนได้รับประสบการณ์ในการใช้เป็นจ่ายสกุลเงินต่างๆที่ดียิ่งขึ้น ประหยัด สะดวก และปลอดภัย เรารู้สึกตื่นเต้นกับวิสัยทัศน์และแนวคิดทางธุรกิจที่มีความลึกซึ้ง และพร้อมที่จะร่วมมือกับ YouTrip ในช่วงต่อไปของการเติบโตและขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆ”
ผลักดันนวัตกรรมด้านการชำระเงินสำหรับลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
ทุกวันนี้ระบบดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วนในชีวิตประจำวันรวมถึงการใช้จ่าย ทำให้ผู้คนในภูมิภาคอาเซียนแสวงหาบริการทางการเงินที่ให้ความสะดวกสบายและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น YouTrip จะเพิ่มการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้วยเทคโนโลยี Artificial Intelligence (ระบบ AI) และเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ เพื่อนำเสนอบริการที่เจาะจงเฉพาะบุคคลมากขึ้น เช่น การกำหนดงบประมาณอัจฉริยะและข้อมูลเชิงลึกทางการเงินที่ปรับแต่งเองได้ และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง
YouTrip ยังวางแผนที่จะขยายบริการเพื่อช่วยให้ SMEs เติบโตข้ามประเทศในเศรษฐกิจดิจิทัลได้เร็วขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานธุรกิจ และการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ เช่น วงเงินสินเชื่อ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของธุรกิจในขณะที่ขยายตัวและเติบโต
YouTrip เป็นผู้บุกเบิกรายแรกในอุตสาหกรรมฟินเทคและการชำระเงินดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน ที่นำเสนอบริการดิจิทัลวอลเล็ตรองรับหลายสกุลที่ให้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีมากกว่า 150 สกุลเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียมทุกการใช้จ่าย ประหยัด ใช้จ่ายสะดวกสบายไร้รอยต่อยิ่งขึ้น โดยก่อตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ก่อนจะขยายการให้บริการมายังประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2562 โดยร่วมมือกับ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) YouTrip เป็นผู้นำตลาดด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ การรีเฟรชแอป YouTrip 2.0 และฟีเจอร์ใหม่บนแอป YouBiz 2.0 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ YouTrip ยังได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม โดยได้รางวัลบริษัท FinTech ยอดเยี่ยม อาทิ Most Innovative FinTech Company in Southeast Asia, Best Multi-Currency Mobile Wallet Provider in Asia และ Best SME Finance Management Platform จาก APAC Insider’s 2023 Singapore
Business Awards เร็วๆ นี้ YouTrip ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพอันดับต้นๆ ในสิงคโปร์จาก LinkedIn เครือข่ายมืออาชีพบนอินเทอร์เน็ต ตอกย้ำสถานะของบริษัทในฐานะบริษัทฟินเทคชั้นนำในภูมิภาคอีกด้วย