ชวนร่วมประกวดถ่ายภาพบ้าน 4 โครงการใหม่ ในคอนเซ็ปต์ “สวยอยู่ได้” ลุ้นรางวัลกว่า 240,000 บาท

ตอกย้ำความเป็นแบรนด์อสังหาฯ อันดับ 1 ที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานมากที่สุด

“Metthier” จับมือ “SC Asset” เสริมแกร่งความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุดให้แก่ลูกบ้านทุกระดับเซ็กเมนต์ พร้อมให้บริการด้านความปลอดภัย (Security as a Service) หนึ่งในบริการหลักของระบบ Smart Facility Management ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดอัจฉริยะและเทคโนโลยี AI ตรวจจับการบุกรุก เชื่อมศูนย์รวมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ MIOC เข้ากับแอป RueJai ดูแลความปลอดภัยได้อย่างไร้รอยต่อ นำข้อมูลมาวิเคราะห์ช่วยคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้า พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด 24 ชม.

นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด (Metthier) ผู้ให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) แบบครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เดินหน้ายกระดับความปลอดภัยและมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้กับลูกบ้าน SC Asset ด้วยการให้บริการด้านความปลอดภัย (Security as a Service) หนึ่งในบริการหลักของ Metthier ผสานความเชี่ยวชาญจากทีมงานมืออาชีพและเทคโนโลยีขั้นสูง ตามแนวคิด RISE ABOVE ORDINARY ที่เมทเธียร์เราเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยี” เข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในโครงการบ้านในเครือ SC Asset อาทิ เดอะ เจนทริ, แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด, บางกอก บูเลอวาร์ด

“Metthier” ได้ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะสามารถตรวจจับการบุกรุกได้แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคโนโลยี AI ขั้นสูง วิเคราะห์และคาดการณ์เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้าเพื่อวางแผนป้องกัน โดยเชื่อมการทำงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะเมทเธียร์ (Metthier Intelligent Operation Center: MIOC) ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังเชื่อมระบบเข้ากับแอปพลิเคชัน “รู้ใจ” (RueJai App) ได้อย่างไร้รอยต่อ สามารถดูความเคลื่อนไหวภายในโครงการได้สะดวกยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับลูกบ้าน SC Asset พร้อมมีผู้คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือในทุกสถานการณ์” นายขยล กล่าว

นายดิเรก ตยาคี Head of Tech Solutions บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset กล่าวว่า “นอกจากคุณภาพของสินค้าและบริการที่ดีแล้ว ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค ก็คือ ความปลอดภัย เพราะบ้านต้องเป็นที่อยู่อาศัย ที่อยู่ได้อย่างสบายใจไร้กังวล ซึ่ง SC ได้รับความไว้วางใจ จากลูกค้ามาโดยตลอด ด้วยบริการระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.

การร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับประสบการณ์ความปลอดภัยของการอยู่อาศัยของลูกบ้าน ตอกย้ำการเป็น Living Solution Provider ตามแนวคิด Human-Centric ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อค้นหาความต้องการและโซลูชันต่างๆ ด้านที่อยู่อาศัย โดย SC จะเริ่มคิกออฟ ระบบ Smart Facility Management ในปี 2567 ทุกระดับเซกเมนต์ ซึ่งจะติดตั้งเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานมาพร้อมกับบ้านทุกหลัง ลูกบ้านสามารถใช้บริการ ผ่านแอปพลิเคชัน RueJai ภายใต้แนวคิด ช่วยเรื่องบ้าน จัดการเรื่องชีวิต”

ปรัชญาการสร้างคอนโด ใส่ใจส่วนตัว-ส่วนกลาง เตรียมขึ้นแท่นแบรนด์คอนโด Top of Mind ในใจผู้บริโภค

เอสซีจี โดย นายถิรวัฒน์ พูนกาญจนะโรจน์ Distribution Director  บริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี มอบโล่รางวัล  Sustainable Leader SCG Green Choice 2022 แก่ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ SC ผู้นำการส่งมอบ Living Solutions คุณภาพมาตรฐานสูง โดยมี นายปภาณเดช พชรชานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านสนับสนุนโครงการ มาเป็นผู้รับมอบ

นายถิรวัฒน์ พูนกาญจนะโรจน์ กล่าวว่า “ฉลาก SCG Green Choice คือฉลากรับรองสินค้า เพื่อแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีคุณภาพการอยู่อาศัยที่ดี ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของเอสซีจีที่จะส่งเสริมให้ผู้บริโภคเลือกผลิตภัณฑ์รักษ์โลกได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามแนวทาง ESG 4 Plus ของเอสซีจี ที่ส่งเสริมให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม เพื่อสร้างความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2022 ยอดขายสินค้ากลุ่ม SCG Green Choice เติบโตถึงร้อยละ 34 เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือมียอดขายรวม ร้อยละ 51 แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันลูกค้าให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น การมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ Sustainable Leader SCG Green Choice 2022 แก่ SC Asset ในครั้งนี้เป็นเครื่องตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

การประกาศเกียรติคุณ Sustainable Leader SCG Green Choice 2022 นี้ เพื่อเป็นเกียรติแก่ความมุ่งมั่นในการสร้างที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของพันธมิตรและคู่ค้าผ่านการเลือกใช้สินค้าภายใต้ฉลาก SCG Green Choice ซึ่ง SC Asset ได้เลือกใช้นวัตกรรมวัสดุก่อสร้างที่ได้รับฉลาก SCG Green Choice ในทุกโครงการ โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา SC Asset มีสัดส่วนการใช้ผลิตภัณฑ์ SCG Green Choice ร้อยละ 30 ของยอดซื้อทั้งหมด สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปได้อย่างน้อย 878 ตัน หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 73,204 ต้น ตลอดปี

นายปภาณเดช กล่าวว่า “SC Asset มุ่งพัฒนาสินค้าและบริการอย่างยั่งยืน เน้นการส่งมอบคุณค่าที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า การเลือกใช้วัสดุที่มีนวัตกรรมเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการสร้างคุณค่า เพราะไม่ได้เพียงแค่จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ แต่ลูกค้าได้รับประโยชน์จากบ้านที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลาก SCG Green Choice ยังส่งผลให้ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดความร้อน ลดค่าน้ำ ค่าไฟได้อีกด้วย ซึ่งภายในปี 2025 บริษัทฯ ได้มีการตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ ร้อยละ 20 เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ SCero Mission”

ภารกิจ SCero Mission (ซี-โร่-มิช-ชั่น) คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ก่อสร้าง การนำไปใช้ และการบริหารจัดการของเหลือใช้ ตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ โดยหนึ่งในกลุยทธ์สำคัญคือการเลือกคู่ค้าที่มีแนวคิดและเป้าหมายเดียวกัน ในการรักษาสิ่งแวดล้อม คือการเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง ที่มีนวัตกรรมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้ฉลาก SCG Green Choice ในโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมของเรา และตั้งเป้าสัดส่วนการใช้ให้ได้ ร้อยละ 40 ภายในปี 2024

การร่วมมืออย่างเต็มรูปแบบ จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม (ESG) ยกระดับคุณภาพของบ้านและคอนโด รวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยขึ้นไปอย่างยั่งยืน

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click