December 05, 2025

Nium ผู้นำระดับโลกด้านบริการชำระเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ ได้ประกาศเข้าร่วมโครงการนำร่องใหม่ของวีซ่า คือการทดลองให้พาร์ทเนอร์ที่ได้รับเลือกอย่าง Nium สามารถให้บริการชำระเงินผ่านวีซ่าด้วยสเตเบิลคอยน์ได้โดยตรงผ่านระบบบล็อกเชนที่รองรับการนำสเตเบิลคอยน์มาใช้ในระบบของ Nium ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับการโอนเงินระหว่างประเทศให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งจะทำให้การชำระเงินมีทั้งความรวดเร็วยิ่งขึ้น ปลอดภัยกว่าเดิม และยังสามารถตั้งโปรแกรมหรือกำหนดเงื่อนไขการชำระเงินล่วงหน้าได้อีกด้วย

การเข้าร่วมโครงการกับวีซ่าในครั้งนี้ ช่วยต่อยอดศักยภาพให้ Nium อย่างมาก เพราะทำให้การชำระระหว่างประเทศไม่จำกัดเพียงแค่เงินเฟียตอีกต่อไป แต่สามารถรับชำระด้วยสเตเบิลคอยน์ได้โดยตรง รวมถึงเหรียญ USDC ที่ออกโดย Circle ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการชำระเงินดิจิทัลกับวีซ่าที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะเปลี่ยนจากการชำระเงินแบบเก่าที่ต้องรอประมวลผลเป็นรอบ มาเป็นการใช้สเตเบิลคอยน์บนบล็อกเชน ช่วยลดอุปสรรคและลดความล่าช้าในการชำระเงินข้ามพรมแดน อาทิ การงดให้บริการในช่วงสุดสัปดาห์ ความล่าช้าจากเขตเวลาที่ต่างกัน และขั้นตอนการกระทบยอดที่ใช้เวลานาน

อเล็กซ์ จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการชำระเงินของ Nium กล่าวว่า "การที่ Nium เข้าร่วมโครงการนำร่องของ วีซ่า ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการเคลื่อนย้ายเงินระดับองค์กร ที่ผ่านมาภาคธุรกิจถูกจำกัดด้วยรอบการชำระเงินที่ขึ้นอยู่กับธนาคาร ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเร็วของการค้าขายทั่วโลก การใช้สเตเบิลคอยน์ชำระเงินกับวีซ่าจะทำให้การจ่ายเงินของเราเร็วเทียบเท่าความเร็วอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่ความเร็วของระบบเดิมๆ อีกต่อไป"

นิชชินท์ สังฮาวี หัวหน้าฝ่ายสกุลเงินดิจิทัล วีซ่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "สเตเบิลคอยน์กำลังจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการโอนเงินในยุคปัจจุบัน โครงการนำร่องของเราถูกออกแบบมาเพื่อให้พาร์ทเนอร์มีศักยภาพในการทำธุรกรรมได้ตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ก้าวทันโลกการค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ วีซ่ายินดีที่ได้ขยายความร่วมมือกับ Nium เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้เสริมแกร่งให้กับภาคธุรกิจในระบบนิเวศการเงินต่อไป"

Nium มีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์อยู่แล้ว ทำให้การเข้าร่วมโครงการนำร่องครั้งนี้กับวีซ่าจะช่วยให้ลูกค้าและบริษัทฟินเทคต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อกับช่องทางการชำระเงินดิจิทัลที่รวดเร็วยิ่งขึ้นได้เลย โดยไม่ต้องสร้างระบบสเตเบิลคอยน์ของตัวเอง

ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากที่วีซ่า และ Nium ได้ทำงานร่วมกันมาหลายปีเพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างประเทศให้ทันสมัย สำหรับประเทศไทย โครงการนี้จะช่วยเร่งผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัลได้เร็วขึ้น ปลดล็อกการทำธุรกิจข้ามพรมแดนและการโอนเงินกลับประเทศ สามารถชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ที่ รวดเร็ว ไร้รอยต่อ และทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

ออนโด ไฟแนนซ์ (Ondo Finance) ประกาศเปิดตัวโทเคนใหม่ โอเอ็มเอ็มเอฟ (OMMF) ซึ่งช่วยให้ผู้ถือเหรียญสเตเบิลคอยน์ทั่วโลกสามารถลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน หรือ เอ็มเอ็มเอฟ (MMF) ของสหรัฐอเมริกาโดยใช้โทเคนได้

โอเอ็มเอ็มเอฟสามารถซื้อและแลกได้ในราคาหนึ่งดอลลาร์และได้รับการสนับสนุนทั้งหมดโดยกองทุนรวมตลาดเงินของรัฐบาลสหรัฐ โอเอ็มเอ็มเอฟแตกต่างจากกองทุนรวมตลาดเงินแบบดั้งเดิม เนื่องจากสามารถโอนย้ายได้ทั่วโลกทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงบนบล็อกเชนสาธารณะอีเธอเรียม (Ethereum) และเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบออนเชน เช่น โปรโตคอลการให้ยืมแบบกระจายศูนย์ โอเอ็มเอ็มเอฟจะมีการส่งมอบให้ทุกวันในรูปแบบของโทเคนโอเอ็มเอ็มเอฟใหม่ให้กับนักลงทุนเพื่อรักษาราคาให้คงที่

"ในขณะที่โลกก้าวไปสู่อนาคตที่เป็นดิจิทัลและกระจายศูนย์มากขึ้น โอเอ็มเอ็มเอฟแสดงถึงโอกาสระยะยาวในการมอบวิธีการที่เหนือกว่าในการเก็บรักษาและถ่ายโอนความมั่งคั่ง" คุณนาธาน ออลแมน (Nathan Allman) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของออนโด ไฟแนนซ์ กล่าว "โอเอ็มเอ็มเอฟจะทำกับกองทุนรวมตลาดเงินเช่นเดียวกับที่สเตเบิลคอยน์ทำกับเงินสด นั่นคือการปลดล็อกศักยภาพที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คลังความมั่งคั่งซึ่งเป็นการใช้งานหลักในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังเป็นทางเลือกหลักประกันและการชำระเงินที่เข้าถึงได้ทั่วโลก"

โอเอ็มเอ็มเอฟคือก้าวต่อไปของออนโดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินระดับสถาบันแบบออนเชนสำหรับทุกคน กองทุนรวมตลาดเงินของสหรัฐจัดการเงินมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจแทนการฝากเงินธนาคารสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก โอเอ็มเอ็มเอฟช่วยเติมเต็มข้อเสนอที่มีอยู่ของออนโดที่เป็นการออกโทเคนที่เรียกว่าโอยูเอสจี (OUSG) เพื่อให้ลงทุนในพันธบัตรสหรัฐได้ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการช่วยให้สถาบันในรูปแบบดิจิทัลสามารถใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจัดการเงินสด

ออนโดจะประมวลผลการซื้อและไถ่ถอนสเตเบิลคอยน์ในแต่ละวัน รวมถึงสกุลเงินเฟียตทั่วไป และออนโดจะเสนอการไถ่ถอนทันทีแบบออนเชนสำหรับโอเอ็มเอ็มเอฟจำนวนหนึ่ง นักลงทุนจะได้รับโทเคนโอเอ็มเอ็มเอฟบนบล็อกเชนอีเธอเรียมซึ่งจะแสดงกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ โทเคนเหล่านี้รองรับการโอนย้ายระหว่างที่อยู่นักลงทุนที่ได้รับอนุญาตแล้ว เช่นเดียวกับสัญญาอัจฉริยะที่ผ่านการประเมินตามกฎระเบียบ ออนโดเปิดโอกาสให้นักลงทุนใช้สัญญาอัจฉริยะเพื่อทำการซื้อขายและกู้ยืมแบบออนเชนกับโทเคนในกองทุน เช่นเดียวกับสินทรัพย์คริปโทฯ ทั่วไปแบบอื่น ๆ โอเอ็มเอ็มเอฟจะได้รับการสนับสนุนจากเอ็มเอ็มเอฟที่จัดตั้งขึ้นแต่ยังไม่ได้เปิดเผย เช่นเดียวกับโอยูเอสจี ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของโอเอ็มเอ็มเอฟที่มีการกันสำรองไว้และแยกออกจากงบดุลของออนโด

"สเตเบิลคอยน์รุ่นแรกปฏิวัติวงการไปแล้วก่อนหน้านี้" คุณจัสติน ชมิดท์ (Justin Schmidt) ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าว "ส่วนนี่เป็นครั้งแรกที่มีการให้บริการเงินสดดิจิทัลแบบ

ออนเชนทั่วโลกทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยถูกสร้างขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ ดังนั้นการออกแบบให้สามารถส่งต่อผลตอบแทนได้จึงไม่ใช่จุดสนใจหลัก แต่การทำโทเคนให้สามารถลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินทำให้เราสามารถส่งมอบเสถียรภาพด้านราคาและอรรถประโยชน์ของสเตเบิลคอยน์แบบออนเชนได้ ในขณะที่ให้การคุ้มครองที่เหนือกว่าแก่นักลงทุนและส่งต่อผลตอบแทนไปยังผู้ถือครอง ตลอดจนสร้างสิ่งที่เราเชื่อว่าเหนือกว่าการจัดเก็บมูลค่า วิธีการชำระบัญชี และรูปแบบของหลักประกันสำหรับเศรษฐกิจแบบออนเชน"

X

Right Click

No right click