แกร็บฟู้ด ตอกย้ำผู้นำแพลตฟอร์มเดลิเวอรียอดนิยม เขย่าตลาดด้วยแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี “GrabFood Mega Sale ประกาศศักดา ลดใหญ่ใส่สุด” ผนึกพันธมิตรร้านอาหารทั่วประเทศหั่นราคา-แจกโค้ดส่วนลดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 90% ทุกชั่วโมงแบบไม่มีขั้นต่ำ พร้อมส่งดีลสั่งอาหารราคาพิเศษเริ่มต้น 19 บาทกว่า 16,000 ดีล มาพร้อมโปรโมชันพิเศษส่งฟรี 0 บาท จัดเต็มด้วยกิจกรรมการตลาด 360 องศา โดยเพิ่มสัดส่วนของสื่อออฟไลน์ถึงสองเท่า โดยเฉพาะสื่อกลางแจ้ง (Out-of-Home) และ สื่อโฆษณาเคลื่อนที่ (Transit Media) เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและตอกย้ำเรื่องความคุ้มค่าและปลุกกำลังซื้อในช่วงที่ผู้บริโภคเริ่มรัดเข็มขัดจากสถานการณ์เศรษฐกิจ เสริมทัพด้วยกลยุทธ์ Music Marketing ปรับลุคพรีเซนเตอร์ “เบลล่า ราณี” เป็นแรปเปอร์สาวในแคมเปญโฆษณาล่าสุด ชวนสั่งอาหารเป็นกลุ่มต้อนรับช่วงเทศกาลปลายปีที่คนนิยมสั่งอาหารมาเลี้ยงฉลองร่วมกัน หลังยอดใช้บริการฟีเจอร์ Group Order (สั่งอาหารแบบกลุ่ม) เติบโตขึ้นกว่า 90%
นายพนมกร จิระเสถียรพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาดฟู้ดเดลิเวอรีและปลุกกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายของปี แกร็บฟู้ดได้ส่งแคมเปญใหญ่ ‘GrabFood Mega Sale ประกาศศักดา ลดใหญ่ใส่สุด’ สร้างปรากฏการณ์คุ้มส่งท้ายปีเพื่อคืนกำไรให้กับผู้ใช้บริการ โดยเราได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรร้านอาหารทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มเชนร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ร้านฮิตติดเทรนด์ ไปจนถึงร้านสตรีตฟู้ด หั่นราคาและมอบส่วนลดสูงสุดถึง 90%1 เพียงใส่โค้ด MEGA (ลดสูงสุด 80 บาท ไม่ต้องมียอดสั่งขั้นต่ำ) โดยจะมีการเติมโค้ดส่วนลดทุกชั่วโมง มาพร้อมดีลสั่งอาหารในราคาพิเศษภายใต้ซับแบรนด์ Hot Deals ที่เริ่มต้นเพียง 19 บาทกว่า 16,000 ดีล และโปรโมชันส่งฟรี 0 บาท ซึ่งถือเป็นโปรโมชันที่แรงที่สุดเป็นประวัติการณ์”
ภายใต้แคมเปญนี้ แกร็บฟู้ดเล่นใหญ่ใส่สุดจัดเต็มด้วยกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขายแบบ 360 องศา ครอบคลุมทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ โดยได้เพิ่มสัดส่วนของการใช้สื่อออฟไลน์สูงขึ้นสองเท่า โดยเฉพาะสื่อกลางแจ้ง (Out-of-Home) ทั้งบิลบอร์ดและจอดิจิทัล พร้อมสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ (Transit Media) เพื่อตอกย้ำเรื่องความคุ้มค่า (Affordability) ในช่วงที่ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการใช้จ่ายจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัจจัยภายนอกต่าง ๆ
“นอกจากนี้ เรายังได้เสริมทัพด้วยการใช้กลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง (Music Marketing) เพื่อสร้างการจดจำและการเข้าถึงแคมเปญผ่านเพลงแร็พติดหู โดยส่งแคมเปญโฆษณาล่าสุดที่ได้ปรับลุคพรีเซนเตอร์ ‘เบลล่า ราณี’ ให้กลายเป็นแรปเปอร์สาวเพื่อเจาะกลุ่ม Gen Z ชวนผู้ใช้บริการสั่งอาหารเป็นกลุ่มเพื่อฉลองร่วมกันในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะการใช้ฟีเจอร์ Group Order (สั่งอาหารแบบกลุ่ม) ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 3 โดยมียอดใช้บริการเติบโตขึ้นกว่า 90%2” นายพนมกร กล่าวเสริม
ติดตามรายละเอียดของแคมเปญ “GrabFood Mega Sale ประกาศศักดา ลดใหญ่ใส่สุด” ได้ที่ https://www.facebook.com/GrabFoodTH
รับชมภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ได้ผ่านทาง
หมายเหตุ
1เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
2เปรียบเทียบยอดใช้บริการสั่งอาหารแบบกลุ่มผ่านฟีเจอร์ Group Order ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคมกับช่วงก่อนหน้า
14 พฤศจิกายน 2567 - แกร็บฟู้ด ผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียอดนิยม ตอกย้ำความเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ สานต่อกลยุทธ์ Collaborative Marketing คว้าศิลปินป๊อปอาร์ตดาวรุ่ง NEWYEAR - ปภากร ศรีกัลยกร เจ้าของคาแรคเตอร์ดัชชุนสุดน่ารักอย่าง “Wednesday” พร้อม 5 ร้านดังที่การันตีความอร่อยโดย #GrabThumsUp อย่าง SOURI, เผ็ดเผ็ด, โอ้กะจู๋, ROOTS และ Shake Shack ผุดแคมเปญพิเศษในช่วงปลายปีเพื่อสร้างปรากฏการณ์เชื่อมความอร่อยเข้ากับงานอาร์ตอย่างลงตัวผ่านงาน #GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park ครั้งแรก! กับการเปิดตัวเมนูพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากทั้ง 5 ร้านที่สั่งได้เฉพาะที่ Grab พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ความอร่อยผ่านผลงานศิลปะ ของที่ระลึก และกิจกรรมเพื่อสร้างเอนเกจเมนต์กับผู้บริโภค ยกระดับความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ของ #GrabThumsUp เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคุณภาพ
นายพนมกร จิระเสถียรพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองในช่วงปลายปี แกร็บฟู้ดได้ส่งแคมเปญพิเศษเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำเทรนด์ พร้อมชูแฟลกชิปแบรนด์อย่าง #GrabThumbsUp โดยเราได้ร่วมมือกับศิลปินป๊อปอาร์ตดาวรุ่งอย่าง NEWYEAR เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาหารจานอร่อย พร้อมด้วย 5 ร้านดังที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ และการันตีความอร่อยโดย #GrabThumbsUp ที่มาร่วมสร้างสรรค์เมนูพิเศษเอาใจสายกิน ไม่ว่าจะเป็น เมนู Macaron Cream Cheese Strawberry Rose จากร้าน SOURI เมนูยำบะหมี่หน้าโรงเรียนจากร้านเผ็ดเผ็ด เมนู Fizzy Apple Cold Brew จากร้าน ROOTS เมนูซี่โครงเลดี้ สโมคบาร์บีคิวทรัฟเฟิลชีสจากร้านโอ้กะจู๋ และ เมนู Blackberry Lemonade จากร้าน Shake Shack โดยเราเปิดตัวครั้งแรกในงาน Pop-Up event ที่ชื่อ #GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park ซึ่งจัดขึ้นที่เซ็นทรัลเวิร์ลตลอด 4 วันเต็มเพื่อสร้างเอนเกจเมนต์กับผู้บริโภค โดยแคมเปญนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโชว์เคสสำคัญที่แกร็บฟู้ด มุ่งสร้างสรรค์ผ่านกลยุทธ์ Collaborative Marketing ซึ่งนอกจากจะสร้างสีสันและความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังช่วยยกระดับความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ให้กับแฟลกชิปแบรนด์อย่าง #GrabThumbsUp ด้วย”
ภายในงานยังมีกิจกรรมพิเศษให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถสั่งซื้อเมนูพิเศษได้ผ่านแอปฯ Grab และเลือกรับอาหารได้สะดวกที่งานผ่านฟีเจอร์ Pickup ทัังยังสามารถนำใบเสร็จรับเงินไปแลกรับของที่ระลึกลวดลายสุดลิมิเต็ดที่ออกแบบโดย NEWYEAR ได้ภายในงาน อาทิ กล่องข้าว กระเป๋าผ้า และ Griptok นอกจากนี้ แกร็บฟู้ดยังชวนผู้ใช้บริการเข้าถึงความอร่อยและเพลิดเพลินไปกับงานอาร์ตได้ โดยเลือกสั่งเมนูพิเศษจาก 5 ร้านแบรนด์ดังจาก #GrabThumbsUp ได้ผ่านแอปฯ Grab จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ พร้อมสัมผัสความน่ารักจากดีไซน์พิเศษของศิลปิน NEWYEAR ที่บริเวณหน้าร้านของทั้ง 5 แบรนด์ดังได้อีกด้วย
21 พฤศจิกายน 2567 - แกร็บ ประเทศไทย รุกตลาดเรียกรถผ่านแอปฯ ผ่านกลยุทธ์ Social Marketing ดันบริการ GrabDriveYourCar เต็มสูบ รับดีมานด์พุ่ง 50% ในช่วงเทศกาล ชูจุดเด่นคนขับมืออาชีพมาตรฐานสูง มาถึงไวในเวลา 15 นาที ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 350 บาท พร้อมประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองทั้งผู้โดยสารและยานพาหนะด้วยวงเงินสูงสุดถึง 5 ล้านบาท ผุดแคมเปญพิเศษ “โปรเด็ด (เพื่อ) นักดื่ม” ส่งหนังโฆษณาปลุกจิตสำนึกรณรงค์ดื่มไม่ขับ พ่วงผนึกพันธมิตรผับ-บาร์และสถานบันเทิงให้ส่วนลดนักดื่มในช่วงเทศกาล พร้อมจัดคอร์สอบรมออนไลน์ให้คนขับหวังสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยและความรับผิดชอบต่อสังคม
นางสาวเมธินี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ทเนอร์คนขับ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วงปลายปีถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและมีการจัดงานเทศกาลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากผู้คนจะออกเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นแล้ว ก็ยังมีการนัดพบปะสังสรรค์และจัดงานเลี้ยงฉลองกันบ่อยครั้งด้วย ส่งผลให้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้มียอดผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรวมถึง GrabDriveYourCar หรือบริการคนขับรถยนต์ส่วนตัวมืออาชีพ ที่แกร็บเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2562 โดยได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ใช้บริการในกลุ่มนักเที่ยวกลางคืนหรือสายดื่มที่เป็นเจ้าของรถยนต์แต่ไม่ต้องการขับ รถเองเมื่อไปปาร์ตี้สังสรรค์เพื่อหลีกเลี่ยงการเมาไม่ขับ รองลงมาคือกลุ่มผู้ใช้บริการที่ไม่สะดวกขับรถด้วยตัวเองในโอกาส
ต่างๆ จึงต้องการคนขับที่ไว้ใจได้ช่วยขับรถให้ เช่น ไปรับ-ส่งคนในครอบครัวเพื่อไปทำธุระหรือโรงพยาบาล รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจที่มีประชุมนัดหมายสำคัญหรือเลี่ยงขับรถเองในช่วงเวลากลางคืน เป็นต้น”
“โดยปกติแล้ว บริการ GrabDriveYourCar จะได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วงปลายปีถึงต้นปี (พฤศจิกายน - มกราคม) ซึ่งสะท้อนผ่านยอดเรียกใช้บริการที่สูงขึ้นกว่าช่วงปกติถึง 50%1 ดังนั้น ในปีนี้ แกร็บจึงได้รุกทำตลาดบริการคนขับรถมืออาชีพอย่างจริงจัง โดยใช้กลยุทธ์การตลาดเพื่อสังคมหรือ Social Marketing ผ่านการทำแคมเปญพิเศษที่ชื่อ ‘โปรเด็ด (เพื่อ) นักดื่ม’ พร้อมส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดพิเศษเพื่อร่วมรณรงค์ด้านความปลอดภัยและกระตุ้นจิตสำนึกให้กับผู้ใช้บริการสายดื่ม โดยนำอินไซต์จริงที่สะท้อนวิธีคิดและพฤติกรรมของนักดื่ม รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งต่อตัวผู้กระทำ คนรอบข้างและสังคมโดยรวม มาเป็นจุดขายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความรับผิดชอบร่วมกัน โดยแฝงมุขตลกเพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย พร้อมผนึกพันธมิตรกับสถานบันเทิงต่างๆ เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม”
จุดเด่นของบริการ GrabDriveYourCar คือ
· มีฐานคนขับมืออาชีพพร้อมให้บริการ โดยคนขับแกร็บที่จะสามารถให้บริการ GrabDriveYourCar ได้ต้องผ่านระบบคัดกรองที่เข้มข้น ตั้งแต่การตรวจประวัติอาชญากรรมย้อนหลัง การทำแบบทดสอบทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์เพื่อประเมินทักษะด้านการขับรถ ทัศนคติ มาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงความสามารถในการจัดการและรับมือกับเหตุไม่คาดฝัน ซึ่งคนขับกลุ่มนี้สามารถขับรถยนต์ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ซีดาน รถ SUV รถกระบะ รถตู้ ไปจนถึงซุปเปอร์คาร์
· มาไวทันใจ โดยผู้ใช้บริการจะใช้เวลารอคนขับเฉลี่ยเพียง 15 นาทีหลังจากระบบได้จัดสรรคนขับแล้ว
· ราคาเข้าถึงได้ โดยแกร็บได้ปรับราคาเริ่มต้นเพียง 350 บาทต่อเที่ยว2
· อุ่นใจ โดยแกร็บได้ทำประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางในทุกเที่ยว ซึ่งคุ้มครองทั้งผู้ใช้บริการและยานพาหนะ ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อเที่ยว
“ภายใต้แคมเปญนี้ แกร็บยังได้มอบส่วนลดบริการ GrabDriveYourCar 30% (สูงสุด 200 บาท) สำหรับผู้ใช้บริการใหม่ เพียงใส่รหัส DRIVE30 ตั้งแต่วันนี้จนถึงช่วงสิ้นปี พร้อมกันนี้ ยังได้ผนึกความร่วมมือกับคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงทั่วกรุงเทพฯ อาทิ theCOMMONS Groove @ centralwOrld ร้าน Brick Bar ร้าน Molly ร้าน Mulligans Irish Bar ร้าน Waterside Karaoke และร้าน 12Plato Brewing เป็นต้น เพื่อผลักดันให้คน "ดื่มไม่ขับ เรียก GrabDriveYourCar ขับให้" ให้ทุกคนได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยนอกจากนี้ เรายังได้จัดคอร์สอบรมออนไลน์สำหรับคนขับแกร็บที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงโทษภัยของการดื่มแล้วขับ พร้อมให้บริการด้วยความปลอดภัยและมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย” นางสาวเมธิณี ปิดท้าย
แกร็บฟู้ด ผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียอดนิยม เผยคนไทยขี้เบื่อ ชอบลองเมนูใหม่ ชงพาร์ทเนอร์ร้านอาหารเพิ่มเมนูใหม่เฉลี่ย 25% ต่อปี ผุดกลยุทธ์ Collaborative Marketing จับคู่ร้านฮิตติดกระแส ส่งเมนูพิเศษแบบโค-ครีเอชัน (Co-Creation Menu) เอาใจสายกินตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยต่อยอดธุรกิจและเพิ่มทราฟิกเข้าร้านได้ถึง 2 เท่า พร้อมเปิดตัวแคมเปญล่าสุด #GrabThumbsUp อร่อยจริง จากคนกินจริง ตอกย้ำจุดแข็งในด้านคุณภาพและความหลากหลาย มาพร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 500 บาท พร้อมโปรฯ เด็ดส่งฟรีทั้งเมือง*
นายจิรกิตต์ กว้างสุขสถิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเดลิเวอรี แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “คนไทยถือเป็นชาติที่ยืนหนึ่งในเรื่องอาหารและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องการกิน โดยเฉพาะกลุ่มเจน Y และเจน Z ที่ชอบสรรหาร้านอาหาร รวมถึงเมนูใหม่ๆ มาลิ้มลองเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี โดยเราพบว่าหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผู้ใช้บริการ GrabFood ให้ความสำคัญคือ การมีตัวเลือกของร้านอาหารที่หลากหลาย รวมถึงการนำเสนอเมนูอาหารที่แปลกใหม่และน่าสนใจ ดังนั้น เราจึงได้พยายามส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านอาหารที่อยู่บนแพลตฟอร์มพยายามพัฒนาสินค้าและเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยในแต่ละปีพาร์ทเนอร์ร้านอาหารของแกร็บได้เพิ่มเมนูใหม่ๆ เฉลี่ยมากกว่า 25% เพื่อตอบโจทย์และเอาใจผู้ใช้บริการสายกิน”
“นอกจากการคัดสรรร้านอร่อยชื่อดังจากทั่วประเทศมาแนะนำให้ผู้ใช้บริการผ่านแฟลกชิปแบรนด์อย่าง #GrabThumsUp แล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่แกร็บบุกหนักในปีนี้ คือ การทำ Collaborative Marketing โดยจับคู่ร้านเด็ดที่มีเมนูฮิตติดเทรนด์มาร่วมมือกันสร้างสรรค์อาหารหรือเครื่องดื่มใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่หาได้เฉพาะที่แกร็บ โดยเราเริ่มทดลองคอนเซ็ปต์นี้มาตั้งแต่ปี 2565 ผ่านการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลบนแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มพฤติกรรมการสั่งอาหาร ยอดขายของร้านหรือเมนูที่ได้รับความนิยม ควบคู่ไปกับการจับเทรนด์ที่กำลังมาแรง โดยแกร็บทำหน้าที่เป็นตัวกลางคอยเชื่อมให้ร้านเด็ดแบรนด์ดังได้ผนึกความร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมหรือสินค้าใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการและถือเป็นการต่อยอดธุรกิจ ทั้งนี้ เราพบว่า การสร้างสรรค์เมนูพิเศษแบบโค-ครีเอชัน (Co-Creation Menu) ช่วยเพิ่มทราฟิกหรือการเข้าถึงร้านค้าบนแพลตฟอร์มได้ถึง 2 เท่า เมื่อเทียบช่วงก่อนและหลังการทำ Collaborative Marketing โดยตลอดทั้งปีนี้ GrabFood ได้นำเสนอเมนูพิเศษรวมกว่า 20 เมนูจากมากกว่า 30 ร้านดัง โดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีและกระแสความนิยมจากผู้ใช้บริการอย่างล้นหลาม”
ภายใต้กลยุทธ์ Collaborative Marketing แกร็บได้ผนึกความร่วมมือกับแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ ใน 3 รูปแบบ คือ
· Best Selling Alliances รวมเมนูดังขายดีแบบคูณสอง: การจับเมนูดังของสองร้านขายดีระดับแมสมาสร้างกิมมิคใหม่ โดยผสานจุดเด่นของเมนูดังจากทั้ง 2 แบรนด์เพื่อสร้างความแปลกใหม่อย่างลงตัว อาทิ การผนึกความร่วมมือกันของสองแบรนด์สุดปังอย่าง ซูรี (SOURI) แบรนด์ร้านขนมของ “วิน” เมธวินในสไตล์ Contemporary Patisserie ที่มีมาการองขึ้นชื่อ และ บัตเตอร์แบร์ (Butterbear) แบรนด์เบเกอร์รี่สุดไวรัลขวัญใจมัมหมี ที่ได้ร่วมงานกันอีกครั้งเพื่อสร้างสีสันให้วงการขนมกับการนำเสนอ ‘SOURI X Butterbear Boxset’ เพื่อเอาใจสายหวานด้วยเมนูยอดฮิตของทั้ง 2 ร้าน พร้อมเติมความน่ารักผ่านดีไซน์ Boxset แบบพิเศษที่ช่วยให้ขายดีแบบคูณสอง
· Specialty Synergy รวมร้านเอกลักษณ์สร้างเมนูคุณภาพ: การจับแบรนด์ที่มีจุดเด่นและความเชี่ยวชาญในอาหารที่ต่างกันมาร่วมมือกัน ซึ่งช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าประจำและยังสามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าใหม่ๆ อย่างเมนู “ชีสเค้กกับดิปชาไทย” จาก เลเยอร์ (Layers) ร้านขนมหวานที่มีเอกลักษณ์ของเค้กหลายเลเยอร์ไม่เหมือนใคร มาร่วมมือกับ ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน ตัวตึงในเรื่องชาเย็น
เจ้าของเมนูชาเย็นสเลอปี้ที่มาแรงที่สุดในปีนี้ โดยผสานจุดแข็งและความเป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์มาสร้างเมนูที่ใหม่ให้กับลูกค้าได้ลิ้มรสความอร่อยที่ผสานกันอย่างลงตัว
· Hybrid Fusion รวมพลังข้ามกลุ่มเป้าหมายขยายฐานลูกค้า: การร่วมมือของร้านมีฐานลูกค้าที่แตกต่างกัน หรือมาจากคนละวงการ อย่างเมนู “เบบี้เอแคลร์เมลอน” เมนูสุดไวรัลจากร้านอาฟเตอร์ยู (After You) คาเฟ่ร้านขนมสุดฮอตที่ไม่มีใครไม่รู้จักที่ร่วมมือกับ เอแคลร์จือปาก (Juepak) อินฟลูเอนเซอร์ตัวแม่ชื่อดังที่่มีผู้ติดตามหลักล้านคน ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ไม่เพียงจะสร้างความตื่นเต้นและแปลกใหม่ให้กับวงการอาหาร แต่ยังช่วยขยายฐานลูกค้าระหว่างกันด้วย
“สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แกร็บฟู้ดเตรียมเปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุด #GrabThumbsUp อร่อยจริง จากคนกินจริง เพื่อตอกย้ำจุดแข็งของแฟลกชิปแบรนด์อย่าง #GrabThumbsUp ที่คอยคัดสรรร้านอร่อยจากทั่วประเทศที่มีคะแนนเรตติ้งสูงและได้รับการรีวิวจากคนกินจริงมาแนะนำให้ผู้ใช้บริการ ซึ่งรวมถึงเมนูโค-ครีเอชันจากหลายแบรนด์ชั้นนำที่เตรียมทยอยเปิดตัวเพื่อเอาใจสายกิน มาพร้อมความคุ้มค่าด้วยการมอบส่วนลดคืนสูงสุดถึง 500 บาทสำหรับการสั่งอาหารในครั้งต่อไป พร้อมโปรฯ เด็ดส่งฟรีทั้งเมือง* เพียงใส่โค้ด 0BAHT ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม - 24 พฤศจิกายนนี้” นายจิรกิตต์ ทิ้งท้าย
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย รับมอบรางวัล “สุดยอดแบรนด์ทรงพลัง” (The Most Powerful Brands of Thailand 2024) ในสาขาแพลตฟอร์มส่งอาหาร (Food Delivery Platform) จากภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะที่ GrabFood ได้ัรับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 29 แบรนด์ที่ทรงพลังที่สุดในประเทศไทย จากการสำรวจและเก็บข้อมูลผู้บริโภคมากกว่า 24,000 ตัวอย่างทั่วประเทศ ครอบคลุมใน 4 มิติ ได้แก่ ความตระหนักในแบรนด์ ความชื่นชอบในแบรนด์ การใช้ผลิตภัณฑ์ และภาพลักษณ์ ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเร็ว ๆ นี้
“แกร็บรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่แบรนด์แกร็บฟู้ด (GrabFood) ได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์ทรงพลัง (The Most Powerful Brands of Thailand) จากภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 โดยจากผลการวิจัยในปีนี้ แกร็บฟู้ดยังคงเป็นแบรนด์ที่ครองใจคนไทยทุกช่วงวัย (18-69 ปี) ทุกเพศ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และเราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริการและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้แพลตฟอร์มของแกร็บสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกยุคทุกสมัย โดยยังคงรักษาคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความยั่งยืนในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจในการดำเนินธุรกิจที่เรียกว่า GrabForGood” นายวรฉัตร กล่าวเสริม
สำหรับการประกาศรางวัล "สุดยอดแบรนด์ทรงพลังของประเทศไทย 2024" (The Most Powerful Brands of Thailand 2024) จัดขึ้นในปีนี้เป็นครั้งที่ 7 โดยภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการวิจัยและสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องทุก 2 ปี โดยปีนี้มีการเก็บข้อมูลจาก 24,000 ตัวอย่าง แบ่งเป็นกลุ่มในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 12,000 ตัวอย่าง และใน 13 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศอีก 12,000 ตัวอย่าง เพื่อจัดอันดับความแข็งแกร่งของแบรนด์ พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้แบรนด์แข็งแกร่ง เพื่อนำมาเป็นองค์ความรู้ในการกำหนดกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดต่อไป