December 05, 2025

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ และ บริษัท เอ็นเอช ฟู้ดส์ (NH Foods) หรือ นิปปอนแฮม สองผู้นำอุตสาหกรรมอาหารแห่งเอเชีย ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ บริษัท ซีพีเอฟ เอ็นเอช ฟู้ดส์ จำกัด (CPF NH Foods Co., Ltd.)

ซีพีเอฟ จัดกิจกรรมสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ สนับสนุนศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา

จากมื้ออาหาร…สู่กำลังใจ เพื่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ตอกย้ำเจตนารมณ์ “เคียงข้างสังคมไทยในทุกวิกฤต” ภายใต้หลักปรัชญา 3 ประโยชน์ จัดกิจกรรม “ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้” นำอาหารคุณภาพมาตรฐานสากล สะอาด ปลอดภัย และรสชาติอร่อย ในราคาพิเศษมาจัดจำหน่ายภายในงาน เพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่ ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา

กิจกรรมจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1–3 กันยายน 2568 เวลา 08.00–15.00 น. ณ โรงอาหาร โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ ร่วมส่งต่อ “พลังแห่งการให้” เพื่อสนับสนุนภารกิจสำคัญของทีมแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ นายแพทย์ชวศักดิ์ กนกกันฑพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา ร่วมเปิดกิจกรรม พร้อมด้วยผู้บริหารและจิตอาสาซีพีเอฟ

นายแพทย์ชวศักดิ์ กนกกันฑพงษ์ กล่าวว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตและความพิการให้ผู้ป่วยจำนวนมาก จำเป็นต้องอาศัยอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อการรักษาอย่างทันท่วงที ความร่วมแรงร่วมใจในครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการรักษาและลดการสูญเสียได้จริง

”กิจกรรมในครั้งนี้สะท้อนถึงพลังของความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับชุมชนท้องถิ่น ที่ช่วยเสริมสร้างระบบสาธารณสุขให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในนามจังหวัดขอชื่นชมและขอบคุณซีพีเอฟ ที่เล็งเห็นความสำคัญของการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่“ รองผู้ว่าฯ นครราชสีมา กล่าว

ที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ส่งต่อความห่วงใยผ่านกิจกรรม “ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้" อย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนโรงพยาบาลรามาธิบดีที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ การช่วยเหลือโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าหลังเหตุแผ่นดินไหว รวมถึงการซ่อมแซมโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึง “หัวใจแห่งการแบ่งปัน” ของซีพีเอฟ ที่พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน

“เพราะทุกมื้อที่คุณซื้อ…คือทุกชีวิตที่เราได้ช่วยเติมความหวัง”

 

จากวิสัยทัศน์เป็น "ครัวของโลก" (Kitchen of the World) ที่มีพันธกิจสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ผู้บริโภคทั่วโลก และสร้างธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งมั่นดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตลอดจนส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ใช้ทรัพยากรเกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้ในปี 2568 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร  จำกัด (มหาชน) หรือ CPF  ได้รับ รางวัล Prime Minister’s Export Award (PM Award) ประเภทรางวัลผู้ส่งออกยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน (Best Green & Sustainable Exporter) จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)  โดยมี นายเอกปิยะ เอื้อวุฒิเกริก  กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ  ซีพีเอฟ   รับรางวัล จากนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์   ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์     

ซีพีเอฟ มีการลงทุนและร่วมลงทุนใน 17 ประเทศ ครอบคลุม 5 ทวีปทั่วโลก จำหน่ายสินค้าส่งออกมากกว่า  50 ประเทศ โดยในทุกๆประเทศที่บริษัทเข้าไปลงทุนและร่วมลงทุน ได้บูรณาการหลักปรัชญา 3 ประโยชน์เป็นแนวปฏิบัติในการทำงาน คือ ประโยชน์ของประเทศ ประชาชน และบริษัท มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย รสชาติอร่อย มีโภชนาการที่ดี ดีต่อกายและดีต่อใจ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด Sustainovation เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ภายในปี 2050 ซึ่งสอดคล้องตามเป้าหมายความตกลงปารีส (Paris Agreement) โดยซีพีเอฟยังเป็นบริษัทผลิตอาหารรายแรกในโลกที่ได้รับการรับรองเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จาก the Science Based Targets initiative (SBTi)

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการทำการตลาดอย่างรับผิดชอบ พัฒนาขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อให้ผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่นสามารถเข้าถึงได้ รวมไปถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ยั่งยืน ตั้งแต่กระบวนการผลิตต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้วัตถุดิบที่มาจากแหล่งที่ไม่ตัดไม้ทำลายป่า อาทิ  ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูปสำหรับการส่งออก  เลี้ยงด้วยข้าวโพดที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า  ใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Forest Stewardship Council (FSC) วัสดุมาจากป่าที่ได้รับการจัดการอย่างยั่งยืน การใช้บรรจุภัณฑ์ Mono Material Packaging ที่ผลิตจากวัสดุชนิดเดียวทำให้รีไซเคิลได้ง่าย ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป Kitchen Joy ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่มีวางจำหน่ายและได้รับความนิยมในหลายประเทศในทวีปยุโรป อังกฤษและเอเชีย  ผลิตภัณฑ์ MEAT ZERO โปรตีนทางเลือกจากพืช ที่ตอบโจทย์กระแสการบริโภคอย่างยั่งยืน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา                         

นอกจากนี้ รางวัลผู้ส่งออกยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน (Best Green & Sustainable Exporter) ยังสะท้อนความสำเร็จที่บริษัทฯ ตระหนักและให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นอีกก้าวสำคัญที่ซีพีเอฟ มีส่วนในการส่งเสริมการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล  สร้างความเชื่อมั่นของผู้นำเข้าและผู้ซื้อจากต่างประเทศ  ผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ภาคธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญมากขึ้น ศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีบทบาทต่อการรักษาและเพิ่มขีดความสามารถของสินค้าไทย ในฐานะผู้ส่งออกอาหารไปในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ จึงเดินหน้าสร้างการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่คุณค่าเปลี่ยนผ่านไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) และจับมือคู่ค้าผู้ผลิตวัตถุดิบหลักและบรรจุภัณฑ์อาหารร่วมเรียนรู้การประเมิน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” จากผู้เชี่ยวชาญขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) 

คู่ค้าจะได้รู้วิธีคำนวณและประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อกำหนดแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากการปรับปรุงกระบวนการผลิต การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดการของเสียอย่างเหมาะสม เพื่อยกระดับมาตรฐานการดำเนินงาน ต่อยอดพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืน รองรับมาตรฐานการค้าโลก และขยายโอกาสเติบโตของธุรกิจ 

 

ณัชพล ศรีโพธิ์เผือก ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไดอะ เมอร์แชนไดส์ จำกัด ผู้จำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง มองว่า โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปรับตัวของผู้ประกอบการจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการปรับปรุงกระบวนการผลิต การจัดการของเสีย และการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทำให้สินค้าของบริษัทตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคยุคใหม่

ด้าน หิรัญญา วงศ์จิรัฐิติกาล กรรมการบริหาร  บริษัท วงศ์เอกอุตสากรรม จำกัด ผู้ผลิตฉลากและบรรจุภัณฑ์อาหาร กล่าวว่า คาร์บอนฟุตพริ้นท์เป็นสิ่งที่ต้องทำไม่ใช่ทางเลือกเพราะมีผลโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาว โดยเฉพาะลดต้นทุน ผ่านการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการของเสีย และระบบโลจิสติกส์ที่รับผิดชอบ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเมื่อผสานแนวทางการจัดการคาร์บอนเข้ากับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เป็นแนวโน้มสำคัญของการดำเนินธุรกิจในอนาคตแล้วนั้น นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร เปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

 

ธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา ผู้บริหารสูงสุดสายงานจัดซื้อกลาง ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟสร้างการมีส่วนร่วมกับคู่ค้าในห่วงโซ่คุณค่าผ่านโครงการ Partner to Grow... เติบโต เคียงข้าง อย่างยั่งยืน ที่ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ในการพัฒนาขีดความสามารถคู่ค้าในห่วงโซ่คุณค่าในทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพ การส่งมอบสินค้าและบริการ ความสามารถในการแข่งขัน นวัตกรรม และความยั่งยืน ล่าสุด ได้ร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรและผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบ เพื่อร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปด้วยกัน

 

“การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคือหัวใจสำคัญในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นทั้ง “ความรับผิดชอบ” และ “โอกาสทางธุรกิจ” หากธุรกิจไม่ปรับตัวจะไม่สามารถแข่งขันได้  ซีพีเอฟเชื่อว่าการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้คู่ค้า จะช่วยให้ทั้งระบบห่วงโซ่อาหารไทยก้าวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำได้จริง ตอบโจทย์ความต้องการสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต และร่วมกันสร้างระบบอาหารโลกที่มั่นคงและยั่งยืน” ธิดารัตน์กล่าว

ด้วยความใส่ใจในคุณภาพและความเข้าใจผู้บริโภค แบรนด์ CP โชว์ความแข็งแกร่ง ก้าวขึ้นเป็นหนี่งในใจของคนไทย คว้ารางวัล "Thailand Brand Footprint 2025 : Top Rising Brand" ในหมวดอาหาร เป็นแบรนด์ที่มีผู้บริโภคเลือกซื้อเติบโตมากที่สุด  สะท้อนจากอัตราการเข้าถึงซึ่งวัดด้วยคะแนน Consumer Reach Points (CRPs) ที่สูงถึง 63.6 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นกว่า 10.6 ล้านครั้งจากปีก่อนหน้า โดยแบรนด์ CP ทำได้ดีขึ้นในสินค้าทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มอาหารทานเล่น และอาหารพร้อมทาน อาทิ  ไข่ต้ม อกไก่นุ่ม ไส้กรอก  ฯลฯ

   

นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดกลาง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า  รางวัลที่ได้รับสะท้อนความแข็งแกร่ง การไม่หยุดพัฒนาเพื่อผู้บริโภคยุคใหม่ และความชื่นชอบที่ผู้บริโภคมีต่อผลิตภัณฑ์แบรนด์ CP เราเชื่อมั่นว่าการครองใจผู้บริโภคได้ ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างแท้จริง  ไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติหรือคุณภาพเท่านั้น  แต่รวมถึงราคาที่เหมาะสม ความสะดวก  และความหลากหลายที่ตอบสนองความต้องการในแต่ละช่วงชีวิต     

"แบรนด์ CP ให้ความสำคัญกับผู้บริโภค มุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ พร้อมรักษาความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ และการเข้าถึงของผู้บริโภค ถึงแม้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไป และต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อกำลังซื้อก็ตาม CP ขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่น และจะรักษาความไว้วางใจนี้ไว้ด้วยมาตรฐานที่ดี  ส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพคนไทยและคนทั่วโลก " นางสาวอนรรฆวี กล่าว                                                   

ทั้งนี้ การจัดอันดับประจำปีของแบรนด์ FMCG ในประเทศไทย จัดทำโดย บริษัท เวิร์ลพาแนล นูเมอร์ราเตอร์ จำกัด (Worldpanel by Numerator) ผู้นำระดับโลกด้านวิจัยตลาดและวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค จัดมอบรางวัลใน 56 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมประชากรกว่า 73%  ประมวลผลด้วยดัชนี CPPs (Consumer Reach Points) ที่มีความแม่นยำ คำนวณจากอัตราการซื้อสินค้า (Penetration) คูณกับความถี่ในการซื้อ (Consumer Choice) ตลอดทั้งปี

Page 1 of 54
X

Right Click

No right click