November 21, 2024

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา นวัตกรรมภาคการเงินได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ภูมิทัศน์ภาคการเงินและระบบเศรษฐกิจโลกได้เปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวกและลดช่องว่างให้ผู้คนได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินได้มากขึ้นตั้งแต่ช่วงอายุที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม การเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินควรมาพร้อมกับการส่งเสริมการบริหารการเงินส่วนบุคคลที่ดี เพราะทักษะทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถใช้นวัตกรรมทางการเงินได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุดในการยกระดับคุณภาพชีวิตท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสังคม ทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางการเงินส่วนบุคคลและหนี้เสียในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่

Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ อาทิ การีนา ช้อปปี้ และซีมันนี่ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการบ่มเพาะทักษะความรู้ ทักษะ และทัศนคติทางการเงินที่ดีในคนไทยตั้งแต่วัยเยาว์ อันจะนำไปสู่การสร้างพฤติกรรมและภูมิคุ้มกันทางการเงินที่ดีในสังคมไทย จึงริเริ่มโครงการให้ความรู้ด้านการเงินต่าง ๆ รวมถึงริเริ่มพัฒนาบอร์ดเกมทางการเงิน “Wishlist จัดสรรเงิน เติมความฝัน” ซึ่งมีการจัดการแข่งขันระดับประเทศเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ “Wishlist Thailand Tournament 2024” เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย

การแข่งขัน “Wishlist Thailand Tournament 2024” ครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 100 คน ประกอบด้วยตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนทั่วประเทศ บุคคลทั่วไปซึ่งเป็นตัวแทนจากศูนย์การเรียนรู้ TK Park และร้านบอร์ดเกม นอกจากนี้ โครงการฯ ยังมีกรุงเทพมหานครฯ เป็นพันธมิตรที่ร่วมให้การสนับสนุนด้านการส่งเสริมความรู้ด้านการเงินในโรงเรียนและร่วมมอบโล่รางวัลให้แก่ผู้ชนะทั้งในระดับโรงเรียนและบุคคลทั่วไป

พุทธวรรณ สุภัทรนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร Sea (ประเทศไทย) กล่าวบนเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “ความท้าทายของการขับเคลื่อนการเรียนรู้ทางการเงินในโลกที่เปลี่ยนไป” ซึ่งจัดขึ้นภายในงานฯ ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีความผันผวน การเรียนรู้ทางด้านการเงินส่วนบุคคลตั้งแต่อายุยังน้อยจึงมีความจำเป็นต่อเยาวชน เพื่อให้มีทักษะด้านการเงินและภูมิคุ้มกันทางการเงินที่ดี อันจะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการบริหารการเงินส่วนบุคคล นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับพลวัตของโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี

“จุดเด่นของบอร์ดเกมการเงิน ‘Wishlist จัดสรรเงิน เติมความฝัน’ คือสามารถเล่นร่วมกันได้ระหว่างผู้เล่นทุกช่วงวัยก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดทางการเงิน และสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันผ่านกลไกของบอร์ดเกม อาทิ การบริหารรายรับ การจัดลำดับความสำคัญในการใช้จ่าย การบริหารจัดการสภาพคล่อง การบริหารจัดการหนี้สิน การหารายได้เพิ่มเป็นต้น โดยเป็นพื้นที่จำลองให้ผู้เล่นได้ฝึกฝนการวางแผนทางการเงินอย่างสนุกสนาน ปลูกฝังพฤติกรรมและทัศนคติทางการเงินที่ดี โดย Sea (ประเทศไทย) ริเริ่มพัฒนาบอร์ดเกมการเงิน Wishlist จัดสรรเงิน เติมความฝัน ร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ สถาบันบอร์ดเกมเพื่อการเรียนรู้ (IBGL) Wizard of Learning Money Coach และ Inskru กระทั่งเกิดเป็นบอร์ดเกมการเงิน Wishlist จัดสรรเงิน เติมความฝัน ซึ่งปัจจุบันได้รับการปรับปรุงและพัฒนาสู่เวอร์ชันที่สองแล้ว”

ปัจจุบัน บอร์ดเกมการเงิน “Wishlist จัดสรรเงิน เติมความฝัน” ได้รับการแจกจ่ายสู่โรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้ทั่วประเทศ รวมทั้งร้านบอร์ดเกมชั้นนำแล้ว จำนวน 500 กล่อง เพื่อเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการเงินส่วนบุคคล รวมทั้งยังได้เผยแพร่บอร์ดเกมดังกล่าวในฉบับ “ Print & Play” ผ่านเว็บไซต์ Sea Academy ขณะนี้มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 1,100 ครั้ง

ภายในงาน Wishlist Thailand Tournament 2024 ยังมีหน่วยงานอีกมากมาย ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ได้นำบอร์ดเกมการเงินมาร่วมจัดแสดงและเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ทดลองเล่น ตลอดจนร่วมเสวนาบนเวทีหลัก

อรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยวิสัยทัศน์ของธนาคารแห่งประเทศไทยในการมุ่งให้เกิดความอยู่ที่ดีของคนไทยอย่างยั่งยืน โดยที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เห็นถึงปัญหาภาคการเงินของคนไทย อาทิ ปัญหาหนี้เสียและหนี้นอกระบบ ทักษะการบริหารการเงินส่วนบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรได้รับการปลูกฝังตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเรียนรู้ผ่านการเล่นบอร์ดเกมการเงินเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เชาวชนได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะดังกล่าวและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันด้านการเงิน

วรุตม์ นิมิตยนต์ ผู้อำนวยการสถาบันบอร์ดเกมเพื่อการเรียนรู้ (IBGL) กล่าวว่า ครอบครัวคนไทยมักไม่พูดคุยเรื่องการเงินร่วมกัน การส่งเสริมให้ผู้ปกครองพูดคุยเรื่องการเงินภายในครอบครัวกับเยาวชนจะก่อให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจถึงสถานภาพทางการเงินของแต่ละครอบครัว นำไปสู่การเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการเงิน รวมถึงการวางแผนในอนาคตซึ่งอาจมีเรื่องการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง การใช้บอร์ดเกมการเงินเป็นวิธีหนึ่งที่จะก่อให้เกิดการพูดคุยเรื่องการเงินภายในครอบครัวระหว่างผู้ปกครองและบุตรหลาน ผ่านกลไกที่ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย และสนุกสนาน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดบทสนทนาด้านการเงินในระดับที่ลึกซึ้งขึ้นต่อไป ปัจจุบัน บอร์ดเกมทางด้านการเงิน “Wishlist จัดสรรเงิน เติมความฝัน” ได้รับการผลักดันสู่โรงเรียนทั่วประเทศแล้วกว่า 100 โรงเรียน รวมไปถึงศูนย์การเรียนรู้ TK Parkทั่วประเทศ และพร้อมด้วยร้านบอร์ดเกม เนื่องจากเป็นชุมชนบอร์ดเกมที่เป็นแหล่งรวมตัวของเยาวชน เป็นการกระจายบอร์ดเกมฯ ให้เยาวชนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น

นิวัฒน์ ถุงเงินศิริ นักจัดการความรู้อาวุโส ศูนย์การเรียนรู้ Tk Park กล่าวว่า บอร์ดเกมเพื่อการเรียนรู้เป็นสื่อการเรียนรู้ที่ให้ผู้เล่นเกิดการเรียนรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งและฝึกฝนทักษะความรู้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านคณิตศาสตร์ ทักษะการใช้ชีวิต ไปจนถึงทักษะที่เกี่ยวข้องกับการเรียน ซึ่งบอร์ดเกมเพื่อการเรียนรู้นั้นอาจจะปรับสัดส่วนระหว่างความสนุกสนานและความรู้ทางวิชาการให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เกิดเป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่มีเป้าหมายมากกว่าเพียงความสนุกสนานเท่านั้น สำหรับศูนย์การเรียนรู้ TK Park มุ่งเน้นการส่งต่อความรู้ให้กับเยาวชน โดยได้ดำเนินการในรูปแบบห้องสมุดมีชีวิตแล้ว 32 แห่งทั่วประเทศ และมีการจัดกิจกรรมมากมาย รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบอร์ดเกมเพื่อการเรียนรู้ โดยระหว่างปี 2563 - 2566 มีผู้ยืมบอร์ดเกมจาก TK Park ไปแล้วกว่า 13,000 ครั้ง TK Park มุ่งผลักดันบอร์ดเกมในฐานะเครื่องมือการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงผลักดันอุตสาหกรรมบอร์ดเกมไทยสู่ระดับโลก

ร่มเกล้า ช้างน้อย ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพศาลาประชาสรรค์ จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า บอร์ดเกมเป็นการออกแบบการเรียนการสอนที่มีเป้าหมายเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ อาทิ คณิตศาสตร์ หากในโรงเรียนมีบุคลากรที่สามารถแนะนำการเล่นบอร์ดเกม จะสามารถส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีความรู้ความเข้าใจและผลักดันให้นักเรียนมีความสนใจบอร์ดเกมมากขึ้น ทำให้ห้องสมุดมีชีวิตชีวาและความหลากหลายมากขึ้น

ปิ่นมุก มาลิ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนเทพศาลาประชาสรรค์ จ.นครสวรรค์ สะท้อนแนวคิดว่า นับตั้งแต่มีบอร์ดเกมในห้องสมุด ทำให้ห้องสมุดมีสีสันมากขึ้น มีการตั้งชุมนุมบอร์ดเกม เกิดวิธีการเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางด้านการเงินในรูปแบบใหม่ คือการคิดวิเคราะห์และเรียนรู้ด้วยความเข้าใจจากกลไกของบอร์ดเกม จากเดิมที่มีเพียงการศึกษาด้วยการอ่านจากหนังสือ การเรียนรู้ผ่านการเล่นบอร์ดเกมยังแฝงไปด้วยความสนุกสนาน ทำให้ดึงดูดเยาวชนสู่การเรียนรู้มากขึ้น

“บอร์ดเกมฯ สอนให้เกิดการเรียนรู้และการวางแผน จากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง ทำให้เกิดทักษะทางความคิดอย่างเป็นขั้นตอน เดิมทีไม่ได้มีความสนใจทางด้านการเงิน แต่หลังจากเล่นบอร์ดเกมการเงินฯ จะทำให้เกิดความสนใจและมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการบริหารเงินที่ได้รับจากผู้ปกครอง รวมไปถึงการออมและการวางแผนหารายได้เพิ่มเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินตามที่ต้องการ”

ณัฐวัฒน์ ไชยเมธิน เจ้าของร้านเกม Lunar Café กล่าวว่า ปัจจุบันภูมิทัศน์การบริหารจัดการห้องสมุดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากที่ในอดีตห้องสมุดมีเพียงหนังสือหรือสื่อวิชาการ แต่ปัจจุบัน ห้องสมุดมีการผสมผสานไปด้วยสื่อการเรียนรู้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น เพลง บอร์ดเกม ฯลฯ สำหรับ Lunar Café เองได้แนะนำให้ลูกค้าได้รู้จักว่ามีบอร์ดเกมในรูปแบบบอร์ดเกมการเงิน เพื่อสร้างการรับรู้ให้เกิดขึ้นในวงกว้าง ทั้งนี้ บอร์ดเกมเป็นกระบวนการเรียนรู้ผ่านการเล่นเกม ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้เล่นเกิดความสนใจและศึกษาค้นคว้าต่อด้วยตนเอง รวมทั้งเกิดการเรียนรู้ผ่านการถอดบทเรียนจากการเล่นและต่อยอดเป็นความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งต่อไป

บอร์ดเกมการเงิน “Wishlist จัดสรรเงิน เติมความฝัน” เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ Sea (ประเทศไทย) ในการปลูกฝังทักษะด้านการเงินส่วนบุคคลที่ดีแก่เยาวชนไทย สร้างรากฐานที่มั่นคงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในอนาคต สะท้อนพันธกิจในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคซึ่ง Sea (ประเทศไทย) ยึดมั่นเสมอมา

Sea (ประเทศไทย) และช้อปปี้ (Shopee) ซึ่งเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซภายในเครือ ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) เปิดตัวแคมเปญ ‘Women Made ช้อป 10 แบรนด์พลังหญิง’ ชวนช้อปสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษช่วงปีใหม่บนช้อปปี้ พร้อมมอบโปรโมชั่นส่วนลดสุดปัง 15% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2566 เติมความสุขช่วงปีใหม่ให้นักช้อป พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงชาวไทยให้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ

หลังจากที่ Sea (ประเทศไทย) และ CEA เปิดตัวโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการหญิง ‘Women Made’ ไปเมื่อเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมโครงการที่ได้รับคัดเลือกทั้ง 10 แบรนด์ ก็ได้ผ่านโปรแกรมฝึกอบรม Women Made Masterclass สุดเข้มข้นไปเป็นที่เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนด้านการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ การขับเคลื่อนสังคมด้วยธุรกิจ และการพัฒนาธุรกิจในโลกอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ ทั้ง 10 แบรนด์ยังได้จับคู่กับเหล่าดีไซน์เนอร์จากเครือข่าย CEA Connect ทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ ปิติ อมรเลิศวัฒนา จาก Norman Design Studio, นัยญดา ผิวดำ จาก  Studio dē cloud, นภัทรชนนันท์ นันท์ทปรีชา (@abouttongpic), ธิรดา ชนาวิโชติ และอุ้มบุญ ลิ้มน้ำคำ และร่วมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของโครงการฯ แบบ One-on-one เพื่อพัฒนาสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษที่จะวางขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 บนช้อปปี้

นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) เผยว่า “เราพบว่าผู้ประกอบการหญิงที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ มีประสบการณ์ในทำธุรกิจ แต่ยังขาดความมั่นใจในการต่อยอดองค์ความรู้ทางธุรกิจ การบอกเล่าเรื่องราวและการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเพิ่มมูลค่าสินค้าและนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ของตนเอง รวมถึงความท้าทายในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆในโลกอีคอมเมิร์ซ ดังนั้น โครงการ Women Made จึงเข้ามาช่วยแต่ละแบรนด์ระบุปัญหาและหาวิธีปรับตัวเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน พร้อมมอบทักษะใหม่ ๆ และแนวคิดในการทำธุรกิจที่แต่ละคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ในระยะยาว โดยคอลเลคชั่นพิเศษที่จะวางจำหน่ายบนช้อปปี้ นับเป็นผลลัพธ์ในระยะเริ่มต้น จากการที่แต่ละแบรนด์ใช้โครงการนี้เป็นสนามทดลองเพื่อทำสิ่งใหม่ ๆ ปลดล็อกข้อจำกัดเดิม ๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือในแต่ละขั้นตอน พร้อมใช้เทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซและการสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาดจากช้อปปี้ เข้ามาช่วยเปิดประตูสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ”

ค้นพบแบรนด์ใหม่และสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษไม่ซ้ำใคร

นอกจากจุดมุ่งหมายการส่งเสริมผู้ประกอบการหญิงในประเทศไทยแล้ว แคมเปญ ‘Women Made ช้อป 10 แบรนด์พลังหญิง’ ยังช่วยสร้างสีสันช่วงปีใหม่ให้ขาช้อปชาวไทย โดยเฉพาะนักช้อปออนไลน์ที่ชื่นชอบการค้นพบแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เหมาะกับตัวเอง แคมเปญนี้ยังมาพร้อมกับดีลสุดคุ้ม กับโค้ดส่วนลด 15% สำหรับคำสั่งซื้อขั้นต่ำ 100 บาท[1] ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2566 สามารถดูสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษจากโครงการ Women Made ได้ที่ www.shopee.co.th/WomenMade

เกี่ยวกับแบรนด์ทั้ง 10 จากแคมเปญ ‘Women Made ช้อป 10 แบรนด์พลังหญิง’

สินค้าหมวดแฟชั่น

  • Kanz by Thaitor: แบรนด์เสื้อผ้าเล็ก ๆ จาก จ.แพร่ ที่คนในครอบครัวออกแบบลายและทำกันเองทุกขั้นตอน เป็นการต่อยอดผ้าบาติกเทคนิคเฉพาะที่คุณพ่อกับคุณแม่ทำกันมาตั้งแต่ 15 ปีที่แล้วให้ร่วมสมัยและใส่ง่ายในชีวิตประจำวัน โดยคอลเลคชั่นพิเศษในครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิด WABI SABI ว่าด้วยเรื่องความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบ (Art of Imperfect Beauty) มองหาความเรียบง่าย ความสงบ ความสมดุล ความเป็นธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ ทั้งยังนําเสนอความร่วมสมัยที่แปลกตา ด้วยการผสมผสานความเป็นตะวันออกที่แสดงผ่านโครงเสื้อเข้ากับเทคนิคการตัดเย็บแบบ QUILT ที่มีความเป็นตะวันตก จนกลายเป็นคอลเลคชั่น WABI SAB! ที่แฝงความสนุกไว้ในความเรียบง่าย
  • Sliptosleep: แบรนด์ Braless Pajamas หรือชุดนอนสำหรับสาว ๆ ที่มาพร้อมกระเป๋าหนาสามชั้นด้านนอก ทำให้ไม่ต้องกลัวโป๊แม้จะไม่ได้ใส่บรา คอลเลคชั่นพิเศษนี้ Slip to sleep ได้ปรับแพคเกจจิ้งด้วยแนวคิดสร้างคุณค่าต่อจิตใจและยืดอายุการใช้งานของกล่องบรรจุภัณฑ์สินค้า นอกจากการส่งต่อความสุขด้วยแพคเกจจิ้งที่น่ารักแล้ว ลูกค้ายังสามารถนำส่วนของกล่องไปใช้เป็นที่ขั้นหนังสือได้อีกด้วย
  • VERAPARIS: แบรนด์กระเป๋าซึ่งเป็นตัวแทนของชีวิตผู้หญิงในมหานคร ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมเมือง การออกแบบสินค้าของแบรนด์จึงได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมเมือง และออกแบบให้มีฟังก์ชั่นที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ชีวิต Urban Life สร้างสุนทรีย์ให้ผู้หญิงในการถือและใช้กระเป๋า โดยคอลเลคชั่นพิเศษในครั้งนี้ ได้แก่ กระเป๋ารุ่น Lundi Pie สีพิเศษที่นำรูปทรงกล่องหมอน Geometric มาผสมเข้ากับ Curve ไว้อย่างลงตัว นอกจากดีไซน์ที่เด่นสะดุดตา แล้วยังมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน ทำให้เป็นอีก Timeless Bag ที่หยิบมาใช้ได้ทุกเวลา
  • Sureeya: แบรนด์ผลิตภัณฑ์กระเป๋าและ Accessories จากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีผ้าพื้นถิ่น คือ ผ้าปาเต๊ะ เป็นอัตลักษณ์เฉพาะของพื้นที่ คอลเลคชั่นพิเศษในครั้งนี้ ต้องการเล่าเรื่องราวความสวยงามในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ผ่านลวดลาย “ดอกดาหลา” ที่นิยมปลูกในพื้นที่จังหวัดยะลาและจังหวัดนราธิวาส คอลเลคชั่นนี้พิเศษตั้งแต่การเริ่มต้นกระบวนการผลิตจากฝืมือของผู้ประกอบการหญิงจังหวัดนราธิวาส “มุสบาปาเต๊ะ” ในการผลิตผ้าปาเต๊ะ (Batik) ด้วยบล๊อคไม้ลายดอกดาหลา แล้วจึงส่งต่อผ้าให้ “Sureeya” ผู้ประกอบการหญิงจังหวัดยะลา ตัดเย็บกระเป๋า Sureeya คอลเลคชั่นพิเศษเพื่อส่งต่อความงามของพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้สู่ลูกค้าในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย

สินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม

  • Pick Me Please: หมูหยองกรอบที่ใช้กรรมวิถีคั่วบนเตาถ่านสูตรโบราณ โดยปราศจากการใช้เครื่องจักร ปรุงรสจนได้หมูหยองกรอบที่ กรอบอร่อย รสชาติไม่เหมือนใคร ปราศจากผงชูรสเเละสารกันเสีย มาพร้อมกับ Gift Set “Spiral of Happiness” เหมาะสำหรับการซื้อเป็นของขวัญหรือทานเล่นร่วมกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ในเทศกาลสังสรรค์ช่วงปีใหม่
  • ทันจิตต์: ต่อยอดตำนานครอบครัวนักรังสรรค์ขนมที่มีประวัติยาวนานกว่า 40 ปี พร้อมส่งต่อความสุขที่ทานได้ แบบ Non Stop กับขนม "เผือกกรอบรูปตะแกรง" ในแบบฉบับ "ทันจิตต์" คอลเลคชั่นพิเศษที่พร้อมส่งความสุขด้วยขนมทานเล่นและของเล่นสำหรับปาร์ตี้หรือการพบปะกัน ในกล่องจึงมีเทมเพลตลูกเต๋าที่ให้ผู้รับได้นำมาประกอบเล่นเป็นเกมสุ่มทายรสชาติ อีกทั้งจะเป็นการ์ดไว้เขียนสำหรับอวยพรและกระดาษรองแก้วอีกด้วย
  • Mediherbtea: แบรนด์ชาจากดอกไม้ ปราศจากคาเฟอีน ไม่มีน้ำตาล ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ คอลเลคชั่นใหม่ “All Day Flower Tea” ได้แรงบันดาลใจมาจากความหลากหลายของดอกไม้ไทยนานาพรรณ ที่มีทั้งกลิ่นหอมและคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยการผสมผสานความรู้ทางวิทยาศาสตร์และความรู้ด้านแพทย์ทางเลือก จึงพัฒนาเป็นเซตชาดอกไม้ที่สามารถ ดื่มได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ประกอบไปด้วยชาเบลนด์ 3 รสชาติ ได้แก่
    • Morning Bloom ชาดอกไม้สีแดงจากดอกชบา กระเจี๊ยบแดง และกุหลาบ มีรสชาติสดชื่นหอมหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ช่วยบำรุงผิวพรรณ กระตุ้นการเพิ่มการไหลเวียนเลือด และช่วยให้สดชื่นในยามเช้า
    • Golden Noon ชาดอกไม้สีเหลืองทองจากดอกคำฝอย มะตูม และดอกกระดังงา หอมละมุนช่วยผ่อนคลาย ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด กลิ่นหอมละมุนช่วยให้ผ่อนคลายในยามบ่าย
    • Starry Night ชาดอกไม้สีน้ำเงินจากดอกอัญชัน มะลิ และเปเปอร์มิ้นท์ อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงตามหลอดเลือดฝอยเล็กๆ และจอประสาทตา ช่วยฟื้นฟูสายตาจากแสงสีฟ้า เกิดความผ่อนคลายในยามค่ำคืน

สินค้าหมวดของใช้ส่วนตัว

  • Ales Thailand: แบรนด์สกินแคร์ที่อยากช่วยให้การดูแลผิวเป็นเรื่องง่าย โดย Ales เกิดจากความตั้งใจของเพื่อน 3 คน (พลอย - เภสัชกรที่มีความรู้ด้านงานวิจัยสารสกัด หยก-ทายาทธุรกิจนำเข้าเคมีภัณฑ์เครื่องสำอาง แพร-Influencer ที่สนใจด้านธรรมชาติและสุขภาพ) ที่อยากทำสกินแคร์แบรนด์ไทยที่มีคุณภาพ และส่งต่อความรู้ในการดูแลสุขภาพที่กีให้กับผู้บริโภค และคอลเลคชั่นพิเศษของ Ales ในครั้งนี้ มาจากแนวคิดที่ต้องการสนับสนุนความหลากหลาย และอยากให้ทุกคนมีผิวที่สวยในแบบที่เป็นตัวเอง จึงได้จับมือกับ @abouttongpic ศิลปินในการออกแบบ Packaging รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ที่แสดงความเป็นตัวตนที่แตกต่าง ความหลากหลาย และความสวยในฉบับของตัวเองได้อย่างมีเอกลักษณ์
  • Happy FLows TH: แบรนด์ผ้าอนามัยออร์เเกนิกและผ้าอนามัยสมุนไพร ที่มุ่งมั่นช่วยให้ผู้หญิงรักษาอนามัยอย่างปลอดภัยได้ในทุก ๆ วัน และต้องการร่วมขับเคลื่อนสังคม ช่วยเหลือให้ผู้หญิงที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงผ้าอนามัยดีๆ ได้ ปล่อยเซตผ้าอนามัยสมุนไพร “Happy Together” ประกอบด้วย ผ้าอนามัยแบบกลางคืน 24 แผ่น กระเป๋าใส่ผ้าอนามัย และ Period Tracker นอกจากนั้นกล่องผ้าอนามัย Happy Flows สามารถ I.Y. เป็นกล่องใส่ผ้าอนามัยอีกด้วย เมื่อซื้อ 1 กล่อง แบรนด์จะมอบอีก 1 กล่องให้เพื่อนผู้หญิงที่ขาดโอกาสเข้าถึงผ้าอนามัยที่ถูกสุขลักษณะเพื่อเป็นอีกพลังหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนความสุข ความเท่าเทียมด้านสุขอนามัยของผู้หญิงทุกคน

สินค้าหมวดสัตว์เลี้ยง

  • Pethology+: แบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยต่อยอดแชมพูกำจัดเหาของเด็กมาเป็นแชมพูสมุนไพรสำหรับสุนัขและแมว พัฒนามาจากใบถอบแถบซึ่งเป็นพืชท้องถิ่นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามแนวป่าชายเลน ผ่านการทดลองในห้องทดลองโดยผู้เชี่ยวชาญ จนได้เป็นแชมพูและสเปรย์สมุนไพรที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์ คอลเลคชั่นพิเศษนี้จะมาในแพคเกจจิ้งที่สนุกสนานมากยิ่งขึ้น พร้อมผ้าพันคอสุนัขและแมวที่ทำจากผ้ามัดย้อม โดยสีที่ใช้ทำผ้ามัดย้อมนี้ก็มาจากใบของพืชที่เป็นส่วนผสม

[1] เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

โครงการ Digital Opportunities for Talents (DOTs) 2022 หรือโครงการประกวดแผนธุรกิจภายใต้โจทย์ “Sustainability in Action” ซึ่งจัดขึ้นโดย Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ อาทิ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และซีมันนี่ (SeaMoney) ได้ดำเนินมาถึงรอบประกาศผลรางวัลรอบสุดท้าย

โดยผู้ร่วมโครงการทั้ง 30 ทีม ได้ผ่านการแข่งขันอย่างเข้มข้นจนเหลือ 6 ทีมสุดท้าย ที่ได้ร่วมนำเสนอผลลัพธ์ความสำเร็จภายในงานประกาศผลรางวัลรอบสุดท้าย (Final Presentation) เพื่อส่งต่อองค์ความรู้จากการลงมือทำจริงตลอดระยะเวลา 2 เดือนให้กับผู้ประกอบการ SME ตลอดจนร่วมคว้าเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท และในปี 2022 นี้ ทีม In it for the beers ได้แก่ นางสาวศิริธร แก้วสุพรรณ์ และนางสาวสุฎารัตน์ สุขภิลาภ เป็นผู้ที่คว้ารางวัลชนะเลิศไปได้ด้วยแผนธุรกิจสำหรับร้าน Artstory by AutisticThai ผลงานจากจินตนาการผ่านภาพและลายเส้นผลงานศิลปะของกลุ่มเด็กและบุคคลที่มีความแตกต่างทางการเรียนรู้

นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาการแข่งขันอย่างเข้มข้นกว่า 2 เดือน ผู้เข้าแข่งขันได้พัฒนาทักษะและแสดงออกถึงศักยภาพ พร้อมเติบโตเป็นผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ในอนาคต ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ผู้เข้าแข่งขันได้ทำงานร่วมกับเจ้าของร้านค้า SME ในการพัฒนากลยุทธ์และลงมือทำจริง เพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างการเติบโตให้กับร้านค้าที่ได้รับมอบหมาย โดย มีผู้เชี่ยวชาญจาก Sea (ประเทศไทย) และช้อปปี้คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ด้านร้านค้าก็ได้แนวคิดและมุมมองใหม่ๆ ในการสร้างธุรกิจให้เติบโต Sea (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดโครงการฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนในการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้มีทักษะสำคัญของผู้ประกอบการดิจิทัล ที่สามารถต่อยอดและปรับใช้ได้ในอนาคต พร้อม ๆ กับการสนับสนุนธุรกิจที่ใส่ใจด้านความยั่งยืนให้เกิดการเติบโตในระยะยาว สอดคล้องกับเป้าหมายของ Sea (ประเทศไทย) ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคและยกระดับการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยด้วยเทคโนโลยี พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Digital Nation ด้วยการพัฒนา Digital Talent โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป”

โครงการ DOTs 2022 ยังได้รับเกียรติจาก ดร. ศรุต วานิชพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส Sea (ประเทศไทย), ดร.ปรีสาร รักวาทิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานส่งเสริมการประยุกต์ใช้ดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), นางสาววนิดา จรูญเพ็ญ หัวหน้าส่วนประสานเครือข่ายหน่วยงานภาคเอกชน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.), นางรัตน์วลี อนันตานานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และนางสาวฑิฟฟาณี เชน นักทดสอบนโยบาย โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ร่วมเป็นคณะกรรมการทรงคุณวุฒิตัดสินผลงานในรอบ 6 ทีมสุดท้ายนี้อีกด้วย

นางสาวศิริธร แก้วสุพรรณ์ และนางสาวสุฎารัตน์ สุขภิลาภ จากทีม In it for the beers คว้ารางวัลชนะเลิศพร้อมเงินรางวัลมูลค่า 80,000 บาท โดยผลการดำเนินงานที่ทีม In it for the beers ได้นำเสนอแสดงให้เห็นว่า ทีมผู้เข้าแข่งขันได้นำความรู้และทักษะดิจิทัลที่ได้เก็บเกี่ยวตลอดโครงการฯ มาประยุกต์ใช้ในแผนการดำเนินงานเพื่อช่วยให้ Artstory by AutisticThai ร้านค้า SME ไทยที่นำเสนอผลงานจากจินตนาการผ่านภาพและลายเส้นผลงานศิลปะของกลุ่มเด็กและบุคคลที่มีความแตกต่างทางการเรียนรู้สามารถพัฒนาและต่อยอดธุรกิจบนช่องทางออนไลน์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชได้อย่างแท้จริง โดยเห็นการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 2 เท่า เทียบกับก่อนช่วงเข้าร่วมโครงการ และยอดการเข้าชมร้านค้าในช้อปปี้ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 1.3 เท่าภายในระยะเวลา 2 เดือนของการเข้าร่วมโครงการ อีกทั้ง ยังสามารถส่งต่อแนวคิดและแผนงานในการสร้างการเติบโตให้กับร้านค้าอย่างยั่งยืนในอนาคตได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

สำหรับทีมอื่น ๆ ที่เข้ารอบ Final Presentation ก็สามารถทำผลงานได้โดดเด่นและช่วยสร้างการเติบโตของร้านค้าที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นทีม ไฉ่เสินเหยีย กับร้าน SANDT คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 มูลค่า 50,000 บาท ทีม Will-Wisdom-Mind กับร้าน Carechoice คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 มูลค่า 30,000 บาท รวมถึงทีม GangRocket กับร้าน Little Hen Noodle, ทีม CreamCreamery กับร้าน Ira Concept และทีม MED KID Consulting กับร้าน Green Wash คว้ารางวัลชมเชย มูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท

ยิ่งไปกว่านั้น ร้านค้าทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการฯ ก็มียอดขายต่อเดือนโดยเฉลี่ยบนแพลตฟอร์มช้อปปี้เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2.1 เท่า ยอดคำสั่งซื้อต่อวันเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.3 เท่า และสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้มูลค่าโดยรวม 3.6 ล้านบาท ตลอดในช่วงเวลา 2 เดือนภายใต้โครงการ

 

Sea (Group) ผู้ให้บริการอินเตอร์เนตชั้นนำใน 7 ตลาดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน อาทิ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และแอร์เพย์ (AirPay) เผยเทรนด์จากผลสำรวจอีคอมเมิร์ซแบบเจาะลึกครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

การบริหารและวางกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคลของ SEA Group ( ชื่อเดิม Garena ยักษ์ใหญ่ของธุรกิจเกมออนไลน์) ซึ่งมีพนักงานร่วมงานกว่า 1 พันคนนั้น มีหัวใจสำคัญ คือ การสร้างให้คนในองค์กร ที่มีอยู่หลายเจนเนอเรชั่น มีความเชื่อมั่นในวัฒนธรรมองค์กรเดียวกัน มีความพร้อมจะวิ่งไปข้างหน้า เพื่อคว้าโอกาสและบริหารความเสี่ยง รับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในวันนี้ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

รัฐวุฒิ สุวรรณลิลา People Manager ของ Sea Group (ประเทศไทย) กล่าวถึง การปรับตัวเพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนี้ว่า  “เราไม่สามารถพูดว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร แต่ต้องพูดถึงการวิ่ง” เช่นเดียวกัน Sea Group นั้นอยู่ในธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างตลอดเวลา จึงเรียกว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่มีความจำเป็น

การสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้องค์กรสามารถก้าวไปในวันข้างหน้านั้น มีหลักการในการ Recruit คนภายใต้ Core Value ทั้ง 5 (We serve, We adapt, We run, We commit & We stay humble) เริ่มตั้งแต่การสัมภาษณ์ พูดคุยเพื่อคัดสรรบุคลากรใหม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร หลักๆ คือ จะต้องหาคนที่มี DNA ตรงกัน เพราะการเลือกคนที่มีความเชื่อตรงกันเข้ามาได้นั้น จะสามารถเติบโตและวิ่งไปด้วยกันได้

 “เราเชื่อว่าทักษะเป็นสิ่งที่พัฒนาได้ แต่ความเชื่อเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายในการพัฒนา”

เมื่อได้คนที่เชื่อเหมือนกันเข้ามาแล้วนั้น เราจะสามารถหล่อหลอมให้เป็นวัฒนธรรมองค์กรได้ (Culture) จากนั้นจึงพัฒนาด้านๆต่างตามมา เช่น การเสริมสร้างทักษะ (SKILL ) การเตรียมกระบวนการทางความคิด (Mindset) ให้พร้อมเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง ตรงนี้ต้องมีความกล้าในการทำอะไรใหม่ๆ แล้วจึงมาที่เรื่องของการให้โอกาสจากผู้บริหาร

คว้าโอกาสและบริหารความเสี่ยง

รัฐวุฒิ บอกว่า ในช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างมากนั้น มีการบริหารองค์กรที่สามารถนำมาใช้ได้ใน 2 รูปแบบ คือ ช้าแต่มั่นคง เน้นให้มีคู่มือและข้อแนะนำ (Instruction) ที่ชัดเจน และแน่นอน เพียงแต่ว่าการบริหารแบบนี้อาจไม่เหมาะกับธุรกิจที่เป็น Hi-Tech Industry แบบ SEA Group เราจึงต้องเน้นรูปแบบที่ 2 คือ เร็วและคว้าโอกาส

สิ่งสำคัญคือต้องพยายามบริหารความเสี่ยงให้ได้ (Risk Management) มีอะไรบ้างที่สามารถให้โอกาสน้องตัดสินใจเองได้  เราไม่จำเป็นต้องทำแบบ Top-Down และต้องยอมรับว่าถ้ามีความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น เราจะไม่ลงโทษ แต่จะให้เกิดการเรียนรู้จากตรงนั้น คำว่าเรียนรู้คือต้องให้เห็นว่าความผิดพลาดเกิดจากอะไร ต้องป้องกันหรือพัฒนาอย่างไร

ในบางสถานการณ์ ที่ลองผิดลองถูกได้ สามารถทำได้ แต่ในบางสถานการณ์ที่มีความสำคัญ คอขาดบาดตาย เหล่านั้นก็ต้องถูกดึงเอาไว้ เพื่อให้เกิดการบาลานซ์ ระหว่างการบริหารความเสี่ยงกับความเร็วที่เราต้องการมุ่งหน้าไป

เมื่อบริษัทโฟกัสเรื่องการใช้ความเร็วเพื่อสร้างโอกาส เพราะฉะนั้นส่วนของ Risk Management เราจะใช้ในบางอย่างที่อันตรายจริงๆ เช่น ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ หรือที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากในบริษัทฯ ซึ่งการตัดสินใจเรื่องเหล่านี้มีความสำคัญมาก เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้

“เรื่องเกี่ยวกับคนพลาดไม่ได้ ชื่อเสียงของบริษัทฯ พลาดไม่ได้ หรือเรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดการกระทำที่ถือเป็นการฉ้อโกง(Fraud) หรือสิ่งที่ไม่ดีงามขึ้นมาก็พลาดไม่ได้ ขณะเดียวกันเรื่องที่เปิดโอกาสให้มีการเรียนรู้และทดลองกันได้ เช่นการทำธุรกิจใหม่ การเปิดตลาดใหม่ขึ้นมาไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว ผลิตภัณฑ์ใหม่มีฟีเจอร์ใหม่ มีความเป็นไปได้ เพราะเราโฟกัสความเร็วที่ไปสู่เป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้เกิดขึ้น”

การบริหารคนต่างเจนเนอเรชั่น

เมื่อกล่าวถึงคนในแต่ละเจนเนอเรชั่นที่ SEA Group รัฐวุฒิ บอกว่า เจนฯ Y น่าจะเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในองค์กร และกลุ่มเจนฯใหม่ อย่าง Z กับ Millennial กำลังจะเข้ามา สำหรับกลุ่มเจนฯ X จะมีสัดส่วนอยู่บ้างในระดับซีเนียร์

คอนเซ็ปท์การทำงานของที่นี่จึงสอดคล้องกับสไตล์ของเจนฯ Y ที่เร็วและกล้าโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ต้องติดอาวุธให้ นั่นคือ SKILL ที่จำเป็น มีการเปิดโอกาสและเวทีให้ลุย และให้รู้ขอบเขตเพื่อป้องกันความเสี่ยง  ซึ่งลักษณะที่ต้องดูแลเป็นพิเศษของเจนฯนี้ เนื่องจากเป็นคนเก่งมีศักยภาพ และเป็นคนเร็ว จึงจะเบื่อง่าย หากขาดการบริหารที่ดี ขาดความสนใจจากผู้ดูแล งานที่คนเจนฯนี้ทำก็จะหลุดจากโฟกัสไปได้ หรือหากไม่บริหารและให้โอกาสในการพัฒนาที่ดี ก็มีโอกาสสูญเสียคนเก่ง คนดีไป

สิ่งที่ต้องทำ คือ สร้างความเข้าใจให้เห็นถึงคุณค่าความสำคัญในแต่ละงาน เช่น ในงานทุกงานจะหลีกเลี่ยงงานแอดมินบางส่วนไปไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็หนีงานเอกสารไปไม่พ้น ซึ่งเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ

ดังนั้นเขาต้องรู้ว่าตรงนี้สำคัญ และเพราะอะไรจึงสำคัญ มีเอกสารมีระบบมา เพื่อต้องการให้เกิด Check balance ลดความเสี่ยงและการรั่วไหล เพื่อให้เราวิ่งไปข้างหน้าได้ หรืองานตรงไหนที่ต้องทำซ้ำๆ ก็ให้เข้าใจว่าเพื่อให้พัฒนา SKILL ที่สำคัญไปสู่บทบาทหน้าที่การทำงานในระดับที่สูงขึ้นต่อไป ทำให้เห็นว่ามีโอกาสทดลองอะไรใหม่ๆ มีโอกาสในการหมุนเวียนปรับเปลี่ยน (rotate) และมีความหวังโอกาสในการเติบโต สิ่งเหล่านี้จะช่วยบาลานซ์จุดที่คนในองค์กรต้องการ กับที่บริษัทต้องการให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน

มุ่งรักษาคนเก่งคนดีที่มีความเชื่อร่วมกัน

คนในยุคนี้เรื่องของ Life time employment ไม่มีอีกแล้ว การโยกย้ายบริษัทจึงเป็นเรื่องปกติ การเติมเต็มจุดนี้เราจึงต้องพัฒนา ให้โปรเจคใหม่ๆในบทบาทเดิม ไปจนถึงเปลี่ยนบทบาท เปลี่ยน Industry เพราะในกลุ่มของ SEA มีทั้ง Garena ที่เป็น Game Digital Entertainment มีทั้ง AirPay เป็น Electronic Financial Service และ Shopee ที่เป็น E-Commerce ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้มีความใกล้เคียงและมีความต่างกัน ซึ่งถ้าพนักงานสนใจ และเมื่อเวลามาถึง เราก็เปิดโอกาสให้เกิดการหมุนได้ เพราะอย่างไรเราก็จะรักษาคนดี คนเก่งให้อยู่ในกรุ๊ปของเรา   

ในมุมมองของ รัฐวุฒิ เห็นว่าลักษณะของคนในเจนฯนี้ไม่ได้ drive ด้วยเงิน แต่ drive ด้วยความท้าทาย (challenge) และการเติบโต แน่นอนว่าเงินสำคัญในแง่มุมที่จะมองว่าบริษัทนั้นๆจะเห็นค่าของเขาแค่ไหน แต่ไม่ใช่ทุกสิ่ง เราต้องเติมเต็มทุกอย่างให้สมดุล เพราะการใช้เทคนิคผลตอบแทนอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ

“ SEA Group ให้ความสำคัญกับ “คน” เป็นอันดับหนึ่ง เราถือว่าบริษัทฯของเราเทียบเท่ากับคนของเรา ด้วยความเป็น Hi-Tech Industry บริษัทจึงขึ้นอยู่กับความสามารถของพนักงาน ขึ้นอยู่กับความผูกพัน (Engage) ของพนักงานกับบริษัทฯ เพราะถ้าขาดคน เราจะไปต่อไม่ได้ โอกาสและการเติบโตทางธุรกิจนั้นมาจากไอเดียของคน และเราใช้คนในการ drive ธุรกิจ”

ภาวะตลาดแรงงานของ Hi-Tech Industry

ในส่วนของ SEA เองนั้น ยังไม่เกิดภาวะขาดแคลนบุคลากร สังเกตได้จากการที่มีคนใหม่ๆเข้ามาสมัครไม่ขาด ทั้งในส่วนของ Data Analysis, กลุ่ม Business Intelligence หรือแม้แต่ในกลุ่ม Big Data ซึ่งการหาคนที่เป็น Technical จริงๆอาจจะมีจำนวนไม่มากนักวันนี้ แต่ก็ยังพอหาได้บ้าง

แต่หากจะมองถึงSKILL ที่ขาดจริงๆในตลาดแรงงาน ยอมรับว่าส่วนของการวิเคราะห์ข้อมูล เรื่อง Big data นั้นเป็นส่วนที่ยังขาดอยู่ และที่สำคัญสำหรับองค์กร คือ กลุ่มคนที่มี DNA เข้ากันกับองค์กร ซึ่งเห็นว่าเป็นส่วนที่ท้าทายที่สุด เขากล่าวว่า “คนเก่งนั้นมีอยู่ไม่ขาด แต่คนเก่งที่แมชท์จะหาได้ยากกว่า”  เพราะเราต้องหาคนที่เข้ากันได้กับคุณค่าที่เราเชื่อ

“หน้าที่ของเราคือหาคน สร้างคน พัฒนาคน และรักษาคน ที่มีฝีมือ มีความสามารถ มี Passion และมี Culture ที่เหมือนๆกันกับองค์กร”  

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click