ZORT แพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจร ร่วมกับ ROZA แบรนด์อาหารที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 50 ปี เปิดกลยุทธ์สู่ความสำเร็จบนโลกออนไลน์ ทรานส์ฟอร์มแบรนด์ในตำนาน 50 ปี ด้วยแพลตฟอร์มบริหารจัดการร้านค้าและสต๊อกอัจฉริยะ ครองแชมป์อันดับ 1 บน มาร์เก็ตเพลส ในกลุ่มสินค้าปลากระป๋อง อาหารพร้อมทาน และผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ พร้อมตั้งเป้าเข้าถึงทุกครัวเรือนไทย ครอบคลุม 80% ของครัวเรือนภายในปี 2568 เผย Omni-channel เป็นกลยุทธ์สำคัญแห่งยุคผสานทุกช่องทางซื้อขายแบบไร้รอยต่อ เผยผลสำรวจ 60% ผู้บริโภค ต้องการซื้อของกับร้านค้าที่มีหน้าร้านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ในขณะที่ลูกค้า ZORT ซื้อระบบบริหารจัดการหน้าร้านเพิ่ม 86.91%
นายสวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) เปิดเผยการขยายธุรกิจสู่ช่องทางออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับการขายหน้าร้านแบบไร้รอยต่อ โดยผลสำรวจพบว่า 60% ผู้บริโภค ต้องการซื้อของกับร้านค้าที่มีหน้าร้านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ข้อมูลจาก ZORT เองก็บ่งชี้ว่า ลูกค้าซื้อระบบบริหารจัดการขายหน้าร้านของบริษัท เพิ่มขึ้น 86.91% ในปี 2566 สะท้อนให้เห็นว่า Omni-channel กลายเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในยุคนี้ที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจมายาวนาน การผสานช่องทางขายออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น เพิ่มโอกาสในการขาย ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ เข้าถึงข้อมูลลูกค้า และพัฒนาสินค้าใหม่
ZORT เข้าไปช่วย บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด หรือ “โรซ่า” ผู้คร่ำหวอดในตลาดซอสมะเขือเทศและปลากระป๋องไทยมานานกว่า 50ปี ROZA ปรับกลยุทธ์สู่โลกออนไลน์ โดยใช้ระบบบริหารจัดการร้านค้าและสต๊อก ZORT ซึ่งช่วยให้จัดการออเดอร์ สต๊อกสินค้า และข้อมูลลูกค้าจากทุกช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้นำเอาระบบบริหารจัดการร้านค้าและสต๊อก ซึ่งมีฟีเจอร์ ZORT order management ช่วยรวบรวมออเดอร์จากทุกช่องบนออนไลน์ อี-มาร์เก็ตเพลส โซเชียลคอมเมิร์ซ มาจัดการในที่เดียว ฟีเจอร์ ZORT sales channel เชื่อมต่อทุกช่องทางขายครบทุกแพลตฟอร์มฟีเจอร์ ZORT stock management ฟีเจอร์ สต๊อกอัจฉริยะ อัพเดตสต๊อกสินค้าอัตโนมัติทุกช่องทาง แบบเรียลไทม์ ฟีเจอร์ ZORT Logistic management ช่วยเรียกบริการขนส่งชั้นนำครบทุกค่าย ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในราคาที่คุ้มค่ากว่า ฟีเจอร์ ZORT report รายงานการขาย สามารถดูยอดขายกำไร ต้นทุนได้จากทุกที่ ซึ่งจะช่วยในการวางแผนธุรกิจได้ทั้งมิติการตลาด ความต้องการผู้บริโภค รวมไปถึงการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการของตลาด
“การขยายช่องทางการขายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจ และจำเป็นต้องมองให้รอบด้านทั้งภาพรวมตลาด ความแตกต่างของแต่ละช่องทาง อุปสรรคสำคัญของการขยายช่องทางขายของธุรกิจคือการบริหารจัดการหลังบ้าน หากบริหารจัดการไม่ดีอาจเพิ่มต้นทุนการจัดการเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะในด้านกำลังคนและเวลาในการจัดการ การรู้จักนำประโยชน์จากเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการจึงเป็นสิ่งสำคัญและปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป” นายสวภพกล่าวทิ้งท้าย
นายยิ่งสวัสดิ์ ธนสุวรรณเกษม Digital Marketing Manager บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้จัดจำหน่าย สินค้าแบรนด์ “โรซ่า” เปิดเผยว่า กระแสการขายสินค้าออนไลน์เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค ROZA จึงปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อ (Seamless Customer Experience) และเพิ่มการสื่อสารกับลูกค้าบน Social Media และ Marketplace ผ่านการแนะนำสินค้า การไลฟ์สด และสร้างการมีส่วนร่วมกระแสการขายสินค้าออนไลน์ได้ ส่งผลให้ โรซ่า มีแนวคิดทรานส์ฟอร์มช่องทางขายเข้าสู่ตลาดออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลสินค้าและเลือกซื้อสินค้าของแบรนด์ได้ทุกเวลา หากลูกค้าต้องการซื้อสินค้าทันทีสามารถไปซื้อที่หน้าร้าน แต่ถ้าไม่ต้องการสินค้าทันที ก็สามารถเลือกสั่งจากช่องทางออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลให้ ROZA เป็นอันดับ 1 บนช่องทางมาร์เก็ตเพลสในกลุ่มสินค้าปลากระป๋อง อาหารพร้อมทาน และผลิตภัณฑ์มะเขือเทศสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจออฟไลน์สามารถประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ได้
ทั้งนี้ เป้าหมายในอนาคต ROZA ตั้งเป้าทุกครัวเรือนไทยต้องมีผลิตภัณฑ์ โรซ่า 1 ชิ้นติดบ้าน และเข้าถึงทุกครัวเรือนไทย ครอบคลุม 80% ของครัวเรือนไทย ภายในปี 2568 เพื่อตอกย้ำการเป็น Roza Family Food แบรนด์ที่มีสินค้าหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว ปัจจุบัน ROZA จำหน่ายสินค้าทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ช่องทางออฟไลน์: ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ช่องทางออนไลน์: Shopee, Lazada, Tiktok Shop มีสินค้า ROZA กว่า 50 รายการใน กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ กลุ่มสินค้าปลากระป๋อง กลุ่มสินค้าอาหารพร้อมทาน ซอสปรุงสำเร็จโรซ่าเชฟแอทโฮม
ZORT สตาร์ตอัปแพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจรของไทย จับมือ Investree สตาร์ตอัป ให้บริการ คราวด์ฟันดิงแพลตฟอร์ม เสริมศักยภาพแพลตฟอร์ม ปลดล็อกสภาพคล่องทางการเงิน ติดปีก SMEs ให้ขยายธุรกิจได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เพิ่มสภาพคล่องได้สูงสุด 5 ล้านบาท ด้วยรูปแบบการระดมทุนรูปแบบใหม่ แบบคราวด์ฟันดิง ด้วยการใช้ฐานข้อมูลการขายของออนไลน์มาประกอบการพิจารณา มั่นใจการให้บริการระดมทุนรูปแบบใหม่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ช่วยปลดล็อก SMEs ไทยเติบโตได้ไกลขึ้น หลังพบ 80 % ขาดแหล่งเงินทุนใช้หมุนเวียนทำธุรกิจ
นายธนัทพันธุ์ ธนเศรษฐ์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุด ได้ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท อินเวสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ Investree บริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีการเงินที่มีฐานการทำธุรกิจอยู่ในภูมิภาคอาเซียน ในรูปแบบคราวด์ฟันดิง (Crowdfunding) เพื่อผสานทั้งสองแพลตฟอร์มทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs) ที่ใช้บริการแพลตฟอร์ม ZORT เข้าถึงแหล่งเงินทุนระดมทุนรูปแบบใหม่ แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ที่ใช้บริการ ZORT Platform ที่ปัจจุบันมีอยู่ 4,500 ร้านค้า มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส สามารถระดมทุนขั้นต่ำจากบริการนี้เริ่มต้นที่ 100,000 บาทต่อราย สูงสุดที่ 5 ล้านบาท นับเป็นครั้งแรกที่ SMEs จะสามารถใช้ข้อมูล ธุรกรรมทางการเงินสถิติด้านการซื้อขายและบัญชีบน Marketplace ของ ZORT มาใช้เป็นประโยชน์ในการขอเงินทุน โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นครั้งแรกของไทย ที่ถือกำเนิดจุดเริ่มต้นแห่งการสร้าง Ecosystem แพลตฟอร์มบริหารจัดการออเดอร์และสต๊อกครบวงจรให้มีศักยภาพและสมบูรณ์ เพื่อกลายเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจของผู้ใช้บริการสามารถเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพในตลาด
“จากการเก็บรวบรวมข้อมูล ( Data) ของผู้ใช้แพลตฟอร์มพบ อุปสรรค (Pain Point) ของผู้ประกอบการ SMEs ขาดแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องเนื่องจากธุรกิจที่เติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ตามแผนส่งผลให้สภาพคล่องเงินทุนไม่เพียงพอต่อการขยายธุรกิจ รวมทั้งผู้ประกอบการไม่มีหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ซึ่งในระบบเงินกู้โดยเฉพาะธนาคารและสถาบันการเงินจำเป็นต้องใช้ประกันสินเชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มเริ่มดําเนินธุรกิจไม่มีสภาพคล่องทางการเงินมากพอ ประกอบกับระบบธนาคารไม่รองรับการใช้ข้อมูลประวัติ สถิติด้านการเงินและบัญชี จากการทำธุรกิจบน Marketplace มาประกอบการพิจารณา และยังพบว่ารูปแบบเงินเชื่อที่ไม่ตอบโจทย์กับความต้องการ เช่นการอนุมัติเงินกู้ระยะสั้นที่มีดอกเบี้ยสูงหรือ การอนุมัติเงินกู้ในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม สสว. ที่ระบุว่าผู้ประกอบการ SMEs มากกว่าร้อยละ 80 เผชิญกับปัญหาด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และมีอุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากหลายปัจจัย เช่น ขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันและประวัติธุรกรรมทางการเงิน” นายธนัทพันธุ์ กล่าว
นางสาวณัทสุดา พุกกะณะสุต ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเวสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด( Investree) เปิดเผยว่า Investree จะเข้ามาเสริม Ecosystem ของ ZORT ให้แข็งแรงด้วยบริการด้านการเงิน เพิ่มโอกาสให้ลูกค้า ZORT มีช่องทางการระดมทุนแบบใหม่ที่แตกต่างจากเดิม และสามารถนำข้อมูลการซื้อขายของตนเองผ่าน ZORT Platform มาประกอบคำขอระดมทุน โดยผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครขอระดมทุนสะดวกและรวดเร็ว ผ่านช่องทางเว็บไซต์ Investree คราวด์ฟันดิง แพลตฟอร์ม (Crowdfunding platform) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการระดมทุน สามารถผ่านช่องทางออนไลน์ อย่างสะดวก รวดเร็วใช้งานง่ายเพียงไม่กี่ขั้นตอน และทราบผลอนุมัติ เร็วสุดภายใน 3 วันหลังจากส่งเอกสารครบ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นพันธกิจของทั้งสององค์กรที่ต้องการให้ส่งเสริม SMEs มีศักยภาพสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงยั่งยืนเพราะเป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทยผลผลิตจาก SMEs คิดเป็น 35% ของ GDP รวมทั้งประเทศมีการจ้างงานถึง 12.6 ล้านคน คิดเป็น 72% ของการจ้างงานทั้งหมดจากบริษัท SMEs กว่า 3 ล้านบริษัท ซึ่งคิดเป็น 99 % ของจำนวนบริษัททั้งหมดในประเทศ
“Investree ใช้คะแนนเครดิต ที่เป็น Data-Driven Model มาเป็นตัวกำหนดวงเงินระดมทุนให้สอดคล้องกับรายได้ และสถานะทางธุรกิจของผู้ประกอบการ ดังนั้น จำนวนเงินที่ระดมทุนของบริษัทแต่ละรายจะแตกต่างกัน สำหรับผู้ที่ต้องการระดมทุนจะต้องเป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่จดทะเบียนในรูปแบบ บริษัทจำกัด ใน กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ที่ใช้ ZORT PLATFORM มาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 เดือน และมี ยอดขายจาก Marketplace Integration เฉลี่ย 100,000 บาทต่อเดือน อัตราดอกเบี้ย 6%-26% ผ่อนชำระสูงสุด 12 เดือน ซึ่งตอบโจทย์และแก้ Pain Point ของ SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ สะดวกรวดเร็ว สร้างสภาพคล่องทางการเงินทันต่อการขยายธุรกิจและการแข่งขันส่งผลให้เติบโตได้อย่างมั่นคง นำไปสู่การระบบเศรษฐกิจประเทศให้มีเสถียรภาพอย่างยั่งยืนต่อไป” นางสาวณัทสุดา กล่าว
LINE SHOPPING จับมือ ZORT ผู้นำด้