ออนโด ไฟแนนซ์ (Ondo Finance) ประกาศเปิดตัวโทเคนใหม่ โอเอ็มเอ็มเอฟ (OMMF) ซึ่งช่วยให้ผู้ถือเหรียญสเตเบิลคอยน์ทั่วโลกสามารถลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน หรือ เอ็มเอ็มเอฟ (MMF) ของสหรัฐอเมริกาโดยใช้โทเคนได้

โอเอ็มเอ็มเอฟสามารถซื้อและแลกได้ในราคาหนึ่งดอลลาร์และได้รับการสนับสนุนทั้งหมดโดยกองทุนรวมตลาดเงินของรัฐบาลสหรัฐ โอเอ็มเอ็มเอฟแตกต่างจากกองทุนรวมตลาดเงินแบบดั้งเดิม เนื่องจากสามารถโอนย้ายได้ทั่วโลกทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงบนบล็อกเชนสาธารณะอีเธอเรียม (Ethereum) และเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบออนเชน เช่น โปรโตคอลการให้ยืมแบบกระจายศูนย์ โอเอ็มเอ็มเอฟจะมีการส่งมอบให้ทุกวันในรูปแบบของโทเคนโอเอ็มเอ็มเอฟใหม่ให้กับนักลงทุนเพื่อรักษาราคาให้คงที่

"ในขณะที่โลกก้าวไปสู่อนาคตที่เป็นดิจิทัลและกระจายศูนย์มากขึ้น โอเอ็มเอ็มเอฟแสดงถึงโอกาสระยะยาวในการมอบวิธีการที่เหนือกว่าในการเก็บรักษาและถ่ายโอนความมั่งคั่ง" คุณนาธาน ออลแมน (Nathan Allman) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของออนโด ไฟแนนซ์ กล่าว "โอเอ็มเอ็มเอฟจะทำกับกองทุนรวมตลาดเงินเช่นเดียวกับที่สเตเบิลคอยน์ทำกับเงินสด นั่นคือการปลดล็อกศักยภาพที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คลังความมั่งคั่งซึ่งเป็นการใช้งานหลักในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังเป็นทางเลือกหลักประกันและการชำระเงินที่เข้าถึงได้ทั่วโลก"

โอเอ็มเอ็มเอฟคือก้าวต่อไปของออนโดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินระดับสถาบันแบบออนเชนสำหรับทุกคน กองทุนรวมตลาดเงินของสหรัฐจัดการเงินมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจแทนการฝากเงินธนาคารสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก โอเอ็มเอ็มเอฟช่วยเติมเต็มข้อเสนอที่มีอยู่ของออนโดที่เป็นการออกโทเคนที่เรียกว่าโอยูเอสจี (OUSG) เพื่อให้ลงทุนในพันธบัตรสหรัฐได้ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการช่วยให้สถาบันในรูปแบบดิจิทัลสามารถใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจัดการเงินสด

ออนโดจะประมวลผลการซื้อและไถ่ถอนสเตเบิลคอยน์ในแต่ละวัน รวมถึงสกุลเงินเฟียตทั่วไป และออนโดจะเสนอการไถ่ถอนทันทีแบบออนเชนสำหรับโอเอ็มเอ็มเอฟจำนวนหนึ่ง นักลงทุนจะได้รับโทเคนโอเอ็มเอ็มเอฟบนบล็อกเชนอีเธอเรียมซึ่งจะแสดงกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ โทเคนเหล่านี้รองรับการโอนย้ายระหว่างที่อยู่นักลงทุนที่ได้รับอนุญาตแล้ว เช่นเดียวกับสัญญาอัจฉริยะที่ผ่านการประเมินตามกฎระเบียบ ออนโดเปิดโอกาสให้นักลงทุนใช้สัญญาอัจฉริยะเพื่อทำการซื้อขายและกู้ยืมแบบออนเชนกับโทเคนในกองทุน เช่นเดียวกับสินทรัพย์คริปโทฯ ทั่วไปแบบอื่น ๆ โอเอ็มเอ็มเอฟจะได้รับการสนับสนุนจากเอ็มเอ็มเอฟที่จัดตั้งขึ้นแต่ยังไม่ได้เปิดเผย เช่นเดียวกับโอยูเอสจี ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของโอเอ็มเอ็มเอฟที่มีการกันสำรองไว้และแยกออกจากงบดุลของออนโด

"สเตเบิลคอยน์รุ่นแรกปฏิวัติวงการไปแล้วก่อนหน้านี้" คุณจัสติน ชมิดท์ (Justin Schmidt) ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าว "ส่วนนี่เป็นครั้งแรกที่มีการให้บริการเงินสดดิจิทัลแบบ

ออนเชนทั่วโลกทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยถูกสร้างขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ ดังนั้นการออกแบบให้สามารถส่งต่อผลตอบแทนได้จึงไม่ใช่จุดสนใจหลัก แต่การทำโทเคนให้สามารถลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินทำให้เราสามารถส่งมอบเสถียรภาพด้านราคาและอรรถประโยชน์ของสเตเบิลคอยน์แบบออนเชนได้ ในขณะที่ให้การคุ้มครองที่เหนือกว่าแก่นักลงทุนและส่งต่อผลตอบแทนไปยังผู้ถือครอง ตลอดจนสร้างสิ่งที่เราเชื่อว่าเหนือกว่าการจัดเก็บมูลค่า วิธีการชำระบัญชี และรูปแบบของหลักประกันสำหรับเศรษฐกิจแบบออนเชน"

มันนิกซ์ (MONIX) ฟินเทคสตาร์ทอัพผู้ให้บริการ “แอปฟินนิกซ์” (FINNIX) แพลตฟอร์มสินเชื่อดิจิทัลคู่คนทำมาหากิน ประกาศความสำเร็จคว้าเงินลงทุนมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท หรือ 20 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ จากบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX และลอมบาร์ด เอเชีย (Lombard Asia) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ทะยานสู่ผู้นำสินเชื่อดิจิทัลด้วยผลงานการเติบโตที่โดดเด่น ตอกย้ำภารกิจลดความเหลื่อมล้ำเรื่องเงินให้สังคมไทย เตรียมพร้อมธุรกิจสู่ IPO ในอนาคต

นายชินบิน ฟาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มันนิกซ์ จำกัด และนางสาวถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด กล่าวว่า “มันนิกซ์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมลงทุนและสร้างโอกาสให้กับคนทำมาหากินที่ยังเข้าไม่ถึงการเงิน ซึ่งการได้รับเงินลงทุนเพิ่มในครั้งนี้ ตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ทาง SCBX และลอมบาร์ดเอเชียมีต่อวิสัยทัศน์และการเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อดิจิทัลของเราได้เป็นอย่างดี โดยเราจะเดินหน้ายกระดับแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้เป็นเพื่อนซี้ที่ดีที่สุด ด้วยพลังของเทคโนโลยีเอไอและแมชชีนเลิร์นนิงอันชาญฉลาดที่สุด เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและช่วยให้คนไทยการเงินดีมีสุขได้ยั่งยืนอย่างแท้จริง”

มันนิกซ์คือผู้นำแพลตฟอร์มสินเชื่อดิจิทัลพลังเอไอที่เข้าใจลูกค้าที่สุด จัดตั้งบริษัทเมื่อปี พ.ศ. 2563 จากการร่วมทุนของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) และกลุ่มอบาคัส (Abakus Group) ฟินเทคยูนิคอร์น จากประเทศจีน ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการสร้างโอกาสให้คนไทยได้การเงินดีมีสุข บริษัทให้บริการแอปพลิเคชัน “ฟินนิกซ์” เพื่อช่วยเหลือคนไทยกว่า 36 ล้านคนที่ไม่สามารถขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ให้เข้าถึงสินเชื่อที่ถูกกฎหมายและเป็นธรรมได้ แอปฟินนิกซ์สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ไวสุดใน 5 นาที จากการใช้ข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) โดยไม่ต้องค้ำประกันหรือส่งเอกสาร ซึ่งช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน มันนิกซ์มียอดปล่อยสินเชื่อแล้วทั้งสิ้นกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท มีลูกค้าสินเชื่อรวมกว่า 650,000 ราย และมีผลกำไรสุทธิเป็นบวกแม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย จากการลงทุนในครั้งนี้ทำให้มีเงินทุนสะสมรวมทั้งสิ้นแล้วราว 1,400 ล้านบาท หรือ 40 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และด้วยการสนับสนุนที่ดีจากพาร์ทเนอร์ บริษัทมีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าเร่งการเติบโตทางธุรกิจ ยกระดับแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ จากนี้บริษัทเตรียมแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (IPO) โดยมีเป้าหมายจะเป็นแอปทางการเงินที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำเรื่องเงินให้ประเทศไทย

 

ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การลงทุนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นในโอกาสการเติบโตในระยะยาวของมันนิกซ์ ในฐานะบริษัทแม่ของกลุ่ม ทาง SCBX ยังคงให้การสนับสนุนบริษัทลูกอย่างต่อเนื่องและไปในทิศทางที่เหมาะสมกับแต่ละบริษัท ซึ่งรวมถึงการระดมทุนจากภายนอกของมันนิกซ์ในรอบนี้ เพื่อสร้างการเติบโตและเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (IPO) ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า มุ่งเพิ่มมูลค่าของบริษัทและสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ จากความสามารถและประสบการณ์ของทีมงานผู้เชี่ยวชาญของลอมบาร์ดเอเชียและกลุ่มอบาคัส ทำให้เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ามันนิกซ์จะสามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะช่วยเสริมแกร่งให้หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ SCBX นั่นคือการแสวงหาโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในบริการทางการเงิน และเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับบริษัทในพอร์ตโฟลิโอ โดยเราจะเดินหน้ายกระดับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อปลดล็อกมูลค่าที่ซ่อนอยู่จากการลงทุนด้านฟินเทคของเรา และพร้อมตั้งตารอความสำเร็จอื่นๆ อีกมากมายที่จะตามมาในอนาคต"

 

นายเอกลักษณ์ หวังชูเชิดกุล กรรมการผู้จัดการ ลอมบาร์ดเอเชีย กล่าวว่า “มันนิกซ์คือผู้นำธุรกิจสินเชื่อดิจิทัลที่มีความน่าสนใจและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนครั้งนี้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของเราที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจที่มุ่งสร้างประโยชน์ให้กับสังคมควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนในการลงทุนที่ดี ซึ่งมันนิกซ์เป็นแพลตฟอร์มการเงินชั้นนำที่เปิดโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีคุณภาพให้กับกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้น้อย จึงตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี ในฐานะนักลงทุน ทางลอมบาร์ดเอเชียจะผนึกพลังกับผู้บริหารของมันนิกซ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจและเร่งอัตราการเติบโตให้ก้าวกระโดด เพื่อมุ่งสู่การ IPO ให้สำเร็จ”

X

Right Click

No right click