December 22, 2024

บริษัท ดาว ประเทศไทย ( Dow) ได้จัดงาน in-cosmetic asia ซึ่งเป็นงานแสดงด้านส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง พร้อมเปิดตัว 7 นวัตกรรมที่ผ่านการวิจัย และพัฒนาเพื่อมุ่งตอบโจทย์ทั้งประสิทธิภาพและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บนความพร้อมแนะนำสู่ตลาดผู้ผลิตเครื่องสำอางค์  โดยปีนี้ มีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมความงามเข้าร่วมงานมากกว่า  500 ราย โดยประกอบด้วยกลุ่มผู้ผลิต เจ้าของแบรนด์ และผู้สนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ให้ความสนใจและมาร่วมงาน ณ ไบเทค บางนา

จิรวเรศ พึ่งสุจริต ผู้อำนวยการฝ่ายขาย กลุ่มผลิตภัณฑ์ Home & Personal Care, Dow Consumer Solutions ASEAN, and Australia & New Zealand กล่าวถึงภาพรวมของนวัตกรรมที่ดาวนำมาเปิดตัวในครั้งนี้ว่า “นโยบายหลักของ Dow คือสร้างการเติบโตทางธุรกิจและอนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลกด้วยความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม และการร่วมมือกับคู่ค้า ลูกค้า โดยแนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จะต้องมีความยั่งยืนและมาจากธรรมชาติมากขึ้น โดยในปี 2022 นี้ Dow ได้ออกผลิตภัณฑ์เป็นนวัตกรรมใหม่ 7 ตัว ซึ่งแต่ละตัวเป็น Bio Base หรือสารตั้งต้นจากธรรมชาติ และสามารถย่อยสลายได้หลังใช้โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม”

กลยุทธ์นี้สอดคล้องกับกระแสของโลกในปัจจุบันโดยสถาบันวิจัยชื่อดังของอเมริกาที่คาดการณ์ว่าการเติบโตของตลาดในกลุ่มของ Natural Cosmetic กำลังกลายมาเป็นเทรนด์อับดับหนึ่งของโลก ด้วยอัตราการเติบโตสูงถึงปีละ 5.2 % เมื่อเทียบกับตลาดเครื่องสำอางทั่วไปที่โตเพียงปีละ 3-4 % และผลวิจัยยังระบุว่า 56 % ของผู้บริโภคยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ โดยคาดว่าในปี 2030 ตลาด Natural Cosmetic จะเติบโตเกินครึ่งหนึ่งของตลาด รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคจะหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

สำหรับนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ Dow ที่นำมาเสนอในงาน in-cosmetic asia  อาทิ

• MaizeCare™ Clarity Polymer สารจัดแต่งทรงผม ผลิตจากแป้งข้าวโพด non GMO ที่มีความปลอดภัยสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีจุดเด่นคือช่วยให้การจัดแต่งผมที่เงางาม จัดทรงได้ง่ายไม่เหนียวแหนะหนะ ยิ่งไปกว่านั้นยังผ่านกระบวนการผลิตที่ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เหมาะสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการหาส่วนผสมใหม่ที่มาแทนโพลิเมอร์สังเคราะห์เดิมในผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่รักสิ่งแวดล้อมเพราะสามารถย่อยสลายในธรรมชาติได้ ล่าสุด MaizeCare™ Clarity Polymer ได้รับรางวัลระดับโลกถึง 2 รางวัลคือรางวัล 2022 R&D 100 Awards และได้รับเสนอชื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์นวัตกรรมใหม่เพื่อความยั่งยืนแห่งปี ในโครงการ 2022 Sustainability Awards ของ The Business Intelligence Group (BIG™)

• EcoSmooth™ Rice Husk เป็นซิลิก้าผงสีขาว ซึ่งได้จากการ upcycle เปลือกข้าวจากแหล่งธรรมชาติที่เป็นข้าว non GMO ผงซิลิกาสีขาวนี้เมื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมในแป้งแต่งหน้าหรือ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จะช่วยให้ผิวเนียน ปกปิดจุดด่างดำและรูขุมขน อีกทั้งช่วยให้ผิวลื่นสบาย

• DEXCARE™ CD-1 Polymer ตัวช่วยให้ สารบำรุง conditioning agent (silicones or natural oils) ในแชมพูและครีมอาบน้ำเคลือบบนผมหรือผิวได้ดีขึ้น ผมหวีง่าย เส้นผมไม่พันกัน นอกจากนี้ยังมาจากธรรมชาติ เป็น by product ที่ได้จากการผลิตน้ำตาล และมาผ่านกระบวนการ bio fermentation ที่ low carbon footprint เมื่อล้างออกสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ ไม่มีสารพิษตกค้าง

• EcoSmooth™ Universal Fluid 1100 เป็นสารที่ Dow นำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ที่ใช้เติมลงในสูตรเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันและได้ผลิตภัณฑ์ที่ให้เนื้อสัมผัสที่ดี ใช้กับสูตร color cosmetics, skincare, hair care, and deodorant ทำมาจาก upcycled plant-based ที่เหลือจากกระบวนการเก็บเกี่ยวข้าวโพดและอ้อย เมื่อล้างออกสามารถย่อยสลายได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง

• SunSpheres™ BIO SPF Booster สารเพิ่มประสิทธิภาพครีมกันแดดสูตร bio-base ทำให้ค่า SPF สูงขึ้น และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายทางชีวภาพได้อย่างรวดเร็ว เป็นมิตรกับท้องทะเลและปะการัง เหมาะสำหรับครีมกันแดดรุ่นใหม่ที่ใส่ใจชีวิตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การันตีคุณภาพด้วยรางวัลชั้นนำระดับโลก อาทิ ผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนประจำปี พ.ศ. 2563 จากรางวัลความยั่งยืนของ Business Intelligence Group (BIG) และได้รับรางวัลเหรียญเงินจาก In-cosmetics Global Award 2020

และปีนี้ Dow ยังเสนอแนวคิด ECOllaboration จากคำว่า Eco และ Collaboration โดย Eco คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีส่วนประกอบที่มาจากธรรมชาติ มากกว่า 90% และ Collaboration คือการร่วมมือกันเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภค โดย Dow ไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบรวมทั้งส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ Dow ยังวาง positioning เป็น “คู่คิด” ที่จะช่วยเป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้าที่เป็นเจ้าของแบรนด์ หรือผู้สนใจจะสร้างแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง ตั้งแต่ต้นทางไปจนสามารถแข่งขันในตลาดได้ 

เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิดเป็นตัว disruption ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเจ้าของแบรนด์จะต้องปรับตัวให้ทันและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคต คือวัตถุดิบที่จะนำมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จะต้องมีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อหาจุดแข็งของตัวเอง โดยมองหานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตรงใจลูกค้า อีกทั้งควรนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำตลาดและการเข้าถึงผู้บริโภค” จิรวเรศกล่าวแนะนำทิ้งท้าย

X

Right Click

No right click