December 05, 2025

Aleph เครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลระดับโลก และผู้นำด้านนวัตกรรมสื่อและระบบชำระเงิน ประกาศขยายความร่วมมือกับ Spotify แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก เพื่อเดินหน้าบริหารจัดการงานขายโฆษณาของ Spotify ในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมผู้ลงโฆษณากว่า 20,000 ราย

Spotify Advertising เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีด้านโฆษณา (Ad Tech) อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเสริมความแข็งแกร่งด้านพันธมิตร และการใช้ความเชี่ยวชาญของมนุษย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ลงโฆษณาสามารถซื้อโฆษณา สร้างสรรค์เนื้อหา และวัดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์ม สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Spotify ในด้านระบบอัตโนมัติและนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสร้างประโยชน์ต่อแพลตฟอร์มโฆษณาและอุตสาหกรรมดิจิทัลออดิโอที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ Spotify ยังคงพัฒนาแพลตฟอร์มแบบบริการตนเอง (self-serve) อย่าง Spotify Ads Manager อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มความสามารถในการกำหนดเป้าหมายให้แม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมเสริมแกร่งระบบวัดผลโดยใช้ข้อมูลภายใน (1st party) และข้อมูลจากพันธมิตรข้างนอก (3rd party) รวมถึงการกำหนดเป้าหมายตามผลลัพธ์ เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาทุกระดับสามารถสร้าง ปรับแต่ง และวัดผลแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังมีเครื่องมืออย่าง Spotify Pixel, Custom Audiences, การร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ และเพิ่มเป้าหมายการโฆษณาแบบใหม่ที่เน้นการติดตั้งแอปพลิเคชัน (App Installs Objective) 

Aleph เป็นพันธมิตรกับ Spotify ตั้งแต่ปี 2556 โดยเริ่มต้นความร่วมมือใน 4 ประเทศ ซึ่งการลงนามในความร่วมมือครั้งใหม่นี้จะทำให้ Aleph สามารถนำเสนอบริการได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นงานขายโฆษณาระดับท้องถิ่น โซลูชันด้านการชำระเงิน การสนับสนุนด้านครีเอทีฟ และระบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่โฆษณาของ Spotify และเชื่อมโยงแบรนด์กับผู้ลงโฆษณา พร้อมพัฒนาและขยายโซลูชันโฆษณาของ Spotify ให้ครอบคลุมกว่า 80 ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไทย และเวียดนาม

ทีมงานของ Aleph จะสามารถเข้าถึง Spotify Ads Manager เพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้ลงโฆษณาและเอเจนซี ในการใช้แพลตฟอร์มให้เต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย หรือการกำหนดเป้าหมายขั้นสูง เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ฟังได้ในทุกช่วงเวลาสำคัญ อาทิ ระหว่างการออกกำลังกาย การทำงาน หรือระหว่างเดินทาง ช่วยเพิ่มโอกาสให้แบรนด์สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในช่วงเวลาที่ผู้ฟังมีส่วนร่วมมากที่สุด และสามารถบรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ที่ผู้ลงโฆษณาจะได้รับจากการใช้งาน Spotify Ads Manager ผ่าน Aleph ได้แก่:

  • การเข้าถึงรูปแบบโฆษณาของ Spotify: ผู้ลงโฆษณาสามารถใช้รูปแบบโฆษณาทั้งเสียงและวิดีโอของ Spotify เพื่อสร้างแคมเปญที่น่าสนใจ โดยล่าสุด Spotify ได้เพิ่มรูปแบบใหม่อย่าง Canvas และ Opt-in Video ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์โฆษณาแบบใหม่ที่ผสานทั้งภาพและเสียง
  • การซื้อโฆษณาตามวัตถุประสงค์: Ads Manager เปิดให้เลือกเป้าหมายของแคมเปญได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึง (reach), จำนวนการแสดงผล (impressions), คลิก (clicks) หรือยอดการดูวิดีโอ (video views) หรือแม้แต่การเลือกตามเป้าหมายอย่าง App Installs Objective และ Website Traffic Objective เพื่อรองรับทุกความต้องการของนักการตลาด
  • ค่าใช้จ่ายที่ยืดหยุ่นและประหยัดกว่า: ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดงบประมาณรายวันหรือแบบเหมาจ่ายตลอดแคมเปญได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้การลงโฆษณาบน Spotify เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และคุ้มค่ามากขึ้น ด้วยการบริหารจัดการโดย Aleph

ปีเตอร์-ฌอง เดอ ครูน กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Aleph กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Spotify ในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดยเราต่างมีความมุ่งมั่นร่วมกันในด้านนวัตกรรมและการมอบคุณค่าที่ดีที่สุดให้กับผู้ลงโฆษณา ทำให้ความร่วมมือครั้งนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น”

แซม บีแวน หัวหน้าฝ่าย Emerging & Scaled Global ของ Spotify กล่าวเสริมว่า “ธุรกิจโฆษณาของเรายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราได้ร่วมมือกับ Aleph เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน มอบโซลูชันที่ดีขึ้นให้กับผู้ลงโฆษณา และขยายธุรกิจของเราอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านระบบอัตโนมัติและเครือข่ายระดับโลกของ Aleph ทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชันใหม่ ๆ ให้กับนักโฆษณาทั่วโลกได้อย่างครอบคลุม”

*หมายเหตุ: ปัจจุบัน Aleph เป็นพันธมิตรการขายระดับโลกกับ Spotify ในแอลเบเนีย แอลจีเรีย อาร์เจนตินา อาร์เมเนีย ออสเตรีย บาห์เรน บังกลาเทศ เบลารุส เบลเยียม โบลิเวีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา บัลแกเรีย ชิลี โคลอมเบีย คอสตาริกา โครเอเชีย ไซปรัส สาธารณรัฐเช็ก สาธารณรัฐโดมินิกัน เอกวาดอร์ อียิปต์ เอลซัลวาดอร์ เอสโตเนีย กานา กรีซ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส ฮ่องกง ฮังการี ไอซ์แลนด์ อินโดนีเซีย ไอร์แลนด์ อิสราเอล จอร์แดน คาซัคสถาน เคนยา โคโซโว คูเวต คีร์กีซสถาน ลัตเวีย เลบานอน ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มาเลเซีย เม็กซิโก มอลโดวา มอนเตเนโกร โมร็อกโก เนปาล นิการากัว ไนจีเรีย มาซิโดเนียเหนือ โอมาน ปากีสถาน ปานามา ปารากวัย เปรู ฟิลิปปินส์ โปแลนด์ โปรตุเกส เปอร์โตริโก กาตาร์ โรมาเนีย ซาอุดีอาระเบีย เซอร์เบีย สิงคโปร์ สโลวาเกีย สโลวีเนีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ศรีลังกา สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน แทนซาเนีย ไทย ตูนิเซีย ตุรกี ยูกันดา ยูเครน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อุรุกวัย อุซเบกิสถาน เวียดนาม และอีกมากมาย

เพลงอินดี้สัญชาติไทยครองใจผู้ฟังจำนวนมาก เพราะมีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งในด้านซาวด์ดนตรี อารมณ์เพลง และเนื้อร้องที่แสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองและความคิดสร้างสรรค์ของศิลปิน วันนี้ Spotify จึงขอเดินหน้าสนับสนุนเพลงอินดี้สัญชาติไทยด้วยการปรับโฉมเพลย์ลิสต์เรือธง “อินดี้ศาสตร์” (Indieology) พร้อมทั้งเปิดตัว 2 เพลย์ลิสต์ใหม่สุดโดนใจชาวเพลงอินดี้อย่าง “อินดี้มานาน” (Indie Long Time) และ “อินดี้ เทสดี” (Indie Tasty) เริ่มกันที่ อินดี้ศาสตร์ (Indieology) เพลย์ลิสต์รวมเพลงอินดี้สุดฮิตติดชาร์ตที่คุณไม่ควรพลาด พร้อมเปิดฟังวนซ้ำๆ ได้ไม่มีเบื่อ Dept ศิลปินดูโอ้แนวอินดี้ป๊อป กล่าวหลังได้ขึ้นปกเพลย์ลิสต์ อินดี้ศาสตร์ (Indieology) ว่า “เพลย์ลิสต์ อินดี้ศาสตร์ (Indieology) ของ Spotify ไม่ได้เป็นพื้นที่ให้ผู้ฟังค้นพบตัวตนของเราในฐานะศิลปินเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราเชื่อมต่อกับแฟนๆ จากทั่วโลกอีกด้วย เรารู้สึกขอบคุณ Spotify ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้วงการเพลงอินดี้เติบโตในวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิมครับ” ทั้งนี้ เพลง ถ้ารู้ว่าจะหายไป ของ Dept รวมอยู่ในเพลย์ลิสต์นี้ด้วย

เพลงอินดี้บนแพลตฟอร์มของ Spotify มียอดผู้ฟังเพิ่มขึ้นมากกว่า 70% ในปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าแฟนเพลงในประเทศไทยนิยมใช้แพลตฟอร์มของ Spotify เพื่อค้นหาเพลงอินดี้อย่างต่อเนื่อง คุณปิโยรส หลักคำ บรรณาธิการดนตรีอาวุโส Spotify ประเทศไทย กล่าวว่า “Spotify รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนสนับสนุนให้ศิลปินอิสระของไทยมีพื้นที่ของพวกเขามากขึ้น เราให้ความสำคัญกับดนตรีและผลงานเพลงที่ยอดเยี่ยมของศิลปินอินดี้ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ฟังค้นพบและชื่นชอบผลงานเพลงที่โดดเด่นของพวกเขา ในช่วงเวลาที่วงการเพลงอินดี้กำลังเติบโตและก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง” อินดี้ เทสดี (Indie Tasty) เปิดหูเปิดใจลองฟังเพลย์ลิสต์ที่อัดแน่นไปด้วยศิลปินอินดี้หน้าใหม่ที่รอให้ทุกคนค้นพบ PAKBUNG ศิลปินหญิงเดี่ยวแนวอินดี้ป๊อป เผยความในใจหลังได้ขึ้นปกเพลย์ลิสต์ อินดี้ เทสดี (Indie Tasty) ว่า “สัญญา (can I?) เป็นเพลงที่บอกเล่าความรู้สึกของคนที่ต้องการสารภาพรัก และขอโอกาสให้ตัวเองได้เป็นคนเลือกบ้าง ผักบุ้งดีใจทุกครั้งที่มีคนค้นพบและฟังเพลงของผักบุ้ง แต่ที่เซอร์ไพรส์ที่สุดคือการสตรีมฟังเพลงของผักบุ้งจากต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผักบุ้งมีกำลังใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานเพลง และทำให้รู้ว่าเพลงของผักบุ้งมีอิมแพ็คต่อผู้ฟังค่ะ” อินดี้มานาน (Indie Long Time) เพลิดเพลินไปกับเพลย์ลิสต์เพลงอินดี้ในอดีตที่ปล่อยมานาน แต่ยังคงฮิตติดหูโดนใจไม่ตกยุค ให้แฟนเพลงดื่มด่ำไปกับรากเหง้าของแนวเพลงอินดี้สุดคลาสสิก Safeplanet วงดนตรีแนวอินดี้ป๊อปที่ได้รับเลือกให้ขึ้นปกเพลย์ลิสต์ อินดี้มานาน (Indie Long Time) กล่าวว่า “พวกเรารู้สึกดีใจที่เพลงเก่าของเรายังคงมีผู้ฟังอยู่เรื่อยๆ บนแพลตฟอร์มของ Spotify เพลย์ลิสต์ของ Spotify ไม่เพียงช่วยให้แฟนเพลงทั้งเก่าและใหม่ได้ฟังอัลบั้มของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงต่อไปครับ”

นอกจากนี้ Spotify ยังมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นอื่น ๆ อีก เช่น ฟีเจอร์ “Lyrics” และฟีเจอร์ “Playlist Stories” ที่ช่วยเชื่อมต่อแฟนเพลงอินดี้เข้ากับศิลปินคนโปรดให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ผลงานเพลงของศิลปินมีชีวิตชีวา โดยเพลงต่าง ๆ ที่ได้รับการถ่ายทอดออกมาจากห้วงความคิด เส้นทางชีวิต และประสบการณ์ต่าง ๆ ของศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักไปจนถึงเรื่องอกหัก ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มออกเดินทางเข้าสู่โลกของเพลงอินดี้กันเลย!

Spotify ผู้ให้บริการสตรีมมิงเพลงชื่อดังของโลก ได้ประกาศในวันนี้ว่าได้บรรลุข้อตกลงกับ FC Barcelona

เราทุกคนต่างมีเพื่อน หรือคนรักที่ติดตามความเคลื่อนไหวของศิลปินที่มาแรงที่สุด หรือผลงานใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ

X

Right Click

No right click