สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (Marketing Association of Thailand) จัดงานวันนักการตลาด Thailand Marketing Day 2025 Next Marketing Battle เป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ของผู้นำระดับประเทศ และผู้บริหารองค์กรชั้นนำ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มาเผยกลยุทธ์การรับมือทางด้านเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และสภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงแบบพลิกผันที่จะเกิดขึ้นในปี 2025 รวมถึงทางรอดของธุรกิจและผู้ประกอบการไทยอย่างยั่งยืน โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน
ภายในงานมีการเสวนาที่น่าสนใจ โดยหนึ่งในหัวข้อสำคัญ ได้แก่ Service Warfare : Winning the Tourism, Care & Wellness Economy through Sustainable Innovation พลิกโฉมวงการท่องเที่ยวและสุขภาพด้วยนวัตกรรมความยั่งยืน โดย แพทย์หญิง ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารอาวุโส กลุ่ม 1 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ขึ้นเวทีบรรยายพิเศษถึงกลยุทธ์พัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมในมิติ ESG ว่า BDMS มีเครือข่ายกลุ่มโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเครือข่ายกลุ่มโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศและในประเทศใกล้เคียง ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลพญาไท โรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลรอยัล และ BDMS Wellness Clinic อีกทั้งยังมีการให้บริการที่หลากหลาย สิ่งสำคัญ มีความตั้งใจอยากให้ทุกคนอายุยืน และมีสุขภาพที่ดี
BDMS ได้ทำธุรกิจ Wellness มานานกว่า 10 ปี เป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและการส่งเสริมสุขภาพ (Preventive & Wellness Healthcare) ที่กำลังเติบโตในประเทศไทยและทั่วโลก
แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กล่าวว่า BDMS ตั้งใจที่จะพัฒนาโรงแรมที่รวมบริการ Wellness ในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ “การให้บริการ Wellness ในพื้นที่ต่างจังหวัด อย่างที่ภูเก็ต เรามีความร่วมมือกับ ลากูน่าภูเก็ต และกำลังจะเปิดตัวที่ศรีพันวา และสมุยอีกแห่ง อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Wellness ควรถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน มากกว่าจะเป็นบริการที่เข้ารับเป็นครั้งคราว โดยอาจมีการแนะนำให้รับประทานอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Supplement) ที่เหมาะสมและมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง เพื่อให้การดูแลสุขภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน”
นอกจากนี้ BDMS ยังมีโปรเจคใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ก่อตั้งศูนย์รวมธุรกิจเกี่ยวกับ Wellness เพื่อทำให้เป็นตัวแทน Wellness ของประเทศไทย เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่จะเกิดขึ้น โดยทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกัน
“ในส่วนของโครงการใหญ่ของเรา BDMS มีพื้นที่อยู่ที่หัวมุมสวนลุมพินี ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเรากำลังพัฒนาให้เป็น Mix Wellness Complex โดยตั้งเป้าหมายให้เป็น Wellness Destination แบบครบวงจร อาทิ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) ภายในโครงการดังกล่าวจะมีทั้งคลินิก ร้านค้า (Retail) และโรงแรม เพื่อสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์ (Ecosystem) และเป็นตัวแทนของ Wellness ประเทศไทย ในเรื่องการดูแลสุขภาพไม่สามารถทำได้โดย BDMS เพียงลำพัง แต่ต้องเกิดจากความร่วมมือในทุกภาคส่วน เพราะการดูแลสุขภาพไม่ใช่เพียงการดูแลชั่วคราว แต่จะต้องการสร้างระบบ Wellness ที่สมบูรณ์ และต้องมีองค์ประกอบที่หลากหลาย เช่น โรงแรม และบริการอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมการดูแลสุขภาพ”
สิ่งที่เป็นหัวข้อใหญ่ของวันนี้คือ ความยั่งยืน หรือ Sustainable ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับแนวคิด Green ที่สะท้อนถึงการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในมุมมองของธุรกิจการให้บริการในการดูแลสุขภาพ ความยั่งยืนหมายถึงการสร้างระบบที่ส่งเสริมสุขภาพในระยะยาว ทั้งในด้านคุณภาพ ความครอบคลุม และความเท่าเทียมโดยการทำให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างยั่งยืน เริ่มต้นจากการให้บริการสุขภาพที่ดี หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของทุกกลุ่มคน และควรทุกคนได้รับโอกาสในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม
BDMS ดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจสุขภาพให้ก้าวหน้าด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ อาทิ เทคนิคการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมแบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ ซึ่ง BDMS ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ SET Awards ในประเภท Value Based Healthcare นับเป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ลดความเจ็บปวดของผู้ป่วย และลดระยะเวลาการฟื้นตัว ทั้งนี้ นวัตกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ด้านคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ BDMS ในการสร้างคุณค่าให้กับระบบสุขภาพโดยรวม ซึ่งความสำเร็จนี้ย้ำให้เห็นถึงบทบาทของนวัตกรรมและวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคม และความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างระบบสุขภาพที่ดีและยั่งยืนสำหรับทุกคนในอนาคต
บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด หรือ N Health (เอ็น เฮลท์) บริษัทชั้นนำในธุรกิจตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการของประเทศไทย ในเครือ BDMS พร้อมด้วยบริษัท ไบโอ โมเลกุลลาร์ แลบบอราทอรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอ็นเฮลท์ โนโวยีน จีโนมิกส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ N Health จับมือ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกันพัฒนาทักษะการแพทย์จีโนมิกส์ และวิธีการวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมสายยาว (Long-Read DNA Sequencing) เพื่อสนับสนุนให้เกิดการแพทย์จีโนมิกส์ที่ยั่งยืน
เมื่อเร็วๆ นี้ นายณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสนับสนุนโรงพยาบาล ๗.๑ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด (N Health) บริษัท ไบโอ โมเลกุลลาร์ แลบบอราทอรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอ็นเฮลท์ โนโวยีน จีโนมิกส์ จำกัด พร้อมด้วยแพทย์หญิงเมธินี ไหมแพง ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม ๑ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด (N Health) และดร.ทวีศักดิ์ ตีระวัฒนพงษ์ กรรมการ บริษัท ไบโอ โมเลกุลลาร์ แลบบอราทอรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับศาสตราจารย์นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และศาสตราจารย์นายแพทย์มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช พร้อมด้วย ดร.ธิดาทิพย์ วงศ์สุรวัฒน์ หัวหน้าหน่วยชีวสารสนเทศทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อศึกษารหัสพันธุกรรม และพัฒนาวิธีการแพทย์จีโนมิกส์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้การแพทย์จีโนมิกส์ (Genomics Medicine) เพื่อพัฒนายกระดับความรู้ ทักษะการแพทย์จีโนมิกส์ ต่อยอดงานวิจัย และสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญการแพทย์จีโนมิกส์ร่วมกัน โดยมี มร.เบน มอร์ลี่ย์ ทูตพาณิชย์และผู้อำนวยการฝ่ายการค้าระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน
ปัจจุบันการแพทย์จีโนมิกส์ นับเป็นความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มาพลิกโฉมวงการแพทย์ทั่วโลก และได้รับการจับตามองในฐานะเมกะเทรนด์ระดับโลกที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับและเติมเต็มอุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยสู่ความเป็นเลิศในระดับนานาชาติ การแพทย์จีโนมิกส์ เป็นแนวทางการรักษาสมัยใหม่ที่ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพ แม่นยำ สร้างผลกระทบสูงทั้งทางสาธารณสุข สังคม และเศรษฐกิจ ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัย และให้การรักษาที่ตรงจุดกับผู้ป่วยได้ทันท่วงที เพิ่มโอกาสการรอดชีวิต และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ถือเป็นหน่วยงานสำคัญในการวิจัย และถอดรหัสพันธุกรรม ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการบูรณาการเทคโนโลยีจีโนมเข้ากับการวิจัย และบริการทางคลินิก ส่งเสริมการแพทย์จีโนมิกส์ และการแพทย์แม่นยำในโรงพยาบาลศิริราช โดยศูนย์ฯ มีการนำเทคโนโลยีการหาลำดับเบสแบบต่างๆ มาใช้ในการวินิจฉัย และรักษาผู้ป่วยอย่างตรงจุด รวมถึงเริ่มนำเทคโนโลยี Nanopore ที่ให้ข้อมูลลำดับ DNA แบบสายยาว ครอบคลุมการกลายพันธุ์ที่เทคโนโลยีดั้งเดิม ไม่สามารถตรวจสอบได้มาตรวจหาการกลายพันธุ์ใหม่ๆ และช่วยย่นระยะเวลาที่แพทย์ และผู้ป่วยจะได้รับผลการวินิจฉัย เช่น ตรวจสอบการกลายพันธุ์ของมะเร็ง นำไปสู่การจัดกลุ่มผู้ป่วย เพื่อให้แพทย์สามารถเลือกการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งจะช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และมีผลข้างเคียงน้อยลง
ศาสตราจารย์นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า “ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช เป็นที่แรกในประเทศไทยที่นำเทคโนโลยี Nanopore มาใช้ทางคลินิก โดยใช้ตรวจหาการกลายพันธุ์ของมะเร็งเพื่อการวินิจฉัย การจัดกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งสมอง เพื่อการรักษาการระบุรูปแบบยีนที่มีความเสี่ยงต่อการแพ้ยาต่างๆ ที่นิยมใช้ในประเทศ โดยมีทีมนักวิจัยจากหน่วยชีวสารสนเทศทางการแพทย์เป็นผู้พัฒนาโปรแกรมเพื่อรองรับข้อมูลที่ได้จากเทคโนโลยี Nanopore มาตอบโจทย์การตรวจดังกล่าว โดยมุ่งหวังที่จะนำไปสู่การยกระดับการรักษาการดูแลผู้ป่วย และการป้องกันเฉพาะบุคคลได้อย่างครบวงจร และมีประสิทธิภาพ” นอกจากนี้กลุ่มนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการ Siriraj Long-Read Lab ภายใต้หน่วยชีวสารสนเทศทางการแพทย์ ยังจัดเตรียมความพร้อมเพื่ออบรมการใช้เทคโนโลยี Nanopore ให้กับนักศึกษาแพทย์ อาจารย์ รวมถึงนักวิจัยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ด้านบริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด หรือ N Health (เอ็น เฮลท์) ในเครือ BDMS ถือเป็นผู้นำในบริการสนับสนุนทางการแพทย์ และธุรกิจโรงพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลชั้นนำทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ N Health มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการด้านการแพทย์จีโนมิกส์
นายณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ กล่าวว่า “ประเทศไทยมีการตรวจวิเคราะห์ยีนเฉพาะบุคคลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังมีความผิดปกติ และลักษณะของโรคอีกจำนวนมาก ที่เทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่สามารถหาคำตอบได้ เราจึงต้องแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อพัฒนาการวินิจฉัย และการรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ และทันท่วงที ด้วยข้อจำกัดดังกล่าว และความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริม และพัฒนาการแพทย์จีโนมิกส์ในประเทศไทย เพื่อประโยชน์สูงสุดกับผู้ป่วย N Health จึงผสานความร่วมมือกับศิริราช ในการพัฒนาทักษะการแพทย์จีโนมิกส์ และวิธีการวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมที่ใช้เทคโนโลยี Long-Read Sequencing เพื่อส่งเสริม และพัฒนาการแพทย์แบบองค์รวม ทั้งในด้านการบริหารทรัพยากรเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงการส่งเสริมบุคลากร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เกิดความรู้ ความเชี่ยวชาญ สามารถนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ ตลอดจนผลงานวิจัย หรือผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยที่เกิดจากความร่วมมือนี้ไปใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงพาณิชย์ เชิงนโยบาย และเชิงสาธารณะ”
โดย N Health และศิริราช มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะยกระดับขีดความสามารถทางการแพทย์ของไทยให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาแบบเฉพาะบุคคล และผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางจีโนมิกส์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นรูปธรรม
หลังจากที่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ได้รับการจัดอันดับความยั่งยืนดัชนี DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) หรือดัชนีชี้วัดความยั่งยืนของดาวโจนส์ ประจำปี 2566 ให้เป็นที่ 1 ด้านความยั่งยืนของโลก (DJSI WORLD) และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (DJSI Emerging Markets) เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นเลิศ ผ่านแนวคิด ESG ได้แก่ มิติสิ่งแวดล้อม (Environment) มิติสังคม (Social) และมิติเศรษฐกิจ (Governance)
ในครึ่งปีแรก BDMS ได้พัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมทุกด้าน ทั้ง มิติสิ่งแวดล้อม (Environment) ที่ดำเนินธุรกิจทางการแพทย์คาร์บอนต่ำอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม BDMS Green Healthcare ส่วนมิติสังคม (Social) ได้มีการส่งมอบความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียในสังคม ได้แก่ การจัดอบรมกู้ชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการรักษา และมิติเศรษฐกิจ (Governance) ที่มุ่งสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์ (BDMS Innovative Healthcare) ผ่านโครงการอบรมเทคนิคนวัตกรรมการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก ด้วยเทคนิคใหม่ที่ไม่ตัดกล้ามเนื้อ และการบริการแพทย์ทางไกล เพื่อสุขภาพใจ (BeDee Tele Mental Health) โดยร่วมกับ มูลนิธิเวชดุสิต ฯ ขยายโอกาสในการดูแลสุขภาพ
BDMS ตั้งเป้าครึ่งปีหลัง ในการมุ่งพัฒนาสู่ความยั่งยืนทางการแพทย์ต่อเนื่อง โดยยึด 6 กลยุทธ์หลัก เพื่อส่งมอบการบริการด้านสุขภาพที่ดีต่อประเทศ สังคม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อเดินหน้าสู่การเป็น Healthcare Sustainability ได้แก่ การมุ่งสู่การบริการที่เป็นเลิศ ยกระดับนวัตกรรมทางการแพทย์ มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Net Zero) คืนคุณค่าสู่สังคม ส่งเสริมและสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการรักษาทุกระดับชั้น และดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล
แพทย์หญิง ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารอาวุโส บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) เปิดเผยถึงกลยุทธ์ทั้ง 6 ด้าน และเป้าหมายสู่การพัฒนาทางการแพทย์อย่างยั่งยืนว่า ต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และแนวโน้มของโลก
“ที่ผ่านมาเราได้พิสูจน์แล้วว่า BDMS สามารถขับเคลื่อนองค์กรได้ตามกลยุทธ์แห่งความยั่งยืนที่ได้วางไว้ร่วมกันเป็นพันธกิจขององค์กร ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เราก็เดินหน้าธุรกิจอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล และสร้างการมีส่วนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีส่วนได้เสีย โดยมีเป้าหมายลดปริมาณคาร์บอนลงมากกว่า 1,800 ตัน ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ให้ครอบคลุม 50% ในปี 2024 และ 100% ในปี 2027 ลดปริมาณของเสียลง 25% อบรมการกู้ชีพขั้นพื้นฐานให้มากกว่า 66,000 ราย ส่งเสริมการเข้าถึงการรักษาผ่านแอปพลิเคชัน BeDee สร้างนวัตกรรมใหม่ร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพในเครือข่าย โดยมีโครงการนวัตกรรมมากกว่า 400 โครงการ และพัฒนาเครือข่ายโรงพยาบาลสู่ความเป็น Smart Hospital เป็นต้น” พญ. ปรมาภรณ์ กล่าว
ปัจจุบัน กว่าร้อยละ 50 ของโรงพยาบาล และธุรกิจในเครือ BDMS สามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้มากกว่า 10,000 ตันต่อปี ด้วยการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และการลดปริมาณของเสีย เช่น Upcycling ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียว โครงการอบรมกู้ชีพขั้นพื้นฐานที่บรรลุไปแล้ว 931 คอร์ส มีผู้เข้าร่วมกว่า 61,172 ราย และยังมีการมอบการเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพในด้านต่าง ๆ โดยไม่เลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบ โดยมีแพทย์ที่ผ่านการอบรมแล้วกว่า 180 ราย ใน 170 โรงพยาบาล