บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ เผยผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้จากการขายรวม 1,088 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 38,810 ล้านบาท) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) รวม 250 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8,924 ล้านบาท) และกำไรสุทธิ 43.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,552 ล้านบาท) ในช่วงที่ผ่านมาแม้ต้องเผชิญกับความผันผวนของราคาพลังงานในตลาดโลก บริษัทฯ ยังคงบริหารจัดการธุรกิจและต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างกระแส  เงินสดได้อย่างต่อเนื่อง ด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติ พร้อมเดินหน้าสู่การบรรลุเป้าหมาย Net Zero เต็มพิกัด โดยมีโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) ในสหรัฐอเมริกาที่เตรียมดำเนินการในปีนี้ ขณะที่กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน โรงงานผลิตแบตเตอรี่ในไทยได้เริ่มส่งมอบแบตเตอรี่ให้กับลูกค้าในประเทศไทยแล้ว

นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในไตรมาส 1   ปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและบริหารจัดการต้นทุนอย่างรัดกุม ยกระดับ  การดำเนินงานของทุกกลุ่มธุรกิจใน 9 ประเทศ และเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อคงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงานและผลิตพลังงาน มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนเพื่อตอบสนองต่อภาวะราคาพลังงานที่ผันผวน สำหรับกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน มีความคืบหน้าของโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในประเทศไทยที่ได้เริ่มส่งมอบแบตเตอรี่ชุดแรกแล้ว นอกจากนั้น เรายังมุ่งบริหารพอร์ตโฟลิโอให้สอดคล้องไปกับแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านการจัดสรรงบประมาณการลงทุนอย่างเหมาะสมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”

สำหรับผลการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ในไตรมาส 1 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน ด้านธุรกิจเหมือง บริษัทฯ เร่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ ทั้งการควบคุมต้นทุนการผลิต การเสริมประสิทธิภาพในการผลิตและการขนส่ง ที่ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรและลดสิ่งเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิต และดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อให้ได้คุณภาพของสินค้าตรงตามความต้องการของลูกค้า ทำให้ยังคงสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่ง ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัทฯ ยังคงใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาก๊าซธรรมชาติที่มีความผันผวน ในส่วนโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) ในสหรัฐอเมริกา เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ใน Scope 1 และ 2 ในปี 2568 โครงการแรก “Barnett Zero” ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โครงการที่สอง “Cotton Cove” ตั้งเป้าเริ่มดำเนินการภายในปี 2567 นี้ โดยแต่ละโครงการมีอัตราการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 210,000 และ 45,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปีตามลำดับ

กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน สำหรับธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน มีผลการดำเนินงานตามเป้าและคงประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าที่ดีต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจากการเติบโตของความต้องการการใช้ไฟฟ้าในทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่มีเสถียรภาพและสร้างความมั่นคงในระบบการจ่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการในช่วงที่สภาพภูมิอากาศมีความผันผวน อีกทั้งยังมีความเติบโตของการใช้ AI และ ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศต่าง ๆ สำหรับธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในประเทศจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และออสเตรเลีย ยังคงรายงานผลการดำเนินงานที่ดี สร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ แม้ในไตรมาสนี้จะเผชิญกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน มีการเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยการมุ่งขยายฐานลูกค้าและการลงทุนร่วมกับพันธมิตรใหม่ ๆ  ในธุรกิจแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน (Battery & Energy Storage System Solutions: BESS) โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บ้านปู เน็กซ์ และ เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ และส่งมอบแบตเตอรี่ให้กับลูกค้าในประเทศไทยมากกว่า 20,000 ชุด โดยมีเป้าหมายการผลิตรวม 60,000 ชุดต่อปี พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดตั้งโรงงานและพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการกักเก็บพลังงาน เซลล์แบตเตอรี่ และการรีไซเคิลแบตเตอรี่ในขณะที่โรงงานประกอบแบตเตอรี่ดีพี เน็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบ้านปู เน็กซ์ และดูราเพาเวอร์ สามารถส่งมอบแบตเตอรี่ชุดแรกให้กับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์เพื่อนำไปใช้กับรถบัสไฟฟ้าแล้วเช่นกัน โดยมีเป้ากำลังการผลิตรวมที่ 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง นอกจากนี้ ในไตรมาสนี้ยังมีการเปิดตัวโครงการ ‘Infinite Cafe Powered by Banpu NEXT’ เฟสที่สอง ที่จามจุรีสแควร์ ในรูปแบบป๊อปอัพคาเฟ่ที่มีระบบโซลาร์รูฟท๊อปผลิตไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่กักเก็บไฟฟ้าในตัว ซึ่งเป็นการนำเสนอโซลูชันพลังงานสะอาดที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คน เพื่อขยายสู่กลุ่มลูกค้าธุรกิจบริการต่าง ๆ ในส่วนโครงการบริหารจัดการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling System) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนซี คาดว่าจะเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในไตรมาส 4 ปีนี้

จากความโดดเด่นในการบริหารจัดการและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในช่วงเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านปูได้รับ  3 รางวัลจากงาน Employee Experience Awards 2024 ซึ่งจัดโดย Human Resources Online ประเทศสิงคโปร์ ในประเภท Best Management Training Programme (ระดับ Silver) ประเภท Best Holistic Leadership Development Strategy (ระดับ Silver) และประเภท Best Executive Coaching Programme (ระดับ Bronze)สะท้อนความมุ่งมั่นของบ้านปูในการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning Organization)  และการตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรบุคคลที่เป็นสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดของบริษัทฯ

“บ้านปูยังคงสร้างการเติบโตของพอร์ตโฟลิโอพลังงาน โดยมุ่งสานต่อโร้ดแม็พภารกิจการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานที่ยั่งยืน (Sustainable Energy Transition) สิ่งที่ผมให้ความสำคัญ คือการสร้างกระแสเงินสดให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จากการดำเนินงานที่เต็มประสิทธิภาพของสินทรัพย์ต่าง ๆ ในทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เข้ามาสนับสนุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมการต่อยอดโอกาสเพิ่มรายได้จากการเลือกลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนสูง โดยผสานความแข็งแกร่งทั้งในธุรกิจที่มีอยู่เดิมและธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตไม่ว่าจะภาคพลังงานหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันก็เร่งผลักดันการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการดำเนินธุรกิจเพื่อร่วมขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ

ผมเชื่อว่าการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องในทุกมิติของบ้านปู ควบคู่ไปกับการมุ่งบรรลุเป้าด้านความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการในทุกกระบวนการทางธุรกิจ จะสร้างคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง” นายสินนท์ กล่าวปิดท้าย

เรทติ้ง A+ เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 7 9 พฤษภาคม 2567 ผ่าน 6 สถาบันการเงินชั้นนำ

บ้านปู เน็กซ์ ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมกับดูราเพาเวอร์ ผู้นำด้านระบบแบตเตอรี่จัดเก็บพลังงานแบบลิเธียมไอออนระดับโลก ส่งมอบแบตเตอรี่ชุดแรกจากโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในไทยให้กับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ ผู้ให้บริการรถบัสรายใหญ่ที่สุดในไทย นับเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนตลาดรถบัสไฟฟ้าและรถบรรทุกขนาดใหญ่ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตอกย้ำความสำเร็จของผู้นำจาก 3 ธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืนด้วยยานยนต์ไฟฟ้าและการลดคาร์บอน การส่งมอบแบตเตอรี่ครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของโรงงานประกอบแบตเตอรี่ดีพี เน็กซ์ ในประเทศไทย ภายใต้บริษัท ดีพี เน็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบ้านปู เน็กซ์ และดูราเพาเวอร์

ปี 2567 ตลาดรถบัสไฟฟ้าในเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่า* 44,740 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 73,880 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตขึ้น 10.55% ในปี 2572 ถือเป็นภูมิภาคที่ตลาดรถบัสไฟฟ้าเติบโตเร็วที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุด โดยได้รับอานิสงส์จากองค์กรด้านการขนส่งในหลายประเทศที่ส่งเสริมการใช้รถบัสไฟฟ้ามากขึ้น ขณะที่ภาครัฐของไทย** ได้ประกาศโร้ดแมปซึ่งคาดว่าจะมีการใช้งานรถบัสไฟฟ้าสาธารณะ 3,000 คันในประเทศภายในปี 2568 ทั้งนี้ ประเทศไทยมีรถบัสที่จดทะเบียนมากกว่า 150,000 คันเมื่อปี 2566 และมีแผนที่จะนำรถบัสไฟฟ้ามาใช้แทนรถบัสสันดาปไม่น้อยกว่า 40,000 คันภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยเมื่อโรงงานดีพี เน็กซ์ ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี เปิดดำเนินการประกอบแบตเตอรี่เต็มรูปแบบแล้ว จะส่งมอบผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการชาร์จเร็วโดยเฉพาะและมีความจุสูงสำหรับรถบัสและรถขนส่งขนาดใหญ่

สำหรับแบตเตอรี่ชุดแรกที่ส่งมอบให้กับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ สามารถตอบโจทย์การใช้งานในรถบัสไฟฟ้าของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี โดยเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ออกไซด์ (NMC) สมรรถนะสูงที่ทำให้รถวิ่งได้ไกลถึง 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และใช้เวลาในการชาร์จรวดเร็วเมื่อเทียบกับลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ช่วยให้ผู้ประกอบการรถบัสสามารถยกระดับประสิทธิภาพการบริการขึ้นไปอีกขั้น โดยโรงงานแห่งนี้จะรองรับความต้องการใช้แบตเตอรี่ของยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ใช้งานในอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ทั้งในไทยและเอเชียแปซิฟิก เช่น รถบัส รถบรรทุก และรถขนส่งเชิงพาณิชย์ เป็นต้น

นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “การเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าในไทยส่งผลให้ความต้องการแบตเตอรี่สูงขึ้นตามไปด้วย จากปี 2565 ตลาดแบตเตอรี่ในประเทศ*** มีมูลค่า 1,140 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 4,010 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2573 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 17.0% ในช่วงปี 2566 – 2573 บ้านปู เน็กซ์ มุ่งมั่นที่จะเป็น Net-Zero Solutions Provider ให้กับองค์กรทั่วเอเชียแปซิฟิก เราพร้อมสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และช่วยขับเคลื่อนการแก้ปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง การส่งมอบแบตเตอรี่ชุดแรกเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ ภายใต้ความร่วมมือที่บ้านปู เน็กซ์ รับผิดชอบด้านโอกาสทางการตลาดในประเทศไทย โดยนอกจากจะให้คำปรึกษาเชิงเทคนิคและบริการหลังการขายที่ครบวงจร เราตั้งใจจะส่งมอบแบตเตอรี่ให้กับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ซึ่งมีแผนจะนำไปใช้กับรถบัสประมาณ 100 คันภายในปี 2568”

นายเคลวิน ลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดูราเพาเวอร์ กล่าวว่า “ดูราเพาเวอร์มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ และมีเทคโนโลยีขั้นสูง เรามั่นใจที่ได้ส่งมอบแบตเตอรี่คุณภาพสูงที่กักเก็บพลังงานได้ยาวนาน พร้อมคุณสมบัติชาร์จเร็ว น้ำหนักเบา และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดให้กับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ อีกทั้งเรายังนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงออกแบบโมดูลและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม เราให้ความสำคัญกับการส่งมอบโซลูชันพลังงานที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าในไทยและเอเชียแปซิฟิก ไปพร้อมกับการเดินหน้าความร่วมมือกับบ้านปู เน็กซ์ และเชิดชัยมอเตอร์เซลส์”

นายอดิศร เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ โรงงานอุตสาหกรรมเชิดชัย กล่าวว่า “เชิดชัยฯ ให้บริการรถโดยสารสำหรับการเดินทางและท่องเที่ยว เรามีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยคาร์บอนและปรับทิศทางธุรกิจให้สอดรับกับเทรนด์โลก จึงเปลี่ยนจากการใช้รถสันดาปเป็นรถบัสไฟฟ้าให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถนำเสนอบริการที่มีคุณภาพมากขึ้น ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้า ขณะเดียวกัน เรากำลังพัฒนารถบัสของเราที่ออกแบบมาสำหรับการเดินทางไกลโดยเฉพาะ ซึ่งจะนำมาใช้บนเส้นทางเดินรถสายหลักจากจังหวัดนครราชสีมาไปยังกรุงเทพฯ และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการผลิตรถบัสไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการในตลาดประเทศไทย เราเลือกใช้แบตเตอรี่จากโรงงานดีพี เน็กซ์ เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการเชิงเทคนิคและการใช้งานเฉพาะด้านของเรา ทั้งยังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในประเทศคอยให้คำปรึกษาและบริการหลังการขาย เราจึงมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของโรงงานแห่งนี้ โดยแบตเตอรี่ชุดแรกที่เราได้รับจากบ้านปู เน็กซ์ และดูราเพาเวอร์ เป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถบัสไฟฟ้า และตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในด้านความยั่งยืน”

แบตเตอรี่จากโรงงานดีพี เน็กซ์ จะนำมาใช้กับรถบัสไฟฟ้าของเชิดชัยมอเตอร์เซลส์บนเส้นทางสายหลัก กรุงเทพฯ - นครราชสีมา และในอนาคตมีแผนจะนำแบตเตอรี่ไปใช้กับรถบัสไฟฟ้าบนเส้นทางสายอื่นๆ โดยนอกจากเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ บ้านปู เน็กซ์ ยังนำเสนอแบตเตอรี่ให้กับธุรกิจขนส่งเชิงพาณิชย์หลายราย อาทิ ผู้ให้บริการรถบรรทุก ผู้ผลิตรถแทรกเตอร์ไฟฟ้า และผู้ผลิตเรือไฟฟ้า เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608

ธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือสนใจโซลูชันแบตเตอรี่ สามารถเยี่ยมชมบูธของดูราเพาเวอร์ หมายเลข MC17 โซนสิงคโปร์พาวิลเลี่ยน ในงานนิทรรศการและงานประชุม Future Mobility Asia 2024 ระหว่างวันที่ 15 – 17 พฤษภาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ชูไอเดีย “ชุมชนแกร่ง ไทยแกร่ง” รุดปักหมุด “เชียงใหม่” ที่แรก!!

ผลตอบแทน [2.90 – 4.25]% ต่อปี ผ่าน 6 สถาบันการเงินชั้นนำ คาดว่าเปิดให้ผู้ลงทุนทั่วไปจองซื้อในเดือนพฤษภาคมนี้

Page 1 of 18
X

Right Click

No right click