เปิดโลกแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีการท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิงครั้งยิ่งใหญ่ ไปกับ IAAPA Expo Asia 2024 ที่สุดของงานแสดงนวัตกรรมและความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมสวนสนุก และการท่องเที่ยว ที่กลับมาเยือนไทยอีกครั้งในรอบ 17 ปี ภายใต้แนวคิด "Shape Your Evolution at IAAPA Expo Asia: Evolve your business into a leading market player" มุ่งสู่การเป็นผู้นำในโลกสวนสนุกไปด้วยกัน ผ่านเวทีเสวนา พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้และความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ พร้อมโอกาสในการทดลองเล่นเครื่องเล่นล้ำสมัยที่รวบรวมมาจากทั่วโลก บนพื้นที่กว่า 7,800 ตารางเมตร ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 27-30 พฤษภาคม 2567
IAAPA Expo Asia จัดโดย International Association of Amusement Parks and Attractions หรือ IAAPA คอมมูนิตี้ของผู้คนในอุตสาหกรรมสวนสนุกและสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก ครอบคลุมทั้งสวนสนุก สวนสัตว์ ศูนย์ความบันเทิงสำหรับครอบครัว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ พิพิธภัณฑ์ศูนย์วิทยาศาสตร์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ โดยมุ่งส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศสมาชิกกว่า 100 ประเทศ ซึ่งงาน IAAPA Expo ถือเป็นงานแสดงนวัตกรรมและความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมสวนสนุกและการท่องเที่ยว ที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการจากทั่วโลกไว้ด้วยกัน เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการและโซลูชันล่าสุด รวมถึงเครื่องเล่นและการจำลองสถานการณ์ที่ผู้เข้าชมสามารถลองใช้งานได้ ตั้งแต่เทคโนโลยีล้ำสมัยและการให้สิทธิตามแบรนด์ ไปจนถึงนวัตกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มและกลยุทธ์การขายสินค้า นอกจากนี้ งานแสดงสินค้าของ IAAPA ยังได้มอบแนวคิดและข้อมูลเชิงลึกเพื่อยกระดับธุรกิจให้พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีประวัติการจัดงานกว่า 100 ครั้ง ในหลายประเทศทั่วโลก และล่าสุดที่ประเทศไทย ซึ่งเคยได้รับเกียรติ ในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน เมื่อปี 2550 ก่อนกลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในปี 2567 ซึ่งมีผู้ผลิตและผู้ให้บริการชั้นนำเพื่อแสดงผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันใหม่ล่าสุด รวมถึงเครื่องเล่นไฮไลต์สำคัญ อาทิ
แจ็ค เฉิน ผู้อำนายการและรองประธาน IAAPA ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า “IAAPA เฟ้นหาสถานที่จัดงานที่เปี่ยมไปด้วยสีสัน และสามารถตอบโจทย์แอคทีฟไลฟ์สไตล์ของผู้เที่ยวชมงานของเราอยู่ตลอด ซึ่ง ‘กรุงเทพ, ประเทศไทย’ ถือเป็นประเทศลำดับต้น ๆ ของเอเชียที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวและผู้จัดงานทั่วโลก ด้วยความเป็นศูนย์รวมทั้งด้านวัฒนธรรมและนวัตกรรม ทั้งยังผสมผสานวิถีชีวิตท้องถิ่นกับความเป็นยุคสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว”
“ในปีนี้ เราจึงตัดสินใจกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง โดยเลือก ‘ศูนย์ฯ สิริกิติ์’ เป็นสถานที่จัดงาน เนื่องด้วยชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับ ในฐานะเจ้าภาพการประชุมนานาชาติ นิทรรศการ และงานแสดงโชว์ระดับโลก ทั้งยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่สำคัญ และร้านค้ารีเทล ซึ่งตรงกับความต้องการของ IAAPA ที่มองหาสถานที่ที่เป็นมากกว่า “ศูนย์การประชุม” แต่พร้อมรองรับความต้องการของผู้เข้าร่วมงานทั่วโลกได้ในหลากมิติ สร้างโอกาสในการเชื่อมโยงทางการค้า และความร่วมมือระหว่างผู้เข้าร่วมงานกับผู้นำในอุตสาหกรรมสวนสนุกจากทั่วโลก”
ด้าน สุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ ที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยในการรองรับงาน IAAPA Expo Asia 2024 ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จในการเป็นมากกว่า ‘ศูนย์การประชุม’ ที่ตอบโจทย์ผู้จัดงานอิเวนต์ ไลฟ์สไตล์และบันเทิง โดยเราคาดหวังว่าศูนย์ฯ สิริกิติ์ จะเป็นแพลตฟอร์มที่ร่วมสร้างสีสันและความสนุกให้กับผู้เข้าร่วมงาน พร้อมกับเชื่อมโยงธุรกิจวงการอุตสาหกรรมสวนสนุกและสถานที่ท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง”
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หนุนใช้เทคโนโลยี เสริมการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ CRM (Customer Relationship Management) เปิดตัว Loyalty Program ส่งมอบสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่าให้กับผู้จัดงานทั่วโลก หลากหลาย และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งห้องพักจากโรงแรมพันธมิตร สื่อดิจิทัล และบัตรกำนัลการใช้บริการ และร้านอาหาร ภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ ฯลฯ สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเดิม เสริมความโดดเด่นให้แบรนด์แตกต่าง เพื่อสร้างการบอกต่อ และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่
Loyalty Program ของศูนย์ฯ สิริกิติ์ เป็นระบบที่ดำเนินการผ่านระบบเว็บไซต์พอร์ทัลมีความสะดวก และปลอดภัยต่อการใช้งาน มีการเก็บข้อมูลสมาชิกอย่างเป็นระบบ สามารถตรวจสอบยอดซื้อ คะแนน และระดับสมาชิกแบบเรียลไทม์ได้ผ่านทางเว็บไซต์พอร์ทัล รองรับทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดยสมาชิกสามารถนำคะแนนไปแลกสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้ทันที และไม่จำกัดการแลกใช้คะแนน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลในระดับสูง โดยสมาชิกสามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้หลากหลาย ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์
สุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “หลังจากศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2022 เราได้สร้างการรับรู้ถึงศักยภาพในการรองรับการจัดงานในทุกรูปแบบ ทุกสเกล และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า ทั้งชาวไทย และต่างประเทศที่เข้ามาจัดงานทั้งระดับชาติ และนานาชาติ เป็นจำนวนมาก วันนี้เราจึงต้องการแสดงความขอบคุณ และเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ได้ให้ความไว้วางใจ โดยได้นำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมต่อกับลูกค้า ด้วยระบบสะสมคะแนนที่มอบสิทธิพิเศษหลากหลาย และเพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้าที่เลือก ศูนย์ฯ สิริกิติ์ เป็นสถานที่จัดงานครั้งต่อไป”
“เพราะลูกค้าคือคนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า เราจึงคำนึงถึงเส้นทางการเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) เป็นอย่างมาก การนำระบบ Loyalty Program มาใช้ เป็นการช่วยเติมเต็ม Customer Journey ให้ครบสมบูรณ์ โดยเมื่อลูกค้าได้เข้ามาจัดงานที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้รับความประทับใจและสัมผัสถึงความแตกต่าง ก็จะเกิดความจงรักภักดี ในแบรนด์ (Brand Loyalty) และนำไปสู่การกลับมาใช้บริการซ้ำ การได้รับสิทธิประโยชน์จาก Loyalty Program นี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ และประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งจะช่วยรักษาฐานลูกค้าประจำและเกิดการบอกต่อ เป็นการช่วยสร้างลูกค้าใหม่ได้โดยปริยาย” สุรพล กล่าวเสริม
Loyalty Program เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทาง CRM ที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ให้ความสำคัญ และยังคงเดินหน้าพัฒนาต่อยอดสร้างความหลากหลายของสิทธิพิเศษ และมองหาพันธมิตรเข้ามาเสริมบริการ พร้อมเปิดรับฟังความต้องการ และข้อเสนอแนะ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ และมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร ภาคเอกชน และเครือข่ายเพื่อความยั่งยืน นำโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และวันแบงค็อก เพื่อมอบ “สุขแรก” เป็นของขวัญสุดพิเศษให้คนกรุงเทพฯ รับวัน “ศุกร์แรก” ของปีใหม่ ด้วยเทศกาล “กรุงเทพ ดีต่อใจ” ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนกรุงเทพฯ ได้สุขใจ สุขกายไปกับ 11 กิจกรรมตลอดทั้ง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-7 มกราคม 2567 ณ สวนเบญจกิติ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เทศกาล “กรุงเทพ ดีต่อใจ” จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์ในการต่อยอดเครือข่ายพันธมิตร ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนของคนเมือง พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยวในกทม. ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนทุกเพศทุกวัยที่สนับสนุนการใช้ชีวิตเชื่อม “เมือง-สวน-ป่า-น้ำ” กับ “เยาวชน-ชุมชน และคนกรุงเทพฯ” ให้มาใช้ชีวิตบนพื้นที่สาธารณะอย่าง “สวนเบญจกิติ”
สุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “สำหรับงาน “กรุงเทพ ดีต่อใจ” นับว่าเป็นการร่วมมือกันของหลายภาคส่วน เพื่อมอบ “สุขแรก” ให้กับคนกรุงเทพฯ ได้มาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ บนพื้นที่สาธารณะอย่าง “สวนเบญจกิติ” ซึ่งเราจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังจากได้รับเสียงตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างดี ซึ่งในปีนี้ยังมีกิจกรรมดีๆ และยังเพิ่มกิจกรรมไฮไลต์อีกมากมาย ให้คนกรุงฯ มีสุขภาพกาย และใจที่ดี และใช้ชีวิตในแบบยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ในการเป็นมากกว่า “ศูนย์การประชุม” และเป็นพื้นที่เชื่อมต่อพื้นที่สาธารณะอย่าง “สวนเบญจกิติ” เพื่อให้ประชาชน และชุมชนโดยรอบได้เข้ามาใช้ชีวิตในแบบแอคทีฟไลฟ์สไตล์”
สุขกาย-สุขใจกับกิจกรรม “กรุงเทพ ดีต่อใจ” ประกอบไปด้วย
สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรม “กรุงเทพ ดีต่อใจ รับปีใหม่ 2567” ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 5-7 มกราคม 2567 ที่สวนเบญจกิติ ฝั่งเชื่อมต่อศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 3 หรือ รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก ทางออก 4)
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สานต่อบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ส่งต่อคุณค่าขยะอินทรีย์อบแห้งกว่า 10,000 กิโลกรัม สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
การส่งมอบขยะอินทรีย์อบแห้งในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทางศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ สส. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการขยะ ตั้งแต่ต้นทางด้วยการนำขยะอินทรีย์อบแห้งภายในพื้นที่ของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ผ่านกระบวนการแปรรูปแล้วนำไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัย และส่งเสริมการเผยแพร่องค์ความรู้ให้กับวิสาหกิจชุมชน เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
ม.ร.ว.สวัสดิวุฒิ สวัสดิวัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จํากัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “ศูนย์ฯ สิริกิติ์ มีความยินดีที่ได้สานต่อข้อตกลงร่วมกับ สส. ในการส่งเสริม และสนับสนุนการจัดการขยะอาหารจากการจัดอิเวนต์ โดยการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้สร้างคุณค่าให้กับเศษอาหาร โดยนำกลับมาหมุนเวียน ทำเป็นขยะอินทรีย์อบแห้ง ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งต่อสู่ชุมชนในการนำไปเลี้ยงหนอนแมลงวันลาย เพื่อกำจัดขยะอินทรีย์ ทำเป็นปุ๋ยสำหรับปลูกต้นไม้ และพืชผัก และยังสร้างรายได้ให้กับชุมชนควบคู่ไปกับการช่วยลดก๊าซเรือนกระจก อันเนื่องมาจากขยะ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมต่อไป”
ระยะ 1 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้นำขยะอาหารมาแปรรูปด้วยการอบแห้ง เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับวิสาหกิจชุมชน ซึ่งศูนย์ฯ สิริกิติ์สามารถส่งต่อขยะอบแห้งให้กับสส. และวิสาหกิจชุมชนกว่า 10,000 กิโลกรัม ทำให้เกิดการหมุนเวียน และลดของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จนนำไปสู่การไม่มีของเสีย เป็นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้กับวิสาหกิจชุมชน รวมถึงยังช่วยลดขยะอาหารของศูนย์ฯ สิริกิติ์ได้ถึง 55,797 กิโลกรัม เทียบเท่าการปลูกต้นไม้มากกว่า 15,686 ต้นต่อปี และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 141,174 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี (kgCO2e/yr)
ปัญญา วรเพชรายุทธ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “ทางกรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายขององค์กรสหประชาชาติที่กำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ว่าด้วยเรื่องของขยะอาหารที่ขอให้แต่ละประเทศร่วมกันลดปริมาณขยะอาหารลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่กรมฯ และศูนย์ฯ สิริกิติ์ได้ดำเนินความร่วมมือสอดรับกับนโยบายของ UN ในการลดขยะอาหารเพื่อลดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นหนึ่งในการดำเนินงานที่นำไปสู่ความสำเร็จในเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
ศูนย์ฯ สิริกิติ์ในฐานะผู้นำอิเวนต์ด้านความยั่งยืน ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าสู่การเป็นสถานที่จัดงานที่คำนึงถึงชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม และพร้อมผลักดันธุรกิจอิเวนต์ของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เดินหน้าตอกย้ำ การเป็น “ศูนย์ฯ ประชุม สีเขียว” จับมือเอไอเอส (AIS) สนับสนุนการจัดการขยะ E-Waste อย่างถูกวิธี ตั้งจุดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ พร้อมชวนคนไทยยุคดิจิทัล กำจัดขยะอย่างถูกวิธี เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน และรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ศูนย์ฯ สิริกิติ์ เป็นศูนย์การประชุมแห่งแรกในประเทศไทยที่เข้าร่วมโครงการ ‘คนไทย ไร้ E-Waste’ กับ AIS เพื่อแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ออกจากขยะประเภทอื่นๆ และส่งต่อไปยังหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี โดยเปิดจุดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น LG
สุทธิชัย บัณฑิตวรภูมิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “ทางศูนย์ฯ สิริกิติ์ มีความยินดีที่ได้เข้าร่วมโครงการ ‘คนไทยไร้ E-Waste’ กับ AIS ซึ่งเป็นโครงการ ที่ให้ความสำคัญกับการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี สอดรับกับพันธกิจหลัก ของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการรักษาสิ่งแวดล้อม และพัฒนาชุมชน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยผู้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ หรือชุมชนใกล้เคียง สามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต สายชาร์จ หูฟัง แบตเตอรี่มือถือ มาทิ้ง ได้ที่จุดรับขยะภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ นอกจากนั้นเรายังได้จัดวางถังแยกขยะประเภทต่างๆ เพื่อให้ผู้มาใช้บริการภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้รับความสะดวก และง่ายต่อการทิ้งขยะอย่างถูกวิธี ซึ่งขยะที่ผ่านการคัดแยกจะเข้าสู่กระบวนการ Recycle และ Upcycle เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติ ตามระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนโดยจัดสรรให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์ มากที่สุด”
สายชล ทรัพย์มากอุดม รักษาการหัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์ และธุรกิจสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า “AIS ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาเครือข่ายสื่อสารอัจฉริยะให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีหลักของประเทศแล้ว เรายังวางนโยบายในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม ที่วันนี้ AIS เดินหน้าสร้าง Ecosystem ในการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้โครงการ ‘คนไทยไร้ E-Waste’ ตั้งแต่การสร้างองค์ความรู้ให้คนไทยตระหนักถึงปัญหา สร้างกระบวนการจัดเก็บเพื่อให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลแบบ Zero Landfill ตามมาตรฐานสากล ผ่านการสร้างการมีส่วนร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย โดยครั้งนี้เราได้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เข้ามาเป็นหนึ่งในเครือข่าย ด้าน Green Partnerships โดยมีเป้าหมายเดียวกันที่ต้องการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน โดยผู้ที่เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ หรือมาเข้าร่วมงานประชุม งานแสดงสินค้า หรืองานแฟร์ต่างๆ สามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ มาทิ้งได้ที่จุดรับขยะภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ เพื่อจะได้รวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป”
เพราะความยั่งยืนคือพันธกิจหลัก ศูนย์ฯ สิริกิติ์ จึงให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบอาคาร ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้เพื่อประหยัดพลังงาน การควบคุมมลพิษ การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดภูมิทัศน์ที่ช่วยเชื่อมโยงอาคารเข้ากับพื้นที่สีเขียวของสวนเบญจกิติ และการจัดพื้นที่ส่วนกลางเพื่อจัดกิจกรรมสันทนาการ การร่วมมือ ในโครงการ ‘คนไทยไร้ E-Waste’ กับ AIS ในครั้งนี้ จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนของศูนย์ฯ สิริกิติ์ อย่างแท้จริง”
นายสุทธิชัย บัณฑิตวรภูมิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (ซ้าย) เดินหน้าตอกย้ำ การเป็น “ศูนย์ฯ ประชุม สีเขียว” จับมือ นางสายชล ทรัพย์มากอุดม รักษาการหัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์ และธุรกิจสัมพันธ์ เอไอเอส (ขวา) เข้าร่วมโครงการ ‘คนไทยไร้ E-Waste’ ตั้งจุดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ พร้อมชวนคนไทยยุคดิจิทัล กำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน และรักษาสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน