November 05, 2024
×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 6855

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 7636

บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมประกันสุขภาพ เปิดตัวบริการล่าสุด เพิ่มช่องทาง "พบแพทย์ออนไลน์" ผ่านแอปพลิเคชัน "MorDee” (หมอดี) เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของลูกค้าให้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ไร้กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย โดยให้บริการครอบคลุม ดังนี้

- พบแพทย์ออนไลน์ ปรึกษาสุขภาพกายได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านสมาร์ทโฟน

- ลูกค้าประกันกลุ่มที่มีความคุ้มครอง OPD เคลมประกันได้ทันที ไม่ต้องสำรองจ่าย ทั้งค่าแพทย์ ค่ายา ตามวงเงินผลประโยชน์

- บริการส่งยาถึงบ้านหรือสถานที่ที่ลูกค้าต้องการทั่วประเทศ (พิเศษ! ฟรีค่าจัดส่งยา ตามเงื่อนไขและระยะเวลาตามที่แอปฯ "MorDee” (หมอดี) กำหนด)

 

นายทาคาชิ ไซโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ภารกิจของเราคือการคุ้มครอง ดูแลลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต ความร่วมมือกับ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ในการเพิ่มช่องทางดูแลสุขภาพผ่านแอปพลิเคชัน 'MorDee' (หมอดี) ครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนให้ลูกค้าของเราใช้ชีวิตได้อย่างยืดหยุ่นและมั่นใจมากขึ้นในยุคดิจิทัล"

ด้วยบริการใหม่นี้ ลูกค้าประกันกลุ่มของโตเกียวมารีนประกันชีวิตสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศไทย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันที่ต้องการความคล่องตัวและการดูแลสุขภาพที่ทันสมัย

นายชาง ฟู หัวหน้าสายงานด้านดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป พัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ “MorDee” (หมอดี) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั่วประเทศ ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ (Telemedicine) และดูแลสุขภาพแบบองค์รวมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง พร้อมขยายความร่วมมือกับบริษัทประกันชั้นนำ เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่มีกรมธรรม์ประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ให้ปรึกษาปัญหาสุขภาพได้ทุกที่ ทุกเวลา บนทุกสมาร์ทดีไวซ์ รักษา รับยา เคลมประกันได้ในแอปฯเดียว ผ่านฟังก์ชัน “เทเลเมดิเคลม” (TeleMediClaim+) โดยภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ “MorDee” (หมอดี) นำทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากสถาบันการแพทย์ชั้นนำกว่า 500 คน ช่วยดูแลสุขภาพของลูกค้าประกันกลุ่มของโตเกียวมารีนประกันชีวิต ครอบคลุมกว่า 20 สาขา พบแพทย์ออนไลน์ ปรึกษาปัญหาสุขภาพกายได้แบบส่วนตัว ไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่าย พร้อมบริการส่งยาถึงบ้าน ช่วยประหยัดเวลาและลดความแออัดในโรงพยาบาล ทั้งยังสามารถดูประวัติการรักษาผ่านแอปฯ และมั่นใจได้ในความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล”

 

ลูกค้าประกันกลุ่มของโตเกียวมารีนประกันชีวิต สามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์-รักษา-รับยา-เคลมประกัน ผ่านแอปฯ “MorDee” (หมอดี) ได้แล้ววันนี้ โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ในการดาวน์โหลดและเริ่มต้นใช้งานแอปฯ MorDee (หมอดี) ดังนี้

1. ดาวน์โหลดแอปฯ MorDee ทาง Apps Store/Play Store หรือคลิก https://mordee.app.link/7me4in9appb แล้วลงทะเบียน เพื่อเริ่มต้นใช้งาน

2. เชื่อมสิทธิ์ประกัน โดยเลือกเมนู เชื่อมสิทธิพิเศษ แล้วกด เพิ่มสิทธิพิเศษ จากนั้นเลือก โตเกียวมารีนประกันชีวิต แล้วกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย

3. ยืนยันตัวตน โดยถ่ายภาพหน้าตรง และภาพบัตรประชาชน/พาสสปอร์ต

ขั้นตอนการใช้บริการพบแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปฯ MorDee (หมอดี) ดังนี้

1. ค้นหาแผนก โดยเลือกเมนู หน้าแรก กดแถบค้นหา แล้วเลือกแผนกหรืออาการที่ต้องการปรึกษา

2. เลือกแพทย์ โดยเลือกจากรายชื่อแพทย์ที่มีโลโก้ โตเกียวมารีนประกันชีวิต

3. ทำนัดหมาย โดยเลือกวันและเวลา เลือกรูปแบบการปรึกษาเป็นวิดีโอคอล เพื่อให้สามารถใช้สิทธิ์ประกันได้

4. เคลมประกัน ในขั้นตอนชำระเงิน โดยให้กดเลือก การชำระเงิน/สิทธิพิเศษ แล้วเลือก โตเกียวมารีนประกันชีวิต เพื่อใช้บริการได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย

5. ปรึกษา รับยา โดยให้เข้าห้องสนทนาในแอปฯ เพื่อทำการปรึกษาแพทย์เมื่อถึงเวลานัดหมาย จากนั้นรอแพทย์ส่งสรุปผลการปรึกษา พร้อมใบสั่งยา (ถ้ามี) โดยสามารถสั่งซื้อยา โดยการเคลมประกัน แล้วรอรับยาที่บ้านได้

 

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (TIP) จับมือนายอัลวิน จี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM)

มีคนขับแท็กซี่นับหลายหมื่นรายที่หันมาใช้แอปพลิเคชันเรียกรถเพื่อรับผู้โดยสารในปัจจุบัน เนื่องจากเห็นถึงประโยชน์ในด้านต่าง ๆ และพร้อมปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หนึ่งในนั้นคือ จิรภัทร โสภาลัย ประธานเครือข่ายชมรมผู้ขับแท็กซี่ 4.0 และ กมลาสน์ กุลบันลือพิชญ์ ประธานชมรมแท็กซี่ไทยพัฒนา

1. เพิ่มช่องทางในการหารายได้

  

นายจิรภัทร โสภาลัย ประธานเครือข่ายชมรมผู้ขับแท็กซี่ 4.0 กล่าวว่า “แต่ก่อนเราต้องขับรถไปเรื่อย ๆ รอให้ผู้โดยสารเรียก ทำให้สิ้นเปลืองต้นทุนค่าแก๊ส ค่าน้ำ

มัน รายได้ในแต่ละวันก็ไม่แน่นอน แต่ปัจจุบันพอมีเทคโนโลยีเข้ามา การใช้แอปเรียกรถทำให้คนขับแท็กซี่อย่างเรามีช่องทางในการหารายได้เพิ่มมากขึ้น สามารถเลือกไปในพื้นที่ที่มีลูกค้าอยู่หนาแน่นได้ เพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะกดเรียก จากที่สอบถามเพื่อน ๆ สมาชิกในเครือข่ายที่ใช้แอปเรียกรถ 

 2. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีหรือผู้ให้บริการแอปพลิเคชันต่างให้ความสำคัญกับการลงทุนและการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการและความปลอดภัย ซึ่งไม่เพียงจะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ แต่ยังทำให้คนขับทำงานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence) มาช่วยจับคู่ตำแหน่งของคนขับกับจุดหมายปลายทางของผู้โดยสาร ทำให้คนขับแท็กซี่ทราบจุดรับ-ส่งล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดปัญหาการโบกแล้วไม่จอดรับหรือการปฏิเสธผู้โดยสารอย่างเป็นรูปธรรม หรือการนำระบบจีพีเอส (GPS) มาใช้ ซึ่งช่วยแนะนำเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดให้กับคนขับ เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการจราจรติดขัด 

 

3. เพิ่มความอุ่นใจด้านความปลอดภัย

  

ไม่ใช่แค่ผู้โดยสารเท่านั้นที่ต้องการความปลอดภัยในการเดินทาง คนขับแท็กซี่เองก็เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ต้องขับรถไปส่งผู้โดยสารในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย สถานที่เปลี่ยว หรือในเวลาค่ำคืน ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลในด้านสวัสดิภาพความปลอดภัยหรือการก่ออาชญากรรม แต่ประเด็นเหล่านี้หมดไปเมื่อมีแอปเรียกรถซึ่งมีเทคโนโลยีและมาตรฐานด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับคนขับ เนื่องจากผู้ให้บริการแอปพลิเคชันมีเทคโนโลยีการยืนยันตัวตน (Biometric Authentication) ของทั้งคนขับและผู้โดยสาร จึงสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทันทีหากเกิดเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ 

ในกรณีที่มีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ คนขับยังสามารถติดต่อ Call Center ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือในกรณีฉุกเฉินก็มีปุ่ม SOS ให้สามารถติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันที นอกจากนี้ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ แอปเรียกรถอย่างแกร็บยังได้ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล

4. เพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน

         

ประโยชน์อีกประการที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน คือ แอปเรียกรถช่วยให้คนขับแท็กซี่ ซึ่งเป็นกลุ่ม Unbanked หรือผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงินพื้นฐานจากสถาบันการเงินในระบบ อย่างบริการโอนเงิน ชำระเงิน ฝากเงิน และกู้เงิน มีโอกาสเข้าถึงบริการดังกล่าวมากขึ้น เนื่องจากคนขับจะได้รับเอกสารรับรองทางการเงิน จากบริษัทผู้ให้บริการแอป ซึ่งได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงิน ทำให้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการสมัครบริการสินเชื่อเงินสด (Digital lending) ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าการกู้นอกระบบถึง 30 เท่า 

กมลาสน์ กุลบันลือพิชญ์ ประธานชมรมแท็กซี่ไทยพัฒนา กล่าวเสริมว่า "นอกจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากทั้งค่าโดยสาร โบนัส เงินจูงใจและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ แล้ว การใช้แอปเรียกรถทำให้เรามี statement ที่ช่วยรับรองรายได้ของคนขับแท็กซี่ ซึ่งธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ เชื่อถือและให้การยอมรับ ทำให้คนขับหลายคนที่เคยเช่ารถและอยากมีรถเป็นของตัวเองสามารถกู้เงินเพื่อซื้อรถเป็นของตัวเองได้”

 

5. เพิ่มศักยภาพและมาตรฐานการให้บริการ

   

การเข้ามาของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ๆ อย่างแอปเรียกรถทำให้คนขับแท็กซี่ต้องปรับตัวเพื่อพัฒนาความเข้าใจและศักยภาพเพื่อให้สามารถก้าวทันยุคดิจิทัลและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ถือเป็นโอกาสในการเรียนรู้และฝึกฝนพัฒนาตนเอง โดยแอปเรียกรถอย่างแกร็บยังมีการจัดอบรมต่าง ๆ ให้กับคนขับอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการให้บริการ การขับขี่ปลอดภัย การดูแลสภาพรถยนต์ หรือแม้แต่คอร์สภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดหลักปฏิบัติและจรรยาบรรณของคนขับ รวมทั้งมีระบบควบคุมคุณภาพการให้บริการของคนขับแบบเรียลไทม์

X

Right Click

No right click