December 23, 2024

แม้วันนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ในหลายจังหวัดจะเริ่มคลี่คลาย ปริมาณน้ำที่เคยท่วมสูงเริ่มลดลง พี่น้องประชาชนกลับเข้าบ้านเรือนได้ แต่เรื่องอาหารการกินยังคงไม่เพียงพอในหลายพื้นที่ เรื่องนี้ CP – CPF และบริษัทในเครือฯ ยังคงเดินหน้าช่วยสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์กรอาสาต่างๆอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ 'CP-CPF ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม'

วันนี้ CPF มอบไก่สด ไข่ไก่ ไก่พร้อมปรุงและไก่จ๊อจากธุรกิจห้าดาว เพื่อสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ในการผนึกกำลังร่วมกับจังหวัดพัทลุง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดพัทลุง โดยมี นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และนายสัจรินทร์ ศรีเสน  ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุง และเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุง ร่วมรับมอบ ณ โรงครัวเคลื่อนที่ วัดสะทัง อำเภอเขาชัยสน จ.พัทลุง 

 

ด้านจังหวัดสงขลา นางสาวภัชรินทร์ ภู่เยี่ยม นำทีมงานจิตอาสา CPF ธุรกิจสัตว์น้ำภาคใต้ ร่วมกันส่งมอบไข่ไก่ แก่ นายนพดล สุระสังวาลย์ นายอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เพื่อสนับสนุนโรงครัวกลางชะแล้ ต. ชะแล้ อ.สิงหนคร 

“จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก เราจึงเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สำหรับเรื่องอาหารได้รับการสนับสนุนจาก CPF โดยทีมจิตอาสาจากฟาร์มลูกกุ้งสิงหนคร ฟาร์มอนุบาลลูกกุ้งศรีระโนด และฟาร์มเลี้ยงกุ้งระโนด ร่วมกันนำน้ำดื่ม ข้าวสาร สำหรับจัดทำถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายประชาชนในเบื้องต้น และล่าสุดมอบไข่ไก่แก่โรงครัวกลางฯ เพื่อประกอบเป็นอาหารปรุงสุกสดใหม่มอบถึงมือผู้ประสบอุทกภัย ขอขอบคุณ CP และ CPF ที่เป็นหน่วยงานแรกๆที่เข้ามาช่วยเหลือชาวสิงหนครและชาวใต้ให้ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน” นายอำเภอสิงหนคร กล่าว

นอกจากนี้ บริษัท ยังส่งมอบเนื้อไก่สดและไข่ไก่สด แก่ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อสนับสนุนการจัดทำโรงครัว ทำอาหาร และน้ำดื่ม สำหรับมอบให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวสงขลา

 

ทางด้าน ทีมงานจิตอาสา โรงงานแปรรูปไก่สงขลา อ.จะนะ มอบไก่สดแก่ครัวกลางมัสยิดเกาะแต้ว ที่ได้ระดมทุนจัดทำข้าวกล่องประมาณ 650 กล่อง ส่งมอบถึงมือพี่น้องผู้ประสบภัยใน ต.สะกอม อ.จะนะ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนเนื้อไก่ ให้แก่ ครัวรัตภูมิ และโรงครัวอาสา ช่วยพี่น้องชาวใต้ โดยมูลนิธิเนชั่น ร่วมกับเครือข่ายช่วยเหลือประชาชนภาคใต้และภาคเอกชน ขณะที่ทีมจิตอาสายังร่วมกับเทศบาลตำบลนาทับ ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงงานฯ ในการแจกจ่ายสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นและถุงยังชีพแก่ชุมชนรอบโรงงาน ส่วนจิตอาสาโดยทีมงานธุรการ CPF ภาคใต้ ยังทำหน้าในการรับไข่ไก่จากคอมเพล็กซ์ไก่ไข่จะนะ เพื่อส่งต่อให้กับ มณฑลทหารบกที่ 46 (ค่ายอิงคยุทธบริหาร) 

จุรี ยูทูบเบอร์ดังของภาคใต้ที่เป็นเครือข่ายความดีซึ่งได้ร่วมช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้มาตั้งแต่ต้น ขอเป็นตัวแทนพี่ของน้องชาวจะนะ เทพา สะบ้าย้อย รวมถึงพี่น้องในสามจังหวัดชายแดน ขอขอบคุณ CP - CPF ที่ได้ช่วยเหลือชาวชุมชนทุกคนอย่างรวดเร็ว การมอบผลิตภัณฑ์กุ้ง CP ซึ่งเป็นอาหารฮาลาลที่ชาวมุสลิมรับประทานได้ ผ่านครัวกลางอำเภอจะนะ ช่วยให้อาหารของเราเข้าถึงชุมชน และบริษัทยังเดินหน้าช่วยในหลายพื้นที่ช่วยคลายความเดือดร้อนแก่ชาวใต้ได้เป็นอย่างดี

ด้าน นายมนตรี ฤทธิจอม ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทนนายอำเภอระโนด กล่าวว่า แม้ขณะนี้ปริมาณน้ำฝนจะลดลงไปมากแล้วก็ตาม หากแต่พื้นที่ตำบลบ้านขาวเป็นพื้นที่รับนำจากทางเทือกเขาบรรทัดทั้งหมด ซึ่งปกติน้ำส่วนนี้ต้องระบายออกในฝั่งอ่าวไทย แต่ขณะนี้ไม่สามารถระบายออกได้สะดวก ทำให้พื้นที่จุดนี้กลายเป็นพื้นที่รับน้ำทั้งหมด จึงเกิดน้ำท่วมขัง ขอขอบคุณ CP-CPF ที่ได้มอบผลิตภัณฑ์อาหารสด ทั้งเนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ และน้ำดื่ม สนับสนุนโรงครัวระโนด ในการทำอาหารพร้อมทานสำหรับชาวชุมชนทุกคน ทางด้าน นายสุนทร ช่วยแท่น กำนันต.บ้านขาว อ.ระโนด กล่าวเสริมว่า ภาวะน้ำท่วมขังส่งผลต่อการเดินทางเข้าออกของประชาชนยังยากลำบาก วันนี้ได้ร่วมกับส่วนจังหวัด หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น CP-CPF มาร่วมกันแจกของใช้จำเป็นและจัดทำโรงครัวช่วยเหลือเบื้องต้น ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญกับความเดือนร้อนของน้องชาวใต้ ด้าน นางณิชกานต์ สันหนู สารวัตรกำนันตำบลบ้านขาว อ.ระโนด กล่าวว่า ตำบลบ้านขาว หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 6 ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมถึง 80% เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำและอยู่ติดกับทะเลสาบสงขลา ได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนสูง ปัจจุบันได้ตั้งโรงครัวมาเป็นวันที่ 3 แล้ว โดยจัดทำข้าวกล่องแจกจ่าย วันละประมาณ 600 กล่อง ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านอาหารสดจาก CP-CPF เป็นอย่างดี

 

โครงการ ‘CP-CPF ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม’ จากนโยบาย “ซีพีเอฟพร้อมให้การสนับสนุนโรงครัวภาคใต้ 100 โรงครัว” ของนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร CPF จะยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อให้พี่น้องชาวใต้ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ นำสินค้าคุณภาพชั้นดี ภายใต้แบรนด์ CP อย่าง 'สันคอหมูซีพีคูโรบูตะ' และ 'อกไก่เบญจา' แบรนด์ U FARM มารังสรรค์ด้วยผลิตภัณฑ์ผงปรุงรสชั้นเลิศ อร่อยเข้มข้นจากโลโบ  กลายเป็น 2 เมนูสุดพิเศษ เสิร์ฟเฉพาะในร้านอาหารถูกและดี ภายใต้ฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาเก็ตเท่านั้น! ด้วยความโดดเด่นแต่ละด้าน จึงรวมตัวพัฒนามื้ออร่อยให้คนไทยได้รับประทานอาหารอย่างมีความสุข ไปพร้อมๆ กับการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ใน

 

เริ่มที่ 'สันคอหมูคูโรบูตะคลุกฝุ่น' นำเนื้อสันคอของหมูซีพีคูโรบูตะ เกรดพรีเมียม ให้สัมผัสนุ่มฉ่ำมากกว่าเนื้อหมูทั่วไป มาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรสลาบจัดเต็ม รสชาติแซ่บซี๊ด ถึงเครื่องตำหรับอาหารอีสาน จากนั้นจี่ในกระทะร้อนๆ หอมโชยกลิ่นข้าวคั่ว เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และน้ำซุป ในราคา 149 บาท

 

ถัดมาที่ 'สปาเก็ตตี้อกไก่เบญจากรอบสไปซี่ ราดซอสคองกาเซ่' เนื้ออกไก่เบญจานุ่มฉ่ำ อุดมด้วยโอเมก้า 3 จากธรรมชาติ ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ 100% ตลอดการเลี้ยงดู ได้การรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในการเลี้ยงจาก NSF มาชุปแป้งทอดปรุงรสด้วยผลหมักไก่สไปซี่บิ๊กวิงก์ที่มีรสเผ็ดแซ่บจากปาปิก้า เสิร์ฟคู่กับสปาเก็ตตี้และซอสคองกาเซ่ที่อร่อย ส่งกลิ่นหอมพริกไทยดำสูตรลับเฉพาะของร้านถูกและดี ราคาจานละ 129 บาท ซึ่งทั้ง 2 เมนู วางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่ร้านถูกและดี ฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาเก็ต ทุกสาขาทั่วประเทศ

ใครที่ติดใจความอร่อยของ 2 เมนูดังกล่าว สามารถพกความอร่อยของซีพีเอฟที่จำหน่ายในฟู้ดแลนด์ซูเปอร์มาเก็ตกลับไปต่อยอดเป็นเมนูคู่ครัวได้อีกด้วย อย่าง หมูซีพีคูโรบูตะ สเต็กสันคอหมักพริกไทยดำ เนื้อส่วนพรีเมียมที่มีไขมันแรกลายสวย หมักด้วยซอสพริกไทยดำเข้มข้นจนเข้าเนื้อ รสชาติเผ็ดนิดๆ รับรองว่า ถูกใจสายเน้นโปรตีนอย่างแน่นอน นอกจานี้ยังมีผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอื่นๆ ที่พร้อมให้เลือกสรรอีกมากมาย รวมถึงผงปรุงรสต่างๆ จากโลโบ ที่จะมาช่วยเติมเต็มความอร่อยให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

 

ซีพีเอฟ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อส่งมอบวัตถุดิบ ตลอดจนอาหารคุณภาพปลอดภัยได้มาตรฐานสูงสุด โดยสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่ พร้อมทั้งสร้างสรรค์แคมเปญ ตลอดจนกิจกรรมความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มทุกวัย

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าสนับสนุนการสร้างงานที่มีคุณค่าสำหรับกลุ่มคนเปราะบาง รวมถึงกลุ่มคนพิการ ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและแตกต่าง มีการปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ปัจจุบัน ซีพีเอฟจัดจ้างพนักงานคนพิการ 806 คน ทำงานในสถานประกอบการ ในชุมชน และเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลวีลแชร์ทีมชาติ

นางณฐอร อินทร์ดีศรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่เยี่ยมการทำงานของพนักงานพิการ 2 คนที่ปฏิบัติงานที่ร้านเชสเตอร์ สาขาสยามสแควร์ ธุรกิจร้านอาหารในกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) โดยมีคุณพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือซีพี-ซีพีเอฟ และ คุณลลนา บุญงามศรี  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชสเตอร์ฟู้ด จำกัด ให้การต้อนรับ กิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าสถานประกอบการร้านเชสเตอร์ปฏิบัติต่อพนักงานคนพิการอย่างเท่าเทียม และมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้คนพิการและครอบครัว

นางณฐอร กล่าวว่า กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ​สนับสนุนนายจ้างและองค์กรให้โอกาสจ้างงานคนพิการทำงานในสถานประกอบการ ซึ่งนอกจากช่วยคนพิการมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยพัฒนาทักษะความรู้ของกลุ่มคนเปราะบางตอบรับความต้องการของตลาดแรงงาน และการที่กรมฯ เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของคนพิการที่ร้านเชสเตอร์ สาขาสยามสแควร์ เป็นการสร้างความมั่นใจว่า คนพิการได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม สร้างโอกาสให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และตอกย้ำว่า คนพิการเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพและเป็นกำลังสำคัญของสถานประกอบการ ร้านเชสเตอร์ สาขาสยามสแควร์ เป็นหนึ่งในสถานประกอบการมากกว่า 14,000 แห่งของไทยที่เป็นต้นแบบสถานประกอบการที่สนับสนุนให้โอกาสคนพิการได้ทำงานหาเลี้ยงชีพตนเอง และที่สำคัญทำให้เกิดภาคภูมิใจในตนเอง มีกำลังใจในการทำงาน สามารถยืนหยัดอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม เห็นคุณค่าของคนพิการในสังคมมากขึ้น

ด้าน นางสาวพิมลรัตน์  กล่าวว่า ซีพีเอฟมีความร่วมมือกับกระทรวงพม.หลายมิติ การจัดจ้างคนพิการ ลดความเหลื่อมล้ำของคนพิการผ่านการสร้างงาน สร้างอาชีพ สนับสนุนให้คนพิการและครอบครัวมีความมั่นคงในชีวิต สามารถพึ่งพาตนเองได้ อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างมีความสุข และภาคภูมิใจ สอดคล้องกับ

หลักปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนของเครือซีพี ที่บริษัทยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท จากการสนับสนุนการจัดจ้างงานคนพิการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ บริษัท ได้รับการยกย่องเป็นองค์กรต้นแบบความยั่งยืนในตลาดทุนไทยด้านสนับสนุนคนพิการ และรับรางวัลองค์กรที่ “รางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการระดับดีเยี่ยม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7

ปัจจุบัน ซีพีเอฟ จัดจ้างคนพิการได้มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงรวม 806 คน ซึงเป็นจำนวนการจ้างงานที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด โดยแบ่งเป็นการจัดจ้างคนพิการ 3 รูปแบบ ประกอบด้วย รูปแบบแรก การจ้างงานทำงานในสถานประกอบการของซีพีเอฟ 210 คน  รูปแบบที่สอง การจ้างงานทำงานให้ชุมชนที่คนพิการอาศัยอยู่ เช่น โรงเรียน วัด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ทำงานเป็นผู้ช่วยงานโครงการ​ “เลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน”​ รวม 580 คน และรูปแบบที่สาม การให้สัมปทานพื้นที่คนพิการขายของในโรงงาน 1 คน รวมทั้งสนับสนุนนักกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอลทีมชาติไทย 15 คน

สำหรับ บริษัท เชสเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจร้านอาหารเชสเตอร์ มีการจัดจ้างคนพิการ 17 คน และทำงานอยู่ที่ร้านเชสเตอร์ 3 คน และจัดจ้างให้ทำงานในชุมชนอีก 14 คน

นางสาวสุกัญญา “อีฟ” บุตรโคตร  พนักงานคนพิการทางการเคลื่อนไหว เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ ต้องใส่เท้าเทียม เล่าว่า ตนเองมาทำงานที่เชสเตอร์สาขาสยามสแควร์นาน 7 ปี ทำหน้าที่อยู่ในครัวเป็นพนักงานปรุงอาหาร ที่เชสเตอร์เป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2   มีเพื่อนร่วมงานที่ดี ผู้จัดการดีคอยให้กำลังใจ  และให้โอกาสทุกอย่าง มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว ตนเองยังได้รับการพัฒนาทักษะความสามารถปรับตำแหน่งและเงินเดือนมาตลอด ช่วยให้ตนและครอบครัวเข้าถึงสิทธิต่างๆ  ที่สำคัญสามารถสนับสนุนให้ลูกได้เรียนหนังสือ

นายอธิวัฒน์ ​“ท๊อป”  เดชะมาก เป็นพนักงานพิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ กล่าวว่า สมัครทำงานกับร้านเชสเตอร์ สาขาสยามสแควร์  มีหน้าที่เก็บโต๊ะ เก็บจาน ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ทำงานอยู่กับเชสเตอร์ ได้ทำงานอย่างมีความสุข หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานเข้าใจ คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำตลอดเวลา สำหรับรายได้ทั้งหมดที่ได้รับจะมอบให้แม่ทั้งหมดเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายของที่บ้าน

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โดยแบรนด์ CP และ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven จับมือกับพันธมิตร You&I Premium Suki Buffet ร้านสุกี้พรีเมียม สู่ตลาดอาหารพร้อมทาน เปิดตัว “เกี๊ยวกุ้งทรัฟเฟิลซุปน้ำดำ CP x You&I” สร้างประสบการณ์ความอร่อยระดับพรีเมียม สะดวกและรวดเร็ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบอาหารที่ใช้เวลาเตรียมน้อย แต่ยังคงคุณภาพและรสชาติเหมือนรับประทานที่ร้าน โดยมี นางศุภรา ศรีบูรณ์ ผู้อำนวยการ ธุรกิจการค้าในประเทศ นายเมธี เจริญสุวรรณ รองผู้อำนวยการขาย และนางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดกลาง ซีพีเอฟ พร้อมด้วย นายทัพพ์เทพ จีระอดิศวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพี ออลล์ นางสาวยุพิน ชัยวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางสาวปาณญา ศรีโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ยู แอนด์ ไอ กรุ๊ป จำกัด ร่วมงาน

จุดเริ่มต้นของ “เกี๊ยวกุ้งทรัฟเฟิลซุปน้ำดำ CP x You&I”  เป็นความร่วมมือเพื่อให้คนไทยได้อิ่มอร่อยระดับพรีเมียมต้นฉบับของร้าน You&I จึงรังสรรค์เมนู Limited Edition สุดพิเศษ ด้วยการนำวัตถุดิบคุณภาพ 'เกี๊ยวกุ้งจักรพรรดิ ตราซีพี' มาผสานความอร่อยกับซุปน้ำดำสูตรเฉพาะสไตล์ You&I ที่ลือชื่อ กลมกล่อมด้วยกลิ่นหอมของเห็ดทรัฟเฟิล และยังผนวกกับช่องทางการจำหน่ายที่ครอบคลุมอย่างร้าน 7-Eleven ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงง่ายและสะดวกมากขึ้น  

นางศุภรา ศรีบูรณ์ ผู้อำนวยการ ธุรกิจการค้าในประเทศ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้เป็นการผสานจุดแข็งของเครือซีพี-ซีพีเอฟ ตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบคุณภาพ ควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เสริมด้วยศักยภาพของ 7-Eleven ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่มวัย ช่วยสนับสนุน You&I เข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างขวางขึ้น ในรูปแบบของเมนูอาหารพร้อมทาน

 

“You&I เป็นร้านสุกี้ระดับพรีเมียมที่มาพร้อมน้ำซุปเลื่องชื่อให้เลือกหลายแบบ เสิร์ฟพร้อมวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ซึ่งความร่วมมือกับซีพีเอฟ เป็นการผนวกความพรีเมียมระหว่างของ น้ำซุปของ You&I จับคู่กับ เกี๊ยวกุ้งจักรพรรดิ ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมแบรนด์ซีพี ที่การันตีด้วยรางวัล Superior Taste Award 2024 นำเสนอประสบการณ์ความอร่อยที่คุ้มค่าให้ชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว” นางศุภรา กล่าว

สำหรับ ความร่วมมือฯ ครั้งนี้ ดำเนินภายใต้แนวคิด 'ลูกค้าสำเร็จ CP สำเร็จ' ของเครือซีพี ผนึกกำลังเพื่อส่งมอบเมนูอาหารคุณภาพแก่ผู้บริโภคได้อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย สามารถลิ้มลองความอร่อยของ 'เกี๊ยวกุ้งทรัฟเฟิลซุปน้ำดำ CP x You&I' ในราคา 69 บาท ได้แล้ววันนี้ ที่ 7-Eleven ทั้ง 6,000 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

การบริหารจัดการทรัพยากร ด้วยการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดของเสียในกระบวนการผลิต ตามหลัก Circular Economy เป็นสิ่งที่หลายภาคส่วนนำไปปรับใช้ในองค์กรของตนเอง CPF เป็นหนึ่งในองค์กรที่มุ่งพัฒนากระบวนการบริหารจัดการของเสียและน้ำเสียที่เกิดจากมูลสัตว์ในฟาร์มเลี้ยงสุกร โรงงานผลิตอาหารสุกร จนถึงโรงงานชำแหละตัดแต่งและแปรรูปสุกร

บุคลากรของธุรกิจสุกร CPF ในประเทศไทย ร่วมกันสร้างสรรค์โครงการ Waste No More สานต่อความยั่งยืน” เพื่อสานต่อการดำเนินธุรกิจที่มีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม ทำให้ทั้งธุรกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน และสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชนรอบด้าน จากความคิดริเริ่มที่บุคลากรทุกคนมองเห็นประโยชน์ของของเสีย แล้วสรรหานวัตกรรมและเทคโนลียีมาปรับเปลี่ยนให้เป็นของดีอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยนำของเสียที่ผ่านกระบวนการบำบัดและกระบวนการเผาไหม้กลับมาใช้ นับเป็นการหาแนวทางเปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นของดี (Weste to Value) เกิดเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพ ทั้ง 4 ดี คือ “เถ้าดี น้ำปุ๋ยดี แก๊สดี กากตะกอนดี”

“เถ้าดี Feed สู่ Farm”  เป็นการเปลี่ยนขี้เถ้าจากเตาเผาชีวมวลในกระบวนการที่ใช้ไอน้ำของโรงงานผลิตอาหารสุกร สู่ขี้เถ้าสำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียแทนการใช้ปูนขาวในฟาร์มสุกรของเกษตรกรโครงการคอนแทรคฟาร์มมิ่ง โดยบริษัททำการทดลองและเก็บตัวอย่าง ส่งตรวจวิเคราะห์ผลกับห้องปฏิบัติการ AHDC และทำการทดลองร่วมกับ สำนักงานกรมโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี กระทั่งได้รับใบอนุญาตให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เป็นเถ้าดีที่ใช้ในฟาร์มต่างๆ ช่วยให้เกษตรกรลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปูนขาวได้ถึงกว่า 3 แสนบาทต่อฟาร์ม/ปี

วิชัย ธนูแก้ว เกษตรกรคอนแทรคฟาร์มมิ่งเลี้ยงสุกร มานานกว่า 20 ปี เล่าว่า เมื่อก่อนใช้ปูนขาวโรยบริเวณหน้าฟาร์ม เวลาใช้มักมีอาการแสบตาแสบมือ เมื่อมีฝนตกก็จะชะล้างปูนขาวหายไปหมด หลังจากใช้เถ้าดีเวลาฝนตกลงมาค่า pH อยู่ประมาณ pH10 ยังคงความเป็นด่างอยู่ จึงมั่นใจในคุณภาพของเถ้าดีที่สามารถป้องกันโรคได้

“น้ำปุ๋ยดี สู่เกษตรกร” จากน้ำบำบัดสู่น้ำปุ๋ยที่สร้างมูลค่าทำให้พืชผลของเกษตรกรออกผลผลิตงดงาม เพราะน้ำปุ๋ยจากฟาร์มช่วยพยุงเมื่อยามน้ำขาดแคลน ลดภาระช่วยทดแทนปุ๋ยเคมี น้ำปุ๋ยนี้ได้จากการบำบัดน้ำเสียด้วยระบบไบโอแก๊ส ได้แก๊สมีเทน แปลงเป็นกระแสไฟฟ้า ทดแทนการซื้อไฟจากการไฟฟ้า เฉลี่ย 50- 70% สามารถบริหารจัดการน้ำนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ในหน่วยงานทั้งหมดโดยไม่ปล่อยสู่ภายนอก (Zero Discharge) ทั้งทำความสะอาดโรงเรือนและอุปกรณ์ ล้างพื้นและถนน เป็นน้ำพ่นระบบฟอกอากาศหลังโรงเรือน ใช้รดน้ำในพื้นที่สีเขียวและพื้นที่การเกษตรของหน่วยงาน อาทิ ผักสวนครัว สวนยาง สวนปาล์ม และสวนป่า ขณะเดียวกัน ในช่วงแล้งเกษตรกรพื้นที่ใกล้เคียง ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและได้ขอนำน้ำปุ๋ยไปใช้ CPF จึงต่อยอดสู่ “โครงการปันน้ำปุ๋ยสู่เกษตรกรและชุมชน” สำหรับรดพืชสวน พืชไร่ ช่วยเกษตรกรผ่านพ้นวิกฤติแล้ง เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ และเป็นแหล่งเรียนรู้สร้างชุมชนที่เข้มแข็ง โครงการนี้ช่วยให้เกษตรกรลดค่าใช้จ่าย ทั้งลดการซื้อน้ำ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และต่อยอดสู่การสร้างศูนย์เรียนรู้ปราชญ์น้ำปุ๋ยที่เชี่ยวชาญการผสมน้ำกับพันธุ์พืชแต่ละชนิด

“แก๊สดี สู่ชุมชน” ฟาร์มสุกรโครงการคอนแทรคฟาร์มเลี้ยงสุกรขุน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งทำระบบไบโอแก๊ส ด้วยบ่อหมักแบบโดมคงที่ (Fixed dome) สามารถนำแก๊สที่ได้ต่อท่อลำเลียงแก๊สให้ชุมชน ในตำบลบ้านด้าย มากกว่า 30 ครัวเรือน การต่อท่อได้งบสนับสนุนครึ่งหนึ่งจากภาครัฐโดย อบต.บ้านด้าย ช่วยลดค่าใช้จ่ายแก๊สหุงต้มแก่ 30 ครัวเรือน ประมาณ 15 ถัง/เดือน วิสาหกิจชุมชนลดได้ 5 ถัง/เดือน แม่ค้าตลาด 4 ถัง/เดือน และโรงเรียนบ้านด้ายต่อยอดความสำเร็จสามารถผลิตแก๊สเองได้แล้ว

จำเริญ สุวรรณศร สมาชิกผู้ใช้แก๊สดีบ้านดงป่าสัก กล่าวว่า แก๊สที่ได้จากการหมักมูลสุกรถูกดึงเข้าสู่ท่อแก๊สหุงต้ม ช่วยลดรายจ่ายครัวเรือน จากเดิมใช้แก๊สหนึ่งถังได้ 1-2 เดือน เมื่อใช้แก๊สถังร่วมกับแก๊สชีวภาพ ถังหนึ่งอยู่ได้ถึง 4-5 เดือน นอกจากนี้ บริษัทยังต่อยอดขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชนและศูนย์ฝึกอาชีพตำบลบ้านด้าย ปันแก๊สดีใช้ต้มไข่เค็มพอกดินจอมปลวก แบรนด์ “ไข่เค็มไอโอดีน” และใช้ทอด “ข้าวเกรียบออร์แกนิคบ้านดงป่าสัก” เพื่อส่งเสริมการสร้างงานสร้างอาชีพชุมชน

 

“กากตะกอนดี สู่เกษตรกร” จากกากตะกอนในระบบไบโอแก๊สของทั้งฟาร์มสุกรและโรงงาน ที่ยังมีจุลินทรีย์ดี มีแร่ธาตุสารอาหารที่พืชต้องการ นำไปตากแห้งกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชั้นดี โดยมีเครือข่ายร่วมพัฒนา ทั้งสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด กรมพัฒนาที่ดิน หน่วยงานบริหารส่วนท้องถิ่น นักวิชาการเกษตร CPF และ CPP เพื่อส่งมอบปุ๋ยกากตะกอนให้เกษตรกรรอบหน่วยงาน รวมถึงโครงการผักปลอดภัยชุมชนบ้านด้าย ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ โครงการในพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ ขณะเดียวกัน ฟาร์มในโครงการส่งเสริมฯ สามารถเพิ่มรายได้เสริมจากการกรอกปุ๋ยกากตะกอน

บันเทิง ผลเจริญ ปราชญ์ปุ๋ยกากตะกอนสวนผลไม้ กล่าวว่า กากตะกอนดี ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้กว่า 50% ซื้อปุ๋ยเคมีลดลงมากกว่าครึ่ง กากตะกอนดีได้มาฟรีๆนำมาหมักรวมกับกากน้ำตาล ทำให้ผลผลิตดีขึ้น ดินก็ไม่เสียด้วย

"Waste No More สานต่อความยั่งยืน" โครงการซึ่งเกิดจากความคิดสร้างสรรของพนักงานธุรกิจสุกรของซีพีเอฟ ที่ได้รับรางวัลโดดเด่นในการประกวด CPF Sustainability in Action Awards 2024 เป็นต้นแบบของโครงการที่มีแนวปฏิบัติที่ดี ตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ยังสะท้อนถึงความตระหนัก ความตั้งใจ ในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-Zero) ถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างพนักงานและชุมชนรอบข้าง สร้างคุณค่าคืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

Page 1 of 49
X

Right Click

No right click