December 05, 2025

การศึกษายุคใหม่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในทุกมิติของการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา วิธีการสอน การประเมินผลและการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนในอนาคต หรือแม้แต่บทบาทของครูและผู้เรียน

ด้วยเหตุนี้ ทรู คลิกไลฟ์ นำโดย ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน หัวหน้าสายงานกลยุทธ์องค์กรและด้านการศึกษา บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ ทรู คลิกไลฟ์ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 ในหัวข้อ ในหัวข้อ "Reshaping Education for Gen Alpha ก้าวสู่อนาคตแห่งการเรียนรู้ โรงเรียนเอกชนไทยยุคเจนอัลฟา" ยกระดับการศึกษาในยุค AI สู่การเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด เพื่อเสริมทักษะใหม่ๆ ในทุกมิติเกี่ยวกับการศึกษาแห่งอนาคต ให้แก่บุคลากรทางการศึกษาที่เข้าร่วมหลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ อย่างต่อเนื่อง กว่า 500 คน ทั่วประเทศ ให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น เสริมการบริหารองค์กรให้ผู้บริหารสถานการศึกษาและคุณครูผู้ใช้หลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ พร้อมทั้งต่อยอดองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้แก่บุคลากรทางการศึกษา นำนวัตกรรมทรู คลิกไลฟ์ ซึ่งมี 5 หลักสูตร ได้แก่ เทคโนโลยีวิทยาการคำนวณ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน โรโบติกส์ และดนตรี ครอบคลุมตั้งระดับชั้นอนุบาล ประถม จนถึงมัธยม ไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น ภายในงาน ยังมีพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ครูดีเด่นโดยพิจารณาจากคุณภาพการสอน ความสามารถในการควบคุมชั้นเรียนและใช้นวัตกรรมสื่อการสอนให้เข้ากับบริบทของโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 อีกด้วย ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ทรู คลิกไลฟ์ จัดทัพวิทยากรชั้นนำหลากหลายสาขา ทั้งด้านเทคโนโลยี จิตวิทยาเด็ก มีการจัดเสวนาเรื่อง “Digital Learning พลิกโฉมการเรียนรู้ Gen Alpha” โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและนักเศรษฐศาสตร์ ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่อนาคตศาสตร์และสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท ฟิวเจอร์เทลส์แล็บ โดย MQDC และผศ.พญ. จิราภรณ์ อรุณากูร อาจารย์แพทย์ด้านเวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี เปิดเวทีแลกเปลี่ยนมุมมอง ความรู้ และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ในการพัฒนาการศึกษา โดยเน้นไปที่การเรียนรู้ของเด็กยุค Gen Alpha ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กที่เติบโตมาท่ามกลางเทคโนโลยีและโลกออนไลน์ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจและแนวทางในการปรับตัวให้กับโรงเรียนเอกชนไทย เพื่อให้สามารถ “ก้าวทันโลก ทันเด็ก ทันอนาคต” อย่างแท้จริง ขณะเดียวกันยังได้มีการอบรมให้แนะนำเทคนิคที่จำเป็นในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้นวัตกรรมสื่อการเรียนรู้เพื่อสร้างชั้นเรียนคุณภาพ โดยฝ่ายวิชาการของทรู คลิกไลฟ์ และวิทยากรรับเชิญอีกมายมาย

 

เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรต่อเนื่อง เพื่อก้าวทันการศึกษายุค AI โรงเรียนเอกชนไทยกว่า 100 โรงเรียนให้การยอมรับ ทรู คลิกไลฟ์ หนึ่งในผู้นำนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์แบบครบวงจร ภายใต้การดำเนินงานของ ทรู คอร์ปอเรชั่น นำโดย ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน หัวหน้าสายงานกลยุทธ์องค์กรและด้านการศึกษา กล่าวให้ความเชื่อมั่นกับผู้บริหารและคุณครู ถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง พร้อมพัฒนานวัตกรรมสื่อการเรียนการสอน นำพาโรงเรียนเอกชนก้าวข้ามทุกการเปลี่ยนแปลง ด้วยมั่นใจว่าโรงเรียนเอกชนจะเป็นต้นแบบที่ทำให้การศึกษาเปลี่ยนทันโลก โดยให้ความสำคัญกับเรื่อง AI ที่จะต้องปรับตัวเราให้ตามทันเหตุการณ์โลก รวมถึงเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมต้องควบคู่ไปด้วย เพราะเชื่อว่าอย่างไรคนก็สำคัญที่สุด “ทรู คลิกไลฟ์ ปรับหลักสูตรใช้ AI อย่างมีประโยชน์สูงสุด รู้ทันเทคโนโลยี หลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ มีนวัตกรรมสื่อมัลติมีเดียที่ใส่ใจทุกขั้นตอน กลั่นกรองจากภาควิชาการ ทั้งในและต่างประเทศ จึงอยากให้ทุกโรงเรียนมั่นใจในคุณภาพของหลักสูตรเรา เด็กจะต้องได้รับประโยชน์มากที่สุด และในปีนี้เราได้พัฒนาแพลตฟอร์ม G-CONNECT เพิ่มฟังก์ชันเพื่อใช้ในการบริหารจัดการชั้นเรียนและบุคลากรในโรงเรียนได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น อาทิ แผนการเรียนการสอน ระบบข้อมูลบุคลากร ห้องสมุดดิจิทัล เป็นต้น และเป็นที่น่ายินดีที่เรากำลังจะเปิดหลักสูตรการเงิน (Mini Millionaire Financial for School) เป็นพื้นฐานการเงินที่เด็กๆ ควรเรียนรู้ รวมถึงวิธีการออมเงินสู่ความมั่นคงในอนาคต นี่ คือสิ่งที่หลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ ได้เตรียมปูพื้นฐานให้กับเด็กยุคอัลฟา ด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ที่จะช่วยโรงเรียนเอกชนเตรียมพร้อมเด็กทุกคนสู่ยุคใหม่ของการศึกษาอีกด้วยค่ะ”

ผลสัมฤทธิ์ที่ทางโรงเรียนภูมิใจที่สุด

ว่าที่ร้อยตรีหญิง เยาวลักษณ์ ทศช่วย ผู้บริหารโรงเรียนไตรนิธิวิทยา จ.ระยอง เล่าถึงความรู้สึกว่า “โรงเรียนมีความเชื่อมั่นตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ได้เข้าร่วมหลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ ประทับใจในวิสัยทัศน์ของผู้บริหารของทรู คลิกไลฟ์มาก ๆ มั่นใจว่าหลักสูตรก้าวทันเทคโนโลยีแน่นอน เป็นหลักสูตรที่น่าสนใจมาก เพราะทรู คลิกไลฟ์ ไม่ได้ออกแบบมาแค่ให้เด็กเรียนแล้วจบ แต่สิ่งที่สำคัญยังสอดแทรกเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมเข้าไปด้วย เหมาะกับนำไปสอนเด็ก ๆ ยุคเจนอัลฟามาก คุณครูมีกังวลเรื่องเทคโนโลยีด้วยว่าถ้าเรียนแล้วเด็ก ๆ จะติดจอเกินไปหรือเปล่า จะเกิดผลกระทบหรือไม่ แต่ไม่ใช่เลยค่ะ ทรู คลิกไลฟ์ ออกแบบหลักสูตรดีมากที่จะไม่ให้เด็กติดจอ และยังมีกิจกรรมออฟไลน์ต่าง ๆ เข้ามาช่วย สิ่งที่ครูภูมิใจ คือผลสัมฤทธิ์ของทางวิชาเทคโนโลยีที่ทางโรงเรียนได้เป็นตัวแทนของจังหวัดไปแข่งระดับภาคตะวันออกและได้รับรางวัล ในส่วนของหลักสูตรดนตรี ก็ได้เป็นตัวแทนของจังหวัดไปแข่งระดับภาคตะวันออกมาอีกเช่นกัน เด็ก ๆ ได้สนุกกับการเรียนมากกว่าที่เราคาดไว้ นี่คือสิ่งที่เราได้จากโปรแกรมการเรียนการสอนจากทรู คลิกไลฟ์ค่ะ”

 

ร.ร. วิระถาวอน สปป.ลาว มั่นใจใช้หลักสูตรทรู คลิกไลฟ์

นางสาวสุนิตตา พิมมะสอน หัวหน้าหมวดภาษาต่างประเทศจากโรงเรียนวิระถาวอน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปครั้งนี้ว่า “เป็นครั้งแรกที่ได้มาเข้าร่วมอบรม รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาเรียนรู้อบรมเพิ่มเติม และฟังเสวนาจากวิทยากรได้ความรู้มากมาย ด้วยปัจจุบันเป็นยุคที่ AI เข้ามามีบทบาท คุณครูจึงอยากมาอัปเดตเทรนด์แนวทางเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีให้มากที่สุด เพราะจะได้นำไปปรับใช้สอนนักเรียน เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และดีใจที่จะได้มาพบปะและแลกเปลี่ยนความรู้กับโรงเรียนอื่น ๆ ทางโรงเรียนวิระถาวอน ใช้หลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ จัดการเรียนการสอนครบ 1 ปีแล้ว เด็กๆ ค่อนข้างตื่นเต้นกับ

หลักสูตรใหม่ ๆ ที่ได้เรียน เพราะมีทั้งสื่อการเรียนการสอนแบบใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนการเรียนในรูปแบบเดิม เด็กๆ สนุกทุกชั่วโมงในการเรียน มีหลายคนชอบวิชาจีนมาก ก็จะหัดพูดสื่อสารภาษาจีนกัน เราเป็นคุณครูก็ตื่นตันที่เด็กๆ ให้การตอบรับและสนุกกับการเรียนมากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าหลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ จะมีบทบาทในการพัฒนาการเรียนการสอนให้กับเด็ก ๆ ค่ะ”

ทรู คลิกไลฟ์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างทักษะที่จำเป็นในอนาคตให้กับเยาวชน เตรียมความพร้อมให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยมีเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ โรงเรียนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมหลักสูตรการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์แบบครบวงจรของทรู คลิกไลฟ์ ทั้ง 5 หลักสูตร ได้แก่ เทคโนโลยีวิทยากรคำนวณ อังกฤษ จีน โรโบติกส์ และดนตรี สามารถติดต่อ 089-116-0239 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.trueclicklife.com

"สมาคมฟินเทคประเทศไทย" หรือ TFA องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม Fintech ของประเทศไทย ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในระดับนานาชาติ นำโดย "คุณชลเดช เขมะรัตนา" นายกสมาคม ได้เปิดตัวหลักสูตร "Fintech Course: Unleashing Future of Finance" ที่จะทำให้การทำธุรกิจฟินเทคไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

พร้อมแล้วสำหรับหลักสูตรที่ผู้เริ่มต้นทำธุรกิจและผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจฟินเทค ที่จะเพิ่มทักษะและความรู้กับเหล่าวิทยากรด้านฟินเทคคุณภาพระดับประเทศ ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ตรง อาทิ "คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Founder & Group CEO, Bitkub Capital Group Holdings", "คุณพสุ ลิปตพัลลภ Director, Proud Real Estate", "คุณสุพันธ์วงศ์ วีรวรวิทย์ Director - Country Head of Global Payments Solutions, HSBC Thailand", "คุณปฐมชัย แตงน้อย  Assistant Managing Director, Kubix", "คุณ Derrick Loi General Manager for International Business, Digital Technologies, Ant Group", "คุณนัชชา เลิศหัตศิลป์ CEO, Carbonwize" เป็นต้น และยังได้แลกเปลี่ยน connection กับเหล่าคนที่สนใจฟินเทคไปด้วยกัน กับหลักสูตรคุณภาพ พร้อมปราบทุกปัญหาให้ธุรกิจฟินเทคได้เติบโตและยั่งยืน 

หลักสูตร "Fintech Course: Unleashing Future of Finance" มาพร้อมกับคอร์สฟินเทคสุดเข้มข้น ได้แก่

1.) Fintech Era,

2.) WealthTech,

3.) Cryptocurrency,

4.) Tokenization,

5.) Fintech in Real-estate,

6.) Global Cross Border Payments,

7.) Digital Banking,

8.) Startup Fundraising,

9.) Green Fintech,

10.) Fintech Regulations

และ 11.) AI in Fintech ครบจบทุกทักษะด้านฟินเทค ที่คนทำธุรกิจต้องรู้ 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครมาร่วมเรียนในหลักสูตร TFA Fintech Course รุ่นที่ 1 นี้กันได้ ในราคาพิเศษรอบ Early Bird เพียง 35,000 บาท จากราคาเต็ม 50,000 บาท ถึงวันที่ 9 ส.ค. 2567 นี้เท่านั้น!! และพิเศษยิ่งกว่านั้นสำหรับ TFA Member ลดเหลือเพียง 45,000 บาท เริ่มเรียนทุกวันพฤหัสบดี เวลา 18.00 - 21.00 น.ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. - 15 ธ.ค. 2567 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมัครลงทะเบียนเรียนได้ที่ https://forms.gle/aZYAZoLB15vmdFaD8 รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร : 062-291-3599 และ 082-202-6577 หรือ Email : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ... แล้วมาร่วมไขกุญแจสำคัญ ทำธุรกิจฟินเทคแบบมืออาชีพไปด้วยกัน 

Degree Plus เปิดหลักสูตร “Essentials in Biosafety and Biosecurity for BSL-2” หลักสูตรด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ ในรูปแบบ Hybrid สนองความต้องการบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพรุ่นใหม่ เพื่อยกระดับการเรียนให้มีความสะดวกเข้าถึงง่ายในคุณภาพที่ได้มาตรฐาน พร้อมได้รับใบประกาศนียบัตรที่รับรองโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (เลขที่ สธ 0621.06/7019) เป็นที่แรกและที่เดียวในไทย 

Degree Plus แพลตฟอร์มอัปสกิลอาชีพ ในเครือ LEARN Corporation ร่วมมือกับ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดหลักสูตร “Essentials in Biosafety and Biosecurity for BSL-2” หรือ หลักสูตรอบรมความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ BSL-2 เพื่อสนับสนุนให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับเชื้อก่อโรคและพิษจากสัตว์ของหน่วยงานต่าง ๆ เช่น อาจารย์ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักเทคนิคการแพทย์ เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่บริหารชีวนิรภัยของหน่วยงาน (BSO) ให้มีความรู้และทักษะการทำวิจัยในห้องปฏิบัติการทางชีวภาพอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดและแนวปฏิบัติสากล รายละเอียดหลักสูตรฯ  ประกอบด้วย 

  1. บทเรียนออนไลน์ภาคทฤษฎี จำนวน 10 ชั่วโมง 
  1. เรียนรู้ผ่านการอภิปรายทางออนไลน์ (Zoom) กับวิทยากรชั้นนำ หรือบุคลากรในกลุ่มอาชีพเดียวกัน จำนวน 4 ชั่วโมง 
  1. เวิร์กชอปภาคปฏิบัติ จำนวน 4 ชั่วโมง ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 
  1. ใบประกาศนียบัตร เพื่อใช้ต่ออายุใบรับรองหรือใบอนุญาตครอบครองเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทันที 

 

โดยที่ผ่านมา หลักสูตร Essentials in Biosafety and Biosecurity for BSL-2 มีผู้เข้าร่วมอบรมจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ พร้อมทั้งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาการอบรม  

นางสาวสุรีย์พร เอี่ยมศรี อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ผู้สำเร็จการอบรมหลักสูตรฯ กล่าวว่า “ด้วยอาชีพที่ต้องต่ออายุใบอนุญาต ทุก 3 ปี ก่อนหน้านี้เคยอบรมแบบออนไซต์ซึ่งรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะกับตนเอง เพราะต้องใช้เวลาเรียนภาคทฤษฎีถึง 2-3 วัน แต่สำหรับรูปแบบ Hybrid นั้น เวลาเรียนค่อนข้างยืดหยุ่น สามารถจัดการเวลาเองได้ เนื้อหาตรงไหนที่ไม่เข้าใจก็สามารถเรียนซ้ำได้ ส่วนการเรียนภาคปฏิบัติก็ใช้เวลาวันเสาร์เพียงครึ่งวัน ไม่ต้องรบกวนเวลางาน เมื่อจบการอบรมแล้วก็ยังสามารถทบทวนย้อนหลังได้ อีก 1 ปี ตอบโจทย์คนทำงานมาก ๆ” 

นางสาวธัญญา รัตนโกวิท เจ้าหน้าที่วิจัย Mahidol Vivax Research Unit ผู้สำเร็จการอบรมหลักสูตรฯ เสริมว่า “ตัดสินใจเลือกเรียนหลักสูตร BSL-2 แบบ Hybrid เพราะคิดว่าเหมาะกับตัวเองที่งานยุ่ง มีเวลาน้อย หลักสูตรนี้ช่วยให้ตระหนักถึงขั้นตอนการป้องกันตัวเองและสิ่งแวดล้อมขณะอยู่ในแล็บ และยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ผ่าน Zoom กับเพื่อนร่วมอาชีพ ซึ่งจะคอยแชร์ปัญหาพร้อมแนวทางแก้ไขที่พบได้ในสถานการณ์จริง ส่วนตัวมองว่าความรู้ตรงนี้ไม่สามารถหาได้ในหลักสูตรทั่วไป นอกจากนี้ เมื่อเรียนจบหลักสูตรแล้ว ยังสามารถนำใบเซอร์ไปเขียน Proposal เพื่อยื่นทำโปรเจกต์ใหม่ได้อีกด้วย”  

ด้าน นายวรพล รัตนพันธ์ ผู้จัดการทั่วไปและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ดีกรีพลัส จำกัด กล่าวว่า  “โจทย์ใหญ่ของประเทศไทยวันนี้ คือการยกระดับการสร้างมาตรฐานความรู้และพัฒนาความเชี่ยวชาญของบุคลากรในประเทศ สำหรับด้านความปลอดภัยทางชีวภาพที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจากห้องปฏิบัติการสู่สิ่งแวดล้อมอย่างปลอดภัย เราจึงมุ่งเป้าที่จะเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบุคลากรปีละ 1,000 คน ผ่านความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และการรับรองหลักสูตรจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงองค์ความรู้มาตรฐานที่สำคัญต่อไป” 

ผู้ที่สนใจหลักสูตร Essentials in Biosafety and Biosecurity for BSL-2 แบบ Hybrid สามารถศึกษารายละเอียด และสมัครได้ที่ to.degree.plus/Biosafety-Biosecurity-BSL2 

ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเก็บ วิเคราะห์ Data และ Consumer Insight รวมถึงการนำไปใช้ทวีความสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ นักการตลาดไม่เพียงต้องวิ่งตามเทรนด์ให้ทันแต่ต้องคิดวางแผนล่วงหน้าเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ไม่หยุดนิ่ง

หากคุณยังไม่รู้วิธีหา Marketing และ Consumer Insight หรือมี Data แต่ไม่รู้จะนำไปใช้อย่างไร หลักสูตร "Data and insight driven marketing" คือคำตอบ

หลักสูตรนี้จะช่วยให้คุณได้รู้จัก Data-driven Marketing ซึ่งใช้ข้อมูลเชิงลึกทั้งจากพฤติกรรมผู้บริโภคและธุรกิจมาวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างเต็มที่และตรงเป้ายิ่งขึ้น โดยศึกษาจาก case study และได้ลงมือทำจริงผ่าน Workshop และที่สำคัญ..ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานก็เรียนได้เพราะเราสอนตั้งแต่เริ่มต้น 

คุณจะได้เรียนรู้อะไรจากหลักสูตรนี้

● ความแตกต่างระหว่าง Strategy และ Tactics ในการของการทำการตลาด

● วิธีการเก็บ เตรียม วิเคราะห์และแปลข้อมูลเพื่อวางแผนกลยุทธ์และการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมตัวชี้วัด

● Data and Insight Driven Marketing Framework ที่สร้าง business impact ให้กับองค์กรได้จริง

และอีกหลากหลายหัวข้อที่นักการตลาดทุกคนต้องรู้ ?

พบกับ 2 วิทยากรผู้เชี่ยวชาญ “คุณหนุ่ย ณัฐพล ม่วงทำ” เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน ผู้ที่จะย่อยการวิเคราะห์ข้อมูลยาก ๆ ให้เป็นเรื่องง่าย ๆ และ “คุณเอง คุณบังอร สุวรรณมงคล” CEO &

Founder of Hummingbirds Consulting ที่ปรึกษาด้านการวางแผนการตลาดเชิงกลยุทธ์และ Insight and Strategy Expert

ดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่ : https://tinyurl.com/3fk9bhxa

วันอบรม

วันที่ : 2-3 เมษายน 2567

เวลา : 9.00 - 16.00 น.

สถานที่ : โรงแรมเอทัส ลุมพินี

. ค่าลงทะเบียนอบรม

- สมาชิกสมาคม ท่านละ 14,900 บาท

- ผู้สนใจทั่วไป ท่านละ 15,900 บาท

สอบถามเพิ่มเติม: 02-679-7360-3 สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย

หรือ Line Official ID: @matsociety

ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จัดพิธีปิดหลักสูตรสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “The 45 Academia” ปี 2023 ภายใต้แนวคิด “Leader of Tomorrow” มุ่งปั้นผู้นำแห่งอนาคตที่มีพลังและสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมในทุกมิติ โดยมีวัตุประสงค์หลักในการช่วยให้ลูกค้าคนสำคัญสามารถวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยั่งยืน ด้วยโปรแกรมพัฒนาศักยภาพตนเองอย่างเข้มข้นตลอดระยะเวลากว่า 12 สัปดาห์ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าที่มีต่อ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เพื่อช่วยรักษาคุณค่าและส่งมอบสินทรัพย์ของครอบครัวสู่รุ่นถัดไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นขององค์กร “Your Legacy. Our Promise.” อย่างแท้จริง โดยมี นายกฤษณ์ จันทโนทก (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด พร้อมด้วย มร.จิมมี่ ลี (Jimmy Lee) (ซ้าย) ประธานประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ธนาคารจูเลียส แบร์ และกรรมการบริหาร จูเลียส แบร์ กรุ๊ป และกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด ให้เกียรติร่วมงานเมื่อเร็ว ๆ นี้

 

มร.จิมมี่ ลี (Jimmy Lee) ประธานประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ธนาคารจูเลียส แบร์ และกรรมการบริหาร จูเลียส แบร์ กรุ๊ป และกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่าหลักสูตร The 45 Academia จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) ของเราให้มีทักษะในการบริหารธุรกิจของครอบครัวและความมั่งคั่งในอนาคต เรามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าของเราอย่างลึกซึ้ง รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ ผ่านโปรแกรม “Julius Baer next-generation” ทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับจริยธรรมขององค์กรในการสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าความมั่งคั่ง (Creating Value Beyond Wealth) เราตระหนักดีว่าความมั่งคั่งเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเชิงบวก ในฐานะผู้นำธุรกิจรุ่นถัดไป เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถรักษาและส่งต่อค่านิยมเหล่านี้เพื่ออนาคตที่

ดีกว่าของรุ่นถัดไปโดยเริ่มต้นจากตัวเราเป็นสิ่งแรก ด้วยความพยายามของพวกเราทุกคนจะช่วยสานต่อมรดกที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมอย่างแท้จริง”

 

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า “ธนาคารไทยพาณิชย์ในฐานะผู้ถือหุ้นของ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หลักสูตร The 45 Academia ได้สร้าง Community ของกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) ได้ตามที่คาดหวังไว้ เราขอขอบคุณผู้สนับสนุนและผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านที่ได้ร่วมกันออกแบบหลักสูตรที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ในทุกมิติ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักสูตร The 45 Academia จะสามารถสานต่อองค์ความรู้และแนวทางการลงทุน โดยสิ่งสำคัญที่สุด คือ ช่วยให้ลูกค้าคนสำคัญสามารถวางแผนธุรกิจของครอบครัวให้ดำเนินต่อไปได้”

 

ด้าน นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า “ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ ในฐานะผู้ก่อตั้งหลักสูตร The 45 Academia รู้สึกยินดีอย่างยิ่งต่อความสำเร็จจากการเดินทางร่วมกันของกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) ในตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา โดยผู้เข้าร่วมหลักสูตรทุกคนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้ง ผ่านการแบ่งปันมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน พร้อมร่วมกันผลักดันและสร้างสรรค์หลักสูตรในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับหลักสูตรเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันอีกด้วย ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความรู้และประสบการณ์ทั้งหมด รวมถึงมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นภายใต้หลักสูตร “The 45 Academia” จะสามารถเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มทายาทรุ่นใหม่ก้าวสู่ผู้นำแห่งอนาคตที่มีพลังและสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมในทุกมิติอย่างแท้จริง”

สำหรับ “The 45 Academia” เป็นหลักสูตรที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่กลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) ในการรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว ผ่านการปูพื้นฐานด้านการลงทุนในสินทรัพย์และผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อให้เข้าใจถึงการบริหารความมั่งคั่งอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจและเวลธ์แมเนจเม้นท์ การสร้างความตระหนักด้านความยั่งยืนและปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Passion Investment) การสืบทอดธุรกิจครอบครัว (Family Succession) และการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation Development) ตลอดจนเสริมสร้างความรู้ด้าน Business Disruption และ Business Transformation ผ่านการแชร์ประสบการณ์อันทรงคุณค่าจากซีอีโอชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม ด้วยการให้ข้อมูลเชิงลึกโดยตรง (Firsthand Insight) ทั้งในเรื่องของเทรนด์ในอนาคต เพื่อเห็นโอกาสใหม่ๆ และความท้าทายต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะการคิดในอนาคต (Future Thinking Skills) ที่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังรวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจและการพัฒนาทัศนคติเชิงบวก (Growth Mindset) ผ่านการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีและสร้างเครือข่าย (Networking) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้ศูนย์รวมของกลุ่มคนรุ่นใหม่

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click