

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) มั่นใจต่อการลงทุนธุรกิจ CCUS ในสหรัฐอเมริกาซึ่งถือเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญ ด้วยการดำเนินงานที่ครอบคลุมธุรกิจก๊าซธรรมชาติตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
บ้านปูมุ่งตอบโจทย์ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยธุรกิจ CCUS จะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างกระแสเงินสดและความมั่นคงทางการเงินให้กับบริษัทฯ เพื่อขับเคลื่อนสู่การเติบโตระยะยาวและบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่น้อยกว่า 20%
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วย DNA ของบ้านปูที่เป็นผู้บุกเบิก (Pioneer) และกลยุทธ์ Energy Symphonics ของเราที่มาจากการตีโจทย์ความต้องการพลังงานของโลกว่าต้องมีสมดุลของทั้งความเสถียร เข้าถึงได้ และเป็นมิตรกับโลก บ้านปูจึงแสวงหา โซลูชันพลังงานที่ตอบโจทย์ดังกล่าว จนเป็นบริษัทไทยรายแรกที่บุกเบิกธุรกิจ CCUS ในสหรัฐอเมริกา ผ่านการดำเนินงานของ BKV Corporation หรือ BKV บริษัทย่อยซึ่งมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติ โดยนับตั้งแต่ปี 2022 ที่เราเริ่มลงทุนในโครงการ CCUS ปัจจุบัน พอร์ต CCUS ในสหรัฐฯ เติบโตต่อเนื่องถึง 3 โครงการ โดยมีบาร์เนตต์ ซีโร่ (Barnett Zero) ที่ดำเนินการเชิงพานิชย์และรับรู้รายได้แล้ว รวมถึงโครงการคอตตอน โคฟ (Cotton Cove) และ อีเกิล ฟอร์ด (Eagle Ford) ที่จะเริ่มดำเนินการภายในปี 2026 เรามองว่า CCUS จะเป็นธุรกิจสำคัญที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมพลังงานอย่างก๊าซธรรมชาติ การผลิตไฟฟ้า และอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยบ้านปูตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2030 จะต้องกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์จากธุรกิจ CCUS ให้ได้ 16 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี”
ความคืบหน้าที่โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา คือการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ (JV) ร่วมกันระหว่าง BKV dCarbon Ventures ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BKV และกองทุน CI Energy Transition Fund ภายใต้การบริหารของ Copenhagen Infrastructure Partners (CIP) ผู้นำด้านการลงทุนสาธารณูปโภคด้านพลังงานระดับโลกจากเดนมาร์ก เพื่อการออกแบบ พัฒนา และดำเนินธุรกิจ CCUS ในสหรัฐฯ โดย นายสินนท์ ได้กล่าวย้ำว่า “การขยายพอร์ตธุรกิจ CCUS อย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ ด้วยความร่วมมือกับบริษัทใหญ่จากยุโรปเช่นในครั้งนี้ รวมถึงนโยบายและกฎระเบียบที่เอื้อจากภาครัฐ จะเป็นแรงผลักสำคัญที่สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้ธุรกิจ CCUS สะท้อนถึงความพร้อมของกลุ่มบ้านปูในการตอบสนองด้านความต้องการพลังงาน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางด้านพลังงานในอนาคต”
*CCUS (Carbon Capture, Utilization, and Sequestration) คือเทคโนโลยีการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากแหล่งกำเนิดในภาคอุตสาหกรรม โดยไม่ปล่อย CO2 กลับสู่ชั้นบรรยากาศ
ซิโนเปค เชลล์ ไชน่า เป่าอู่ และบีเอเอสเอฟ เตรียมสำรวจการพัฒนา CCUS แบบโอเพนซอร์ซ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางคาร์บอน
บริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล คอร์ปอเรชัน (China Petroleum & Chemical Corporation) (HKG: 0386) หรือซิโนเปค (Sinopec) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) แบบไม่มีผลผูกมัดกับเชลล์ (Shell) ไชน่า เป่าอู่ (China Baowu) และบีเอเอสเอฟ (BASF) เพื่อเปิดตัวโครงการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ขนาด 10 ล้านตันโครงการแรกในจีนตะวันออก โครงการแบบโอเพนซอร์ซนี้จะสนับสนุนอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค ในการทำให้การดำเนินงานของตนปล่อยคาร์บอนน้อยลง และจัดตั้งซัพพลายเชนคาร์บอนต่ำ เพื่อรับหน้าที่นำการพัฒนา CCUS ในจีน และบรรลุเป้าหมาย “คาร์บอนคู่ขนาน” ของภูมิภาค
CCUS ซึ่งเป็นกรรมวิธีลดคาร์บอนด้วยการดักจับและทำให้ใช้ CO2 ที่ปล่อยจากภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีนัยสำคัญในสเกลใหญ่ และมีแนวโน้มที่จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน
โครงการนี้จะสำรวจความเป็นไปได้ในการขนส่ง CO2 ที่ผลิตโดยโรงงานอุตสาหกรรมในตอนกลางและตอนล่างของแม่น้ำแยงซี (รวมถึงจากบริษัทเหล็กกล้า เคมี พลังงาน ซีเมนต์) ไปยังสถานีรับ CO2 จากนั้นขนส่ง CO2 ไปยังจุดจัดเก็บบนฝั่งหรือนอกฝั่งผ่านท่อส่งระยะสั้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเสนอโซลูชันการลดคาร์บอนที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสำหรับบริษัทอุตสาหกรรม ซึ่งซิโนเปค เชลล์ ไชน่า เป่าอู่ และบีเอเอสเอฟ ไม่เพียงแต่สนับสนุนการลดคาร์บอนของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน และสร้างห่วงโซ่คุณค่าของผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำเท่านั้น แต่ยังเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำและเศรษฐกิจหมุนเวียนคาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
หม่า หยงเชิง (Ma Yongsheng) ประธานบริษัทซิโนเปค กล่าวว่า “ซิโนเปคจะทำงานร่วมกับเชลล์ ไชน่า เป่าอู่ และบีเอเอสเอฟ เพื่อขยายการลดคาร์บอนในเชิงพาณิชย์ และส่งเสริมการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรม CCUS เต็มรูปแบบอย่างแข็งขัน ไม่เพียงแต่สนับสนุนการพัฒนาสีเขียวของจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั่วโลกด้วย ซิโนเปคจะยังคงมุ่งหวังที่จะร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับพันธมิตรระดับโลก บรรลุเป้าหมายการเปิดกว้างและการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมุ่งปล่อยคาร์บอนถึงจุดสูงสุดก่อนที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน”
ซิโนเปคมีความมุ่งมั่นในการรับหน้าที่เป็นผู้นำ CCUS ระดับอุตสาหกรรมของจีน โดยในปี 2555 นั้น ซิโนเปคได้เปิดตัวโครงการ CCUS โรงไฟฟ้าถ่านหินโครงการแรกของจีนในบ่อน้ำมันเฉิงลี่ และในปี 2558 ก็ได้ร่วมมือกับบริษัท ซิโนเปค หนานจิง เคมิคอล อินดัสทรีส์ จำกัด (Sinopec Nanjing Chemical Industries Co., Ltd.) และซิโนเปค อีสต์ ไชน่า ออยล์ แอนด์ ก๊าซ คอมปะนี (Sinopec East China Oil and Gas Company) เพื่อบุกเบิกการใช้ประโยชน์จาก CO2 ในบริษัททั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ซิโนเปคดักจับ CO2 ได้ 1.52 ล้านตันในปี 2564 ทั้งยังได้เปิดตัวโครงการ CCUS ระดับเมกะตันโครงการแรกของจีนอย่างโครงการ CCUS บ่อน้ำมันฉีหลู่-เฉิงลี่ อย่างเป็นทางการในต้นปี 2565 ด้วย ดูข้อ.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0.0
มูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของซิโนเปค