December 05, 2025

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกาศรอบไฟนอลเวที ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” โจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” ทีม AINU เจ้าของโซลูชัน TH Welcome ID ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Digital ID สำหรับชาวต่างชาติในไทย ให้เข้าถึงบริการและยืนยันตัวตนกับทั้งรัฐและเอกชนได้อย่างสะดวก น่าเชื่อถือใช้เทคโนโลยี blockchain เพื่อความปลอดภัย ตรวจสอบได้ — ด้วย concept สสส = สะดวก สบายใจและสอดรับความมั่นคง เป็นตัวตนดิจิทัลที่ทุกฝ่ายวางใจ ชนะใจกรรมการ คว้ารางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโอกาสในการต่อยอดโซลูชัน Digital ID สำหรับคนต่างด้าวสู่การใช้งานจริง ยกระดับ Digital ID ไทยเพื่อธุรกรรมออนไลน์ที่ทุกคนมั่นใจ!

นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า เวที “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID”ถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนา ผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีใจรักในนวัตกรรม มาร่วมกันออกแบบโซลูชันที่จะเข้ามาพลิกโฉมการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงกับระบบที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพ เกิดการต่อยอด สู่การใช้งานได้จริง และขยายผลได้ในอนาคต เพราะ ETDA เชื่อมั่นว่าพลังความร่วมมือและไอเดียสร้างสรรค์จากที่นี่ จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบ Digital ID ที่รองรับคนต่างด้าวอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นในการเข้าถึงบริการทั้งภาครัฐและเอกชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น

สำหรับการแข่งขัน ETDA Hackathon ภายใต้โจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” นี้ ETDA เปิดกว้างให้ผู้เข้าแข่งขันได้ออกแบบและพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนต่างด้าวในหลากหลายมิติ ตั้งแต่การลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน การเข้าถึงข้อมูลและบริการที่จำเป็น การทำธุรกรรมทางการเงิน การใช้บริการด้านสุขภาพ หรือแม้แต่การติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐ สิ่งที่เรามองหาคือโซลูชันที่ไม่เพียงแต่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ต้องคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX/UI) ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy & Security) การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Compliance) และที่สำคัญคือศักยภาพในการนำไปพัฒนาต่อยอดและใช้งานได้จริง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เอื้ออำนวย และเป็นมิตร โดยเส้นทางการแข่งขันสำหรับโจทย์ที่ 2 นี้ เริ่มเปิดรับสมัครพร้อมกับโจทย์แรก และได้รับความสนใจจากทีมผู้พัฒนาและนักออกแบบเป็นจำนวนมาก ก่อนผ่านกระบวนการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจนได้ 10 ทีมสุดท้าย ได้แก่ 1. ทีม AINU 2. ทีม BCI : Human Right คนนี้แหละใช่จริงจริง 3. ทีม Davoy 4. ทีม Global Helpcare Solutions 5. ทีม InDistinct 6. ทีม keroro 7. ทีม Lorem Dimsum 8. ทีม Onochayama 9. ทีม Zimplexity และ 10. ทีม แพวบุ้คต๊ะฟ้า ซึ่งทั้ง 10 ทีมนี้ได้เข้าร่วมกิจกรรม Pre-Hack Workshop ที่ ETDA จัดขึ้น โดยเฉพาะ Workshop ครั้งที่ 3 ที่เน้นเนื้อหาสำคัญและ Use Cases ที่เกี่ยวข้องกับ Digital ID for Foreigners โดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญของ ETDA สำนักงาน กสทช. และสำนักสุขภาพดิจิทัล กระทรวงสาธารณสุข ควบคู่กับการให้คำปรึกษาแบบ One-on-One เพื่อลับคมไอเดียและเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ก่อนเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันนี้ (17 พฤษภาคม 2568) ที่ทุกทีมได้นำเสนอผลงาน (Pitching) ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้บริหารจาก ETDA, สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, สำนักสุขภาพดิจิทัล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และพันธมิตรภาคเอกชน สะท้อนถึงการบูรณาการมุมมองที่หลากหลายเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมอย่างแท้จริง

หลังจากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน จากแนวคิดโซลูชันที่หลากหลายและตอบโจทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนต่างด้าวตั้งแต่การลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล การเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไปจนถึงการสร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรมออนไลน์ เป็นต้น ในที่สุดผลการแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID โจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” รอบไฟนอล  ก็ได้ทีมผู้ชนะคว้ารางวัลชนะเลิศ คือ ทีม AINU กับผลงาน “TH Welcome IDDigital ID สำหรับชาวต่างชาติในไทย ให้เข้าถึงบริการและยืนยันตัวตนกับทั้งรัฐและเอกชนได้อย่างสะดวก น่าเชื่อถือ ใช้เทคโนโลยี blockchain เพื่อความปลอดภัย ตรวจสอบได้ — ด้วย concept สสส = สะดวก สบายใจ และสอดรับความมั่นคง เป็นตัวตนดิจิทัลที่ทุกฝ่ายวางใจ คว้าเงินรางวัล 100,000 บาท ตามมาด้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ ทีม ZIMPLEXITY กับผลงาน FDID (Foreign Digital ID) แพลตฟอร์มยืนยันตัวตนดิจิทัลสำหรับคนต่างด้าว ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ ปลอดภัย เชื่อมต่อภาครัฐ-เอกชน ลดการใช้เอกสาร ต่อยอดบริการเปิดบัญชี ซิมมือถือ และสุขภาพ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ทีม ONOCHAYAMA จากผลงานระบบ Onochayama Identity เป็นโซลูชันเพื่อการกระจายศูนย์การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าและลายนิ้วมือสำหรับ Digital ID โดยเชื่อมต่อข้อมูลสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้ใช้แรงงานต่างด้าว พร้อมจัดเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลเข้ารหัส เพื่อความปลอดภัย ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท โดยทุกทีมจะได้รับประกาศนียบัตร (e-Certificate) จาก ETDA พร้อมโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรมสู่การใช้งานจริง โดย ETDA เตรียมจัดกิจกรรม “Partnership Meeting” เพื่อให้ทีมผู้ชนะจากทั้งสองโจทย์การแข่งขัน ได้ร่วมหารือแนวทางการพัฒนาและต่อยอดผลงานกับเหล่าพันธมิตรโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน และกิจกรรม “Business Matching” เพื่อสร้างเครือข่ายและโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงโอกาสในการนำเสนอผลงานบนเวที Tech Showcase Stage ในงาน Techsauce Global Summit 2025 อีกด้วย

ในฐานะที่ ETDA เป็นหน่วยงานที่มุ่งมั่นส่งเสริมและพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลของไทย โดยเน้นการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน (Co-Creation Regulator) เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า พลังแห่งความร่วมมือและสุดยอดไอเดียที่เกิดขึ้นจากเวที ETDA Hackathon ทั้งสองโจทย์ในปีนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้าน Digital ID ที่แข็งแกร่ง ทันสมัย น่าเชื่อถือ และครอบคลุมผู้ใช้งานทุกกลุ่ม รวมถึงคนต่างด้าว ผลลัพธ์ที่ได้จากการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซลูชันสำหรับ Digital ID for Foreigners จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตที่ชัดเจนของการประยุกต์ใช้ Digital ID เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ ETDA พร้อมสนับสนุนและทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้นวัตกรรมเหล่านี้สามารถนำไปใช้งานได้จริง สร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน”
นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข กล่าวทิ้งท้าย

การแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ทั้งสองโจทย์ได้สิ้นสุดลงแล้วด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม ETDA ขอขอบคุณผู้เข้าแข่งขันทุกทีม พันธมิตรทุกองค์กร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ร่วมกันจุดประกายความคิดและปลดล็อกอนาคต Digital ID ของประเทศไทย โปรดติดตามกิจกรรมและโครงการดีๆ จาก ETDA ที่จะช่วยยกระดับชีวิตดิจิทัลของคนไทยให้มั่นคงและปลอดภัยได้ทางเฟซบุ๊ก ETDA Thailand (www.facebook.com/ETDA.Thailand)

ภายใต้โจทย์ “Digital ID for Foreigners” ทีมไหนคว้าแชมป์ 17 พ.ค. นี้ รู้กัน!

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกาศผลสุดยอดนวัตกรรมจากเวที ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” โจทย์แรกe-Juristic Person Transaction” ณ House Samyan สามย่านมิตรทาวน์ หลังการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศอย่างเข้มข้น โดย ทีม BCI: IdentityX เจ้าของโซลูชัน VerifyX แพลตฟอร์มสำหรับ e-Juristic Transaction การทำธุรกรรมของนิติบุคคลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมการทำธุรกรรมนิติบุคคล ด้วยฟีเจอร์สำคัญ e-Juristic KYC, e-POA, d-Signature, e-Document Tracing โดยเน้นการยกระดับการออกหนังสือยืนยันยอดธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ และ โซลูชันการรับรองงบการเงินด้วย d-Signing ชนะใจกรรมการ คว้ารางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโอกาสต่อยอดโซลูชัน Digital ID สำหรับนิติบุคคลสู่การใช้งานจริง!

นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า ETDA ขอแสดงความยินดีกับทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID เวทีที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถและสร้างสรรค์ไอเดีย ที่จะช่วยให้ Digital ID กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้จริง โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งหลังจากที่แต่ละทีมได้ผ่านกิจกรรมต่างๆ อย่างเข้มข้น จนก้าวสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ กับโจทย์การแข่งขันครั้งที่ 1 กับหัวข้อที่ท้าทายและสำคัญมากต่ออนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ นั่นคือหัวข้อ “e-Juristic Person Transaction” หรือการทำธุรกรรมของนิติบุคคลในรูปแบบดิจิทัล เพราะในยุคที่โลกหมุนเร็ว การทำธุรกรรมของภาคธุรกิจและองค์กรก็ต้อง ทันสมัย ปลอดภัย และตรวจสอบได้ การใช้ Digital ID สำหรับนิติบุคคลจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่าง รวดเร็ว เชื่อถือได้ และลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงหรือฉ้อโกง เป้าหมายนี้สอดคล้องกับแผนการขับเคลื่อน Digital ID ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2568–2570) ที่ ETDA มุ่งพัฒนาเพื่อให้ประเทศไทยมีระบบที่รองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของนิติบุคคลได้อย่างน่าเชื่อถือ

สำหรับโจทย์ e-Juristic Person Transaction นี้ เราเปิดพื้นที่ให้เหล่านักพัฒนาและผู้มีใจรักนวัตกรรม ได้ออกแบบโซลูชันที่ตอบโจทย์หลากหลายด้านทั้ง ใช้งานได้จริง สอดคล้องกับกฎหมาย เชื่อมต่อกับระบบเดิมได้ และสามารถต่อยอดในอนาคตสู่การใช้งานได้จริง เพราะสิ่งที่เรามองหา ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่คือโซลูชันที่ตอบโจทย์และช่วยวางรากฐานให้กับ สภาพแวดล้อมดิจิทัลที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย

โดยเส้นทางการแข่งขันสำหรับโจทย์ที่ 1 นี้ เริ่มตั้งแต่เปิดรับสมัคร มีทีมสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก ก่อนจะผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจนเหลือ 10 ทีมสุดท้าย ได้แก่ 1.ทีม ATTRA CARD 2.ทีม BCI: IdentityX 3.ทีม BOL 4.ทีม DeepPocket 5.ทีม Creden 6.ทีม EazyLaw 7.ทีม Finema Co. Ltd. 8.ทีม ID Pivot 9.ทีม InDistinct และ 10.ทีม TDID ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม Workshop และ Mentoring เพื่อลับคมไอเดียและเตรียมความพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญจาก ETDA และพันธมิตร ก่อนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในวันนี้ (26 เมษายน 2568) ซึ่งทั้ง 10 ทีมได้นำเสนอผลงาน (Pitching) ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นการผนึกกำลังจากหน่วยงานชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้บริหารจาก ETDA,  กรมสรรพากร, สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ บริษัท เทคซอส มีเดีย สะท้อนถึงการบูรณาการมุมมองเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมอย่างแท้จริง

หลังจากการพิจารณาอย่างเข้มข้น จากแนวคิดโซลูชันที่หลากหลายที่มุ่งมั่นสร้างสรรเพื่อตอบโจทย์ภาคธุรกิจ ตั้งแต่การลดความยุ่งยากซับซ้อนของเอกสาร การยืนยันตัวตนผู้มีอำนาจลงนาม ไปจนถึงการสร้างความเชื่อมั่นในการทำสัญญาระหว่างองค์กร ในที่สุดผลการแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID โจทย์ที่ 1 “e-Juristic Person Transaction” ก็ได้ทีมผู้ชนะคว้ารางวัลชนะเลิศ คือ ทีม BCI: IdentityX กับผลงาน VerifyX แพลตฟอร์มสำหรับ e-Juristic Transaction การทำธุรกรรมของนิติบุคคลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมการทำธุรกรรมนิติบุคคล โดยเน้นยกระดับการออกหนังสือรับรองทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ คว้าเงินรางวัล 100,000 บาท และประกาศนียบัตรจาก ETDA  ตามมาด้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ ทีม TDID กับผลงานแพลตฟอร์ม TrustBiz ช่วยพัฒนาให้การใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อถือได้ ใช้งานได้จริง เป็น Solution การลงลายมือชื่อดิจิทัลสำหรับนิติบุคคล ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และประกาศนียบัตรจาก ETDA และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ทีม Creden จากผลงานแพลตฟอร์ม e-Transaction ครบวงจรตั้งแต่ e-Signature, e-KYC, e-Stamp duty ไปจนถึง e-KYB เพื่อช่วยให้นิติบุคคลยืนยันตัวตนและทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างปลอดภัย รวดเร็ว โปร่งใส และตรวจสอบได้ ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท และประกาศนียบัตรจาก ETDA นอกจากนี้ ทุกทีมที่ได้รับรางวัลยังมีโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรมสู่การใช้งานจริงร่วมกับ ETDA และพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงโอกาสในการนำเสนอผลงานบนเวที Tech Showcase Stage ในงาน Techsauce Global Summit 2025 อีกด้วย

“ในฐานะที่ ETDA เป็นหน่วยงาน Co-Creation Regulator ที่มุ่งส่งเสริมและร่วมสร้างนิเวศน์ที่เอื้อต่อการใช้งาน Digital ID เชื่อมั่นว่าพลังของความร่วมมือและไอเดียจากเวทีนี้ จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยมีกลไกรองรับการทำธุรกรรมของนิติบุคคลที่ทันสมัย เชื่อถือได้ และใช้งานได้จริงด้วย Digital ID  โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการแข่งขัน จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตที่ชัดเจนของการผลักดันให้เกิดการใช้งาน Digital ID ในวงกว้าง ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดย ETDA พร้อมเดินหน้าร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อเร่งขับเคลื่อนให้เกิดการผลักดัน Digital ID อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” นางสาวจิตสถา กล่าวทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตาม การเดินทางของ ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เตรียมพบกับการแข่งขันสุดเข้มข้นในโจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาแนวทางการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลสำหรับคนต่างด้าวในประเทศไทยกันต่อ ติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.etda.or.th หรือเฟซบุ๊ก ETDA Thailand (www.facebook.com/ETDA.Thailand)

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA จับมือพาร์ทเนอร์ เตรียมจัด ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID รอบชิงชนะเลิศ ชูแนวคิด “จุดประกายความคิด ปลดล็อคอนาคต Digital ID” เร่งเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมยกระดับบริการ Digital ID สำหรับการทำธุรกรรมของนิติบุคคลและคนต่างด้าว ชวนลุ้น! จากโจทย์ที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “e-Juristic Person Transaction” ทีมใดจะคว้าชัยในสนามนวัตกรรม สู่สุดยอดโซลูชัน Digital ID พลิกโฉมธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของนิติบุคคล รู้พร้อมกัน 26 เมษายนนี้

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า การเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบโซลูชัน จะช่วยเร่งให้เกิดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง และสอดคล้องกับบริบทของประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID ที่ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือ ‘หัวใจ’ ของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ลดความซับซ้อน และสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมออนไลน์ทั้งของบุคคลและนิติบุคคล ซึ่งยังมีข้อจำกัดหลายด้าน ดังนั้น ETDA จึงไม่ได้หยุดแค่การออกแบบนโยบายเพื่อการกำกับดูแล แต่ยังมุ่งสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม ผ่านกิจกรรมการแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด ปลดล็อคอนาคต Digital ID” ที่ไม่เพียงเป็นเวทีการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมยกระดับบริการ Digital ID สำหรับการทำธุรกรรมของนิติบุคคลและคนต่างด้าวเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการมีส่วนร่วม ที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมออกแบบอนาคตของ Digital ID ที่เข้าถึงได้ เชื่อถือได้ และใช้งานได้จริงในทุกมิติของสังคมดิจิทัลไทย ผ่านโจทย์การแข่งขันสุดท้าทาย 2 เวที กับ 2 โจทย์ใหญ่ ได้แก่ โจทย์ที่ 1 “e-Juristic Person Transaction” การทำธุรกรรมของนิติบุคคลแบบอิเล็กทรอนิกส์ และโจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” มุ่งพัฒนาแนวทางการพิสูจน์ตัวตนสำหรับคนต่างด้าวในไทย

 

สำหรับเวทีการแข่งขันเวทีแรก กับ โจทย์ที่ 1 “e-Juristic Person Transaction” ที่มุ่งเฟ้นหาโซลูชัน Digital ID ที่เข้ามายกระดับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับกลุ่มนิติบุคคล ตั้งแต่เปิดรับสมัครในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา พบว่า ได้รับการตอบรับจากทีมผู้เข้าแข่งขันที่ร่วมสมัครภายใต้โจทย์นี้จำนวนมาก รวมกว่า 34 ทีม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัด Workshop เพื่อปูพื้นฐานให้กับผู้เข้าแข่งขัน พร้อมจัด Pre-Hack Workshop ถึง 2 ครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมและให้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นแก่ผู้เข้าแข่งขันก่อนลงสนามจริง ที่เน้นเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อสำคัญ เช่น วิธีการเชื่อมต่อ API ระบบ BDEX ทั้งยังมีการแบ่งปัน Use Cases ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้ e-Stamp Duty และ e-Signature ในการธุรกรรมออนไลน์จริง ก่อนที่เหล่าคณะกรรมการจะทำการคัดเลือก ให้เหลือ 10 ทีมสุดท้าย ที่ไปต่อในกิจกรรม Orientation Day เตรียมพร้อมทุกทีมก่อนเข้าสู่สนามแข่งจริงในรอบชิงชนะเลิศ

โดย 10 ทีมที่ผ่านรอบสุดท้าย ได้แก่ 1.ทีม ATTRA CARD 2.ทีม BCI: IdentityX 3.ทีม BOL 4.ทีม DeepPocket 5.ทีม Creden 6.ทีม EazyLaw 7.ทีม Finema Co. Ltd. 8.ทีม ID Pivot 9.ทีม InDistinct และ 10.ทีม TDID ซึ่งแต่ละทีมได้นำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ Digital ID ที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับกลุ่มนิติบุคคลที่สะดวก ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน ตัวอย่าง เทคโนโลยีที่ทีมเลือกมาประยุกต์ใช้กับโซลูชัน เช่น e-Signature, eKYC, Smart Contract, Public Key Infrastructure ส่วนการทำธุรกรรมที่ผู้เข้าแข่งขันเห็นความสำคัญและร่วมหยิบยกมาใช้เป็น Use Case ที่มีมุมมองแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น การทำสัญญา การลงนามในเอกสาร การลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงเอกสาร การยื่นภาษี การใช้งานเอกสารในชั้นศาล การตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลนิติบุคคล เป็นต้น

โดยกิจกรรม ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ภายใต้โจทย์ที่ 1 “e-Juristic Person Transaction” รอบชิงชนะเลิศ เตรียมจัดขึ้นในวันที่ 26 เมษายน 2568 ณ House Samyan โรงหนังที่ 4 สามย่านมิตรทาวน์ ชั้น 5 โดยความร่วมมือระหว่าง ETDA และพาร์ทเนอร์สำคัญ ได้แก่ กรมการปกครอง, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD), กรมสรรพากร, กรมศุลกากร, สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.), สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA),สํานักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา, สำนักสุขภาพดิจิทัล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และ บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด โดยเวทีนี้ ถือเป็นการแข่งขันรอบตัดเชือกครั้งสุดท้าย ที่ทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ จะต้องแข่งขันกันในรูปแบบ Pitching ด้วยการนำเสนอไอเดีย นวัตกรรมที่สอดคล้องกับโจทย์การแข่งขัน เป็นเวลาทีมละ 5 นาที และถามตอบอีก 10 นาที ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากหลากหลายสาขาที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็น ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA คุณจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA คุณจันทร์เจริญ แบร์โรวส์ ผู้อำนวยการกองบริหารการเสียภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง คุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง Techsauce ผู้บริหาร จากสํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และคุณกิตติ ขุนสนิท ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมแพลตฟอร์มและบริการดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)

โดยทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และ รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ประกาศนียบัตร (e-Certificate) จาก ETDA พร้อมโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรมสู่การใช้งานจริงไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์ภาครัฐและเอกชนพร้อมโอกาสนำเสนอผลงานบนเวที Tech Showcase Stage ในงาน Techsauce Global Summit 2025

ผู้สนใจสามารถรับชม Live ถ่ายทอดสดการแข่งขันและร่วมลุ้นไปพร้อมกันทาง เฟซบุ๊ก ETDA Thailand (https://www.facebook.com/ETDA.Thailand) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.etda.or.th/th/digital-id-hackathon 

จุดประกายอนาคต Digital ID สำหรับนิติบุคคลและคนต่างด้าว

X

Right Click

No right click