February 22, 2025

>UGT คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?

>ประเภทของ UGT มีอะไรบ้าง?

>ค่าใช้จ่ายของอัตรา UGT1 คิดอย่างไร?

>คุณสมบัติของผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสงค์จะขอใช้อัตรา UGT1?

รวมทุกข้อสงสัย พร้อมคำตอบ

ทั้งนี้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสงค์จะขอใช้บริการอัตรา UGT1 และอยู่ในพื้นที่ให้บริการของ MEA (กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ) สามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการลงทะเบียน และดำเนินการลงทะเบียนได้ ตั้งแต่วันนี้ -  28 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านลิงก์ https://eservice.mea.or.th/ugt/ 

 

โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ช่องทาง Line: MEA Connect (@MEAthailand) สัญลักษณ์โล่สีเขียวนำหน้าชื่อบัญชีทางการ เลือกเมนู ติดต่อ MEA Call Center Online 1130 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it., This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it., This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือโทรติดต่อ 0 2220 5000 ต่อ 4900, 4901, 4903

MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ยกระดับขั้นกว่าของการบริการด้วย MEA e-Service บริการออนไลน์ด้านระบบไฟฟ้าครบวงจร ตลอด 24 ชั่วโมง สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ครบทุกงานบริการด้านไฟฟ้า ขอใช้ไฟฟ้าใหม่ ตรวจสอบประวัติการใช้ไฟฟ้า บริการรับชำระเงิน ติดตามงานบริการ ลงทะเบียนรับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ MEA Point MEA e-Bill ฯลฯ เพียงลงทะเบียนยืนยันตัวตนใน MEA e-Service ตามขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าเว็บไซต์ https://meaeservice.mea.or.th/ (หรือจากช่องทางอื่น ๆ ตามด้านบน)
  2. ไปที่ "สมัครใช้งาน"
  3. คลิกเพื่อเลือกให้ความยินยอมเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  4. ยืนยันตัวตน ด้วย 3 ขั้นตอน จนสำเร็จ

MEA ในฐานะหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ให้ความสำคัญในการยกระดับงานบริการ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองมหานคร พร้อมให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต MEA ยังมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในเมืองมหานครอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกันพัฒนาขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวหน้าและอย่างยั่งยืนต่อไป

ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียทางการต่าง ๆ ของ MEA ได้ที่ Line: MEA Connect (@MEAthailand) สัญลักษณ์โล่เขียวนำหน้าชื่อบัญชีทางการ เลือกเมนู ติดต่อ MEA Call Center Online 1130 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และติดตามข่าวสารงานบริการของ MEA ผ่านทางเว็บไซต์ www.mea.or.th 

MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมกับ PWA หรือการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ดูแลระบบความมั่นคงระบบไฟฟ้า และประปา ในพื้นที่ของประเทศไทย แนะเคล็ดลับประหยัดไฟ-น้ำ อย่างมีประสิทธิภาพ

MEA แนะเทคนิคประหยัดไฟในการใช้เครื่องทำน้ำอุ่น

  • ใช้เสร็จแล้วรีบปิดเครื่อง อย่าเปิดสวิตช์ทิ้งไว้
  • ไม่ควรปรับความร้อนเกินความจำเป็น
  • สวิตช์ และส่วนประกอบอื่น ๆ ต้องเป็นชนิดที่กันน้ำ
  • ต้องติดตั้งสายดิน และเครื่องตัดไฟรั่วที่ได้มาตรฐาน
  • ควรอ่านคู่มือก่อนการใช้งาน

PWA แนะเทคนิคประหยัดน้ำในการใช้เครื่องทำน้ำอุ่น

  • เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ
  • ปิดฝักบัวทุกครั้งระหว่างทำความสะอาดร่างกาย อาทิ ขณะถูสบู่ สระผม
  • ใช้เวลาการอาบน้ำให้สั้นลง จะช่วยประหยัดน้ำได้มากขึ้น
  • เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไม่เกิน 15 นาที/ครั้ง
  • ปรับระดับความแรงของน้ำปานกลาง
  • หมั่นตรวจการรั่วไหลน้ำจากฝักบัว เพราะทำให้สูญเสียน้ำโดยเปล่าประโยชน์

ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ สามารถติดต่อ MEA ได้ผ่าน MEA Smart Life Application หรือผ่านช่องทาง Line: MEA Connect (@MEAthailand) สัญลักษณ์โล่สีเขียวนำหน้าชื่อบัญชีทางการ เลือกเมนู ติดต่อ MEA Call Center Online 1130 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ในส่วน กปภ. ให้บริการด้านน้ำประปา ในพื้นที่ 74 จังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และพื้นที่ที่บริหารจัดการน้ำประปาโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถติดต่อ กปภ. ผ่านช่องทาง

PWA E-SERVICE ได้แก่

  1. PWA LINE Official : @pwathailand
  2. PWA Plus Life Application
  3. เว็บไซต์ www.pwa.co.th 

หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ PWA Contact Center 1662 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) พร้อมด้วย MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง EGAT หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ PEA หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมกันแถลงข่าว การเปิดให้บริการอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวแบบผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เจาะจงแหล่งที่มา (Utility Green Tariff: UGT1) ซึ่งเป็นการเปิดให้บริการไฟฟ้าสีเขียวครั้งแรกในไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกในการรับบริการไฟฟ้าสะอาด รองรับความต้องการไฟฟ้าสีเขียวของ ผู้ประกอบการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมภาคเอกชน และสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า รวมทั้งเป็นหนึ่งในมาตรการจูงใจที่สำคัญรองรับการขยายฐานการลงทุนจากธุรกิจข้ามชาติชั้นนำมายังประเทศไทย โดยมี ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. นายพิศณุ ตันติถาวร รองผู้ว่าการ MEA นายธวัชชัย สำราญวานิช รองผู้ว่าการ EGAT และนางสาวภูสุดา สงคศิริ ผู้ช่วยผู้ว่าการ PEA เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมอิสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ

 

รองผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พร้อมตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาล และร่วมมือกับภาครัฐ ในการให้บริการจัดหา และส่งมอบพลังงานไฟฟ้าสีเขียว พร้อมใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy Certificate (REC) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรมให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดและยกระดับอุตสาหกรรมและการใช้ไฟฟ้าสีเขียวให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และยังเป็นมาตรการที่สำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในระยะยาว โดยในปี 2568 นี้ MEA ได้เปิดให้บริการอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียวแบบไม่เจาะจงแหล่งที่มา หรือที่เรียกว่า UGT1 กับผู้ใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม (ผู้ใช้ประเภท 3, 4 และ 5) เป็นกลุ่มแรก โดยที่ผู้ประสงค์ขอใช้บริการอัตรา UGT1 และอยู่ในพื้นที่ให้บริการของ MEA สามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ mea.or.th และดำเนินการลงทะเบียนได้ จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านลิงก์ https://eservice.mea.or.th/ugt/ 

 

โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ช่องทาง Line: MEA Connect (@MEAthailand) สัญลักษณ์โล่สีเขียวนำหน้าชื่อบัญชีทางการ เลือกเมนู ติดต่อ MEA Call Center Online 1130 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it., This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it., This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือโทรติดต่อ 0 2220 5000 ต่อ 4900, 4901, 4903

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมกับนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยฝ่ายบริหาร และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่สำรวจ และติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ถนนพระราม 3 ณ หน้าสวนศิลาฤกษ์ และบริเวณเส้นทางโครงการโดยรอบ โดยเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติงานให้ลดผลกระทบจากการก่อสร้างกับประชาชนมากที่สุด

รองผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA ได้ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินเพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านระบบไฟฟ้า ทำให้เกิดความปลอดภัย และเกิดทัศนียภาพที่สวยงาม โดยได้ดำเนินงานในช่วงเวลา 22.00 - 05.00 น. ของทุกวันเพื่อลดผลกระทบด้านการจราจรที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลากลางวันที่มีการเปิดให้รถสัญจรเป็นปกตินั้น MEA ได้กำหนดรูปแบบการดำเนินงานให้กับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างในแต่ละโครงการ เช่น การปิดฝาบ่อพักชั่วคราว การวางแผ่น Road Deck ตลอดจนการเทคอนกรีตเพื่อแก้ไขปัญหาผิวการจราจร แต่เนื่องจากปัญหาอุปสรรคการทรุดตัวของดิน และข้อจำกัดในด้านระยะเวลาดำเนินงาน จึงส่งผลต่อความราบเรียบและความสม่ำเสมอของผิวถนนในบางพื้นที่ ซึ่ง MEA และบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างได้ให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากการวางแนวทางด้านวิศวกรรมแล้ว MEA ได้วางมาตรการกำกับการปฏิบัติงานของบริษัทผู้รับเหมา โดยการจัดให้มีการตรวจสอบความเรียบร้อยของฝาบ่อ และผิวจราจรตลอดระยะพื้นที่ของโครงการก่อสร้าง 2 ช่วงเวลาต่อวัน รวมถึงการจัดทีมงานเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขเหตุเร่งด่วน และการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน

ปัจจุบัน MEA ได้ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแผนดำเนินการรวมทั้งสิ้น 313.5 กิโลเมตร โดยมีเป้าหมายแล้วเสร็จภายในปี 2572 ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 90 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญหลายแห่ง ขณะที่อีก 223.5 กิโลเมตร อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น โครงการพระราม 3 โครงการรัชดาภิเษก และโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ซึ่งมีพื้นที่ก่อสร้างส่วนใหญ่ร่วมกับการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการก่อสร้าง รวมถึงลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนในคราวเดียวกัน

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการของ MEA รวมถึงพบสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าของ MEA ชำรุด หรืออยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งเหตุได้ที่ MEA Smart Life Application ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนระบบ iOS และ Android ดาวน์โหลดฟรีได้ที่ App Store และ Google Play หรือช่องทางโซเชียลมีเดียทางการของ MEA ได้ที่ Line: MEA Connect (@MEAthailand) สัญลักษณ์โล่สีเขียวนำหน้าชื่อบัญชีทางการ เลือกเมนู ติดต่อ MEA Call Center Online 1130 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Page 1 of 5
X

Right Click

No right click