November 25, 2024

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ประกาศผล 10 สุดยอดผลงานนวัตกรรมดิจิทัล จาก 100 ทีมที่เข้าร่วมสมรภูมิประชันไอเดีย Coding War เวทีแข่งขันทักษะโค้ดดิ้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย พร้อมมอบรางวัลอุปกรณ์ดิจิทัลและทุนการศึกษา มูลค่ารวมกว่า 1.7 ล้านบาท โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เป็นประธานมอบรางวัล ณ MCC HALL เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ กรุงเทพฯ

กิจกรรมการแข่งขัน Coding War เวทีการแข่งขันทักษะโค้ดดิ้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยดำเนินการใน 8 ภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมตัวแทนภูมิภาค จำนวน 100 ทีมเข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.7 ล้านบาท ซึ่งทีมผู้ชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน Seoul International Invention Fair 2024 (SIIF 2024) ณ สาธารณรัฐเกาหลี

รางวัลการแข่งขัน Coding War แบ่งเป็น 2 ระดับ ประกอบด้วย ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา  โดยผลการแข่งขัน มีรายละเอียด ดังนี้

ระดับประถมศึกษา

รางวัลชนะเลิศ รับธง CHAMPIONS อุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัล พร้อมเงินรางวัลรวมมูลค่า 83,860 บาท และเงินสนับสนุนจาก แบรนด์ซุปไก่สกัด มูลค่ารวม 130,000 บาท พร้อมรางวัลสนับสนุนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่ารวม 7,960 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม KP Robot โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา จ.ภูเก็ต

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับธง 1st RUNNER UP อุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัล รวมมูลค่า 47,280 บาท รางวัลสนับสนุนจาก แบรนด์ ซุปไก่สกัด มูลค่ารางวัลรวม 30,000 บาท และรางวัลสนับสนุนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่ารางวัลรวม  7,960 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม โรงเรียนเทศบาลคุ้มหนองคู โรงเรียนเทศบาลคุ้มหนองคู จ.ขอนแก่น

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับธง 2nd RUNNER UP อุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัล รวมมูลค่า 21,980 บาท   รางวัลสนับสนุนจาก แบรนด์ ซุปไก่สกัด มูลค่ารางวัลรวม 20,000 บาท และรางวัลสนับสนุนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่ารางวัลรวม  7,960 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม KT KRUB โรงเรียนขจรเกียรติถลาง จ.ภูเก็ต

รางวัลชมเชย รับธง HONORABLE MENTION อุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัล รวมมูลค่า 8,000 บาท รางวัลสนับสนุนจาก แบรนด์ ซุปไก่สกัด มูลค่ารางวัลรวม 5,000 บาท และรางวัลสนับสนุนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่ารางวัลรวม 3,996 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม Watmai Robotic โรงเรียนวัดใหม่เนินพยอม จ.ชลบุรี และ ทีม KT GEN IT โรงเรียนกวางตง จ.สุโขทัย

  • POPPULAR VOTE รับเงินรางวัล 5,000 บาท และรางวัลสนับสนุนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่ารวม 3,996 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม KT GEN IT โรงเรียนกวางตง จ.สุโขทัย
  • BEST IDEA รับรางวัลสนับสนุนจาก แบรนด์ ซุปไก่สกัด มูลค่ารางวัลรวม 5,000 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม Jomkiri Novices โรงเรียนเทศบาลวัดจอมคีรีนาคพรต จ.นครสวรรค์

ระดับมัธยมศึกษา

รางวัลชนะเลิศ รับธง CHAMPIONS และเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันในงาน Seoul International Invention Fair 2024 ณ สาธารณรัฐเกาหลี พร้อมรับอุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัล และเงินรางวัลรวมมูลค่า  108,860 บาท รางวัลสนับสนุนจาก แบรนด์ ซุปไก่สกัด มูลค่ารางวัลรวม 190,000 บาท และรางวัลสนับสนุนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่ารางวัลรวม 7,960 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับธง 1st RUNNER UP อุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัล รวมมูลค่า 59,900 บาท รางวัลสนับสนุนจาก แบรนด์ซุปไก่สกัด มูลค่ารางวัลรวม 50,000 บาท และรางวัลสนับสนุนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่ารางวัลรวม 7,960 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม SenseVision โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ และทีม COOK3R โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย จ.นครพนม

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับธง 2nd RUNNER UP อุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัล รวมมูลค่า 19,480 บาท   รางวัลสนับสนุนจาก แบรนด์ ซุปไก่สกัด มูลค่ารางวัลรวม 20,000 บาท และรางวัลสนับสนุนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่ารางวัลรวม 7,960 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม หลานม่าบ๊อกซ์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ทีม หม่ำ เท่ง โหน่ง โรงเรียนศรียานุสรณ์ จ.จันทบุรี ทีม E-Care โรงเรียนมารีย์วิทยา จ.นครราชสีมา และ ทีม Catch Me by the ACR โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง จ.ระยอง

รางวัลชมเชย รับธง HONORABLE MENTION อุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัล รวมมูลค่า 8,000 บาท รางวัลสนับสนุนจาก แบรนด์ ซุปไก่สกัด มูลค่ารางวัลรวม 10,000 บาท และรางวัลสนับสนุนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่ารางวัลรวม 3,996 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม TNNJ โรงเรียนสตรีภูเก็ต จ.ภูเก็ต และ ทีม ปลากระดี่แม่น้ำฮวงโห  โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก

  • POPPULAR VOTE รับเงินรางวัล 5,000 บาท และรางวัลสนับสนุนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่ารางวัลรวม 3,996 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม E-Care โรงเรียนมารีย์วิทยา จ.นครราชสีมา
  • BEST IDEA รับรางวัลสนับสนุนจาก แบรนด์ ซุปไก่สกัด มูลค่ารางวัลรวม 10,000 บาท ผู้ชนะได้แก่ ทีม Innotech (อินโนเทค) โรงเรียนวัดป่าประดู่ จ.ระยอง

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.depa.or.th, CodingforBetterLife.com และเฟซบุ๊กเพจ depa Thailand และCodingThailand by depa

กระทรวงดีอี และ ดีป้า ลงพื้นที่เมืองเชียงใหม่ เพื่อตรวจติดตามกิจกรรมของโครงการสำคัญตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของกระทรวง พร้อมร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการท้องถิ่น และพ่อค้าแม่ขายในจังหวัดเชียงใหม่

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการท้องถิ่นและอินฟลูเอนเซอร์ในกิจกรรม ‘Digital Content-Driven E-Commerce Workshop: การอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มยอดขายด้วยดิจิทัลคอนเทนต์’ กิจกรรมต่อยอดความสำเร็จของโครงการ CONNEXION โดยมี ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และ ดร.สักกเวท ยอแสง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัล พร้อมทีมงานร่วมให้การต้อนรับ

นายประเสริฐ กล่าวว่า จากการหารือกับผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือทำให้ทราบถึงปัญหาและอุปสรรค ทั้งการปรับตัวเข้าสู่โลกออนไลน์ ความรวดเร็วของเทคโนโลยี ตลอดจนกลยุทธ์การขายที่ยังไม่เท่าทันสินค้าประเภทอื่น รวมถึงปริมาณการผลิตที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ ในนามของ กระทรวงดีอี โดย ดีป้า มุ่งให้ความสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสินค้าและชุมชน อีกทั้งส่งเสริมองค์ความรู้ด้านดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด รองรับช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าในตลาดใหม่ ๆ ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมระบบนิเวศดิจิทัล ผสานกับแนวทางการส่งเสริมจากทางภาครัฐ เพื่อช่วยยกระดับธุรกิจและสินค้าชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ CONNEXION คือโครงการส่งเสริมการยกระดับองค์ความรู้และชุดทักษะด้านดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการชุมชนที่จำหน่ายสินค้าและให้บริการภายในจังหวัดและพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ เทคนิคการถ่ายภาพสินค้า การสร้าง Storytelling การ Live ขายสินค้า การเปิดร้านค้าใน Social Commerce อย่าง TikTok และ Facebook รวมถึงการนำข้อมูลการค้าออนไลน์จาก e-Marketplace ของไทยจากแพลตฟอร์ม eTailligence มาประยุกต์ใช้วางแผนประกอบการตัดสินใจด้านการตลาด ทั้งหมดเพื่อผลักดันสินค้าและบริการท้องถิ่นสู่โลกออนไลน์ ก่อให้เกิดความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน ทั้งในด้านคุณภาพและความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นการสร้าง Content Creator และ Micro Influencer หน้าใหม่ให้กับท้องถิ่น

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ยังให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรม ‘ตลาดต้นแบบต่อยอดสู่ ความยั่งยืน’ ณ กาดวรุณ อำเภอเมืองเชียงใหม่ กิจกรรมภายใต้โครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่ (ขยายผล) โดยมี นายจุลนภ ศานติพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจ ดีป้า พร้อมทีมงาน และ นายวรพรรธน์ ชุติมา ผู้บริหารกาดวรุณ ร่วมให้การต้อนรับ

นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดีอี โดย ดีป้า ได้ดำเนินโครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดอาวุธดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ซึ่งถือเป็นกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากที่มีความสำคัญต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจพร้อมพัฒนาสู่การแข่งขันรูปแบบใหม่ โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจและการค้าขาย นำไปสู่การสร้างตลาดต้นแบบที่มีการนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้บริหารจัดการ ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัล และสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับประเทศ

สำหรับกิจกรรม ‘ตลาดต้นแบบต่อยอดสู่ความยั่งยืน’ ภายใต้โครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่ (ขยายผล) เป็นการติดตามและประเมินผลการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจากดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยแก่ผู้ประกอบการตลาด ผู้ประกอบ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้า หาบเร่ แผงลอยผ่านบัญชีบริการดิจิทัล ควบคู่กับการลงพื้นสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการบริหารจัดการธุรกิจ สร้างช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภค เพิ่มรายได้และลดรายจ่ายจากการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล โดยโครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่ และโครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่ (ขยายผล) ดำเนินการใน 75 ตลาด 25 จังหวัด รวมกว่า 100,000 แผงค้า

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี พร้อมคณะได้ร่วมพบปะพ่อค้าแม่ค้าและเจ้าของตลาดอื่น ๆ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ โดยกาดวรุณถือเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารหลากหลายรูปแบบ มีทำเลที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ซึ่งกาดวรุณได้เลือกใช้ Chaoperty ระบบบริหารจัดการแผงเช่า เทคโนโลยีดิจิทัลจาก ‘เช่าเพอร์ตี้’ ดิจิทัลสตาร์ทอัพจังหวัดเชียงใหม่ที่ขึ้นทะเบียนกับ ดีป้า เพื่อยกระดับการบริหารจัดการพื้นที่เช่าในตลาด และเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการด้านบัญชี อีกทั้งขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ส่งเสริมการขายให้กับพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นตลาดต้นแบบในพื้นที่ภาคเหนือต่อไป

ชวนประชาชนร่วมตอบแบบสำรวจเพื่อพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศ พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่

รมว.ดีอี พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทย มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล

หวังติดปีกผู้ประกอบการในพื้นที่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ฝ่าวิกฤตโควิด-19 เตรียมความพร้อมสู่การเป็นเมืองเศรษฐกิจอัจฉริยะต้นแบบ

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click