November 24, 2024

 ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ร่วมมือกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พันธมิตรทางธุรกิจ ต่อยอดขยาย ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ หรือร้านสาขานอกศูนย์การค้า เปิดตัว ยูนิโคล่โรดไซด์ รามคำแหง ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์สาขาล่าสุด และนับเป็นครั้งแรกที่ทางยูนิโคล่ ประเทศไทย เปิดร้าน โรดไซด์สโตร์ที่คอมมูนิตี้มอลล์ของ OR พร้อมมอบความสะดวกสบายให้ชาวรามคำแหงและละแวกใกล้เคียงตั้งแต่ 13 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ เปิดให้บริการสาขาแรกในประเทศไทย และอาเซียนในปี 2561 เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ใน การช้อปปิ้งที่ตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายในการเข้าถึงเสื้อผ้าไลฟ์แวร์ (LifeWear) ที่ครบครัน ใกล้บ้านมากยิ่งขึ้น และเป็นศูนย์กลางของชุมชน โดยยูนิโคล่โรดไซด์ รามคำแหง เป็นร้านโรดไซด์สโตร์สาขาที่ 11 ต่อจาก ยูนิโคล่โรดไซด์พัฒนาการ, ยูนิโคล่โรดไซด์ลาซาล, ยูนิโคล่โรดไซด์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ชัยพฤกษ์, ยูนิโคล่โรดไซด์นวมินทร์, ยูนิโคล่โรดไซด์มีนบุรี, ยูนิโคล่โรดไซด์บุญถาวร ปิ่นเกล้า, ยูนิโคล่โรดไซด์บุญถาวรบางนา, ยูนิโคล่โรดไซด์ลาดกระบัง, ยูนิโคล่โรดไซด์ขอนแก่น และ ยูนิโคล่โรดไซด์หาดใหญ่ ความพิเศษของร้านนี้คือเป็นร้านโรดไซด์สโตร์ดีไซน์ใหม่สาขาแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ที่ถอดแบบมาจากร้านยูนิโคล่สาขา Maebashi และ Nishiiba ในประเทศญี่ปุ่น โดยนำคอนเซ็ปต์การออกแบบที่เน้นการใช้โลโก้ยูนิโคล่เป็นจุดเด่นขนาดใหญ่ที่หน้าร้าน เป็นจุดสังเกตสำหรับผู้ที่สัญจรผ่านไป-มา ในส่วนของการออกแบบร้าน ยูนิโคล่โรดไซด์ รามคำแหงถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงหลักการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าโดยมีการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์เป็นสาขาแรกของยูนิโคล่ ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกระจกใสบานใหญ่ เพื่อเพิ่มช่องรับแสงธรรมชาติ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในระหว่างวันเพิ่มเติมขึ้นด้วย

มร. โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยูนิโคล่ ประเทศไทย เปิดตัวยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์มาแล้วกว่า 7 ปี นับตั้งแต่สาขาแรกที่ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ พัฒนาการ ในปี 2561 โดยเน้นโลเคชันที่อยู่กลางชุมชนที่อยู่อาศัย ทำเลติดถนน และมีที่จอดรถ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย ครบครัน ใกล้บ้าน ทำให้ลูกค้าหลายคนเลือกที่จะซื้อสินค้า ไลฟ์แวร์จากยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ที่อยู่ใกล้บ้านของตน โดยในปีนี้เราได้จับมือกับ OR เปิดยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์สาขาแรกในคอมมูนิตี้มอลล์ของ OR ปักหมุดนำร่องที่ย่านรามคำแหงเป็นที่แรก โดยยูนิโคล่เล็งเห็นถึงศักยภาพของย่านรามคำแหง ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีผู้เดินทางผ่านเส้นทางนี้เพื่อเชื่อมกับถนนสายอื่นๆ อีกหลายสาย คอมมูนิตี้มอลล์แห่งนี้น่าจะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญย่านรามคำแหงสำหรับลูกค้าที่มองหาความสะดวกสบายและรวดเร็ว ยูนิโคล่เชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง OR ในครั้งนี้จะเปิดโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ของยูนิโคล่อีกด้วย”

คุณพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน OR เปิดเผยว่า " OR มุ่งสร้างทางเลือกเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบอย่างครบวงจร พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านไลฟ์สไตล์ และขยายพอร์ตโฟลิโอสู่ธุรกิจที่นอกเหนือจากน้ำมันให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค OR จึงมีกลยุทธ์ในการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือกับยูนิโคล่ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการใช้ประโยชน์จากคอมมูนิตี้มอลล์ของ OR เพื่อสร้างภาพลักษณ์ การดำเนินธุรกิจ และสร้างประโยชน์ต่อชุมชน โดย OR ให้การสนับสนุนด้านพื้นที่และได้สนับสนุนแผงโซล่าร์เซลล์พร้อมการติดตั้งให้แก่ยูนิโคล่ ซึ่งมุ่งเน้นการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน OR SDG ทั้งในด้าน“D” หรือ “DIVERSIFIED” การสร้างโอกาสเพื่อทุกการเติบโตทุกรูปแบบ และ “G” หรือ “GREEN” โอกาสเพื่อสังคมสะอาดและสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายของ OR 2030 ตลอดจนสร้างโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมชุมชน เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ตามวิสัยทัศน์ของ OR “Empowering All Toward Inclusive Growth” เพื่อเติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน”

นายเติมพงษ์  เหมาะสุวรรณ  รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง [5.25-5.50]% ต่อปี โดยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนอีกครั้ง คาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2567 ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด  บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด  

หุ้นกู้ที่จะเสนอขายครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ที่ระดับ BBB- ซึ่งเป็น “ระดับลงทุน” (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ BBB โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในการรับงานก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐขนาดใหญ่และมีมูลค่างานในมือ (Backlog) จำนวนมาก โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 2.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของทริสเรทติ้ง ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 ดีกว่าประมาณการของทริสเรทติ้งด้วย EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย) จำนวน 590 ล้านบาท หรือ EBITDA Margin ที่ 23% สะท้อนถึงการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้นและต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ลดลง  สอดคล้องกับผลการดำเนินงานไตรมาสแรก (มกราคมถึงมีนาคม) ปี 2567 ของบริษัทฯ ซึ่งมีกำไรสุทธิ 34.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ถึง 133.41% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่บริษัทฯ มีโครงการที่มีลักษณะการทำงานคล้ายๆ กัน ทำให้การบริหารรวมถึงการใช้เครื่องจักรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และการซื้อวัสดุก่อสร้างในปริมาณมากๆ ทำให้บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างในราคาที่ลดลงได้ 

UNIQ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย ที่มุ่งเน้นงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น สถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านบริหารการจัดการและการเลือกใช้เทคโนโลยีระดับสูงให้เหมาะสม และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ รวมถึงงานในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน   

ลูกค้าของบริษัทฯ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมทางหลวง การไฟฟ้านครหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บมจ.ท่าอากาศยานไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น ทำให้ความเสี่ยงในการไม่ได้รับชำระเงินอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากงานของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงคุณภาพและการบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้มีโอกาสรับงานจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ภาครัฐจะต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯ 

ล่าสุด กิจการร่วมค้ายูเอ็น-ซีซี ซึ่งประกอบด้วย บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บริษัท ซีวิล คอนสตรัคชั่น เซอร์วิสเซส แอนด์ โปรดักส์ จำกัด ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้าง กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สำหรับการจ้างงานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน พร้อมโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญา 1 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มูลค่า 383.916 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าสัดส่วนงานของ UNIQ จำนวน  322.489 ล้านบาท หรือคิดเป็น 84% ของมูลค่ารวม ส่งผลให้งานในมือ (Backlog) ของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 อยู่ที่ 49,574.45  ล้านบาท ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2571   

“เราเชื่อว่า หุ้นกู้ UNIQ จะยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของผู้ลงทุน และจะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ ที่สามารถรับงานโครงการใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นโอกาสในการขยายงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของยูนิค ในฐานะบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของประเทศ” นายเติมพงษ์กล่าว 

ผู้ลงทุนที่สนใจหุ้นกู้ UNIQ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อสถาบันการเงินที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้ 

 ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลก ประกาศความร่วมมือล่าสุดกับ KAWS ศิลปินร่วมสมัยชื่อดังจากนิวยอร์ก เตรียมเปิดตัวคอลเลคชันเสื้อยืด UT ใหม่ ร่วมกับการเปิดตัวอาร์ตบุ๊คเล่มล่าสุดของ KAWS พร้อมกันในวันศุกร์ที่ 8 กันยายนนี้ โดยคอลเลคชันเสื้อยืดลายใหม่และอาร์ตบุ๊คจะเปิดตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ยูนิโคล่และที่ Phaidon สำนักพิมพ์แนวหน้าระดับโลก และวางจำหน่ายที่ร้านสาขาของยูนิโคล่ทั่วโลกและผ่านเว็บไซต์ uniqlo.com

สำหรับลายของเสื้อยืดและเสื้อสเวตเตอร์ในคอลเลคชันนี้ ประกอบไปด้วยคาแรคเตอร์ประจำตัวของ KAWS อย่างคอมพาเนียน (COMPANION) บีเอฟเอฟ (BFF) คาแรคเตอร์ตัวล่าสุดที่มาในสีชมพูสดใส หน้าปกของหนังสือใหม่ และสัญลักษณ์ไอคอนิกรูป XX ของ KAWS ไอเทมต่างๆ ประกอบด้วยเสื้อผ้าสำหรับผู้ใหญ่ ที่ใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย (Unisex) และเสื้อผ้าสำหรับเด็ก พร้อมให้ทุกคนเข้าสู่โลกของ KAWS นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ยูนิโคล่ยังมีของขวัญแบบลิมิเต็ด เอดิชัน หลากหลายรูปแบบสำหรับลูกค้าที่ซื้ออาร์ตบุ๊คและสินค้าจากคอลเลคชันนี้ เพื่อร่วมฉลองการกลับมาร่วมมือกันอีกครั้ง โดยร้านสาขายูนิโคล่ขนาดใหญ่บางร้านทั่วโลกจะตกแต่งกำแพงหน้าด้านนอกร้านที่ออกแบบขึ้นจากคาแรคเตอร์ของ KAWS อีกด้วย

ไบรอัน ดอนแนลลี ศิลปินที่รู้จักกันดีในนามของ KAWS พูดถึงผลงานล่าสุดนี้ว่า “ผมดีใจที่ได้เปิดตัวซีรีส์หนังสือศิลปินร่วมสมัยของ Phaidon เล่มใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟร่วมกับยูนิโคล่ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่ร่วมงานกับผมมาอย่างยาวนาน ผมออกแบบแคปซูลคอลเลคชันเล็กๆ ของเสื้อยืดและเสื้อสเวตเตอร์ซึ่งจะวางจำหน่ายเฉพาะช่วงนี้ ผมหวังว่าทุกคนจะชื่นชอบคอลเลคชันนี้ของผม!”

 

ตกแต่งหน้าร้านทั่วโลกด้วยดีไซน์ของ KAWS

สำหรับยูนิโคล่ประเทศไทยจะตกแต่งร้านสาขา โรดไซด์พัฒนาการ โรดไซด์มีนบุรี และ โรดไซด์ลาดกระบัง ในวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม ด้วยดีไซน์คาแรคเตอร์ไอคอนิกของ KAWS

 

ภาพรวมคอลเลคชัน

คอลเลคชันนี้ประกอบด้วยเสื้อยืดสำหรับผู้ใหญ่ (UNISEX) 3 ลวดลาย 590 บาท เสื้อสเวตเตอร์สำหรับผู้ใหญ่ (UNISEX) 2 ลวดลาย 990 บาท เสื้อยืดสำหรับเด็ก 3 ลวดลาย 390 บาท เสื้อสเวตเตอร์สำหรับเด็ก 2 ลวดลาย 790 บาท และอาร์ตบุ๊ค KAWS 1,990 บาท วางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566 ณ ร้านยูนิโคล่ทุกสาขาและ Uniqlo.com โดยสินค้าเด็กวางจำหน่ายเฉพาะสาขาที่มีไลน์อัพสินค้าเด็กเท่านั้น รวมถึงบนเว็บไซต์ UNIQLO.com หรือสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.uniqlo.com/kawsut2023

อาร์ตบุ๊ค KAWS

ตีพิมพ์โดย Phaidon สำนักพิมพ์แนวหน้าระดับโลกด้านครีเอทีฟอาร์ต หนังสือเล่มนี้รวบรวมองค์ความรู้ของศิลปะร่วมสมัยที่ทรงอิทธิพลและได้รับความสนใจมากที่สุดเล่มหนึ่ง โดยอาร์ตบุ๊คเล่มนี้เป็นหนึ่งในเล่มเพิ่มเติมของชุดซีรีส์ศิลปินร่วมสมัย (Contemporary Artist Series) ของสำนักพิมพ์ Phaidon ชุดซีรีส์อาร์ตบุ๊คนี้ผลิกโฉมการพูดถึงเรื่องของศิลปะด้วยความร่วมมือและเสียงสนับสนุนจากศิลปินยุคปัจจุบัน

จับมือหน่วยงานกรุงเทพมหานคร และมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ เนรมิตพื้นที่กว่า 65 ไร่ เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ป่าในเมือง ภายใต้โครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นของผู้ว่าฯ กทม.

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click