บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ "ดีลแห่งปี" ในงาน SET Awards 2024 จาก Deal of the Year Awards – Mergers & Acquisition Deal ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้เพื่อยกย่องความสำเร็จและคุณค่าจากการควบรวมกิจการ (Amalgamation) ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เดิม และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ถือเป็นก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งรางวัลนี้ถือเป็นก้าวสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยเฉพาะการมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล
การควบรวมกิจการระหว่างทรู คอร์ปอเรชั่นเดิม และโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 นับเป็นการควบรวมกิจการโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อพิจารณาจากมูลค่าการควบรวม (Combined enterprise value) และเป็นการควบรวมกิจการที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ระหว่างบริษัทจดทะเบียนไทยสองบริษัทเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาดรวม (Combined market capitalization) บริษัทใหม่ได้ยกระดับการเชื่อมต่อและนวัตกรรมดิจิทัลทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของไทยในวงการเทคโนโลยีระดับโลก
ดีลครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดจากวิสัยทัศน์ร่วมกันของเครือซีพีและกลุ่มเทเลนอร์ ในการสร้างบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำในไทยที่สามารถรับมือกับความท้าทายในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เครือซีพี ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่นเดิม และกลุ่มเทเลนอร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น สร้างความร่วมมืออย่างเท่าเทียมกัน โดยถือหุ้นกันที่ร้อยละ 30.3 ในบริษัทใหม่
นาย มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "รางวัล 'Deal of the Year Awards' จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการเปลี่ยนแปลงของทรู คอร์ปอเรชั่นสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เพิ่มขีดความสามารถในการลงทุนโครงข่ายใหม่ และสนับสนุนการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศไทย ดีลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมในด้านต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ คลาวด์ อุปกรณ์อัจฉริยะ และเมืองอัจฉริยะ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของนโยบายประเทศไทย 4.0 ในการส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย"
การผนึกกำลังทางธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์
รางวัล “Deal of the Year Awards" เป็นหนึ่งในรางวัลแห่งคุณค่าสูงสุดที่มอบโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) เพื่อเชิดชูธุรกรรมที่โดดเด่นและสร้างผลประโยชน์สร้างสรรค์ต่อตลาดทุน รางวัลนี้ยกย่องดีลที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรม วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และการสร้างมูลค่าที่มีนัยสำคัญ
นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การได้รับรางวัล ‘ดีลแห่งปี หรือ Deal of the Year Awards’ จาก SET ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่งของกลุ่มเทเลนอร์และเครือซีพีในการสร้างผู้นำด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีที่สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย ดีลนี้เผชิญความท้าทายที่สำคัญหลายประการ รวมถึงการเจรจาที่อยู่ในช่วงผลกระทบของโควิด-19 สูงสุด เราได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจ (Clean teams) ภายใต้มาตรการพิเศษจากทั้งสองบริษัท ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าสามารถรักษาความลับของข้อมูลที่มีผลกระทบต่อมูลค่าราคาในตลาด และทั้งสองบริษัทยังคงแข่งขันกันได้ระหว่างการทำธุรกรรม การก้าวสู่ความท้าทายเหล่านี้ได้สำเร็จสะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งของทีมผู้นำและทีมการเงินของทั้งสองฝ่าย"
การควบรวมกิจการของ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ได้ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม ข้อมูลสำคัญได้ถูกเปิดเผยให้แก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล เจ้าหนี้ และคู่ค้า เพื่อให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมข้อมูลครบถ้วน การยึดมั่นในหลักการความโปร่งใสนี้ ได้สร้างความเชื่อมั่นต่อทิศทางกลยุทธ์ของทรู คอร์ปอเรชั่นใหม่ สะท้อนผ่านรางวัล 'ดีลแห่งปี' จากตลาดหลักทรัพย์ฯ
มุ่งขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย
บริษัทใหม่คาดว่าจะสร้างผลประโยชน์ที่ได้จากการควบรวมกิจการ หรือ “Synergies” มูลค่า 2.5 แสนล้านบาทใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีและไอที การรวมองค์กรและการดำเนินงาน การจัดซื้อในระดับใหญ่ และผลประโยชน์ร่วมด้านรายได้ โดย Synergies นี้จะขับเคลื่อนการดำเนินงานที่มีกำไร ปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัท
นายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การควบรวมกิจการได้สร้างประโยชน์อย่างมากต่อผู้ใช้งานมือถือและประเทศ การควบรวมทำให้ทรู คอร์ปอเรชั่นสามารถเร่งพัฒนาความครอบคลุมของบริการ 5G เพิ่มคุณภาพโครงข่าย ความน่าเชื่อถือ และความเร็ว มอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า การผนึกจุดแข็งที่รวมกันของทรู และดีแทคสร้างสรรค์ให้เกิดผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิพิเศษที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสแก่ลูกค้าของเรา ทั้งนี้ นับเป็นการยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ในการสร้างโอกาสใหม่ทั้งด้านธุรกิจและการสร้างงาน มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีแห่งภูมิภาค "
ราคาหุ้นของทรู คอร์ปอเรชั่น (ชื่อย่อหลักทรัพย์: TRUE) หลังจากกลับมาจดทะเบียนซื้อขายใหม่เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 130 เมื่อเทียบกับต้นปี แสดงให้เห็นถึงการควบรวมได้ดึงดูดการลงทุนและความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ทรูได้รับการปรับอันดับเครดิต (Credit rating) ที่ปรับตัวดีขึ้น และเพิ่มฐานนักลงทุนหุ้นกู้ที่กว้างขึ้นซึ่งมีส่วนช่วยในการเติบโตและเสถียรภาพของตลาดการเงิน นอกจากนี้ การควบรวมยังสร้างโอกาสในการจ้างงานและสนับสนุนผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ในประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ "ดีลแห่งปี" ในงาน SET Awards 2024 จาก Deal of the Year Awards – Mergers & Acquisition Deal ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้เพื่อยกย่องความสำเร็จและคุณค่าจากการควบรวมกิจการ (Amalgamation) ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เดิม และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ถือเป็นก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งรางวัลนี้ถือเป็นก้าวสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยเฉพาะการมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล
การควบรวมกิจการระหว่างทรู คอร์ปอเรชั่นเดิม และโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 นับเป็นการควบรวมกิจการโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อพิจารณาจากมูลค่าการควบรวม (Combined enterprise value) และเป็นการควบรวมกิจการที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ระหว่างบริษัทจดทะเบียนไทยสองบริษัทเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาดรวม (Combined market capitalization) บริษัทใหม่ได้ยกระดับการเชื่อมต่อและนวัตกรรมดิจิทัลทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของไทยในวงการเทคโนโลยีระดับโลก
ดีลครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดจากวิสัยทัศน์ร่วมกันของเครือซีพีและกลุ่มเทเลนอร์ ในการสร้างบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำในไทยที่สามารถรับมือกับความท้าทายในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เครือซีพี ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่นเดิม และกลุ่มเทเลนอร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น สร้างความร่วมมืออย่างเท่าเทียมกัน โดยถือหุ้นกันที่ร้อยละ 30.3 ในบริษัทใหม่
นาย มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "รางวัล 'Deal of the Year Awards' จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการเปลี่ยนแปลงของทรู คอร์ปอเรชั่นสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เพิ่มขีดความสามารถในการลงทุนโครงข่ายใหม่ และสนับสนุนการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศไทย ดีลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมในด้านต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ คลาวด์ อุปกรณ์อัจฉริยะ และเมืองอัจฉริยะ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของนโยบายประเทศไทย 4.0 ในการส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย"
การผนึกกำลังทางธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์
รางวัล “Deal of the Year Awards" เป็นหนึ่งในรางวัลแห่งคุณค่าสูงสุดที่มอบโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) เพื่อเชิดชูธุรกรรมที่โดดเด่นและสร้างผลประโยชน์สร้างสรรค์ต่อตลาดทุน รางวัลนี้ยกย่องดีลที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรม วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และการสร้างมูลค่าที่มีนัยสำคัญ
นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การได้รับรางวัล ‘ดีลแห่งปี หรือ Deal of the Year Awards’ จาก SET ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่งของกลุ่มเทเลนอร์และเครือซีพีในการสร้างผู้นำด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีที่สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย ดีลนี้เผชิญความท้าทายที่สำคัญหลายประการ รวมถึงการเจรจาที่อยู่ในช่วงผลกระทบของโควิด-19 สูงสุด เราได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจ (Clean teams) ภายใต้มาตรการพิเศษจากทั้งสองบริษัท ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าสามารถรักษาความลับของข้อมูลที่มีผลกระทบต่อมูลค่าราคาในตลาด และทั้งสองบริษัทยังคงแข่งขันกันได้ระหว่างการทำธุรกรรม การก้าวสู่ความท้าทายเหล่านี้ได้สำเร็จสะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งของทีมผู้นำและทีมการเงินของทั้งสองฝ่าย"
การควบรวมกิจการของ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ได้ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม ข้อมูลสำคัญได้ถูกเปิดเผยให้แก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล เจ้าหนี้ และคู่ค้า เพื่อให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมข้อมูลครบถ้วน การยึดมั่นในหลักการความโปร่งใสนี้ ได้สร้างความเชื่อมั่นต่อทิศทางกลยุทธ์ของทรู คอร์ปอเรชั่นใหม่ สะท้อนผ่านรางวัล 'ดีลแห่งปี' จากตลาดหลักทรัพย์ฯ
มุ่งขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย
บริษัทใหม่คาดว่าจะสร้างผลประโยชน์ที่ได้จากการควบรวมกิจการ หรือ “Synergies” มูลค่า 2.5 แสนล้านบาทใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีและไอที การรวมองค์กรและการดำเนินงาน การจัดซื้อในระดับใหญ่ และผลประโยชน์ร่วมด้านรายได้ โดย Synergies นี้จะขับเคลื่อนการดำเนินงานที่มีกำไร ปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัท
นายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การควบรวมกิจการได้สร้างประโยชน์อย่างมากต่อผู้ใช้งานมือถือและประเทศ การควบรวมทำให้ทรู คอร์ปอเรชั่นสามารถเร่งพัฒนาความครอบคลุมของบริการ 5G เพิ่มคุณภาพโครงข่าย ความน่าเชื่อถือ และความเร็ว มอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า การผนึกจุดแข็งที่รวมกันของทรู และดีแทคสร้างสรรค์ให้เกิดผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิพิเศษที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสแก่ลูกค้าของเรา ทั้งนี้ นับเป็นการยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ในการสร้างโอกาสใหม่ทั้งด้านธุรกิจและการสร้างงาน มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีแห่งภูมิภาค "
ราคาหุ้นของทรู คอร์ปอเรชั่น (ชื่อย่อหลักทรัพย์: TRUE) หลังจากกลับมาจดทะเบียนซื้อขายใหม่เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 130 เมื่อเทียบกับต้นปี แสดงให้เห็นถึงการควบรวมได้ดึงดูดการลงทุนและความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ทรูได้รับการปรับอันดับเครดิต (Credit rating) ที่ปรับตัวดีขึ้น และเพิ่มฐานนักลงทุนหุ้นกู้ที่กว้างขึ้นซึ่งมีส่วนช่วยในการเติบโตและเสถียรภาพของตลาดการเงิน นอกจากนี้ การควบรวมยังสร้างโอกาสในการจ้างงานและสนับสนุนผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ในประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม
เร่งดำเนินการรื้อถอนสายสื่อสารถนนพระราม 4 ทรู คอร์ปอเรชั่น โดย นายเลิศรัตน์ รตะนานุกูล หัวหน้าสายงานรัฐกิจสัมพันธ์ นำทีมวิศวกรพื้นที่ร่วมปฏิบัติการสนับสนุน การไฟฟ้านครหลวง (MEA) โดย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการฯ พร้อมด้วย กรุงเทพมหานคร โดย นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการฯ , กสทช. โดย ผศ.ดร. สาวัสดิ์ บุณยะเวศ ที่ปรึกษา และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมดำเนินงานรื้อถอนสายสื่อสารที่ยกเลิกการใช้งานแล้วบนเสาไฟฟ้า หลังจากติดตั้งโครงข่ายเส้นใยแก้วนำแสง Fiber Optic Cable (FOC) ฝังในระดับใต้ดินเพื่อใช้ทดแทนสายสื่อสารเดิม ย่านถนนพระราม 4 ช่วงแยกคลองเตย ถึงถนนสุขุมวิท
ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมสนับสนุนนโยบายจัดระเบียบสายสื่อสารและนำสายสื่อสารลงใต้ดิน ตามนโยบายภาครัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานโทรคมนาคมที่ยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคม อีกทั้งยังให้ความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในการปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมืองให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ทรู คอร์ปอเรชั่น ประสบความสำเร็จอีกขั้นในระดับนานาชาติ เผย “ยุภา ลีวงศ์เจริญ” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) ได้รับการยกย่องด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ "Best Women Chief Financial Officer– Telecom" หรือ ผู้นำสตรีดีเด่นด้านการเงินของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม จาก Women's Tabloid Awards ประจำปี 2024 เวทีระดับนานาชาติที่จัดขึ้นเพื่อยกย่องความสำเร็จของสตรีในหลากหลายสาขาอาชีพ ซึ่งรางวัลนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเป็นเลิศในการบริหารการเงินของผู้บริหารหญิงแกร่งท่านนี้เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของผู้นำสตรีในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมระดับโลก อีกทั้งยังสะท้อนวิสัยทัศน์ของทรู คอร์ปอเรชั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในองค์กร
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานมากกว่า 16 ปีในฐานะผู้บริหารระดับสูง “ยุภา ลีวงศ์เจริญ” ได้สร้างผลงานอันโดดเด่นตลอดเส้นทางอาชีพ เริ่มต้นจากการทำงานในระดับบริหารในธนาคารชั้นนำของไทย ก่อนจะก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้บริหารในองค์กรรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ และต่อมาได้เข้าร่วมทำงานกับ UTV ผู้นำธุรกิจโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก หรือปัจจุบันคือทรูวิชั่นส์ ในช่วงที่บริษัทเผชิญกับ “วิกฤตต้มยำกุ้ง” เมื่อปี 2540 ที่เงินบาทลอยตัวและต้นทุนด้านคอนเทนท์ที่ซื้อจากต่างประเทศมาสูงขึ้นเป็น “เท่าตัว” และด้วยความทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง และความสามารถที่โดดเด่นสามารถผลักดันบริษัทผ่านสถานการณ์อันยากลำบากมาได้ จึง ได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงินกลุ่ม ดูแลทุกธุรกิจของกลุ่มทรู และต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงินกลุ่มทรู เป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคในเดือนมีนาคม 2566 โดยปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) ของ ทรู คอร์ปอเรชั่น
นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า "รางวัลอันทรงเกียรตินี้ไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของดิฉันเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของทรู คอร์ปอเรชั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการสร้างโอกาสสำหรับผู้หญิงในทุกระดับขององค์กร ความสำเร็จนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional agility) การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Innovative thinking) และทัศนคติเชิงบวกพร้อมรับการเปลี่ยน (Adaptive attitude) ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับผู้นำในยุคดิจิทัล"
ตลอดระยะเวลาการทำงานที่ทรู คอร์ปอเรชั่น ยุภาได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการนำพาองค์กรผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบรวมกิจการครั้งสำคัญระหว่างทรู กับดีแทค ในปี 2566 ซึ่งถือเป็นการควบรวมด้านโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มจากการควบรวมกิจการ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 2.5 แสนล้านบาท
ล่าสุด ยุภามีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายด้านความยั่งยืนของทรู คอร์ปอเรชั่น โดยทรูเป็นบริษัทโทรคมนาคมและเทคโนโลยีแห่งแรกของไทยที่ได้รับ “เงินกู้ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Syndicated Loan)” มูลค่ารวม 1.41 แสนล้านเยน (ประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท) เพื่อนำเงินที่ได้ไปจ่ายคืนเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการมุ่งสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัท วงเงินกู้นี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืน แต่ยังสอดคล้องกับแผนการบริหารการเงินและการลดต้นทุนของบริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ การเข้าสู่ตลาดเงินเยนของญี่ปุ่นยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงิน เพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการบริหารการเงิน เป็นการขยายแหล่งเงินทุนตลอดจนลดความเสี่ยงจากการใช้สินเชื่อเงินบาทหรือดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพียงอย่างเดียว
ที่น่าสนใจคือ วงเงินกู้นี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารญี่ปุ่นและธนาคารต่างประเทศชั้นนำในจำนวนที่มากที่สุดเท่าที่บริษัทไทยเคยได้รับ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสถาบันการเงินระดับโลกต่อศักยภาพและการดำเนินงานของทรู คอร์ปอเรชั่น
ยุภายังให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เท่าเทียมและครอบคลุม รวมถึงการบริหารการใช้ทรัพยากรทางการเงินเพื่อผลประโยชน์ของพนักงานทุกเพศ รวมถึงกลุ่มชาย หญิง และ LGBTQI+
"ในฐานะผู้หญิง ดิฉันภูมิใจที่ได้เห็นการเปิดกว้างมากขึ้นในสังคม และโอกาสที่เท่าเทียมกันในแวดวงธุรกิจ" คุณยุภากล่าว "นอกจากวิสัยทัศน์ ความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ (Systems Thinking) และการมองภาพรวมที่จำเป็นต้องมีในผู้นำทุกคน ผู้หญิงสามารถนำคุณสมบัติที่มีในตัวทั้งความรอบคอบ อดทน และความใส่ใจในรายละเอียดมาเสริมทำให้การตัดสินใจทำได้เด็ดขาดเฉียบคมมากขึ้น สามารถนำพาองค์กรก้าวผ่านอุปสรรคและความท้าทาย พร้อมสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับองค์กร และสังคมโดยรวม" ยุภา แม่ทัพหญิง กล่าวในที่สุด
รางวัล Women's Tabloid Awards เป็นเวทีระดับนานาชาติที่จัดขึ้นเพื่อยกย่องความสำเร็จของสตรีในหลากหลายสาขาอาชีพ โดยเฉพาะในบทบาทผู้นำและผู้บริหารระดับสูง การได้รับรางวัลนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกย่องความสำเร็จส่วนบุคคล แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในด้านความเท่าเทียมทางเพศและคุณค่าของความหลากหลายในการบริหารองค์กรระดับโลก
ความสำเร็จของคุณยุภาและการได้รับรางวัลครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงรุ่นต่อไปที่มุ่งมั่นจะก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำในวงการธุรกิจ และยืนยันถึงบทบาทสำคัญของผู้นำหญิงในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล
ทรูชวนลูกค้าทั่วไทย รวมน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วม... จากสถานการณ์วิกฤตอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมเป็นอีกหนึ่งร่วมสนับสนุนการฟื้นฟูผู้ประสบภัยในครั้งนี้ โดยได้ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วมช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังประสบภัยทางภาคเหนือ ร่วมบริจาคโดยไม่ต้องใช้เงินสด เปิดโอกาสให้ลูกค้าทรู และดีแทค สามารถใช้ทรูพอยท์ หรือ ดีแทคคอยน์ แลกเป็นเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยสามารถแลกพอยท์บริจาคเริ่มต้นได้ที่ 50 ทรูพอยท์ หรือ 150 ดีแทคคอยน์ ดังนี้
ลูกค้าทรู ใช้ทรูพอยท์ แลกเงินบริจาคผ่านแอปทรูไอดี
· ใช้ทรูพอยท์ 50 คะแนน แทนเงิน 5 บาท
· ใช้ทรูพอยท์ 100 คะแนน แทนเงิน 10 บาท
· ใช้ทรูพอยท์ 150 คะแนน แทนเงิน 15 บาท ลูกค้าดีแทค ใช้ดีแทคคอยน์ แลกเงินบริจาคผ่านดีแทคแอป
· ใช้ 150 ดีแทคคอยน์แทนเงิน 5 บาท
· ใช้ 350 ดีแทคคอยน์ แทนเงิน10 บาท
· ใช้ 450 ดีแทคคอยน์ แทนเงิน 15 บาท
ร่วมส่งน้ำใจสู่พี่น้องผู้ประสบอุทกภัย โดยบริจาคทรูพอยท์และดีแทคคอยน์ได้ไม่จำกัด ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 4 ตุลาคม 2567 เพิ่มเติมทางแฟนเพจ TrueYou และ dtac reward