January 22, 2025

เป็นเวลากว่า 1 ปีที่ SCGD เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลอดปี 2024 ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการตามพันธกิจเป็นผู้นำวัสดุปิดผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง แม้ปีนี้จะเผชิญกับความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติที่ท้าทาย แต่บริษัทยังมุ่งมั่นเดินหน้าตามกลยุทธ์ดำเนินงาน เตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อสถานการณ์ตลาดฟื้นตัว ส่งผลให้บริษัทยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง  มีการเติบโตที่สำคัญใน 6 ด้านหลัก ได้แก่

  1. ควบคุมต้นทุนเพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร

บริษัทเร่งลงทุนในโครงการลดต้นทุนโดยการใช้เชื้อเพลิงทดแทน และพลังงานหมุนเวียน ส่งผลให้สามารถใช้พลังงานชีวมวลประมาณ 19% และพลังงานจากโซลาร์เซลล์ประมาณ 10% ในการผลิตทั้งหมด โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทั้งสองประเภทให้ถึง 46% และ 15% ภายในปี 2573 ตามลำดับ

  1. เพิ่มสินค้าผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มสูง รวมไปถึงการปรับปรุงไลน์การผลิตกระเบื้อง

บริษัทออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเพื่อการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น เช่น กระเบื้องเกรซพอร์ซเลน X-Strong ที่สามารถรับน้ำหนักได้มาก และวัสดุตกแต่งพื้นผิว Paws & Play ลดอาการข้อเสื่อมของสัตว์เลี้ยง และทนต่อรอยขีดข่วนรวมถึงสุขภัณฑ์อัตโนมัติ (Smart toilet) นอกจากนี้ SCGD ได้ปรับปรุงไลน์การผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลน ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงทั้งในไทยและเวียดนาม เพราะมีคุณสมบัติที่แข็งแรง  สวยงาม อีกทั้งเปิดไลน์ผลิตวัสดุตกแต่งพื้นผิว SPC LT by COTTO ในไทย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ใช้งานได้สะดวกสบายขึ้นด้วยคุณสมบัติการติดตั้งง่าย และทนทาน  

 

  1. เติบโตธุรกิจสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน

บริษัทขยายตัวแทนจำหน่ายสุขภัณฑ์ในแต่ละประเทศกว่า 170 รายทั่วอาเซียนในปีนี้ อีกทั้งร่วมปรับหน้าร้านโชว์รูมของตัวแทนจำหน่ายให้สอดคล้องกับแบรนด์ของสินค้าทุกระดับ ส่งผลให้ยอดขายการส่งออกสุขภัณฑ์ไปยังอาเซียนเติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะกว่า 500 ล้านบาท

  1. ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในอาเซียน

SCGD ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อเพิ่มการเข้าถึงตลาดและเข้าใจความต้องการลูกค้ามากขึ้น โดยในประเทศไทยได้เปิดร้าน COTTO LiFE สาขาดอนเมืองซึ่งเป็นแฟลกชิปโชว์รูม พร้อมบริการครบวงจร ส่วนในต่างประเทศ ได้เพิ่มร้าน CTM ในฟิลิปปินส์กว่า 4 สาขา  รวมทั้งเปิดร้านค้าของบริษัทแห่งแรกในประเทศเวียดนามและประเทศกัมพูชาชื่อ V-Ceramic และ OK Tiles Outlet ตามลำดับ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดวัสดุก่อสร้าง และการตกแต่งบ้านที่กำลังขยายตัว

 

  1. แบรนด์สินค้าครองใจผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศ

SCGD ได้รับรางวัลมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ สะท้อนผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค เช่น รางวัล “2024 THAILAND’S MOST ADMIRED BRAND” จาก BrandAge ในโอกาสที่ COTTO ได้รับรางวัลติดต่อกันเป็นปีที่ 13  รางวัลแบรนด์วัสดุปิดผิวและสุขภัณฑ์ชั้นนำ "Marketeer Number 1 Brand Thailand" รางวัลชนะเลิศ กระเบื้อง COTTO รักษ์โลกรุ่น ECO-SHIZZO ในเวที TGDA 2024 และรางวัลวัสดุก่อสร้างเพื่อสัตว์เลี้ยงดีเด่นจากบ้านและสวน รวมถึงรางวัลระดับภูมิภาคอย่าง "ASIA's Top Influential Brands Awards 2023" สุดยอดแบรนด์ระดับเอเชีย ที่ครองใจผู้บริโภคในอุตสาหกรรมและ "Asia Excellent Brand Awards 2024" ในประเทศเวียดนาม

  1. SCGD เดินหน้าสู่หุ้นยั่งยืน

ช่วงเดือนธันวาคม SCGD ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นหนึ่งใน "หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings" ระดับ A กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Propcon) และ "ดัชนี SETESG" ประจำปี 2567 สะท้อนการเติบโตอย่างยั่งยืนและการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ลงทุน โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสิ่งแวดล้อม

 

บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นรักษาพัฒนานวัตกรรมสินค้า โซลูชัน ตอบเทรนด์โลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแผนงานระยะยาว (ปี 2025-2030) ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืน และลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้เป็น 2 เท่า ตามเป้าที่ตั้งไว้ภายในปี 2030  

SCG Decor หรือ SCGD คว้าผลประเมิน CGR ระดับ 5 หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง จากการประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2567 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม รับผิดชอบต่อสังคมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน การประเมินดังกล่าวจัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย ประจำปี 2567 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies: CGR)

นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCG Decor (SCGD) ผู้นำธุรกิจเซรามิก วัสดุตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า “SCGD ได้รับคะแนนอยู่ใน Quartile ที่ 1 จากการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของพนักงานที่มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ ก้าวสู่การเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียนด้วยกลยุทธ์การเติบโต มีรายได้เป็น 2 เท่า ภายในปี 2573 พร้อมกับการกำกับดูแลกิจการตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดี ทั้งในมิติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม นำมาซึ่งการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มีส่วนได้เสีย นักลงทุน และนักลงทุนสถาบัน ด้วยผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าขยายธุรกิจพร้อมกับสร้างความยั่งยืนให้โลก พัฒนากระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานสะอาดอย่างโซลาร์เซลล์

ล่าสุดได้ส่งมอบนวัตกรรมมูลค่าเพิ่มสูง ที่คุ้มค่าตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ เช่น “Smart Flexible by COTTO หรือ LT by COTTO” นวัตกรรมวัสดุปูพื้น SPC ที่ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก ป้องกันปลวก ป้องกันน้ำ 100% ลวดลายสวยงาม สัมผัสเสมือนธรรมชาติ รักษ์โลก ปราศจากสารเคมีอันตราย และยังเป็น Non-Firing ที่ไม่มีกระบวนการเผาในการผลิต นอกจากนี้ วัสดุปิดผิวและกระเบื้องกลุ่ม ECO Collection ของ COTTO ยังลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่สูงสุดถึง 80% ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 75% นำน้ำใช้แล้วมาหมุนเวียนถึง 25% เช่น กระเบื้องรุ่น อิโค สคิสโซ (ECO-SCHIZZO) ซึ่งนอกจากมีคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว  ยังปราศจากสารเคมีระเหย โลหะหนัก  ลดคาร์บอนจากการขนส่ง  เป็นการประยุกต์เรื่องความยั่งยืนมาผสานกับนวัตกรรมการอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว  ส่งผลให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ THAILAND GREEN DESIGN AWARD 2024  ประเภทการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (resources efficiency จากงาน Thailand Green Design Awards 2024 หรือ TGDA 2024”

สำหรับปี 2567 มีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมการประเมิน Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2024 : CGR ทั้งสิ้น 808 บริษัท ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ย 84% แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญด้านการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงสิทธิและการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ

งบฯ ลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท  ขยายโรงงานกระเบื้อง สุขภัณฑ์ เพิ่มช่องทางจำหน่าย พร้อมลดต้นทุน ใช้ออโตเมชั่น พลังงานสะอาด

แลนด์มาร์กใหม่ของคนรักบ้าน ตอบทุกไลฟ์สไตล์ตกแต่ง หนุนบริษัทแม่เติบโต 2 เท่า

มั่นใจรักษาแชมป์สุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ อันดับ 1 ตามเป้า ด้วยยอดขายกว่า 5 พันล้านบาท

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click