มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) โดยฝ่ายนวัตกรรมหลักสูตรและการสอน สายงานวิชาการ เปิดเวทีให้นักศึกษา เรียนรู้ประสบการณ์จริง จัดโครงการ DPU Hackathon  ประจำปีการศึกษา 2566 ภายใต้แนวคิด Carbon Hero” ครั้งที่ 4  มีนักศึกษาสมัครเข้าร่วมโครงการ 18 ทีม โดยได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน และวิทยากรพิเศษ “สรัญธรณ์ สุนทรโอฬารรัตน์” ศิษย์เก่า DPU และ CEO กระเป๋าแบรนด์ Ally Bag มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการสร้างธุรกิจจากสิ่งที่ชอบในหัวข้อ “ประสบการณ์ตัวแม่กับธุรกิจตัวโฮ่ง” และ อติยา อาวัชนาการ จากทีม Sustainability Management บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน)  ณ ห้องประชุมสนม สุทธิพิทักษ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU)

ผศ.ไพรินทร์ ชลไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ในฐานะหัวหน้าโครงการ DPU Hackathon กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า DPU มุ่งมั่นในการจัดการเรียนการสอนส่งเสริมให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์จริง และเป็นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ ทักษะการแก้ปัญหา การคิดเชิงวิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม การนำเสนอ การคิดเชิงสร้างสรรค์ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และการเป็นผู้ประกอบการ โครงการ DPU Hackathon  เป็นอีกหนึ่งเวทีที่ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติและเรียนรู้จากวิทยากรที่มาร่วมถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์จริง

จากเทรนด์ของโลกรวมถึงประเทศไทยที่กำลังเปลี่ยนไปสู่องค์กรธุรกิจคาร์บอนต่ำและยั่งยืน (Low Carbon and Sustainable Business) ทางมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในฐานะสถาบันการศึกษาซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างบัณฑิตให้เป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีศักยภาพ และสามารถก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โจทย์สำหรับโครงการ DPU Hackathon ปี 4 จึงจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Carbon Hero” โดยนักศึกษาทั้ง 18 ทีมต่างนำเสนอโครงงานที่มีแนวคิดในการช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 สู่ชั้นบรรยากาศ การลดปริมาณขยะ หรือ การนำขยะกลับมา Reuse ให้กลายเป็นสินค้าใหม่แทน รวมถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ CARBON GAME ซึ่งจะเป็นเกมที่นอกจากจะได้ความสนุกสนานแล้วยังทำให้ผู้เล่นได้เข้าใจและตระหนักถึงสาเหตุของการเกิดก๊าซเรือนกระจกรวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ส่วน FOOD’N WASTE การ์ดเกม ที่เกิดจากความคิดที่จะให้คนหันมาสนใจและใส่ใจปัญหาเศษขยะจากอาหารเหลือและถูกทิ้งกันมากขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า  หรือ ตู้จำหน่ายลิปสติกรีฟิลอัตโนมัติ ช่วยลดปัญหาขยะ  และ  UNDER SEA BOARD GAME เกมที่จะให้ผู้เล่นได้รับความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเลและสัตว์น้ำ พร้อมสร้างความตระหนักรู้ถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล ฯลฯ

สำหรับผู้ชนะเลิศการประชันไอเดียในโครงการ DPU Hackathon ภายใต้แนวคิด “Carbon Hero”  ปีนี้ คือ ทีม Day Dreamers (Shin Shop) ซึ่งได้เสนอแนวคิดในการนำเสื้อผ้าเก่าหรือเศษผ้ามาทำให้เกิดเป็นสินค้าใหม่ ลดการปล่อยก๊าซตคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สู่ชั้นบรรยากาศ

คุณศิริพร วุฒิกุล CEO and Director: Mind2Market Company Limited (BizzUp) หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินโครงการนี้ กล่าวว่า  ทีม Day Dreamers ชนะเลิศอันดับ 1 เป็นทีมที่มีความแตกต่างจากทีมอื่น ๆ ในด้านของ Model Business ที่ไม่ใช่แค่การลงไปในภาคสนามเพื่อจะสำรวจตลาดเก็บข้อมูลตัวอย่างจริงจากผู้บริโภคเหมือนทีมอื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังสร้างความแตกต่างและตรงกับความต้องการของคณะกรรมการ คือ เป็นทีมเดียวที่มีการเปิด Workshop ให้ผู้บริโภคสามารถนำเสื้อผ้าเก่าของตนเองมาสร้างให้เกิดงาน Craft จนเกิดเป็นสินค้าใหม่ได้จริง

นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการหลากหลายไม่ว่าจะเป็นงานปัก การเย็บ การเพ้นท์ การสกรีน สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างงาน Craft ที่หลากหลายรูปแบบ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมที่สามารถจับต้องได้จริงในการนำเศษผ้า และเสื้อผ้าเก่าไม่ใช้แล้ว มาสร้างให้เป็นสินค้าใหม่ก่อให้เกิดรายได้จริง แทนการทิ้งให้กลายเป็นขยะเหลือใช้ไป

นางสาวกิตติยา พานิชชา นักศึกษาชั้นปี 3 สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) ตัวแทนทีม Day Dreamers กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการทำเรื่องนี้ มาจาก Pain Point เรื่อง Fast Fashion ของเสื้อผ้าที่มีคนจำนวนมากที่ซื้อเสื้อผ้ามาแล้วบางครั้งก็ใส่แป๊บเดียว สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดการสร้างมลพิษ จากการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่มาจากกระบวนการผลิตเสื้อผ้าจำนวนมาก โดยอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1.7 พันล้านตันต่อปี ส่งผลกระทบต่อโลกมาก ทั้งปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหาภัยแล้ง ฯลฯ

ทีมเราจึงอยากมีส่วนช่วยลดปัญหาเรื่องนี้ ด้วยการนำขยะที่มาจากเศษผ้า และเสื้อผ้าเก่า มาทำให้เกิดธุรกิจหมุนเวียนด้วยการเปิดเป็นร้าน Shin Shop เชิญชวนให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามามีส่วนร่วมในการนำเศษผ้า และเสื้อผ้าเก่า มาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นงาน Craft  ชิ้นใหม่ เพื่อช่วยลดปริมาณการทิ้งขยะเหลือใช้ และ ลดการปล่อยก๊าซ CO2 ที่เกิดจากการผลิตและทอผ้า อนาคตก็อยากจะเปิดร้าน Shin Shop ขึ้นมาจริง ๆ 

เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ. เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และบุคลิกภาพที่ดีสู่มืออาชีพด้านการบริการ

CITE DPU จัดอบรมฟรี ! CKAN ตอบโจทย์ความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการข้อมูลในทุกอุตสาหกรรม หวังปูทาง นศ.สู่ยุค Big Data พร้อมดึงผู้เชี่ยวชาญจาก BDI ร่วมให้ความรู้

แนะควรศึกษาข้อมูลก่อนใช้งานและใช้ Prompt มากกว่า 1 โมเดล เพื่อตรวจสอบความแม่นยำและป้องกันความผิดพลาด

CIBA DPU จับมือ กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในการบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพและอย่างยั่งยืน นำร่องใน 5 บริษัท 4  อุตสาหกรรม เป็นที่ปรึกษาช่วยผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคในรูปแบบการค้าตลาดอีคอมเมิร์ซ

ดร. รชฏ ขำบุญ คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี  (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์(DPU) เปิดเผยว่าเมื่อเร็วๆ นี้ กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม  ได้มอบหมายให้ CIBA  จัดโครงการเสริมสร้างความสามารถการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ด้วยการบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าคงคลังเพื่อการค้าอิเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริมศักยภาพองค์กรด้วยหลักการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ภายใต้กิจกรรมพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์ โดยได้มีการให้คำปรึกษา ช่วยผู้ประกอบการ ตลอดระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 5 บริษัท ใน  4 อุตสาหกรรม ได้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและพลาสติก

“ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆ จะมีการขายสินค้าเป็นล็อตใหญ่ๆ ให้แก่ห้างร้านใหญ่ ในลักษณะ B2B เพื่อส่งขายไปยังร้านขายปลีก แล้วจึงจำหน่ายให้กับผู้บริโภคต่อไป แต่ในปัจจุบัน เมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาซื้อสินค้าผ่านแพล็ตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต้องหันมาขายในแพล็ตฟอร์มนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นในลักษณะ B2C คือขายสินค้าในลักษณะขายปลีก แบบแยกชิ้น ให้กับลูกค้าแต่ละราย การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับกระบวนการหลังบ้าน ตั้งแต่ระบบจัดเก็บสินค้า ระบบแพ็คสินค้าและการขนส่ง ให้สอดคล้องกับโมเดลธุรกิจประเภทนี้ นอกเหนือจากนั้น การที่แพล็ตฟอร์มออนไลน์ มีโปรโมชั่นเช่น 11/11, 12/12 บริษัทก็จะต้องมีระบบการทำงานที่ดีที่รองรับความต้องการในปริมาณมากๆ ได้ เพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ และในราคาที่เหมาะสมที่สุด”ดร.รชฏ กล่าว

 

นางนิสารัตน์ ศุภสวัสดิ์กุล ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมโลจิสติกส์องค์กร กองโลจิสติกส์ กล่าวถึงหัวใจหลักของการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่ดี คือ 1) การมีข้อมูลปริมาณสินค้าในคลังที่ถูกต้องแม่นยำ 2) การเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ไปสู่หน่วยงานอื่นๆ เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายขนส่ง ฝ่ายควบคุมคุณภาพ และทุกหน่วยงาน อย่างมีประสิทธิภาพ และ 3) การพยากรณ์ความต้องการของลูกค้าที่แม่นยำ ปัจจัยทั้ง 3 นี้ จะเป็นพื้นฐานของการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง สำหรับการค้าในรูปแบบออนไลน์ ปัญหาที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยังขาดการพัฒนาระบบการจัดการพื้นฐานเหล่านี้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้บางครั้งไม่มีการจัดส่งสินค้าเพียงพอ ขาดสต็อก หรือบางครั้งของสต็อกมากเกินไป ทำให้ต้นทุนสูง ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ เพื่อที่จะทำให้การบริหารจัดการสินค้าคงคลังในรูปแบบการค้าอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความยืดหยุ่น

นายธนรัตน์ บาลทิพย์ นักวิชาการ กองโลจิสติกส์ กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทราบจำนวนสินค้าที่คงเหลือและจัดการรายการสินค้าที่จะจำหน่ายในแพล็ตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และจัดส่งไปยังลูกค้าได้อย่างรวดเร็วทันเวลา และลดการตีกลับของสินค้า สร้างความน่าเชื่อถือ ผ่านการลดเวลาการดำเนินงาน และลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้ถึง 15%

ดร. รชฏ กล่าวต่อว่า เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของผู้ประกอบการ จึงต้องส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีการบริหารจัดการสินค้าเพื่อการค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ดี โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กร ประกอบด้วยกิจกรรม การจัดซื้อจัดหาสินค้า การจัดการสต็อก ทาง CIBA DPU ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการให้คำปรึกษา และความรู้ในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง และมีการติดตาม โดยตั้งทีมเข้าไปช่วยแนะนำ เครื่องมือพยากรณ์ความต้องการของลูกค้า  เครื่องมือการจัดการข้อมูลสินค้าคงคลัง การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพื่อแก้ปัญหาสินค้าคงคลัง ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ

สำหรับกิจกรรมในโครงการนี้ มีบริษัทที่เข้าร่วมทั้งสิ้น 5 บริษัท ได้แก่ 1) บริษัท นิวสปอง จำกัด 2) บริษัท ศรีพิพัฒน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 3) บริษัท สยาม วอเตอร์ เฟลม จำกัด 4) บริษัท แสงรุ่งเรือง เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด และ 5) บริษัท เอื้ออารี ฟู้ดโปรดักท์ จำกัด โดยแต่ละบริษัทเลือกแนวทางและเครื่องมือในการปรับปรุงการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาและความต้องการของผู้บริหาร

การค้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีคอมเมิร์ซ ต้องการการขับเคลื่อนด้วยระบบ “โลจิสติกส์” ที่มีประสิทธิภาพ และต้องย้ำอีกครั้งว่า โลจิสติกส์ ไม่ใช่เพียงเรื่องการขนส่ง แต่รวมไปถึงการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง  การจัดหาสินค้า กระบวนการผลิต การเก็บสต็อกสินค้าและบริการ รวมถึงการส่งมอบลูกค้า ดังนั้น เรื่องเหล่านี้ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้ และการจัดทำฐานข้อมูลต่างๆ เพื่อมาวิเคราะห์ต่อเนื่อง เพื่อทำให้ระบบหลังร้านตอบโจทย์กับระบบหน้าร้านแบบอีคอมเมิร์ช หากผู้ประกอบการธุรกิจใดสนใจเข้าร่วมการอบรม หรือ เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการโลจิสติกส์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน CIBA  DPU

นอกจากนี้ CIBA DPU ยังเปิดสอนในระดับปริญญาตรี ในสาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสอนโดยคณาจารย์ที่มีประสบการณ์ โดยเป็นที่ปรึกษาของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 100% ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่า บัณฑิตที่จบไปเป็นที่ต้องการของสถานประกอบการ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ciba.dpu.ac.th/program/bachelor/logistics/

Page 1 of 17
X

Right Click

No right click