พร้อมขยายกรอบงานวิจัยด้านนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความยั่งยืน เดินหน้าพัฒนาวัสดุแห่งอนาคต ตอบโจทย์เมกะเทรนด์

 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ผนึกกำลังจัดงาน SCGC-Mahidol Science Symposium: “Healthcare, Well-being & Sustainability” เดินหน้าความร่วมมือสร้างสรรค์งานวิจัยเชิงพาณิชย์ ผลักดันนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี และความยั่งยืนให้กับผู้คนทั้งในประเทศไทยและระดับสากล

ตอบรับเมกะเทรนด์ ภายในงานได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือ Research and Innovation for the Future Materials โดยรองศาสตราจารย์ ดร.พลังพล คงเสรี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และดร.สุรชา อุดมศักดิ์ รองผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่สายงานนวัตกรรม SCGC ณ ห้องประชุมอาคารสตางค์ มงคลสุข พญาไท คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีทีมผู้บริหารจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ ดร.วีระชัย สิริพันธ์ วราภรณ์ รองคณบดี และ ศาสตราจารย์ ดร.ฤทัยวรรณ โต๊ะทอง รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ และ รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐวี เนียมศิริ ผู้ช่วยคณบดี พร้อมทั้งทีมผู้บริหารจาก SCGC นายนิวัฒน์ อธิวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการเทคโนโลยี SCGC และ ดร.สุเมธ เจริญชัยเดช หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนา SCGC เข้าร่วมงาน

 

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ SCGC ได้ร่วมมือทางวิชาการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 พร้อมทั้งได้จัดตั้ง “ศูนย์วิจัยนวัตกรรม SCG-MUSC Innovation Research Center” ขึ้นในปี 2562 ณ อาคารเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อพัฒนาพอลิเมอร์ชนิดพิเศษ โดยใช้องค์ความรู้ในศาสตร์เคมีเชิงลึกของมหาวิทยาลัยมหิดล ประสานกับเทคโนโลยีชั้นนำระดับสเกลอัปเชิงอุตสาหกรรมของ SCGC เพื่อต่อยอดในการสร้างวัสดุและผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุมถึงนวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี (Healthcare & Well-being) และความยั่งยืน (Sustainability) โดยยังคำนึงถึงหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ขาดแคลนทรัพยากร ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมเคมี รวมถึงส่งเสริม Open Innovation ผ่านความร่วมมือของสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน (Public-Private Partnership) ที่ประสานความเข้มแข็งขององค์กรพันธมิตรเข้าด้วยกัน เพื่อร่วมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สอดคล้องกับเมกะเทรนด์โลก นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างผู้เชี่ยวชาญและนวัตกรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถทางวิทยาศาสตร์ เพื่อคิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไปในอนาคต

 

ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ รองผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่สายงานนวัตกรรม SCGC กล่าวว่า “ SCGC มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเคมีภัณฑ์เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง โดยนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนและเมกะเทรนด์มาเป็นแนวทางในการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการ โดย SCGC ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านการสร้างเครือข่ายด้าน R&D กับองค์กรและสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและระดับโลก เพื่อวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง หรือ HVA (High Value Added Products & Services) อย่างต่อเนื่อง สำหรับการลงนามความร่วมมือด้าน “Research and Innovation for the Future Materials” ระหว่าง SCGC กับ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในครั้งนี้ เป็นการยกระดับและขยายกรอบการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม ครอบคลุมทั้งหมด 3 ด้าน ประกอบด้วย 1) การวิจัยพัฒนาพอลิเมอร์ชนิดพิเศษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การพัฒนาสารประกอบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเร่งปฏิกิริยาให้ครอบคลุมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Polymer โดยเน้นโซลูชัน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ Reduce, Recyclable, Recycle, Renewable 2) การวิจัยพัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ ให้มีความสะดวกสบายขึ้น และป้องกันหรือลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและโรคอุบัติใหม่ และ 3) การวิจัยพัฒนาเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่การลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในโรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมี รวมถึงการเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยตรงให้เป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรม ปิโตรเคมี หรือการนำสารตั้งต้นที่มีคาร์บอนฟุตพริ้นต์ต่ำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ”

 

รองศาสตราจารย์ ดร.พลังพล คงเสรี กล่าวว่า “การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ รวมถึงการลงนามต่ออายุข้อตกลงความร่วมมือ จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด มหาชน (SCGC) และ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมร่วมกัน นำไปสู่การสร้างนวัตกรรมงานวิจัยที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจ และส่งเสริมงานวิจัยเชิงพาณิชย์ให้กับประเทศไทย ซึ่งเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศในระดับสากล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เรามีอาจารย์และนักวิจัย ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยที่หลากหลาก โดยเฉพาะในสาขาวิทยาศาสตร์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ตรงกับความต้องการของ

ภาคเอกชน กิจกรรมครั้งนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเพิ่มขยายความร่วมมือไปในด้านอื่น ๆ อาทิ ด้านนวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี (Healthcare & Well-being) และความยั่งยืน (Sustainability) ทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่ในการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมของบุคลากรและนักศึกษาของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียนและเมกะเทรนด์โลก และแลกเปลี่ยนมุมมองทางด้านงานวิจัยและนวัตกรรมต่าง ๆ กับทีมนักวิจัยของ SCGC เพื่อหารือต่อยอดความร่วมมือนำไปสู่การทำวิจัยร่วม รวมถึงการให้ทุนนักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนั้น ยังเป็นการเปิดโอกาสให้บุคลากรและนักศึกษาได้พัฒนาแนวคิดต่อยอดสู่การผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ด้วย”

นอกจากนี้ ภายในงาน SCGC-Mahidol Science Symposium: “Healthcare, Well-being & Sustainability” ยังมีการ หารือต่อยอดความร่วมมือทางการวิจัยและนวัตกรรมระหว่างทีมนักวิจัยของ SCGC และคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อาทิ เคมี, เทคโนโลยีชีวภาพ, ฟิสิกส์, ชีวเคมี, วัสดุศาสตร์และนวัตกรรมวัสดุ, ยางและพอลิเมอร์, เภสัชวิทยา, สรีรวิทยา, กายวิภาคศาสตร์ รวมทั้งได้มีการนำเสนองานวิจัยต่างๆ เช่น การตรวจหาตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ, การนำส่งยา, เอนไซม์, วัสดุและเซนเซอร์ ฯลฯ พร้อมเดินหน้าหารือความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกับทีมนักวิจัยจาก SCGC อย่างเข้มข้น รวมถึงการให้ทุนนักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาอีกด้วย

บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC เร่งเครื่องรุกตลาดพลาสติกรีไซเคิลในยุโรป ด้วยการลงนามซื้อกิจการของบริษัท Recycling Holding Volendam BV หรือ “Kras” (คราส) ผู้นำด้านการจัดการวัสดุเหลือใช้จากประเทศเนเธอร์แลนด์ และยังมีกิจการที่ครอบคลุมการรีไซเคิลพลาสติกตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ SCGC ที่มุ่งสู่ผู้นำธุรกิจเคมีภัณฑ์ครบวงจรเพื่อความยั่งยืน ด้วยการพัฒนานวัตกรรมพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งนำผลิตภัณฑ์กลุ่ม Green Polymer รุกตลาดพลาสติกรีไซเคิลในทวีปยุโรปที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มศักยภาพและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ตั้งแต่การจัดเก็บ คัดแยก ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ครอบคลุมภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม

การลงนามเพื่อเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ เป็นการลงนามร่วมกันระหว่างนายธนวงษ์ อารีรัชชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCGC และ Mr. Ben Kras ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Recycling Holding Volendam BV โดย SCGC จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 60% ใน Recycling Holding Volendam BV ผ่าน SCG Chemicals Trading (Singapore) Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SCGC

นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC กล่าวว่า “SCGC ตั้งเป้าปริมาณการขายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็น 1 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 โดยก่อนหน้านี้ SCGC ได้ลงทุนในบริษัท ซีพลาสต์ (Sirplaste) ผู้นำด้านการผลิตพลาสติกรีไซเคิลในประเทศโปรตุเกส และเราได้ขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจต้นน้ำ นั่นคือการจัดเก็บและคัดแยกพลาสติกเหลือใช้ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจผลิตพลาสติกรีไซเคิล และเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตของสินค้ากลุ่มพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือ Green Polymer การลงทุนใน Kars จะเป็นการบูรณาการห่วงโซ่ธุรกิจการรีไซเคิลแบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดเก็บพลาสติกเหลือใช้ การรีไซเคิล การแปรรูป และการเข้าถึงลูกค้าแบรนด์ต่าง ๆ ของยุโรป สอดรับกับ กลยุทธ์ของ SCGC ที่มุ่งสร้างการเติบโตต่อเนื่องสู่อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน”

สำหรับ Kras เนเธอร์แลนด์ ประกอบธุรกิจหลักด้านการจัดเก็บและคัดแยกพลาสติกและกระดาษใช้แล้วจากครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ในปี 2564 Kras มียอดขายรวม 92.7 ล้านยูโร หรือประมาณ 3,475 ล้านบาท โดยมีความสามารถในการจัดหาและรวบรวมขยะพลาสติกอยู่ที่ 160,000 ตันต่อปี และมีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล 9,000 ตัน และจะกำลังขยายกำลังการผลิตอีก 9,000 ตัน นอกจากนี้ยังถือหุ้นในบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการรีไซเคิลพลาสติก โซลูชันด้านการขนส่ง และบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน

Mr. Ben Kras ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Recycling Holding Volendam BV กล่าวว่า “Kras ดำเนินธุรกิจด้านการจัดการวัสดุเหลือใช้แบบครบวงจรให้กับบริษัทหลายร้อยแห่งในทวีปยุโรป ด้วยความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมากว่า 70 ปี Kras มีความสามารถในการจัดหาและจัดการวัสดุเหลือใช้ และยังมีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิล ทั้งการถือหุ้นในบริษัท REKS LLC ซึ่งเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในประเทศโคโซโว มีกำลังการผลิต 9,000 ตันต่อปี และมีแนวโน้มเติบโตแบบเท่าตัวในปี 2023 นอกจากนี้ยังถือหุ้นใน Circular Plastics BV ซึ่งทำธุรกิจด้านโซลูชันการขนส่งและบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนในประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อประกอบกับความชำนาญของ SCGC ในการผลิตพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็จะสามารถรุกตลาดในยุโรปและสร้างผลตอบแทนให้กับธุรกิจได้ในระยะยาว”

การลงทุนใน Recycling Holding Volendam BV หรือ “Kras” จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับสินค้าในกลุ่ม Green Polymer ของ SCGC ซึ่งประกอบไปด้วยโซลูชัน 4 ด้าน ได้แก่

(1) REDUCE ลดการใช้ทรัพยากรและใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

(2) RECYCLABLE การออกแบบเพื่อให้รีไซเคิลได้

(3) RECYCLE การนำกลับมาใช้ใหม่

และ (4) RENEWABLE โซลูชันเพื่อให้เกิดพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และพลาสติกจากทรัพยากรหมุนเวียน โดยเฉพาะสินค้าในหมวด RECYCLE หรือการนำกลับมาใช้ใหม่จะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ตามความต้องการใช้งานพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทวีปยุโรป ปัจจุบัน SCGC ได้ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิลในทวีปยุโรปผ่าน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัทซีพลาสต์ (Sirplaste) ประเทศโปรตุเกส และบริษัท Recycling Holding Volendam BV (Kras) ประเทศเนเธอร์แลนด์

เตรียมพร้อมด้านวัตถุดิบตั้งต้นและสาธารณูปโภคส่วนกลางสำหรับการผลิตปิโตรเคมีที่เวียดนาม

ส่งเสริมการจัดการขยะในโรงเรียน มุ่งสร้าง Eco-School เน้นให้เยาวชนเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง

X

Right Click

No right click