December 05, 2025

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) พร้อมการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เปิดตัว “โครงการฝึกอบรมหลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Master Thai Chef Program) หลักสูตรอาหารเจ (Vegetarian Food)” มุ่งใช้ “อาหารไทย” เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเสริมศักยภาพบุคลากรด้านอาหารไทยในระดับสากล 

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศ ยกระดับศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ระดับสากล โดยขับเคลื่อนผ่านนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” 4 ให้ 1 ปฏิรูป ให้ทักษะใหม่ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน และปฏิรูปดีพร้อมสู่องค์กรที่ทันสมัย โดยร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) พร้อมการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ดำเนินโครงการฝึกอบรมหลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ (Master Thai Chef Program) หลักสูตรอาหารเจ (Vegetarian Food) ด้วยการ “สร้างสรรค์และต่อยอด” ให้เกิดเสน่ห์ คุณค่า และเพิ่มมูลค่า “โน้มน้าว” ให้เกิดการยอมรับ เปิดใจ และต้องการ “เผยแพร่” ให้เป็นที่รู้จัก

นางสาวจุฑารัตน์ อาชวรัตน์ถาวร ผู้อำนวยการกองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในเทศกาลกินเจของทุกปีนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการซื้อวัตถุดิบอาหารเจ อาหารพร้อมทาน และการใช้บริการร้านอาหาร ส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้ในระบบเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น เกษตรกรผู้ปลูกวัตถุดิบ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีรายได้เพิ่มขึ้น และยังดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ต่างๆ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) จึงมีแนวคิดการดำเนินโครงการ Master Thai Chef Program หลักสูตรอาหารเจ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการสร้างเชฟมืออาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างทุนมนุษย์ผ่านการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ สามารถนำเอาศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น มาต่อยอดเมนูอาหารเจ นับเป็นอีกหนึ่งพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน และยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยในเวทีโลก โดยผู้เข้าร่วมอบรมจะได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมกว่า 242 ชั่วโมง ถ่ายทอดความรู้โดยผู้เชี่ยวชาญอาหารไทยและอาหารเจ พร้อมระบบการวัดและประเมินผลตามมาตรฐานวิชาชีพ ผู้ที่สอบผ่านเกณฑ์จะได้รับประกาศนียบัตรจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) หรือ ใบรับรองผู้สัมผัสอาหารจากกรมอนามัย ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติสำคัญในการประกอบอาชีพในธุรกิจอาหาร โรงแรม และบริการด้านอาหารระดับนานาชาติ

ศ.ดร.กฤษณ์ชนม์ ภูมิกิตติพิชญ์ รองอธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะผู้ร่วมดำเนินการพัฒนาหลักสูตรนี้ เล็งเห็นความสำคัญในการนำเมนูอาหารไทย และวัตถุดิบในท้องถิ่นมาใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยการนำเสน่ห์และภูมิปัญญาอาหารต้นตำรับ มาผสมผสานกับแนวคิดอาหารสุขภาพและอาหารทางเลือก ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายเชฟรุ่นใหม่ที่สามารถต่อยอดอาหารไทยในมิติสุขภาพให้สามารถเติบโตในตลาดระดับสากล โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากรเชฟมืออาชีพในหลักสูตรอาหารเจ จำนวน 500 คน ครอบคลุมพื้นที่ ภูเก็ต นครสวรรค์ สุราษฎร์ธานี นนทบุรี และปทุมธานี รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง โดยจะเปิดอบรมทั้งหมด 5 รุ่น ระหว่างเดือน กันยายน 2568 – มกราคม 2569 โดยเริ่มการอบรมรุ่นแรกในเดือนตุลาคม 2568 ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถสมัครและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  http://rmutt.ac.th หรือทาง https://ofos.thacca.go.th/course/SpecialCourse  

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) จัดงานมหกรรมวิจัยและนวัตกรรมครั้งยิ่งใหญ่ RMUTT EXPO 2025” ภายใต้แนวคิด “RMUTT NEXT พลิกโฉมงานวิจัย สร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” โดยมี ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด ณ หอประชุมราชมงคล มทร.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งการจัดงานครั้งนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยที่มุ่งมั่นยกระดับผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์จริง สอดคล้องกับนโยบาย “สร้างปัญญา เปิดโอกาส สร้างอนาคต” และตอบรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ

รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มทร.ธัญบุรี เปิดเผยว่า ภายในงานจะเต็มไปด้วยกิจกรรมและการแสดงผลงานที่สะท้อนศักยภาพของนักวิจัย บุคลากร และนักศึกษา อาทิ นิทรรศการ “งานวิจัยพร้อมขาย” (Ready to Launch) ที่คัดสรรผลงานวิจัยคุณภาพ ทั้งที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติและจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว นอกจากนี้ยังมีการนำผลงานวิจัยที่ร่วมพัฒนากับชุมชนมาจัดแสดงในรูปแบบตลาดชุมชน สะท้อนความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและท้องถิ่น อีกทั้งยังเปิดเวทีให้อาจารย์และนักศึกษาได้เข้าประกวดผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ในเวที “RMUTT Innovation and Invention Awards 2025” เพื่อผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ศ.ดร.กฤษณ์ชนม์ ภูมิกิตติพิชญ์ รองอธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวเสริมว่า งานครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง มีผู้เข้าร่วมกว่า 3,000 คน จากทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ พร้อมนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมกว่า 400 ผลงาน โดยใช้หลักการ NUDIV (Novelty–Uniqueness–Differentiation–Innovation–Value) เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน ซึ่งผลงานที่จัดแสดงครอบคลุมตั้งแต่งานวิจัยสิ่งประดิษฐ์ งานวิจัยพร้อมขาย ไปจนถึงงานวิจัยจากชุมชน ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความพร้อมของมหาวิทยาลัยในการก้าวสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยนวัตกรรม” ที่ผลิตนักวิจัยและนวัตกรรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

รศ.ดร.เกียรติศักดิ์ แสงประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.ธัญบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า วันแรกของการจัดงานในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ พร้อมการเสวนาในหัวข้อ “กลยุทธ์พลิกโฉมงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การต่อยอดเชิงพาณิชย์” และการบรรยายพิเศษเรื่อง “Storytelling for Research Pitching” เพื่อเสริมทักษะในการนำเสนองานวิจัยแก่แหล่งทุนได้อย่างน่าสนใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ส่วนวันที่ 30 สิงหาคม 2568 จะมีเวทีเสวนาพิเศษหัวข้อ “Inspiring Innovation: งานวิจัยไทยในมุมมองระดับสากล” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักวิจัยและนวัตกรรุ่นใหม่ ก่อนจะปิดท้ายด้วยพิธีมอบโล่และเกียรติบัตรแก่ผลงานที่ได้รับรางวัล

การจัดงาน “RMUTT EXPO 2025” จึงนับเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ภาคธุรกิจ และชุมชน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม และที่สำคัญยังเป็นโอกาสให้นักศึกษาและคนรุ่นใหม่ได้ตระหนักว่า งานวิจัยไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากแต่เป็น “พลังขับเคลื่อน” ที่จะนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) สร้างชื่อระดับโลก เวที “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025” คว้ารางวัลรวม 12 รายการ ตอกย้ำศักยภาพ “ราชมงคลธัญบุรี” ที่พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสังคมโลก

มทร.ธัญบุรี สร้างความภาคภูมิใจให้กับวงการวิจัยไทยอีกครั้ง ด้วยการคว้ารางวัลรวม 12 รางวัลจากเวทีระดับนานาชาติ “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11–13 มิถุนายน 2568 ณ Shanghai World Expo Exhibition & Convention Center นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยผลงานทั้ง 6 รายการของทีมวิจัย มทร.ธัญบุรี ผ่านการคัดเลือกจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสามารถสร้างผลงานโดดเด่นเหนือผู้เข้าร่วมมากกว่า 300 ผลงานจากทั่วโลก

รองศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มทร.ธัญบุรี เปิดเผยว่า ผลสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการพัฒนางานวิจัยที่ไม่เพียงตอบโจทย์ชุมชนในประเทศ แต่ยังสามารถขยายผลสู่ระดับสากล ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ โดยมีการบูรณาการองค์ความรู้ที่หลากหลาย ทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี คหกรรมศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการแพทย์บูรณาการ ตลอดจนความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อการพัฒนานวัตกรรมที่ใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม โดยผลงานที่ได้รับรางวัล ประกอบด้วยเหรียญทอง (Gold Medal) จำนวน 6 รางวัล รางวัลพิเศษ Special Award 4 รางวัล และรางวัล NRCT Honorable Mention Award อีก 2 รางวัล ประกอบด้วย (1) ผลงาน PolyCat: A Reusable Catalyst for Upgradings Bio-Oil ได้รับรางวัล Gold Medal และNRCT Special Award โดยนายณัฐวุฒิ รอดทุกข์ น.ส.เนตรนภา กำลังมาก รศ.ดร.ปรียาภรณ์ ไชยสัตย์ และรศ.ดร.อมร ไชยสัตย์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2) ผลงาน AntibacDotFilm: Polyvinyl alcohol film mixed sugar derived-carbon dots for food packaging with antibacterial activity ได้รับรางวัล Gold Medal และNRCT Special Award โดยน.ส.พัชรพร ขาวเผือก และรศ.ดร.กนกอร เวชกรณ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (3) ผลงาน Eco-friendly textile inovations employ natural dyes derived from Dry Areca nut (Areca catechu) ได้รับรางวัล Gold Medal และNRCT Honorable Mention Award โดยนายภวัณพัสตร์ แก่นแก้ว และผศ.ดร.ศุภนิชา ศรีวรเดชไพศาล คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์

(4) ผลงาน Advanced electrochemical innovation combined with a nanobubble system for seafood transportation business ได้รับรางวัล Gold Medal และ NRCT Special Award โดยนายวัชรพงษ์ นารีจันทร์ น.ส.นวลลออ ยามาโอะ และรศ.ดร.ฉัตรชัย พลเชี่ยว คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วย รศ.ดร.สรพงษ์ ภวสุปรีย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และบริษัท วอเทอร์ป๊อก จำกัด (5) ผลงาน Innovative triple-action anti-aging facial scrub, mask and serum incorperating Golden flower extract beads prepared by synergistics Niosomes and Fluid-Bed coating technology ได้รับรางวัล Gold Medal และ NRCT Special Award โดย รศ.ดร.กรวินวิชญ์ บุญพิสุทธินันท์ คณะการแพทย์บูรณาการ ร่วมกับบริษัท ริชโกลด์บิวตี้แอนด์เฮลท์ จำกัด (6) ผลงาน Fluid- Bed drying of Chlorophyll petlets: An anti-oxidant with superior stability and controlled release ได้รับรางวัล Gold Medal และ NRCT Honorable Mention Award โดย รศ.ดร.กรวินวิชญ์ บุญพิสุทธินันท์ คณะการแพทย์บูรณาการ ร่วมกับ บริษัท ริชโกลด์บิวตี้แอนด์เฮลท์ จำกัด

ทั้งนี้ รางวัลพิเศษ NRCT Special Award และ NRCT Honorable Mention Award ที่นักวิจัยจาก มทร.ธัญบุรี ได้รับในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ NRCT Special Award Competition ซึ่งจัดโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อเชิดชูเกียรตินักวิจัยไทยที่สร้างสรรค์นวัตกรรมระดับนานาชาติ โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานมอบรางวัลให้กับคณะนักประดิษฐ์ไทยได้รับการยอมรับจากเวทีเซี่ยงไฮ้ พร้อมกล่าวชื่นชมถึงศักยภาพของนักวิจัยไทยในการพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ

มทร.ธัญบุรี ยังคงเดินหน้าส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีคุณภาพ ต่อยอดจากห้องปฏิบัติการสู่ชุมชน อุตสาหกรรม และเวทีโลก โดยเปิดกว้างให้นักศึกษา คณาจารย์ และพันธมิตรทุกภาคส่วน เข้ามาร่วมขับเคลื่อนการวิจัยเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไทยและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวด้านนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยได้ที่เว็บไซต์ https://www.rmutt.ac.th และเพจ https://www.facebook.com/rmutt.official บน Facebook.

ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พนักงานบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ใช้เวลาหลังเลิกงานทำหมวกมัดย้อม จำนวน 100 ใบ โครงการ มัดย้อมมัดใจ ส่งต่อกำลังใจให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม ณ “ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อโรคมะเร็งเต้านม”

โดยมี อาจารย์สุระจิตร แก่นพิมพ์ อาจารย์ภาควิชาศิลปะการออกแบบและเทคโนโลยี พร้อมนักศึกษาสาขาจิตรกรรมชั้นปีที่ 3 จิตอาสา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เป็นวิทยากรสอนทำหมวกมัดย้อม โดยโครงการมีพนักงานเข้าร่วมจำนวน 2 รุ่น รุ่นละ 50 คน ประสานความร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร

รองศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นประธานเปิดโครงการ Business Day 2567 คณะบริหารธุรกิจ โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.กล้าหาญ  ณ น่าน คณบดีคณะบริหารธุรกิจ กล่าวรายงานการจัดโครงการ ณ หอประชุมราชมงคล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

โดยรองศาสตราจารย์ ดร.กล้าหาญ ณ น่าน คณบดีคณะบริหารธุรกิจ เผยว่า Business Day 2567 จัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติดำเนินกิจกรรม โดยอาศัยแนวคิดทางทฤษฎีที่เรียนมาประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติ เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำเสนอผลงาน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สามารถต่อยอดความคิดจากการเรียนรู้ตามแนวทางการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน และให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ทราบถึงหลักสูตรการเรียนการสอนของคณะบริหารธุรกิจ รวมถึงแนวทางการประกอบอาชีพของสาขาวิชาต่าง ๆ ในการดำเนินงานครั้งนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย 3 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมการประกวดบูธและการนำเสนอผลงานทางวิชาการ จำนวน 10 หลักสูตร การประกวดเขียนแผนธุรกิจ BA Young Startup 2024 จำนวน 9 ทีม การแข่งขันประกวดร้องเพลง BA  Singing Contest 2024 คณะบริหารธุรกิจ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมของการผลิตบัณฑิตเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและธุรกิจในอนาคตต่อไป

Page 1 of 3
X

Right Click

No right click