

รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด โดย นายเอกราช ปัญจวีณิน (ที่ 3 จากขวา) หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล และ (รักษาการ) หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ (ที่ 4 จากขวา) กรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ ประธานกรรมการ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เพื่อพัฒนานวัตกรรม “หุ่นยนต์ผู้ช่วยรักษาพยาบาลและทำกายภาพบำบัด” ที่จะเป็นเสมือนหนึ่งในทีมบุคลากรการแพทย์ช่วยดูแลและให้บริการผู้ป่วยติดเชื้อที่อยู่ในระยะให้ยาและรักษาในห้องแยกโรค เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ยกระดับบริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลที่เป็นเลิศและเป็นต้นแบบเพื่อสร้างเสริมสังคมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Innovation for society)
ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการพัฒนาต่อยอดความร่วมมือของทั้งสององค์กรไปอีกขั้น หลังจากประสบความสำเร็จในการร่วมพัฒนาหุ่นยนต์ตัวแรกคือ “หุ่นยนต์อัจฉริยะช่วยบริการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ด้วยสารรังสีไอโอดีน” ที่ช่วยดูแลและสร้างความประทับใจแก่ผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ จนสามารถคว้ารางวัลเลิศรัฐ ระดับดีเด่น ประจำปี 2567 สาขาบริการภาครัฐ ประเภทนวัตกรรมการบริการ จากคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร)
![]()
ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ผู้ให้บริการดิจิทัลครบวงจร ในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น ได้คิดค้น วางโครงสร้างเทคโนโลยี เชื่อมต่อการสื่อสาร และออกแบบพิเศษเพื่อภารกิจนี้โดยเฉพาะ โดยผนวกองค์ความรู้ทางการแพทย์ของภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตลอดจนความเชี่ยวชาญของบุคลากรของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เข้ากับเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ที่ประกอบด้วย คลาวด์ AI และข้อมูล ตอกย้ำความตั้งใจของ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ที่จะทำให้เทคโนโลยีสามารถเข้าถึงได้และสร้างประโยชน์สูงสุด โดยช่วยสนับสนุนงานของทีมแพทย์ ช่วยพัฒนาการดูแลผู้ป่วยในกลุ่มแยกโรคให้ดีขึ้นกว่ามาตรฐานทั่วไป ตลอดจนลดโอกาสการแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่น และลดการใช้อุปกรณ์สิ้นเปลืองราคาสูงของบุคลากรแพทย์ที่ต้องใช้ในการดูแลผู้ป่วยในช่วงกักโรค ซึ่งจะเป็นต้นแบบการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถต่อยอดไปสู่งานรักษาพยาบาลฟื้นฟูของสถานพยาบาลต่างๆ ของระบบสาธารณสุขไทยในอนาคต
ทั้งนี้ “หุ่นยนต์ทางการแพทย์เพื่อช่วยรักษาพยาบาลและทำกายภาพบำบัด” อยู่ระหว่างการพัฒนาภายใต้แนวคิดการออกแบบรูปลักษณ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน (Humanized Design) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกมีความสุขผ่อนคลายในขณะที่อยู่ในช่วงกักตัวให้ยาในห้องแยกโรค และเพิ่มความร่วมมือต่อการทำกายภาพบำบัด ขณะเดียวกันยังใช้งานง่ายสำหรับทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมอัดแน่นเทคโนโลยีล้ำสมัย สามารถสื่อสารและตอบสนองได้แบบเรียลไทม์ผ่านเครือข่ายทรู 5G พร้อม AI ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยและให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพการฝึกสมรรถภาพร่างกายได้อย่างแม่นยำ และรองรับการต่อยอดพัฒนาฟังก์ชันอื่นๆ ในอนาคต อาทิ สามารถปรับรูปแบบการฝึกตามแผนการฟื้นฟูของผู้ป่วยรายบุคคล ไม่ว่าจะเป็น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวหลังการผ่าตัด เป็นต้น
มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (SGU) คณะแพทยศาสตร์ (SOM) ในเกรนาดา หมู่เกาะเวสต์อินดิส เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสามารถทางภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาแพทย์จากประเทศไทยที่มีเป้าหมายที่จะศึกษาและปฏิบัติงานด้านการแพทย์ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษต้องเผชิญ โดยเฉพาะการผ่านการทดสอบต่างๆ เช่น English Language Testing System (IELTS) หรือ การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยม เพื่อการศึกษาทางการแพทย์ระดับสากล
IELTS คือข้อสอบมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกสำหรับการประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษ โดยครอบคลุมทักษะการฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด และได้รับการยอมรับจากทางมหาวิทยาลัยและองค์กรด้านสุขภาพในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ

สำหรับการรับเข้าเรียนที่ SGU SOM นั้น นักศึกษาจะต้องมีคะแนนรวม IELTS ขั้นต่ำ 7.0 และ 7.0 ในทุกหมวด สิ่งนี้สามารถบ่งบอกถึงความสามารถในการใช้ภาษาซึ่งมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการศึกษาและการปฏิบัติทางการแพทย์
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพนับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นแพทย์ โดย SGU ตระหนักถึงทักษะการสื่อสารที่ต้องการความคล่องตัวและซับซ้อนสำหรับการเรียน และเสนอโปรแกรมเพื่อพัฒนาความสามารถของนักเรียนนอกเหนือจากพื้นฐานความสามารถทางภาษา ซึ่ง SGU จึงมีโปรแกรมต่างๆ เช่น หลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อม, หลักสูตร English for Medicine Pathway (EMP) และ หลักสูตร Medical Academic Communication (MAC) หรือการสื่อสารเชิงวิชาการทางการแพทย์ เพื่อช่วยนักศึกษาที่มีคุณสมบัติด้านภาษาอังกฤษไม่ตรงตามข้อกำหนดสามารถมีโอกาสพัฒนาตนเพื่อเข้าเรียนแพทย์ได้สำเร็จ
Kasey Larson ผู้อำนวยการหลักสูตรภาษาอังกฤษ ของ SGU กล่าว “นักศึกษาแพทย์จำเป็นต้องสังเคราะห์ข้อมูล เขียนบันทึกผู้ป่วย พูดแสดงความเห็นใจ และทำงานร่วมกับคนอื่น ซึ่งทั้งหมดนี้ จำเป็นต้องใช้ความสามารถภาษาอังกฤษระดับสูง”
“การสอบ IELTS นับว่าเป็นก้าวสำคัญสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการประกอบวิชาชีพแพทย์ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ โดยการสอบนี้ สามารถช่วยให้มั่นใจได้ว่านักศึกษามีทักษะภาษาที่จำเป็นเพื่อประสบความสำเร็จระหว่างการเรียนและวิชาชีพ”

ในฐานะผู้ผลิตแพทย์ใหม่จำนวนเยอะที่สุดในระบบการรักษาพยาบาลของสหรัฐอเมริกา* SGU ให้การศึกษาด้านการแพทย์ที่ครอบคลุม ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อให้ตรงตามเกณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการประกอบวิชาชีพเวชกรรมในสหรัฐอเมริกา รวมถึงการได้คัดเลือกเป็นแพทย์ประจำบ้านในสหรัฐฯ การขึ้นคลินิกของนักศึกษาแพทย์ (clinical rotation) และการรับรองมาตรฐานด้านการแพทย์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมแพทย์และแผนการศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ SGU
ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตแพทย์จำนวนมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (SGU) ภูมิใจที่จะเสนอโอกาสสำหรับแพทย์ไทยที่มีความมุ่งมั่น โดยมีเป้าหมายการเป็นแพทย์ในสหรัฐอเมริกา
การเลือกโรงเรียนแพทย์ให้เหมาะสมควรเริ่มจากการรู้เป้าหมายในอาชีพของตนเอง แพทย์ที่มีความมุ่งมั่นมักตั้งเป้าชัดเจนว่าหลังจบแพทย์ไป จะสามารถประกอบวิชาชีพเวชกรรมในทิศทางไหน โดยผู้ที่ต้องการเรียนในสหรัฐอเมริกา ควรตระหนักถึงเกณฑ์ที่ใช้ รวมถึงการเป็นแพทย์ประจำบ้าน การขึ้นคลินิกของนักศึกษาแพทย์ (clinical rotation) และการรับรองมาตรฐานด้านการแพทย์

การสำเร็จจากการเป็นแพทย์ประจำบ้านของสหรัฐฯ เป็นสิ่งสำคัญมากในการประกอบอาชีพทางเวชกรรมในประเทศนี้ ซึ่ง SGU มีตำแหน่งแพทย์ประจำบ้านมากกว่าสถาบันอื่น ๆ ในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 10 แล้ว2 โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทาง SGU มีอัตราแพทย์ประจำบ้านในสหรัฐฯ ที่ 88 % สำหรับผู้จบการศึกษาที่เป็นคนต่างชาติ3 ซึ่งแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นที่จะช่วยนักศึกษาให้ประสบความสำเร็จในการศึกษาด้านการแพทย์
การขึ้นคลินิกของนักศึกษาแพทย์ในระบบของสหรัฐอเมริกาเป็นองค์ประกอบสำคัญของการศึกษาด้านการแพทย์ โดยนักศึกษาจะได้ประสบการณ์ตรงในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งเครือข่ายของโรงพยาบาลและระบบสุขภาพที่กว้างขวางของ SGU ที่มีมากกว่า 75 แห่ง ทั่วสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร จะช่วยให้นักศึกษาได้เข้าใจการปฏิบัติทางคลินิกและการฝึกดูแลผู้ป่วยนอก โดยการฝึกขึ้นคลินิกนี้ มีส่วนสำคัญให้นักศึกษามีความพร้อมสำหรับการสมัครเป็นแพทย์ประจำบ้านในสหรัฐฯ และได้ประสบการณ์ที่จำเป็นเพื่อเติบโตในระบบการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา

การรับรองมาตรฐานด้านการแพทย์เป็นพื้นฐานของคุณสมบัติในการเป็นแพทย์ประจำบ้านใน National Residency Matching Program (NRMP) หรือโปรแกรมคัดเลือกแพทย์ประจำบ้านแห่งชาติ ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ของ SGU ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านการแพทย์จาก Grenada Medical and Dental Council (GMDC) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการแพทย์ของเกรนาดาที่ได้รับการยอมรับจาก World Federation of Medical Education (WFME) โดยการรับรองนี้ จะสามารถช่วยให้มั่นใจได้ว่านักศึกษาจาก SGU มีสิทธิ์เข้าสอบ United States Medical Licensing Examinations (USMLE) หรือการสอบเพื่อให้ได้ใบประกอบวิชาชีพแพทย์ของสหรัฐอเมริกา สามารถเข้าร่วม NRMP และรับใบอนุญาตในสหรัฐอเมริกา
นักศึกษาที่ SGU มีผลการสอบ USMLE (ใบประกอบวิชาชีพแพทย์อเมริกา) ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นสำหรับการประกอบวิชาชีพแพทย์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2565 นักศึกษานานาชาติที่ SGU ทั้ง 6,000 คน มีอัตราการสอบ USMLE ผ่านครั้งแรกถึง 90% โดยขั้นตอนที่ 1 จึงสะท้อนถึงคุณภาพของหลักสูตรที่ SGU และการสนับสนุนที่ดีต่อนักศึกษา4
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ ได้ให้การศึกษาด้านการแพทย์ที่แข็งแกร่งและให้การสนับสนุนที่ดีเยี่ยม ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาไทยสามารถเป็นแพทย์ในสหรัฐอเมริกาได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมแพทย์และแผนการศึกษา สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ SGU
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
1จากข้อมูลใบอนุญาตสำหรับแพทย์ FSMB ปี 2564
ผนึกความร่วมมือกับศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบประสาทและการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมวินิจฉัยและรักษาทุกปัญหาเกี่ยวกับโรคการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหารอย่างแม่นยำตรงจุด